ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1360 ชีวิตฐานะปานกลาง + 1361 กินทุกอย่างทั้งหมด

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1360 ชีวิตฐานะปานกลาง + 1361 กินทุกอย่างทั้งหมด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1360 ชีวิตฐานะปานกลาง

สวีจื่อเซวียนรังเกียจท่าทีดูหมิ่นของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่ชอบคิดว่าตนเองอยู่เหนือกว่าคนอื่น จึงพูดออกไปอย่างเยือกเย็นว่า “จ่าวจวงมีชื่อเดิมว่าหลานหลิงเป็นพื้นที่ราบสำคัญ มีประวัติศาตร์และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ในตอนที่เมืองหลานหลิงสร้างเมืองนั้น เมืองหลวงยังเป็นที่ว่างยังไม่มีใครมาลงหลักปักฐานสักคน!”

ถังม่านลี่ก็ยิ่งได้ใจ พยักหน้ารัว ๆ “ใช่สิ จ่าวจวงเป็นเมืองโบราณในประวัติศาสตร์ พื้นเพทางวัฒนธรรม ขนาดเมืองหลวงก็ยังเทียบไม่ได้”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถูกสามคนนั้นรุมหมู่ ไฟโทสะก็ปะทุขึ้นเธอจึงยิ้มเย้ยพูดขึ้นว่า “พื้นเพทางวัฒนธรรมมีประโยชน์อะไร ตอนนี้ที่นี่เป็นเมืองหลวงของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจหรือด้านศิลปะหรือการเมืองก็ถือว่าเป็นอันดับต้น ๆของประเทศทั้งนั้น พวกเธอเอาเมืองชั้นต่ำมาเทียบกับเมืองหลวงก็เท่ากับเอาหมาพันธุ์ผสมมาเปรียบเทียบกับหมาอัลเซเซียนพันธุ์แท้ มันเทียบกันได้หรือ?”

มันทำให้เธอโกรธมากจริง ๆ!

เมืองหลานหลิงมันเจ๋งขนาดนั้นเลยหรือ?

ก็เปลี่ยนชื่อเป็นเป็นจ่าวจวงแล้วไง หลานหลิงก็ไม่มีอยู่แล้ว!

เชอะ จะมาอวดเบ่งอะไรหนัหนา?

เจิ้งเสวี่ยซานมองเห็นสีหน้าของถังม่านลี่ไม่ดีเอามาก ๆจึงพูดยิ้ม ๆอย่างนุ่มนวลว่า”พอแล้วพอแล้ว พวกเรารีบไปกินข้าวกันได้แล้ว แต่ว่าฉันก็ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอนะเชี่ยนเชี่ยน หมาเป็นเพื่อนที่แสนดีสำหรับมนุษย์เรา ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ไหน ในใจเจ้าของมันก็คือพันธุ์ที่ดีที่สุดแล้ว เอามาเทียบกันไม่ได้หรอก!”

“เชอะ วิธีการพูดแบบนี้เป็นคำพูดปลอบใจของพวกคนจนที่ไม่มีปัญญาซื้อหมาพันธุ์แท้ก็เท่านั้นเอง ไม่มีปัญญาเลี้ยงอัลเซเซียนฮัสกี้ มีปัญญาเลี้ยงแค่หมาพันธุ์ผสม แน่นอนต้องหาคำพูดมาทำให้ตัวเองดูดีไม่ให้ตัวเองเสียหน้า”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ชอบท่าทีที่เจิ้งเสวี่ยซานมักจะเป็นตัวกลางที่คอยห้ามศึกอยู่เรื่อย แล้วหลังจากนั้นก็พูดทับถมเธอแบบตั้งใจแต่แสร้งเหมือนไม่ได้ตั้งใจ เชอะ คิดว่าเธอเป็นคนโง่หรือไง?

คุณหนูใหญ่เหริ่นอย่างเธอยอมทุกอย่าง แต่จะไม่ยอมเสียเปรียบให้ใคร!

สีหน้าของเจิ้งเสวี่ยซานเปลี่ยนไปเล็กน้อย รอยยิ้มที่อ่อนโยนเริ่มฝืนยิ้มต่อไปไม่ไหว ในใจโกรธเกลียดเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอย่างที่สุด ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนกัดไม่ปล่อยขนาดนี้เลย เติบโตมาฐานะร่ำรวย แต่นิสัยชอบพูดจาเสียดสีให้คนอื่นเจ็บปวดอยู่เรื่อย

ตบหน้าเธอสองครั้งติดต่อกันแล้วนะ สองบัญชีนี้เธอจะจำไว้ วันหลังต้องหาวิธีเอาคืนมาให้ได้!

“คำพูดของเชี่ยนเชี่ยนนี้…เธอคิดว่าทุกคนจะเป็นเถ้าแก่ใหญ่เหมือนครอบครัวเธอหรือไง ดูเธอสิใส่ทองทั้งตัวจนนึกว่าจะเปิดร้านทองได้อยู่แล้ว”

เจิ้งเสวี่ยซานปิดปากและหัวเราะเสียงเบา คนอื่นต่างก็หันมามองเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน สร้อยทองที่คอและข้อมือแถมยังใส่ทั้งสองข้างด้วย และปิ่นปักผมทองที่ปักอยู่บนหัว ทองเปล่งแสงระยิบระยับจนจะแยงตาคนอื่นบอดอยู่แล้ว

ทุกคนต่างก็มองด้วยแววตาดูถูก ช่างเป็นเศรษฐีใหม่ที่ไร้วัฒนธรรมเสียจริง มิน่าถึงได้หยาบคายเช่นนี่!

เหมยเหมยไม่รู้อะไรเลยว่าตัวเองเป็นสาเหตุของปัญหาจนพวกสาว ๆในห้องพักของเธอจะเริ่มตีกันแล้ว และเธอก็ยังไม่ได้เริ่มทำความรู้จักผูกมิตรกับใครเลย ก็ถูกทิ้งไว้ที่ห้องอย่างโดดเดี่ยวเสียแล้ว

บ้านที่เหยียนหมิงซุ่นซื้อให้เธออยู่ไม่ไกลจากมหาลัยเมืองหลวงมากนัก เป็นบ้านทรงสี่ประสานจีนขนาดย่อมที่มีลานบ้าน ภายในตกแต่งเรียบร้อย มีทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆก็แทบจะครบวงจรสะดวกสบายมาก

“บ้านของเธอสวยมากเลย ทำไมเธอถึงอยู่คนเดียวล่ะ?”

ฉีฉีเก๋อมองเห็นห้องรับแขกที่ตกแต่งด้วยสไตล์อบอุ่นและยังประดับประดาด้วยลวดลายดอกไม้อีกด้วย แค่ครู่เดียวก็ทำให้สาวน้อยอย่างเธอประทับใจแววตาเป็นประกาย

“ใช่แล้ว พ่อกับแม่ของฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขามีที่พักของพวกเขาเอง เธอจะดื่มอะไรเหรอโค้กหรือสไปรซ์?” เหมยเหมยเปิดตู้เย็นและถาม

ฉีฉีเก๋อมองเครื่องดื่มหลากหลายชนิดที่เรียงรายเต็มตู้เย็นไปหมด แล้วแอบแลบลิ้นปลิ้นตา เธอรู้สึกว่าเหมยเหมยเหมือนชาวต่างชาติที่อยู่ในโทรทัศน์พวกนั้นเลย ชีวิตดูเหมือนชาวยุโรปมากๆ

เข้าบ้านก็เปิดตู้เย็นที่แน่นขนัดไปด้วยเครื่องดื่มนานาชนิด หลังจากนั้นก็เปิดแล้วถามแขกว่า “คุณต้องการดื่มอะไรเหรอ?”

ดูดีมีระดับจริง ๆ!

ที่ฉีฉีเก๋อไม่รู้เลยว่าชีวิตแบบนี้หลังผ่านไปสักสิบปี จะมีชื่อเรียกที่น่าฟังว่าว่า ——ชีวิตฐานะปานกลาง

…………………………………………..

 ตอนที่ 1361 กินทุกอย่างทั้งหมด

“งั้นฉันดื่มโค้กแล้วกัน? ฉันยังไม่เคยดื่มโค้กมาก่อนเลย ฉันเคยเห็นแค่ในโทรทัศน์ ได้ยินมาว่าอร่อยมาก ๆ!”

ฉีฉีเก๋อจะอายอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าครอบครัวของเธอจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน ควรจะพูดว่าคนเลี้ยงสัตว์ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน และพ่อของเธอก็มีฟาร์มสัตว์เป็นของตัวเอง มีวัวและแกะจำนวนนับไม่ถ้วน จะขัดสนเรื่องเงินได้อย่างไร?

มิเช่นนั้นเธอคงมาเรียนวาดรูปไม่ได้หรอก?

นี่ไม่ใช่สาขาที่ลูกครอบครัวยากจนจะเรียนได้เลย!

เพียงแต่ปัญหาของพวกเขาคือนอกจากทุ่งหญ้าแล้วก็มีแต่ทะเลทราย ในระยะร้อยกิโลเมตรไม่มีแม้กระทั่งเงาของคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบนท้องถนนและร้านค้า ขนาดเธอจะไปเรียนยังต้องขี่ม้าเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงเพื่อไปที่นั่นเลย!

เครื่องดื่มอย่างโค้กนี่ เพียงแค่เคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ!

เหมยเหมยหยิบโค้กออกมาหนึ่งกระป๋องแล้วช่วยเธอเปิดกระป๋องถึงส่งให้ฉีฉีเก๋อ จากนั้นเดินกลับไปที่ห้องนอนและหยิบขนมออกมา เธอและเหยียนหมิงซุ่นมาพักที่นี่สองสามวันเมื่อเดือนที่แล้ว ดังนั้นจึงตุนของกินไว้ในบ้านมากมาย

“เธอกินตามสบายเลยนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอชอบกินอะไร”

ฉีฉีเก๋อมองไปที่ขนมหลากสีที่กองเป็นคล้ายภูเขาเล็ก ๆบนโต๊ะน้ำชา มีหลายอันเป็นสัญลักษณ์คดเคี้ยวแปลก ๆ เธอไม่รู้จักเลยสักอัน แต่ก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้

ดูท่าคงอร่อยหมดเลย!

“ฉันไม่เลือกกิน นอกจากไม่ชอบกินผักแล้ว อย่างอื่นก็ชอบกินหมด”

ฉีฉีเก๋อกลืนน้ำลายอีกครั้ง ฉีกช็อคโกแลตชิ้นหนึ่งเป็นอันที่ฉิวฉิวชอบมากที่สุด หักออกมาชิ้นหนึ่งและกิน ตาเป็นประกายอย่างช่วยไม่ได้แล้วเคี้ยวอย่างรวดเร็ว

ฉิวฉิวได้กลิ่นช็อคโกแล็ตไหนเลยยังจะเฉยได้อีก พุ่งออกมาจากในกระเป๋า  แย่งช็อกโกแลตชิ้นใหญ่อีกครึ่งหนึ่งในมือของฉีฉีเก๋อไปแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย

ฉีฉีเก๋อตกใจยกใหญ่ นี่มันตัวอะไรเนี่ย?

เหมยเหมยทำหน้าไม่ถูกรีบอธิบายว่า “ไม่ต้องกลัวนะ มันคือฉิวฉิวชอบแย่งของอร่อยจากคนอื่น ไม่ข่วนคนหรอก เธอแกะอันใหม่กินเถอะ”

พอฉีฉีเก๋อเห็นเจ้าฉิวขาวน้อยที่หมอบอยู่ข้างกายเหมยเหมยชัดแจ๋วก็ถูกตะปบไว้ทันที ไหนเลยจะยังคิดเล็กคิดน้อยกับแค่ช็อกโกแลตครึ่งอัน?

ต่อให้บอกให้เธอเอาเนื้อออกมาให้ยังได้เลย!

“น่ารักมาก สวยมากจริง ๆ ฉันลูบมันได้ไหม?” ฉีฉีเก๋อจ้องมองฉิวฉิวตาไม่กระพริบ ไม่สนใจเรื่องกินอีกต่อไป

เหมยเหมยพยักหน้า “ได้สิ ฉิวฉิวก็ชอบเธอเหมือนกัน”

ฉิวฉิวเลือกคนได้เข้มงวดมาก คนที่ไม่เข้าตาจะชำเลืองมองสักนิดก็ยังไม่มีแต่มันกลับกินของในมือของฉีฉีเก๋อ แสดงว่ามันมีความรู้สึกที่ดีต่อฉีฉีเก๋อ ลูบไม่กี่ครั้งแน่นอนว่าไม่มีปัญหา

ฉีฉีเก๋อยื่นมือออกมาด้วยความดีใจ ค่อย ๆลูบหลังของคุณชายฉิวเบา ๆอย่างระมัดระวัง ปรนนิบัติอย่างตั้งใจยิ่งกว่าแม่ตัวเองเสียอีก ฉิวฉิวโดนลูบจนสบาย ความรู้สึกดีต่อฉีฉีเก๋อก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น หรี่ตาดำขลับของมันชอบใจเป็นที่สุด

เหมยเหมยถือโอกาสวางฉิวฉิวไว้ในอ้อมกอดของฉีฉีเก๋อให้เธอดูแลไป ตัวเองก็วิ่งไปห้องครัวสั่งงานน้าฟางให้ทำอาหารมื้อเที่ยง “น้าฟาง มื้อเที่ยงน้าทำอาหารจำพวกเนื้อเยอะ ๆหน่อยนะคะ เพื่อนหนูเธอชอบกินเนื้อ”

“ทราบแล้วค่ะ รสชาติของทางนั้นน้าคุ้นเคยดี ย่างน่องแกะไปแล้ว รับรองเพื่อนคุณหนูชอบแน่นอน” น้าฟางยิ้มตาหยี

เมื่อก่อนตอนเธอไปปฏิบัติภารกิจเคยแฝงเข้าไปทำงานในโรงแรมใหญ่เป็นเวลาครึ่งปี ความสามารถในการทำความเข้าใจของเธอสูงมาก ทำอาหารทุกภาคได้หลากหลายประเภท รสชาติไม่เลว เหยียนหมิงซุ่นเห็นถึงทักษะการทำอาหารที่ดีของน้าฟางเป็นหลัก จึงเป็นเหตุผลที่เชิญพวกเขาทั้งคู่มาโดยเฉพาะ

น้าฟางทำอาหารคล่องแคล่วรวดเร็ว ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงอาหารเลิศรสก็วางเต็มโต๊ะ โดยเฉพาะขาแกะย่างที่หนังเหลืองเกรียมกรอบเนื้อนุ่ม กลิ่นหอมตลบอบอวล ทำเอาดวงตาของฉีฉีเก๋อเบิกกว้าง

“ว้าว…น้าฟาง หนูรักน้าที่สุดเลยค่ะ คุณน้าย่างเนื้อแกะได้หอมกว่าแม่ฉันย่างอีก วันนี้ฉันไม่ลดน้ำหนักแล้ว ฉันจะกินทุกอย่างทั้งหมดนี่เลย!”

……………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด