ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1454 ฟ้อง + 1455 มีเมฆสีเขียวลอยอยู่บนฟ้า

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1454 ฟ้อง + 1455 มีเมฆสีเขียวลอยอยู่บนฟ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 1454 ฟ้อง

ช่วงบ่ายมีเรียนเพียงคาบเดียวเหมยเหมยจึงไม่ได้กลับหอพัก แต่เตรียมไปรอเหยียนหมิงซุ่นที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ทว่าเธอเพิ่งเดินออกจากตึกเรียนก็เห็นรถคันคุ้นตาเลยอดยิ้มร่าไม่ได้ก่อนจะวิ่งไปที่รถ

เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ลงจากรถ และไม่แม้แต่จะแง้มเปิดหน้าต่างนั่นทำให้เขายิ่งดูลึกลับมากกว่าเดิม ทุกคนต่างสงสัยว่าคนในรถเป็นใครจึงพากันชะเง้อคอยาวแต่กลับมองไม่เห็นอะไร ทันทีที่เหมยเหมยขึ้นรถ รถก็พุ่งทะยานออกไปทันทีอย่างรวดเร็ว

“เป็นอะไรไป? ใครรังแกเหมยเหมยของพี่นะ?” เหยียนหมิงซุ่นมองปราดเดียวก็ดูออกว่าคนรักของตนไม่มีความสุขเลยพูดหยอกเย้าเธอ

เหมยเหมยโกรธจนกัดที่มือเขาแรง ๆทีหนึ่งพร้อมหางตาที่แดงระเรื่อเล็กน้อย ทำเอาเหยียนหมิงซุ่นตกใจแทบแย่รีบถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น

“คนสติไม่ดีโฮ่วเซิ่งหนานนั่นมาเป็นอาจารย์ที่มหาลัยฉัน แล้วยังเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษฉันอีก วันนี้เธอรังแกฉันด้วย…”

เหมยเหมยยู่ปากออดอ้อน ดวงตาแดงก่ำ ต้องให้เหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าเธอน้อยใจมากเหลือเกิน!

ทั้งหมดนี้ก็เพราะความเนื้อหอมของเขา

เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่น โฮ่วเซิ่งหนาน ผู้หญิงคนนี้ช่างคิดได้จริง ๆ มาเป็นอาจารย์ในมหาลัยเมืองหลวงหรือ?

แล้วยังบังเอิญเป็นอาจารย์สอนเหมยเหมยด้วย?

เหอะ พุ่งเป้ามาที่เหมยเหมยชัด ๆ!

ทำไมถึงต้องมาเจอยัยคนสติไม่ดีจอมตื๊อคนนี้ด้วย?

เรื่องนี้ต้องกลับไปปรึกษาพ่อบุญธรรมเขาสักหน่อย ไม่ว่าอย่างไรระหว่างนี้ก็เกี่ยวโยงไปถึงนายใหญ่ที่ไม่เห็นแก่ภิกษุสงฆ์ก็ต้องเห็นแก่พระพุทธองค์บ้างล่ะ อีกอย่างโฮ่วเซิ่งหนานยังเคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาจะทำอะไรโฮ่วเซิ่งหนานไม่ได้เด็ดขาด ต้องให้นายใหญ่ออกหน้าเองถึงจะเหมาะสมที่สุด!

เหยียนหมิงซุ่นพูดโอ๋เสียงนุ่มนวลอยู่หลายทีก่อนจะให้เหมยเหมยอยู่ที่บ้าน ส่วนเขาขับรถไปที่ฟาร์ม เรื่องแบบนี้ต้องให้เฮ่อเหลียนชิงออกหน้าถึงจะได้

“ยอมกลับมาได้แล้วหรือไง?”

เฮ่อเหลียนชิงมองเหยียนหมิงซุ่นด้วยสายตาเย็นชา อ้าปากโพล่งออกมาก็เป็นคำประชดประชัน ซึ่งจุดนี้เหยียนหมิงซุ่นก็ชินชาเสียแล้วถึงทำหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย

“กลับมาเยี่ยมพ่อบุญธรรม ช่วงนี้ความอยากอาหารเป็นยังไงบ้างครับ?”

“ยังไม่ตายหรอก แกไม่รู้ศาสตร์แพทย์สักหน่อย ดูไปก็เปล่าประโยชน์” เฮ่อเหลียนชิงพูดถึงเรื่องความอยู่ความตายด้วยสีหน้าเรียบเฉยดูท่าทางไม่สนใจมันเลยแม้แต่น้อย

เหยียนหมิงซุ่นปากกระตุก พ่อบุญธรรมคนนี้ของเขาไม่เคยพูดจาน่าฟังเลยสักครั้ง คนอื่นมีแต่เอาคำไม่ดีมาพูดเป็นคำดี ๆ ส่วนเฮ่อเหลียนชิงกลับตรงกันข้ามเอาพูดคำดี ๆมาพูดให้แสลงหูไปเสียได้

หากไม่ใช่เพราะรู้นิสัยเฮ่อเหลียนชิงดี รับรองว่าไม่เกินสามประโยคก็ทำเอาเจ้าหมอนี่โมโหตายได้เลย

เฮ่อเหลียนชิงเสตากวาดมองประเมินเหยียนหมิงซุ่น พอเห็นท่าทางมีความสุขของเขาก็อดแค่นเสียงไม่ได้ ไม่กลับมาสองคืนติดคงไปค้างอยู่กับยัยนั่นแน่ ๆ ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองก็เปรียบดั่งฟืนกับไฟ จุดไฟไม่ติดสิแปลก!

“ฉันขอเตือนแกไว้ก่อนเลยนะอย่าให้ยัยนั่นท้องก่อนที่จะได้ใบปริญญาเสียล่ะ” เฮ่อเหลียนชิงพูดเสียงเข้ม

เหยียนหมิงซุ่นตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “พ่อบุญธรรมคิดมากไปแล้ว เหมยเหมยเป็นผู้หญิงที่ดี จะทำเรื่องแบบนี้ได้ไงกัน?”

เฮ่อเหลียนชิงแค่นเสียงอีกที ยัยนั่นดีไม่ดีเขาไม่รู้หรอกแต่เจ้าหมอนี่ไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน ชายหญิงอยู่ร่วมห้องกันสองต่อสอง หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อยเขาจะใช้นามสกุลเดียวกับต้าหวงเลย!

พอนึกถึงเด็กทารกขาวอวบอ้วนเฮ่อเหลียนชิงก็ใจอ่อนยวบลงเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้ จะว่าไปเลี้ยงเด็กตัวขาวอวบอ้วนในฟาร์มนี้สักหน่อยก็ไม่เลว ว่าง ๆหยอกเล่นกันไปมาก็น่าจะสนุกกว่าต้าหวงเยอะ

เหยียนหมิงซุ่นพูดขัดฝันกลางวันของเฮ่อเหลียนชิงโดยบอกเรื่องโฮ่วเซิ่งหนานไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พ่อบุญธรรม นี่เป็นปัญหาที่ท่านหามาให้ผม ท่านต้องช่วยผมจัดการด้วย”

เฮ่อเหลียนชิงกะพริบตาปริบ ๆ คนยโสอย่างโฮ่วเซิ่งหนานกลับถูกใจลูกบุญธรรมของเขาได้?

ไม่นานเขาก็ใจวูบขึ้นมา จะว่าไปโฮ่วเซิ่งหนานเก่งกาจกว่ายัยนั่นเยอะเลย!

………………………….

ตอนที่ 1455 มีเมฆสีเขียวลอยอยู่บนฟ้า

เหยียนหมิงซุ่นแค่เห็นสีหน้าเฮ่อเหลียนชิงก็รู้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เลยตีหน้าขรึมพูดขึ้นว่า “ถ้าท่านเอาคนสติไม่ดีอย่างโฮ่วเซิ่งหนานมายัดเยียดให้ผม อย่าหาว่าผมไม่ปรานี!”

ต่อให้มีบุญคุณใหญ่หลวงเคยช่วยชีวิตไว้ ก็อย่าหาว่าเขาไม่ไว้หน้าก็แล้วกัน!

เฮ่อเหลียนชิงไม่พอใจอย่างมาก “โฮ่วเซิ่งหนานสู้จ้าวเหมยไม่ได้ตรงไหน?”

“จะตรงไหนก็สู้ไม่ได้ทั้งนั้น เหมยเหมยแสนดีราวกับหยกขาว ผู้หญิงอย่างโฮ่วเซิ่งหนานสกปรกยิ่งกว่าท่อน้ำเสีย ถ้าผมตาบอดถึงจะเลือกคนอย่างหล่อน!” น้ำเสียงของเหยียนหมิงซุ่นแสดงความรังเกียจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ช่วงเวลาที่อยู่ในทะเลทรายนั่นเหยียนหมิงซุ่นเคยเห็นโฮ่วเซิ่งหนานกอดกับผู้ชายที่ชื่อเคนในทีมที่มาผจญภัยด้วยกัน ทว่าภายหลังเธอกลับวิ่งแจ้นมายั่วยวนเขาถึงในเต็นท์ จากนั้นก็มีท่าทีคลุมเครือกับเถียนมู่ที่ภัคตาคารเฟิ่งหลายอีก เห็นได้ว่าระหว่างเธอกับเถียนมู่ต้องเคยมีความสัมพันธ์บางอย่างแน่นอน

ผู้หญิงที่สำส่อนยิ่งกว่าโสเภณีแบบนี้ เขาคงตาบอดชอบลงหรอก!

อีกอย่างต่อให้โฮ่วเซิ่งหนานเก่งกาจและรักนวลสงวนตัวเหยียนหมิงซุ่นก็ไม่มีวันชอบหล่อน เขามีเหมยเหมยอยู่แล้ว เช่นนั้นจะไปรักผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไรอีก?

เฮ่อเหลียนชิงไม่พอใจกับถ้อยคำของเหยียนหมิงซุ่นมาก จะว่าไปเขาประทับใจในตัวโฮ่วเซิ่งหนานไม่น้อย เด็ดเดี่ยวมีความสามารถเก่งกาจ หน้าตาก็ไม่ได้สวยมาก เป็นไปตามมาตรฐานว่าที่ลูกสะใภ้ที่เขาคาดหวังอย่างมาก

ส่วนโฮ่วเซิ่งหนานใช้ชีวิตในต่างประเทศอย่างไรนั้นเฮ่อเหลียนชิงไม่เคยรับรู้และไม่เคยคิดจะสั่งคนไปตามสืบเรื่องของหล่อน ครั้งนี้หากไม่ใช่เพื่อช่วยเหยียนหมิงซุ่นเขาคงนึกบุคคลนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำไป

“แกไม่ชอบโฮ่วเซิ่งหนานก็ไม่เห็นต้องว่าเธออย่างนั้นเลย เราพูดอะไรต้องมีหลักฐาน โฮ่วเซิ่งหนานทำงานเก่งกว่ายัยจ้าวเหมยมากโข ถ้าแกแต่งงานกับเธอ หลังจากนี้คงมีเรื่องให้คิดมากน้อยลง”

เฮ่อเหลียนชิงคอยพูดเกลี้ยกล่อมอย่างใจเย็น บัดนี้เขาคิดได้แล้วว่าจะไม่แนะนำผู้หญิงตัวอ้วนหูใหญ่ให้เหยียนหมิงซุ่นอีก ผู้หญิงเหล่านั้นไม่เข้าตาเลยจริง ๆ ขณะที่โฮ่วเซิ่งหนานกำลังพอดี หน้าตาไม่ถือว่าสวยมากแต่ก็ไม่น่าเกลียด

พอจะคู่กับเหยียนหมิงซุ่นได้ ยิ่งไปกว่านั้นโฮ่วเซิ่งหนานยังเป็นคนพึ่งพาตัวเองและใจกล้าเด็ดขาด หนำซ้ำเป็นผู้หญิงที่สังคมรู้จักอย่างกว้างขวางนานาประเทศ ต้องมีประโยชน์ต่องานของเหยียนหมิงซุ่นมากแน่นอน

อย่างจ้าวเหมยวาดภาพไม่กี่เล่มใช้ได้ที่ไหน?

ช่วยอะไรไม่ได้เลย!

ไหนยังต้องให้เหยียนหมิงซุ่นแบ่งสมาธิไปดูแลยัยบ้านั่นอยู่บ่อยครั้ง ดีแต่เป็นตัวถ่วงเสียจริง

เหยียนหมิงซุ่นเขม่นมองเขาแวบหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์พลางแค่นเสียงทีหนึ่ง “ถ้าแต่งกับผู้หญิงอย่างโฮ่วเซิ่งหนาน ท้องฟ้าเหนือสวนฟาร์มของเราคงมีแต่เมฆสีเขียวลอยเต็มไปหมด!”

เฮ่อเหลียนชิงสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลันแสดงสีหน้าไม่ค่อยดีนัก สายตาเย็นยะเยือกในทันที

ช่วยไม่ได้ ประเด็นเรื่องนี้สำหรับเขาแล้วอ่อนไหวเกินไป ต่อให้ผ่านพ้นมาหลายปีเขาก็ไม่สามารถใจเย็นลงได้

“หมายความว่ายังไง?” เฮ่อเหลียนชิงถามเสียงดุดัน

เหยียนหมิงซุ่นเล่าพฤติกรรมของโฮ่วเซิ่งหนานที่ทะเลทรายรวมถึงเรื่องที่เธอจูบกับเถียนมู่ต่อหน้าผู้คนอย่างดูดดื่ม พลางพูดเสียงประชด “โฮ่วเซิ่งหนานคนนี้อยู่ต่างประเทศไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย แต่เรื่องแบบนี้กลับเรียนรู้มาสิบเต็มสิบ ผมไม่มีความเคยชินที่จะถูกสวมหมวกสีเขียว[1]หรอกนะ”

“แกพูดจริงเหรอ?” เฮ่อเหลียนชิงยังสงสัยอยู่เล็กน้อย เขาคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่เหยียนหมิงซุ่นจงใจแต่งเรื่องหลอกเขา หลานสาวของนายใหญ่จะเป็นผู้หญิงแบบนั้นได้อย่างไร?

เหยียนหมิงซุ่นรู้อยู่แล้วว่าเฮ่อเหลียนชิงไม่มีทางเชื่อง่าย ๆ ดีที่เขาเตรียมการไว้แล้ว

“ผมให้คนไปสืบแล้ว รอได้ข้อมูลแล้วบอกท่านอีกที ก่อนจะถึงเวลานั้นท่านอย่าก่อเรื่องอะไรเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมทำเกินไปแล้วกัน!” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยเตือน

เฮ่อเหลียนชิงใจฝ่อขึ้นมา จะว่าไปเขามีความคิดที่จะเชิญโฮ่วเซิ่งหนานมาทานข้าวที่ฟาร์มอยู่จริง ๆด้วยสิ!

“ฉันจะก่อเรื่องอะไรได้ น่าขำจริง ๆ ไปไปไป อย่ามากวนฉัน!”

เฮ่อเหลียนชิงโบกมือไล่อย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะปอกเปลือกช็อกโกแลตป้อนฉิวฉิวเพื่อปกปิดอาการพิรุธของเขา

………………………..

[1] สวมหมวกเขียว เปรียบเปรยคนที่โดนสวมเขา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด