ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 273 เป็ดเมาเบียร์อร่อย + 274 การทำอาหารที่ดี พิชิตใจทุกคนได้
ตอนที่ 273 เป็ดเมาเบียร์อร่อย
สยงมู่มู่คีบเนื้อเป็ดใส่เข้าปาก เพราะว่าเป็นเป็ดสด เนื้อจึงนุ่มเป็นพิเศษ รสชาติเบียร์และเครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อ อร่อยที่สุด และมีความเผ็ดเล็กน้อย สยงมู่มู่เพิ่งจะกัดไปหนึ่งคำก็ตาเบิกโพลง กลืนเนื้อเข้าไปอย่างตะกละตะกลาม แล้วคายกระดูกออกมา
“พ่อ เมนูเป็ดที่เหมยเหมยทำอร่อยกว่าของพ่ออีก แม่ แม่รีบมากินสิ รสชาติยอดเยี่ยมจริง ๆ ” สยงสยงมู่มู่ชมไม่ขาดปาก แล้วก็คีบเนื้อขึ้นมากินอีก
เจ้าอิงหนานกับพ่อสยงเดิมทียังกังวลว่า เหมยเหมยจะทำให้อาหารดี ๆ ของพวกเขาเสียหาย แต่พอพวกเขากินเนื้อไปเข้าไป ต่างก็ยกนิ้วโป้งให้ “ครูอู่ คุณนี่ช่างโชคดีจริง ๆ ฝีมือทำกับข้าวของเหมยเหมยอร่อยกว่าพ่อครัวของโรงแรมอีกนะ!”
แม้ว่าอู่เจิ้งซือจะเตรียมใจไว้แล้วสำหรับฝีมือทำครัวของอู่เหมย แต่หลังจากที่กินเนื้อเป็ดแล้ว ยังสะดุ้งตกใจ พูดออกมาจากใจ เขาอยู่มาจนอายุสี่สิบปีแล้ว ยังไม่เคยกินเป็ดที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย!
ใครบอกให้คุณนายอู่กับเหอปี้อวิ๋น ล้วนก็ไม่ใช่คนที่ให้ความสำคัญกับฝีมือการทำอาหารล่ะ จะว่าไปแล้วในตอนนั้นทุกครอบครัวต่างก็ขาดแคลนน้ำมัน ขาดแคลนเนื้อ ได้กินข้าวอิ่มก็เพียงพอแล้ว ใครจะไปจับผิดรสชาติของอาหารล่ะ?
เป็ดเมาเบียร์หม้อนี้ก็เอาชนะใจทุกคนได้ในฉับพลัน แม้กระทั่งผู้เฒ่าเหยียนก็กินอย่างเอร็ดอร่อย เขามีความประทับใจต่ออู่เหม่ยไม่น้อย ฝีมือการทำอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเด็กผู้หญิง เหมือนกับแม่ของเหยียนหมิงซุ่นก็มีฝีมือการทำอาหารที่เก่ง ส่วนถานซูฟางอย่าได้พูดถึงเลย พูดอยู่คำเดียวว่าเป็นผู้หญิงยุคใหม่ แม้แต่หุงหาอาหารก็ยังทำไม่เป็นเลย ช่างน่าอดสู!
อู่เหมยก็ยกปลาจวดน้ำแดง มันฝรั่งเส้นผัดน้ำส้มสายชู ผัดวุ้นเส้นใส่หมูสับ ผัดเผ็ดหอย หมูเส้นผัดกระเทียมและพริก ผัดผักกับฟองเต้าหู้ มันฝรั่งแผ่น อบมะเขือยาวกับกระเทียม เป็นต้น อาหารแต่ละจานล้วนเป็นแสดงฝีมือที่เกินมาตรฐาน ต้องเกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ของครอบครัวสยงแน่นอน ถ้าไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่ตั้งใจทำอาหารออกมามากมายขนาดนี้
เหยียนหมิงซุ่นช่วยเธอยกอาหารออกมา อาหารเหล่านี้มีหลายอย่างที่เป็นเมนูใหม่ที่ทุกคนไม่เคยเห็น โดยเฉพาะผัดมันฝรั่งแผ่นและอบมะเขือยาวกับกระเทียม สยงมู่มู่กับเจ้าอิงหนานกินอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนใหญ่แล้วเป็นสองคนนี้ที่กินทั้งหมด
อู่เหมยยิ้มและกล่าว “แม่บุญธรรมคะ กับข้าวสองอย่างนี้ สามารถทำเป็นอาหารหลักได้นะคะ หนูใส่น้ำมันไม่เยอะ ถึงแม้แม่บุญธรรมจะกินหมดจานก็ไม่อ้วนค่ะ”
เจ้าอิงหนานได้ยินก็รู้สึกจิตใจเบิกบาน ผู้หญิงกลัวอะไรที่สุด?
ท้ายที่สุดเหลือแต่หมูติดมันเหรอ?
เธอไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่เธอไม่ชอบความอ้วน หลายปีมานี้เธอมีแนวโน้มอ้วนอย่างเห็นได้ชัด เอวของเธอหนากว่าตอนที่เป็นสาวอย่างน้อยสองนิ้ว คำพูดอู่เหมย ติดอยู่ในใจของเธอแล้ว เธอรีบถาม “เหมยเหมย กับข้าวนี้ทำอย่างไร? รีบสอนพ่อสยงของเธอเร็ว ๆ”
“ง่ายมากค่ะ แผ่นมันฝรั่งที่หั่นเสร็จ ทาด้วยน้ำมัน แล้ว เอาเข้าเตาอบที่ระดับอุณภูมิสองร้อยองศา อบห้านาทีก็เสร็จเรียบร้อย มะเขือยาวก็เช่นกัน หั่นเป็นแผ่นใหญ่โดยเปลี่ยนขนาดมีด แล้วเอากระเทียม หมูสามชั้นจุ่มลงไปในซอส รอให้เครื่องปรุงเข้ากัน แล้วก็ทาลงบนมะเขือยาว แล้วก็ทาน้ำมันถั่วเหลือง อบที่ความร้อนสองร้อยองศา เป็นเวลาห้านาที พอเอาออกมาจากเตา ก็ใส่จานเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
อู่เหมยแนะนำวิธีทำกับข้าวสองอย่างนี้อย่างง่ายๆ พ่อสยงฟังไปพยักหน้าตลอด แบบนี้ทั้งประหยัดเวลาทั้งประหยัดแรง ภรรยาก็ชอบกิน ต่อไปเขาต้องทำบ่อย ๆ
“เหมยเหมยเก่งจริง ๆ อายุยังน้อยแต่ทำกับข้าวได้ตั้งหลายอย่าง เหอปี้อวิ๋นเป็นคนสอนเธอเหรอ?” เจ้าอิงหนานจงใจถาม จริง ๆ แล้วรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ ถึงแม้วิธีใช้เตาอบจะไม่ซับซ้อน แต่ถ้าไม่มีคนสอน แต่หัดใช้เองก็ยังยากที่จะเข้าใจ ทำไมอู่เหมยครั้งแรกก็ใช้เป็นแล้ว?
อู่เหมยครุ่นคิดแล้วกล่าว “ตอนที่หนูเจ็ดขวบก็เริ่มทำกับข้าวแล้วค่ะ แล้วก็ยังดูรายการทำอาหารบ้าง ลองคิดเมนูเอง แล้วบ้านแม่บุญธรรมก็มีอุปกรณ์ครบพอดี หนูก็เลยลองดู!
เจ้าอิงหนานถูกอวย ยิ่งสบายอกสบายใจ หน้าแดงก่ำไปทั้งหน้า สวยยิ่งกว่าเวลาปกติ เธอตีหน้าผากเหมยเหมยเบาๆหลายครั้ง ยิ้มแล้วกล่าว “ฉันเก็บของมีค่าได้จริง ๆ ครูอู่ ฉันขอคารวะคุณหนึ่งแก้ว ขอบคุณที่เลี้ยงดูลูกสาวมาอย่างดี”
………………………………………………………..
ตอนที่ 274 การทำอาหารที่ดี พิชิตใจทุกคนได้
เจ้าอิงหนานดื่มหมดแก้วอย่างสำราญใจ อู่เจิ้งซือก็เริ่มเวียนหัวนิดหน่อย เขารู้สึกมึน ๆ หัว เจ้าอิงหนานชวนดื่ม เขาก็ดื่มหมดแก้วโดยไม่ลังเลสักนิด เหยียนหมิงซุ่นช่วยพวกเขารินเหล้า แน่นอนว่าไม่ลืมที่จะรินให้ปู่ของเขาเอง ท่านผู้เฒ่าก็เป็นคนคอแข็งคนหนึ่ง มีคุณย่าหยางดูแลบ้านอยู่ ตอนนี้เป็นอิสระ และมีทั้งเหล้าดี ๆ อาหารดี ๆ จะอดทนได้ที่ไหน?
ท่านผู้เฒ่าเหยียนมองอู่เหมยอย่างอ่อนโยน มองเธอจนเธอรู้สึกอึดอัด เธอจึงก้มหน้ากินอาหาร เหยียนหมิงซุ่นเห็นแล้วรู้สึกขำ เขาจึงคีบน่องเป็ดให้อู่เหมย เขาเก็บเอาไว้ให้เธอตั้งนานแล้ว ยายเด็กนี่ยุ่งตลอดทั้งค่ำ ต้องตอบแทนเธอสักหน่อย
“ขอบคุณค่ะ พี่หมิงซุ่น” อู่เหมยกล่าวขอบคุณเสียงเบา
ท่านผู้เฒ่าเหยียนเห็นปฏิสัมพันธ์ของหลานคนโตกับอู่เหมย เขาตาปรือ ไม่ค่อยมีสติเพราะเมาเหล้า ในสายตาเขาที่เป็นคนแก่ เห็นสองคนนี้เหมือนกับภาพวาด งดงามอย่างยิ่ง ท่านผู้เฒ่าทนไม่ไหวก็ดื่มเหล้าไปอีกครึ่งแก้ว เขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา
ลักษณะหน้าตาและฝีมือการทำอาหารยายตัวดีของตระกูลอู่ล้วนอยู่ในระดับท็อป ผลการเรียนไม่สำคัญ ผู้หญิงไม่มีความสามารถแต่มีคุณธรรม เรียนหนังสือมากก็มีความทะเยอทะยานแล้วมีอะไรดี เป็นครั้งแรกที่หมิงซุ่นสนิทกับผู้หญิงขนาดนี้
เดิมทีเขายังรู้สึกว่าอู่เหมยขี้ระแวงไปหน่อย แต่ตอนนี้มาคิด ๆ ดู ก็ไม่เป็นไร ความรู้สึกของหลานชายสำคัญที่สุด อนึ่งหากขี้ระแวงน้อยไป ต่อไปจะสู้ถานซูฟางไม่ได้!
อู่เหมยเอาชนะใจท่านผู้เฒ่าเหยียนด้วยฝีมือการทำอาหาร สายตาของท่านผู้เฒ่าเหยีวนที่มองไปยังอู่เหมยนั้นยิ่งอ่อนโยน เขามองจนอู่เหมยขนลุก เธอขยับเข้าไปใกล้เหยียนหมิงซุ่นโดยไม่รู้ตัว เหยียนหมิงซุ่นหันไปมองปู่ของตัวเอง ยังคิดว่าปู่ไม่ชอบอู่เหมย รีบคีบเนื้อเป็ดมากิน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของปู่
อู่เจิ้งซือกินจนปากมัน และหน้าตาสว่างสดใส การชมเชยของสามีและภรรยาเจ้าอิงหนานทำให้เขาภูมิใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการชมเชยของท่านผู้เฒ่าเหยียน ยิ่งเป็นเพราะว่าเมื่อสองวันก่อนอู่เยวี่ยสอบพลาดจึงทำให้เขาอับอาย ตอนนี้เขาเชิดหน้าชูตาขึ้นมาได้อีกครั้ง และความรักของพ่อที่มีต่ออู่เหม่ยก็มากยิ่งขึ้น
“เหมยเหมยกินกระเพาะเป็ดสิ ลูกชอบกินที่สุด” อู่เจิ้งซือคีบกระเพาะเป็ดให้อู่เหมย น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นพิเศษ นี่เป็นการปฏิบัติที่อู่เยวี่ยเคยได้รับ แต่อารมณ์ของอู่เหมยสงบมาก
เมื่อก่อนเธอรู้สึกอิจฉาอู่เยวี่ยมากที่ได้รับความรัก เอ็นดูของอู่เจิ้งซือ เธอเคยคิดฝันไว้ว่าคงมีสักวันหนึ่งที่ตัวเองจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ แต่ตอนนี้เธอไม่ได้คิดแล้ว เพราะว่าเธอไม่ต้องการมันแล้ว
ความรักของอู่เจิ้งซือมีผลประโยชน์มากเกินไป แต่ยังไม่บริสุทธิ์เท่าความรักของเหอปี้อวิ๋น การรักคน คนหนึ่ง ไม่สนใจว่าจะหอมหรือเหม็น รักเธออย่างไม่ลืมหูลืมตา เช่น เหมือนกับเหอปี้อวิ๋นที่รู้สึกต่ออู่เยวี่ย แต่ไม่เหมือนอู่เจิ้งซือ ตอนที่หอมหวานก็ดีไปหมดทุกอย่าง แต่พอเหม็นแล้ว ก็เบื่อหน่ายเหลือเกิน ความรักเช่นนี้ เธอไม่ต้องการ
แต่เธอกลับไม่ปฏิเสธ แต่อู่เจิ้งซือที่เห็นแก่ตัวและเห็นแก่ผลประโยชน์นั้นเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมสำหรับเธอไว้ใช้จัดการอู่เยวี่ย!
“ครูอู่ ครูเหอเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมอย่างนี้ คิดว่าฝีมือทำอาหารของอู่เยวี่ยต้องเยี่ยมกว่านี้อีก? คุณนี่ช่างโชคดีจริงๆ!” เจ้าอิงหนานจงใจพูด
รอยยิ้มบนใบหน้าของอู่เจิ้งซือค่อย ๆ หายไป กล่าวด้วยสีหน้าเหยเก “ครูเจ้าก็ชมเกินไปแล้ว แต่เด็ก ๆ ส่งเสียงเอะอะวุ่นวายไปทั่วก็เท่านั้นเอง จะเรียกว่ามีฝีมือทำอาหารได้อย่างไร”
อู่เยวี่ยทำกับข้าวเป็นหรือไม่เป็น เขารู้ดีที่สุด ทอดไข่ดาวยังทำไม่เป็น จะมีฝีมือทำกับข้าวอะไร?
โชคดีที่วันนี้ไม่ให้อู่เยวี่ยมา ถ้าไม่อย่างนั้นคงจะปล่อยไก่แย่เลย อู่เจิ้งซืออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เขาไม่ได้ตระหนักว่าลูกสาวคนโตที่ทำให้เขาภูมิใจจนหาที่เปรียบมิได้ในอดีต ตอนนี้จะมีความสัมพันธ์กับ ‘ความขายหน้า’ ได้
จ้าวหยิงหนานไม่พูดอะไรมาก เมื่อถึงจุดนั้น อู่เจิ้งซือจะครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งได้เองว่าลูกสาวทั้งสองคน คนไหนจะเป็นของมีค่า คนไหนเป็นของปลอมกันแน่ ขอเพียงไม่โง่เขลาจนเกินไป ก็ยังสามารถเข้าใจแจ่มแจ้งได้อยู่ดี
กินข้าวได้ครึ่งหนึ่ง สยงมู่มู่กรอกตาไปมา แล้วก็ล้วงเอาภาพวาดที่ยับยู่ยี่นั้นออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ยื่นให้เจ้าอิงหนานด้วยความยิ้มแย้ม “พ่อ แม่ ครับ นี่เป็นของขวัญที่เหมยเหมยมอบให้พวกท่านครับ !”
……………………………………………………………..
Comments