รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 525 ก่อนหน้านี้เขาคับแค้นเป็นอย่างมาก ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถกลบฝังความอับยศได้แล้ว!

Now you are reading รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] Chapter บทที่ 525 ก่อนหน้านี้เขาคับแค้นเป็นอย่างมาก ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถกลบฝังความอับยศได้แล้ว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 525 ก่อนหน้านี้เขาคับแค้นเป็นอย่างมาก ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถกลบฝังความอับยศได้แล้ว!

“ไม่ถูกต้อง! มีพลังคอยคุมการกรอกน้ำทะเลลงปากของเขา!”

ยอดฝีมือบางคนพบความผิดปกติ มีพลังบางอย่างอยู่ในน้ำทะเล เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนไม่ได้อยากดื่มน้ำทะเลด้วยตนเองเพราะความกระหายน้ำ

ยังจะต้องพิจารณาอีกหรือ?

ชายวัยกลางคนก่นด่าในใจ เหตุใดก่อนหน้านี้เขาจึงไม่รู้ว่าสมองของสหายยอดฝีมือเหล่านี้มีปัญหา!

“ฝีมือผู้ใด!?”

มียอดฝีมือตะโกนออกมาอย่างเย็นชาพร้อมประกายตาดุร้าย

“!!!”

ชายวัยกลางคนไร้คำจะเอื้อนเอ่ย สมองของพวกเขามีปัญหาจริง ๆ!

นอกจากมัจฉาสัตมายากับลั่วสุ่ย ยังมีคนนอกอยู่อีกหรือ?

ต้องเป็นฝีมือของมัจฉาสัตมายากับลั่วสุ่ยอยู่แล้ว!

ทว่าเขาอยากจะพูดออกมาเหลือเกิน ว่าอย่าเพิ่งหาคนมาคิดบัญชีได้หรือไม่ รีบจัดการกับพลังที่ควบคุมน้ำทะเลเสียก่อน!

เขาดื่มมามากเกินพอ เพียงแค่น้ำหยดเดียวก็ไม่คิดอยากดื่มอีกแล้ว!

น่าเสียดายที่ทั้งลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาต่างเก็บซ่อนพลัง ยอดฝีมือทั้งหมดต่างไม่อาจสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งจากทั้งสองคน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดว่าลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาเป็นผู้ลงมือ แต่มีสิ่งที่มีชีวิตที่ทรงพลังหลบซ่อนอยู่เบื้องหลังคอยจัดการชายวัยกลางคน

แต่ก็ยังมียอดฝีมือบางคนยังตอบสนองแตกต่าง หลังพบว่าชายวัยกลางคนแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวเป็นพิเศษ ดูท่าน่าจะอิ่มน้ำจนเกินไป

เขาจึงรีบกล่าวออกมา “พวกเราต้องจัดการพลังที่ควบคุมน้ำทะเลก่อน!”

หลังจากนั้นเขาก็ลงมือ ตั้งใจจะทำลายพลังที่ควบคุมน้ำทะเล

“อย่าเพิ่งรีบสิ เขายังดื่มไม่เต็มอิ่มเลย”

ในตอนนั้นเองมัจฉาสัตมายาก็ลงมือ เขาโบกมือเบา ๆ ขัดขวางพลังที่ยอดฝีมือผู้นั้นปะทุออกมาทันที

พรึ่บ!

พริบตานั้นเอง สายตาของยอดฝีมือต่างจับจ้องไปที่มัจฉาสัตมายา แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!

พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่ามัจฉาสัตมายาจะทรงพลังถึงเพียงนี้ เมื่อครู่ผู้ที่ลงมือเป็นขั้นสูงสุด แต่กลับถูกมัจฉาสัตมายาโบกมืออย่างไม่ใส่ใจอะไรครั้งหนึ่ง กลับสามารถขัดขวางพลังที่ปะทุออกมาของขั้นสูงสุด!?

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง!

ตอนนี้พวกเขาเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง ไม่มีสิ่งมีชีวิตทรงพลังอะไรเร้นกายอยู่ แต่เป็นมัจฉาสัตมายาที่ลงมือ!

ใช่แล้ว แม้ว่าขอบเขตของมัจฉาสัตมายาจะอยู่ในขอบเขตสูงสุดเพียงเท่านั้น แต่พลังในร่างกายของเขาอยู่เหนือยิ่งกว่าขอบเขตสูงสุดมานานแล้ว!

เขาเกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดสะท้านฟ้าดินเพราะสระน้ำในลานของคุณชาย สายเลือดของเขาพัฒนาขึ้นหลายเท่า เช่นเดียวกับด้านอื่น ๆ ที่ผ่านการพัฒนาขึ้นอย่างมาก

ในสถานการณ์ปัจจุบัน สามารถกล่าวได้ว่าไม่นับเป็นปัญหาอันใดสำหรับเขาในการต่อสู้ข้ามขอบเขต กระทั่งขั้นนภาสูงสุดที่อยู่เหนือขั้นสูงสุดก็ไม่อาจเป็นคู่ปะมือ เขาสามารถต่อกรกระทั่งขั้นบัญญัติสูงสุดได้!

นอกจากนี้ยังไม่นับรวมพลังอันมหาศาลที่สะสมอยู่ในร่างของเขา

เขาดื่มน้ำด้านในสระ ทั้งยังได้รับอาหารจากคุณชาย ภายในร่างเปี่ยมด้วยพลังมหาศาล แต่เนื่องจากระยะเวลาสั้นเกินไปทำให้เขายังไม่ได้ขัดเกลาพลังเหล่านั้นให้กลายเป็นพลังของเขาเอง

ทว่าเขาก็ยังสามารถใช้พลังอันมหาศาลเหล่านั้นในการต่อสู้ได้!

หากเขาใช้พลังมหาศาลเหล่านั้นต่อสู้ กระทั่งขั้นวิถีสูงสุดหรือกึ่งจักรพรรดิก็สามารถต่อสู้ได้!

พลังในร่างกายของเขามีสะสมอยู่มากเกินไป ไม่ต้องพูดถึงการขัดเกลาอย่างสมบูรณ์เลย หากเขาสามารถขัดเกลาได้ครึ่งหนึ่ง เขาก็ยังสามารถบรรลุขอบเขตจักรพรรดิได้อย่างง่ายดาย

“เขาจะแข็งแกร่งได้ถึงเพียงไหนกันเชียว!?”

“ลุย!”

ยอดฝีมือทั้งหมดตะโกนออกมาเสียงดัง ก่อนจะเริ่มลงมือพุ่งเข้าหาหมายสังหารมัจฉาสัตมายา

ฝั่งพวกเขามีทั้งขั้นสูงสุด ขั้นนภาสูงสุด ขั้นบัญญัติสูงสุด กระทั่งขั้นวิถีสูงสุดก็ยังมี ไม่ว่ามัจฉาสัตมายาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถแข็งแกร่งกว่าพวกเขาทั้งหมดได้!

พวกเขาเชื่อเช่นนั้น!

ตู้ม!

บังเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นใต้ก้นทะเล แม้พวกเขาจะเชื่อว่ามัจฉาสัตมายาจะสามารถหยุดยั้งพวกเขาได้ แต่ก็ยังคงไม่ประมาท ทั้งยังให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ละคนต่างทุ่มกำลังทั้งหมดโดยไม่ออมแรงเอาไว้สักนิด

มัจฉาสัตมายาไร้ซึ่งความหวาดเกรง ทั้งร่างมีแสงเจิดจ้าจำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งออกมา เขาเรียกใช้พลังมหาศาลในร่าง ทำให้พลังในการต่อสู้เพิ่มขึ้นหลายเท่าทันที

เขาเป็นดั่งจ้าวสงครามไร้ผู้ต้าน แม้เผชิญหน้ากับคนจำนวนมากเพียงลำพังก็ไม่ได้ดูตกเป็นรองสักนิด ถึงกับดูเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ กำปั้นทั้งสองข้างมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวและแข็งแกร่งเป็นพิเศษกระเพื่อมออกมา ยอดฝีมือถูกเขาทำให้ปลิวกระเด็นไปทีละคนทีละคน จนบาดเจ็บสาหัสกระอักเลือด

“นี่…เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรือ!!!”

มู่จวินกลืนน้ำลายหนืดลงคอ ภายในใจสั่นสะท้านเต้นระรัวอย่างถึงที่สุด!

ยอดฝีมือจำนวนมากลงมือโจมตีพร้อมกัน ทั้งหมดต่างก็อยู่ขอบเขตสูงสุด ทว่ามัจฉาสัตมายาก็ยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว หนึ่งหมัดชกเกิดระเบิดหนึ่งครั้ง ช่างน่าตื่นตะลึงเหลือเชื่อยิ่ง!

‘เขาต้องกินโอสถเซียนเข้าไปแน่!’

มู่จวินอดเอ่ยความในใจขึ้นมาไม่ได้

มัจฉาสัจมายาหายตัวไปเพียงประมาณหนึ่งปี กลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่าหวาดกลัวผิดปกติเป็นอย่างมาก เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาจริง ๆ ว่ามัจฉาสัตมายาได้กินโอสถเซียนเข้าไปตอนอยู่ด้านนอกหรือ ไม่เช่นนั้นมัจฉาสัตมายาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร!

“ยังมีรากฐานที่ดี…”

อีกด้านหนึ่ง ลั่วสุ่ยกล่าวออกมาหนึ่งประโยค

สายเลือดของมัจฉาสัตมายาไม่สามัญธรรมดา หลังจากเกิดเปลี่ยนแปลงยิ่งไม่ธรรมดามากขึ้น น่าอัศจรรย์อย่างเทียบไม่ติด ทำให้สามารถระดมพลังมหาศาลที่สะสมในร่างกายออกมาได้อย่างง่ายดาย

ยอดฝีมือคนแล้วคนเล่าถูกมัจฉาสัตมายาจัดการลงไปกองกับพื้น ทั้งหมดต่างไม่ใช่คู่ต่อกรของมัจฉาสัตมายา!

“พอได้แล้ว!”

ขณะนั้นเอง ก็มีชายชราผู้หนึ่งปรากฏขึ้นมา เขาตะโกนอย่างเย็นชา พลังอันน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่งปะทุขึ้นทำให้มัจฉาสัตมายาต้องถอยไปอีกด้าน

ปู่ของมู่จวิน ผู้นำเผ่ามัจฉาสัตมายาคนปัจจุบัน ‘มู่ขุย’ ออกมาแล้ว!

นี่คือเทียนตี้ผู้หนึ่ง พลังที่แผ่ออกมาน่ากลัวเกินไป รอบด้านมีกฎแห่งสวรรค์และโลกปรากฏอย่างเลือนราง ตามมาด้วยเสียงตะโกนให้หยุดสะท้อนกึกก้อง!

“ได้รับพลังเล็กน้อยมาจากภายนอก เมื่อกลับมายังกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้?”

เขาจับจ้องไปทางมัจฉาสัตมายาด้วยสายตาเฉียบคม ดวงตาประหนึ่งสามารถสังหารได้ทุกสิ่ง ทำให้มัจฉาสัตมายาอดตกใจกลัวขึ้นมาไม่ได้

ขอบเขตของมัจฉาสัตมายาต่ำเกินไป ต่างชั้นจากเทียนตี้ที่เป็นจุดสูงสุดมากเกินไป

แม้ในร่างของเขาจะมีพลังมหาศาลสะสมอยู่ ทว่าเขาก็สามารถนำมันทั้งหมดออกมาได้อย่างเต็มที่ อย่างมากสุดก็สามารถต่อกรกับกึ่งจักรพรรดิได้ ไม่ต้องพูดถึงเทียนตี้ กระทั่งขอบเขตจักพรรดิยังไม่อาจสู้ได้!

“มีฝีมือแค่ผู้อาวุโสรังแกผู้น้อยอย่างนั้นหรือ!?”

ลั่วสุ่ยก้าวออกมาด้านหน้ามัจฉาสัตมายาด้วยดวงตาใส่กระจ่าง ขณะกล่าวกับมู่ขุย

นางแข็งแกร่งกว่ามัจฉาสัตมายามาก

ในยามที่นางยังอยู่ในร่างแมวก็นับได้ว่าแข็งแกร่งกว่ามัจฉาสัตมายามาก

หลังจากที่นางเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ นางก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น!

เพราะหลังจากที่นางอยู่ในร่างมนุษย์แล้ว คุณชายก็สอนนางทั้งการเล่นฉิน เดินหมาก เขียนพู่กัน และการวาดภาพ ขอบเขตของนางจึงยิ่งพัฒนาอย่างก้าวกระโดด!

“หากมีความสามารถจริงก็มาสู้กับข้า!”

นางกล่าวออกมา

“…”

หลังจากได้ยินที่ลั่วสุ่ยกล่าว เหล่าผู้แข็งแกร่งต่างพูดไม่ออก!

พวกเขายังคิดอยู่เลยว่าลั่วสุ่ยต้องการจะพูดสิ่งใด ที่แท้ก็จะพูดเช่นนี้…!

นี่มันอะไรกัน!

มีความแตกต่างอันใด?

อ่า มัจฉาสัตมายาเป็นผู้น้อยแล้ว เจ้าไม่ยิ่งเป็นผู้น้อยกว่าอย่างนั้นหรือ?

กลิ่นอายของลั่วสุ่ยเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์ เห็นได้ชัดว่านางกับมัจฉาสัตมายาต่างก็ล้วนเป็นชนรุ่นเยาว์

“สู้กับเจ้า? เจ้าคิดว่าตนเองมีค่าอันใดกัน? ท่านปู่เพียงแค่ยื่นนิ้วออกมาก็สามารถบดขยี้เจ้าจนตายได้!”

มู่จวินรีบวิ่งไปอยู่ด้านข้างปู่ของเขา ก่อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความเหยียดหยามและไร้กังวล

ท่านปู่ของเขามาแล้ว จะไม่มีเรื่องอะไรนอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้น เขาไม่จำเป็นต้องอดกลั้นไม่กล้าพูดสิ่งใด เขาสามารถพูดสิ่งใดก็ได้ตามที่เขาต้องการ

“อายุยังน้อย ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ! แม้กระทั่งปู่ของข้ายังกล้าท้าทาย! หลงเหลือทางรอดให้ตัวเองบ้าง อย่าคิดรนหาที่ตายเช่นนี้”

มู่จวินกลับมาหยิ่งผยองอีกครั้ง เขากล่าวย้อนคืนคำพูดของลั่วสุ่ยอย่างไร้ความหวั่นเกรง

เขามองไปที่ลั่วสุ่ยอย่างเย้ยหยัน “ถ้าหากเจ้าไม่ตายก็จะไม่มีความสุขอย่างนั้นหรือ?”

ก่อนหน้านี้เขาคับแค้นเป็นอย่างมาก ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถกลบฝังความอับยศได้แล้ว!

ไม่ต้องกล่าวเลยว่าเขารู้สึกสุขสมแค่ไหน!

ความสุขสมของเขาแทบจะล้นฟ้า!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด