ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1352 ดูถูกคนชนบท + 1353 ดอกไม้งามมากเกินไป

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1352 ดูถูกคนชนบท + 1353 ดอกไม้งามมากเกินไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1352 ดูถูกคนชนบท

สีหน้าของถังม่านลี่เปลี่ยนไปเล็กน้อยดูท่าทางไม่ค่อยชอบใจเท่าไร นั่งยืดตัวตรง พูดภาษาจีนกลางนุ่มนวลต่างจากเมื่อครู่ “ฉันมาจากเมืองจ่าวจวง ไม่ใช่คนชนบท”

ตอนที่พูดถึงคนชนบท นัยน์ตาของถังม่านลี่มีท่าทีดูถูกฉายวับมา ถึงแม้จะพาดผ่านแค่ช่วงเวลาสั้น ๆแต่เหมยเหมยกลับจับได้ จึงรู้สึกไม่ชอบถังม่านลี่คนนี้ขึ้นมาเสียแล้ว

เธอมองไปที่เสื้อผ้าบนตัวของถังม่านลี่ก็เป็นแค่เพียงเสื้อผ้าราคาถูก วัสดุเกรดต่ำ คิด ๆดูแล้วต่อให้ถังม่านลี่เป็นคนในเมืองฐานะครอบครัวก็คงจะไม่ได้ดีมาก ไม่รู้จริง ๆว่าเธอเอาความรู้สึกหยิ่งผยองนี้มาจากไหน?

มีสิทธิ์อะไรมาดูถูกคนชนบท?

แน่นอนว่าน้าฟางก็มองออกว่าถังม่านลี่เหยียดหยามคนชนบท ยิ้มอย่างเบิกบาน ตั้งใจพูดว่า “ที่แท้คุณก็เป็นคนในเมืองนี่เอง ไม่น่าล่ะหน้าตาถึงได้ดูดีขนาดนี้ ไม่เหมือนสาว ๆในชนบทของเรา ทำงานทุกวันจนมือด้านไปหมดแล้ว”

ถังม่านลี่หดมือกลับตามสัญชาตญาณ เหมยเหมยสายตาหลักแหลมจึงสังเกตเห็นนานแล้วว่ามือของถังม่านลี่เป็นส่วนที่น่าเกลียดที่สุดในร่างกายของเธอ ข้อนิ้วมือหนาและผิวหยาบกร้าน หากมองแวบแรกไม่ต่างจากมือผู้ชาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอทำงานมาไม่น้อยและไม่ใช่งานสบาย ๆอีกด้วย

“ก็ใช่น่ะสิ ตั้งแต่เด็ก ๆมาแม่ฉันก็ไม่ให้ฉันทำงานเลย บอกว่าลูกผู้หญิงต้องเลี้ยงดูอย่างดี”

เสียงของถังม่านลี่ฟังไม่รื่นหูสักนิด ทั้ง ๆที่มีรูปร่างหน้าตาน่ารักสดใส แต่กลับพูดเหมือนเสียงถูกบีบจมูกส่งเสียงเล็กเสียงน้อยเหมือนสาววัยใสเสียอย่างนั้น เหมยเหมยได้ยินแล้วขนลุกไปทั้งตัว

“นั่นก็เป็นเพราะฐานะครอบครัวของคุณดี บำรุงเลี้ยงดูได้ คนชนบทอย่างพวกเราไหนเลยจะเป็นแบบนั้นได้ เพียงแค่มีกินและได้สวมใส่เสื้อผ้าอุ่น ๆก็บุญโขแล้ว”

น้าฟางแอบหันไปขยิบตาให้เหมยเหมย เหมยเหมยก้มหน้าลงแอบหัวเราะ น้าฟางคนนี้ก็มีนิสัยชอบยียวนคนอื่นเล่นไม่เบา ทั้งที่เห็นได้ชัดว่าถังม่านลี่กำลังคุยโวโอ้อวดแต่ก็ยังเล่นไปกับเธอด้วย

ถังม่านลี่กลับฟังไม่ออก ส่งเสียงฮึอย่างลำพองใจเบา ๆ แต่กลับรู้สึกชอบใจน้าฟางขึ้นมาหน่อย ทั้งยังรู้สึกว่าน้าจากชนบทคนนี้พูดจาเป็น

ตอนแรกเธอตกตะลึงกับความสวยของเหมยเหมยแต่ตอนนี้มันมลายหายไปหมดแล้ว ทั้งอาและน้าล้วนมาจากชนบทและยังเป็นถิ่นทุรกันดารอย่างเมืองต้าหวังซึ่งเป็นเมืองที่ยากจนที่สุดในจ่าวจวง คิด ๆดูแล้วเด็กใหม่คนนี้ฐานะทางครอบครัวก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไร ตอนแรกเห็นแต่งตัวแบบนี้จึงทำเอาเธอคิดไปเองว่าเด็กใหม่คนนี้น่าจะมาจากเมืองใหญ่อย่างเมืองจินเสียอีก!

เชอะ เด็กใหม่คนนี้จะต้องโอ้อวดมากกว่าเธอแน่นอน!

พระเจ้าไม่ยุติธรรม นึกไม่ถึงว่าจะบันดาลให้ผู้หญิงคนนี้มีใบหน้าสะสวยขนาดนี้ เมื่อก่อนเธอเคยคิดว่าตัวเองสวยพอสมควรแล้ว แต่ตอนนี้ดูท่าสวยยังไม่ได้ครึ่งของเด็กใหม่นั่นเลย ไม่ยุติธรรมเลยจริง ๆ!

มีสาวร่างสูง คิ้วหนาและดวงตากลมโตแววตาเป็นประกายอีกคน หันมาแนะนำตัวเองกับเหมยเหมยว่า “ฉันชื่อฉีฉีเก๋อ เป็นคนมองโกเลียในนะ”

“ฉันชื่อจ้าวเหมย เป็นคนเมืองจิน มองโกเลียในเป็นสถานที่ที่ดีจริง ๆ ทุ่งหญ้าใหญ่แถมยังขี่ม้าได้ด้วย!”

เหมยเหมยอิจฉามาก เมื่อก่อนเหยียนหมิงซุ่นเคยพาเธอไปเที่ยวที่ทุ่งหญ้าอยู่สองสามวัน นอนบนทุ่งหญ้า ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนั้นสวยมากจริง ๆ คนเลี้ยงสัตว์ก็กระตือรือร้นมีน้ำใจเช่นกัน เพียงแต่เธอไม่ชินกับอาหารที่นั่น ไปไม่กี่วันก็ผอมโซ ไม่งั้นคงอยู่เที่ยวได้อีกหลายวัน

ฉีฉีเก๋อยิ้มอย่างร่าเริง “ที่บ้านฉันมีม้าและฉันเองก็เติบโตมาบนหลังม้าตั้งแต่เด็ก หากเธออยากขี่ม้าวันหลังไปเที่ยวบ้านฉันได้เลย ฉันจะเลี้ยงชานม เต้าหู้นมเธอเอง”

เหมยเหมยดีใจก่อนเป็นอันดับแรกแต่ไม่นานเขาก็ยู่หน้าอีกครั้ง “ไปเล่นที่บ้านเธอรับรองว่าไม่มีปัญหา แต่ชานมและเต้าหู้นมฉันขอไม่กินแล้วกัน ฉันไปเที่ยวที่นั่นกลับมาทุกอย่างดีหมดแค่ไม่ชินกับอาหารการกินเท่านั้นเอง ไม่ได้บอกว่าอาหารที่นั่นของพวกเธอไม่ดีนะ มันเป็นปัญหาของฉันเอง”

ฉีฉีเก๋อหัวเราะร่า “พวกเธอคนใต้ไม่คุ้นชินกับอาหารแบบนั้นอยู่แล้วก็เหมือนฉันที่ไม่ชอบกินผัก ไม่ชอบกินข้าวนั่นแหละ”

ถังม่านลี่รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง เธอรู้สึกว่าตัวเองได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชา จึงพูดแทรกขึ้นว่า “จ้าวเหมยเธอไม่ใช่คนจ่าวจวงเหรอ? ทำไมถึงเป็นคนเมืองจินไปได้ล่ะ?”

…………………………………………….

 ตอนที่ 1353 ดอกไม้งามมากเกินไป

เสียงของถังม่านลี่เล็กแหลม อีกทั้งยังซ่อนความสุขในใจอยู่ลึก ๆ อารมณ์ประมาณว่าจับผิดคนอื่นได้สำเร็จ เหมยเหมยอดมุ่นคิ้วไม่ได้ รู้สึกไม่ชอบถังม่านลี่มากขึ้นไปอีก

จะมาใส่ใจเรื่องที่ว่าบ้านเธออยู่ไหนไปทำไม?

“ฉันไม่ได้พูดเสียหน่อยว่าฉันเป็นคนจ่าวจวง ฉันเป็นคนเมืองจิน เกิดและเติบโตมาแต่กำเนิด”

เหมยเหมยพยายามอดกลั้นความไม่พอใจไว้แล้วอธิบาย ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นวันแรกของการรายงานตัว อีกทั้งวันหลังยังต้องอยู่ด้วยกันอีกสี่ปีดังนั้นจึงไม่อยากให้ผิดใจกัน

แต่ถังม่านลี่กลับไม่ปล่อยผ่านไป ชี้ไปที่คู่สามีภรรยาน้าฟางแล้วพูดว่า “พวกเขาไม่ใช่คุณอาคุณน้าของเธอเหรอ? พวกเขาเป็นคนที่มาจากเมืองต้าหวัง เธอจะเป็นคนเมืองจินได้อย่างไร?”

ถังม่านลี่พอได้ฟังว่าเหมยเหมยเป็นคนเมืองจินก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้นเพิ่มเป็นทวีคูณ รู้สึกว่าเหมยเหมยช่างเสแสร้งเก่งเสียจริง เห็นอยู่ชัด ๆว่าเป็นคนชนบทที่ยากจนแร้นแค้น นึกไม่ถึงว่าจะเสแสร้งเป็นคนเมืองจิน

เชอะ อย่าคิดว่าจะปิดบังความจริงจากสายตาที่เฉียบคมของเธอได้

น้าฟางรีบพูดขึ้นมาว่า “ผู้หญิงอย่างเธอนี่น่าสนใจจริง ๆ ใครบอกว่าหลานสาวจะต้องมาจากที่เดียวกันกับอาน้าเหรอ? อีกอย่างพวกเราเองก็ไม่ใช่อากับน้าแท้ ๆเสียหน่อย พวกเราสองคนทำงานให้กับคุณหนู ครอบครัวเธอจ้างคนมาทำงานยังต้องเลือกบ้านเกิดด้วยหรือไง!”

“พรืด”

ฉีฉีเก๋อกลั้นไว้ไม่อยู่จนพ่นออกมา รีบปิดปากแน่นฝืนกลั้นเอาไว้ มีความสุขเสียจริง

เธอและถังม่านลี่มากันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว โอ้โหเฮ้ย…แค่หนึ่งวันหนึ่งคืนก็ทำเอาอึดอัดใจจะตายอยู่แล้ว คิดดูว่าสาวมองโกเลียในที่กินเนื้อคำโตและดื่มเหล้าชามใหญ่ ทางที่ดีทำอะไรควรทำให้สุด  ทำอะไรก็อย่าก้มหัวให้ใคร ทำเปิดเผยตรงไปตรงมาเลยดีที่สุด

แต่ถังม่านลี่ก็จริง ๆเลย ในสิบประโยคถ้ามีสักประโยคเป็นเรื่องจริงก็ขอบคุณสวรรค์มากแล้ว ทั้ง ๆที่ฝีมือการโกหกแย่มาก คิดดูว่าขนาดเธอที่เป็นคนซื่อ ๆยังฟังออก

มีใจหวังดีอยากจะเตือน แต่เมื่อวานก่อนออกเดินทางพ่อได้กำชับเป็นพิเศษว่าชาวฮั่นจิตใจคับแคบเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว หากออกไปจะพูดจาหรือทำธุระอะไรต้องระมัดระวังให้มาก อย่าโผงผางเหมือนอยู่บ้านเพราะจะผิดใจกับคนอื่นได้ง่าย

เพราะเหตุนี้ฉีฉีเก๋อถึงได้อดกลั้นไว้ทั้งคืนจนทำเอาเธออึดอัดใจจนจะตายอยู่แล้ว พอตอนนี้ได้ยินน้าฟางถากถ่างถังม่านลี่แบบนั้น คนที่สุขใจที่สุดก็คือเธอแล้วล่ะ

เวลานี่ถังม่านลี่ถึงได้เข้าใจ อาเหลาและน้าฟางเป็นแค่คนงานในบ้านของเหมยเหมย เธอนึกว่าเป็นนักศึกษาเหมือนกับเธอ อันที่จริงคนมีฐานะและเป็นคนเมืองจินด้วยสิ่งเหล่านี้ต่อให้เธออ้อนวอนแทบตายก็ไม่ได้มาด้วยซ้ำ

“เมื่อครู่พวกเธอก็ไม่ได้พูดให้ชัดเจน ทำเอาฉันเข้าใจผิดหมด” ถังม่านลี่ยิ้มเจื่อน

มีเสียงฝีเท้าร้อนรนตรงระเบียงทางเดิน มีคนตะโกนส่งเสียงอยู่ข้างนอกว่า “พวกเธอทำงานให้มันเร็ว ๆหน่อย เลือกเตียงที่ดีที่สุดให้ฉัน ต้องเป็นเตียงชั้นบนนะ ฉันไม่อยากนอนบนเตียงชั้นล่าง ทั้งเสียงดังทั้งสกปรก”

เป็นเสียงของผู้หญิงค่อนข้างแหบพร่า ไม่ไพเราะเสนาะหู แค่ได้ยินเสียงก็พอจะรู้ว่าเป็นคนแบบไหน เธอจะต้องเป็นคุณหนูใหญ่ที่หัวแข็งเอาแต่ใจตัวเองแน่นอน สำเนียงคล้ายคนเมืองหลวงเล็กน้อยแต่ก็มีสำเนียงคล้ายกับคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

หวังว่าจะไม่ใช่ห้องเดียวกันกับเธอ ทว่า ——

“406 ถึงแล้ว…”

เสียงถึงคนก็ถึง ชายคนหญิงคนเดินหอบแฮก ๆเข้ามา ด้านหลังตามมาด้วยสาวร่างเล็กน่ารักอวบอิ่ม ใบหน้าขาวเนียนนุ่มนิ่ม เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูหน้าตาอิ่มเอมโหงวเฮ้งดีไม่เบา แต่นิสัยใจคอแบบนี้ใครจะกล้าเข้าหา

“คุณหนู เตียงของคุณหนูอยู่ที่นี่ เป็นเตียงชั้นล่าง” หญิงวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่า ๆ ชี้ไปที่ชั้นล่างของเหมยเหมยด้วยสีหน้าหวาดกลัว

เหมยเหมยร้องในใจว่าซวยแล้ว จะนอนร่วมเตียงเดียวกับคนแบบนี้ได้อย่างไร!

“นี่ ฉันให้เธอร้อยหยวนเป็นการแลกที่กัน!”

สาวอ้วนควานหาแบงค์สีเขียวหนึ่งร้อยหยวนมาจากกระเป๋าของเธอ โบกอยู่เบื้องหน้าของเหมยเหมยอย่างลำพองใจ ถังม่านลี่มองตาเป็นมัน หนึ่งร้อยหยวนเพียงพอสำหรับเธอใช้จ่ายสองเดือนเลยนะ

…………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด