ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1554 เป็นเด็กดีเชื่อฟังก็จะทำดีกับเธอ + 1555 เปลี่ยนความปวดร้าวเป็นพลัง

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1554 เป็นเด็กดีเชื่อฟังก็จะทำดีกับเธอ + 1555 เปลี่ยนความปวดร้าวเป็นพลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 1554 เป็นเด็กดีเชื่อฟังก็จะทำดีกับเธอ

เหยียนหมิงซุ่นลากฟืนมัดใหญ่กลับมา ข้างหลังมีเหมยเหมยที่มือเปล่าตามมาด้วย เสื้อผ้าเรียบร้อย แต่ผมยุ่งเล็กน้อย ใบหน้าแดงระเรื่อเต็มไปด้วยอารมณ์ที่อิ่มเอม

เมื่อครู่โดนคนเลวบางคนหยอกเย้าจนแทบเอาตัวไม่รอด จนเธออ่อนปวกเปียกไปทั้งตัวราวกับโคลน ต้องพักตั้งนานกว่าจะสามารถเดินต่อได้

เหมยเหมยแลบลิ้นปลิ้นตาอยู่หลังเหยียนหมิงซุ่น เห็นอยู่ชัด ๆว่าเมื่อครู่เป็นคนบ้ากาม ตอนนี้กลับแสร้งวางมาดนิ่ง เชอะ ทำไมเมื่อก่อนถึงไม่ค้นพบนะว่าเจ้าหมอนี่มีนิสัยปลิ้นปล้อนแบบนี้!

จะเสแสร้งเกินไปแล้ว!

“รอพวกเธอเก็บฟืนกลับมาคงไม่ต้องย่างเนื้อแล้ว!” จ้าวเสวียหลินกล่าวอย่างโกรธเคือง แต่เมื่อเห็นว่าน้องสาวของตัวเองไม่มีอะไรผิดปกติก็วางใจ

เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าเย็นชาใส่เขา ก่อกองไฟขึ้นใหม่แล้วเริ่มย่างเนื้อ คร้านจะย่างกับก้างขว้างคอสองคนนี้ รกหูรกตาชะมัด!

เขาทาน้ำผึ้งและน้ำมันอย่างชำนาญและปรุงรสเข้าไปด้วย เหยียนหมิงซุ่นพลิกกลับไปมาไม่หยุด เสียงน้ำมันลงกองไฟเสียงซู่ซู่กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย เหมยเหมยมองด้วยความอยากอาหารจนน้ำลายสอ จ้องเนื้อย่างบนกองไฟไม่วางตา

จ้าวเสวียหลินปิ้งเสร็จไปแล้วหลายไม้ เห็นน้องสาวตัวเองทำหน้าอยากกินขนาดนั้นก็ส่งเนื้อที่ย่างเสร็จแล้วไปให้ “พี่เพิ่งย่างเสร็จ รีบกินเถอะ”

เหมยเหมยยื่นมือไปรับอย่างร่าเริง แต่กลับโดนใครบางคนขวางเอาไว้

“นายย่างเนื้อไม่อร่อยจะท้องเสียเอา เดี๋ยวของฉันก็เสร็จแล้ว”

เหยียนหมิงซุ่นพูดไปพลางพลิกเนื้อไปพลาง แล้วเอาเนื้อแกะที่สุกง่ายกว่าทาด้วยซอสปรุงรสครู่เดียวก็สุก เป่าให้เย็นหน่อยแล้วส่งเข้าปากเหมยเหมย พูดเบา ๆอย่างอ่อนโยนว่า “ระวังร้อนนะ!”

เหมยเหมยพยักหน้ารัว ๆ กัดชิ้นเนื้อไว้ฉีกเบา ๆแล้วเอาเข้าปาก น้ำมันเนื้อกระจายเต็มปาก เนื้อแกะทั้งเนื้อเยอะทั้งนุ่มและยังมีเครื่องปรุงรสที่เหยียนหมิงซุ่นตั้งใจนำกลับมาจากซินเจียงโดยเฉพาะ อร่อยจนลิ้นแทบหลุดออกมาเลย

“อร่อย…พี่หมิงซุ่นเนื้อที่พี่ย่างอร่อยที่สุดเลย!”

เหมยเหมยกัดไปชิ้นหนึ่ง ที่เหลือก็ให้เหยียนหมิงซุ่นกิน สามีภรรยามีสุขก็ต้องร่วมกันแบ่งปันสิ!

“เธอกินให้หมดเลย อีกเดี๋ยวพี่ค่อยย่างใหม่!”

เหยียนหมิงซุ่นไม่กิน เขาไม่ได้ชอบเนื้อย่างเท่าไร ตอนไปปฏิบัติภารกิจส่วนใหญ่ถ้าไม่ทานเนื้อย่างก็พวกอาหารแห้ง ทานจนเขาเบื่อแล้ว

เหมยเหมยกินเนื้อย่างต่ออย่างเชื่อฟัง เห็นเหยียนหมิงซุ่นไม่กินสักคำก็อยากจะย่างให้เขาสักสองสามไม้ แต่มือเพิ่งจะแตะเนื้อก็โดนเหยียนหมิงซุ่นห้ามไว้เสียก่อน “ระวังสะเก็ดฟืนจะกระเด็นใส่มือเอา พี่ย่างให้เธอกินก็พอแล้ว”

“พี่เหยียนหมิงซุ่นดีจริง ๆเลย!” เหมยเหมยปัดก้นเบา ๆแล้วหลบไปอยู่อีกฝั่งอย่างเชื่อฟัง ใจจดจ่อรอป้อน

เหยียนหมิงซุ่นเขี่ยจมูก ทำสายตายียวน“ถ้าเธอเป็นเด็กดี พี่ก็จะดีกับเธอ!”

ถ้าไม่เชื่อฟังก็จะลงโทษบนเตียงให้หนักเลย!

จ้าวเสวียหลินดึงมือกลับด้วยความโมโหแล้วกินเนื้อที่ตัวเองย่างแต่กลับไม่หอมไม่อร่อย รู้สึกว่าเนื้อย่างในมือของน้องสาวอร่อยกว่า

“เนื้อเดียวกัน เครื่องปรุงรสเหมือนกัน ทำไมรสชาติจะไม่เหมือนกัน กินหน่อยสิอยากรู้ว่าจะอร่อยแค่ไหนกันเชียว!” จ้าวเสวียหลินจึงยื่นมือออกไปหยิบเนื้อย่างที่เหยียนหมิงซุ่นย่างเสร็จแล้ว แต่กลับมีฝ่ามือฟาดใส่เขาอย่างแรง ไม่มีความเมตตาเลยสักนิด

“ฉันย่างให้แค่เหมยเหมยกินเท่านั้น ไม่มีส่วนของนายสักหน่อย!”

เหยียนหมิงซุ่นฉกกลับมาคืน เนื้อที่ย่างสุกแล้วก็ส่งมาตรงหน้าเหมยเหมย จ้าวเสวียหลินมองไปที่รอยนิ้วมือทั้งห้าบนหลังมือของเขาแล้วกัดฟันอย่างโมโห แต่เขาจะทำอะไรได้ล่ะ?

จะสู้ก็สู้ไม่ไหว ความน่าเกรงขามของน้องเขยยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย!

บนโลกใบนี้ยังจะมีพี่เขยที่ไหนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมมากกว่าเขาอีกไหม?

จ้าวอิงหัวยิ่งหนักกว่าเขาอีก บนโลกใบนี้ยังจะมีพ่อตาคนไหนที่ต้องคับอกคับใจเท่าเขาอีกไหม?

เหยียนหมิงซุ่นเตือนสติอย่างหวังดีอีกครั้ง “คนย่างเนื้อไม่ใช่คนเดียวกัน รสชาติแน่นอนว่าต้องต่างกันอยู่แล้ว!”

จ้าวเสวียหลินกระพริบตาปริบ ๆ แต่แล้วก็เข้าใจความหมายของเหยียนหมิงซุ่นอย่างรวดเร็ว ด่าว่าเขาโง่สินะ!

เขาอยากจะตอกกลับสักหน่อย แต่เหยียนหมิงซุ่นพูดจบก็หันไปจู๋จี๋กับเหมยเหมยต่อ สะบัดตูดใส่เขาเสียแล้ว

จ้าวเสวียหลินใช้แรงกัดเนื้ออย่างโมโห ลอบคิดวางแผนว่าจะเกลี้ยกล่อมจ้าวอิงหัวรอให้น้องสาวอายุสามสิบก่อนแล้วค่อยแต่งงาน ให้คนแซ่เหยียนนี่อกแตกตายไปเลย!

………………………………………..

ตอนที่ 1555 เปลี่ยนความปวดร้าวเป็นพลัง

จ้าวอิงหัวกลับไม่ได้มองในแง่ดีเหมือนลูกชาย ช่วงหลายวันมานี้เขาโดนเหยียนซินหย่าบีบบังคับอย่างหนัก บีบบังคับให้เขาเอาหลักฐานนั้นออกมาอย่างน่าเวทนา เขาถึงขั้นคุกเข่าบนทุเรียนมาหนึ่งสัปดาห์เลยนะ

พอทุกครั้งทุเรียนที่นั่งทับนิ่มแล้ว ไอ้เด็กบ้านั่นก็จะส่งชุดใหม่มา ส่วนทุเรียนที่นิ่มแล้วภรรยาและลูกสาวก็กินได้พอดีพอดี ปวดเข่าไม่พอยังปวดหัวตุ้บ ๆไปด้วย

ไม่เข้าใจจริง ๆว่าทำไม่ภรรยาและลูกสาวถึงชอบกินอะไรที่เหม็นยิ่งกว่าอุจระแบบนั้นได้นะ?

ดีนะที่ภรรยาลงโทษก็ส่วนลงโทษ แต่ไม่ได้ห้ามน้องชายของเขา สิทธิพิเศษยามค่ำคืนก็ยังมีไม่ขาดตกบกพร่อง ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีล่ะวะ!

แต่อย่างไรเขาก็อยากมีแต่ความสุข เมื่อไรจะได้เลิกนั่งคุกเข่าบนทุเรียนสักทีนะ?

“คุณเอาหลักฐานออกมาเมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละ” เหยียนซินหย่าถลึงตาใส่สามีผู้น่าสงสารที่คุกเข่าอยู่บนทุเรียนข้างเตียงอย่างไม่สบอารมณ์

นี่ก็จะครึ่งเดือนอยู่แล้ว หลักฐานก็ไม่เอาออกมาสักที เจ๋งนักใช่ไหม!

จ้าวอิงหัวเบะปาก ก็ได้ งั้นก็คุกเข่าอย่างสงบแบบนี้ต่อไปแล้วกัน!

ถึงอย่างไรคุกเข่านานแล้วเดี๋ยวก็ชิน อีกอย่างถึงอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะให้ทำแบบนี้ไปเป็นปีเป็นชาติใช่ไหม?

เหยียนซินย่าเองก็ไม่รีบ ลูกสาวยังมีเวลาอีกหนึ่งปี ถึงแม้ว่าจ้าวอิงหัวจะเอาหลักฐานออกมาตอนนี้ ลูกสาวก็ไม่มีทางได้แต่งงานหรอก ปีนี้ก็แกล้ง ๆสามีไปก่อน และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าทุกครั้งหลังจากที่จ้าวอิงหัวคุกเข่าบนทุเรียนแล้ว แรงบนเตียงก็ยังใช้ไม่มีหมด ไม่รู้เอาแรงมาจากไหนนักหนา!

หรือว่าให้ผู้ชายคุกเข่าลงบนทุเรียนแล้วจะทำให้อึดถึกขึ้นงั้นเหรอ?

จ้าวอิงหัว: …มันคือการเปลี่ยนความปวดร้าวให้เป็นพลังต่างหากล่ะ!

เจิ้งเสวี่ยซานก็หาจังหวะตลอด แต่ตอนดึกเหมยเหมยไม่อยู่หอพัก และช่วงนี้ตอนกลางวันก็ไม่กลับหอ ในห้องเรียนไม่มีโอกาสอยู่แล้ว  เธอไม่สามารถพกกล่องเก็บอุณหภูมิเข้าไปในห้องเรียนได้ แน่นอนว่ามันจะทำให้คนอื่นสงสัย!

โฮ่วเซิ่งหนานให้เวลาเพียงสามวัน โฮ่วเซิ่งหนานเปลี่ยนเข็มฉีดยาอันนั้นทุกวัน น้ำแข็งก็ไม่เคยขาด เจิ้งเสวี่ยซานไม่รู้ว่าในเข็มฉีดยานั้นมีอะไรอยู่ข้างใน เธอไม่กล้าแตะต้องมันเพราะกลัวว่าตัวเองจะติดเชื้อไปด้วย

คาบเรียนช่วงเช้าคาบสุดท้ายจบลง ช่วงบ่ายก็ยังเรียนห้องเรียนเดิม เหมยเหมยไม่ได้กลับหอพัก ส่วนฉีฉีเก๋อกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ไปทานข้าวที่ร้านอาหารหลังโรงเรียน ช่วงนี้อาหารในโรงอาหารทำอาหารซ้ำซากจำเจ นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ไม่มีอย่างอื่น เหมยเหมยกินจนเอียนไปหมดแล้ว

เหยียนซินหย่าเดินออกมาจากห้องเรียนห้องหนึ่ง เธอใส่ชุดคลุมขนแกะสีขาวตัวยาวขับให้ดูเป็นสาวพราวเสน่ห์ ดึงดูดให้ทั้งอาจารย์ผู้ชายและนักเรียนชายจำนวนมากต้องหันมอง แต่ก็แค่ชื่นชมอย่างบริสุทธิ์ใจ

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนและฉีฉีเก๋อเรียกอย่างเคารพว่า ‘ศาสตราจารย์เหยียน’ ใบหน้าเต็มไปด้วยความศรัทธายกย่อง ไม่น่าดาวมหาวิทยาลัยถึงได้สวยขนาดนี้ มีแม่ที่หน้าตาสะสวยอย่างศาสตราจารย์เหยียนแล้วจะไม่สวยได้อย่างไรเล่า?

“แม่ หนูไปกินข้าวกับเพื่อนนอกโรงเรียนนะคะ” เหมยเหมยพูดพลางยิ้มตาหยี

เหยียนซินย่าลูบหัวเธอ พูดด้วยความเอ็นดูว่า “มีเงินพอไหม?”

“พอค่ะ แม่ไปด้วยกันไหมคะ?”

“แม่ไม่ไปกวนใจดีกว่า ตอนกลางวันนี้แม่นัดพ่อของลูกไว้แล้ว พวกเธอรีบไปกันเถอะ”

เหยียนซินหย่าไม่ไปกับเด็กวัยรุ่นหรอก เมื่อคืนจ้าวอิงหัวบอกว่าจะพาเธอไปกินอาหารฝรั่งเศส เธอก็รออยู่นี่ไง!

“ทราบแล้วค่ะ…”

เหมยเหมยหรี่ตา หัวเราะร่าแล้วเดินไปกับเพื่อน เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอิจฉาเป็นอย่างมาก “จ้าวเหมย พ่อแม่ของเธอรักกันดีจัง”

“ที่สำคัญก็คือพ่อของฉันหน้าด้านสุด ๆ ฮ่า ๆ!” เหมยเหมยพูดคำนี้ขึ้นมาแล้วหัวเราะแห้ง ๆ เธอรู้ว่าความสัมพันธ์ของพ่อแม่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ค่อยดีนัก เลยไม่ค่อยอยากพูดเรื่องนี้จี้ใจดำเธอ

เจิ้งเสวี่ยซานกัดฟันกรอดเดินตามมาติด ๆ พร้อมสะพายเป้ด้านในมีกล่องรักษาอุณหภูมิสีชมพูที่โฮ่วเซิ่งหนานให้เธอไว้ก่อนหน้านี้

วันนี้เธอจะต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จสักที

ขอเพียงแค่เธอระวังหน่อยคงไม่มีใครสาวมาถึงเธอได้แน่นอน!

…………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด