ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 415 มีตะปู + 416 ใครเป็นคนใส่ตะปู

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 415 มีตะปู + 416 ใครเป็นคนใส่ตะปู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 415 มีตะปู + ตอนที่ 416 ใครเป็นคนใส่ตะปู

ตอนที่ 415 มีตะปู

การแสดงแรกแสดงเสร็จไปในไม่ช้า อู่เหมยอดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ จนปวดท้องน้อย เจียงซินเหมยมีประสบการณ์ แค่มองดูก็รู้เลยว่าอู่เหมยตื่นเต้น พูดกลั้วหัวเราะว่า “ตื่นเต้นแล้วใช่ไหม? ไม่เป็นไร เธอก็คิดซะว่าคนข้างล่างเป็นท่อนไม้ทั้งหมดก็สิ้นเรื่อง ฉันก็คิดแบบนี้ทุกครั้งแหละ”

อู่เหมยส่ายหัวอย่างยากลำบาก “ไม่ได้ ฉันต้องไปเข้าห้องน้ำ”

“เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่ทันแล้ว ฉันไปกับเธอก็แล้วกัน จะได้ช่วยเธอถอดเสื้อผ้า”

เจียงซินเหมยรีบรวบชุดเต้น อยู่ข้างหลังเหมือนเด็กถือดอกไม้ในงานแต่ง แบบนี้ชุดก็จะไม่เปื้อน อู่เหมยยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ ถอดรองเท้าเต้นออก เปลี่ยนเป็นรองเท้าตัวเอง ค่อยๆ วิ่งไปทางห้องน้ำ

สถานที่ที่พวกอู่เหมยอยู่นั้นอยู่ใกล้กับประตูใหญ่ด้านหนึ่ง อีกทั้งยังมีฉากกั้น หากไม่ตั้งใจจะไม่สามารถมองเห็นด้านในได้ สยงมู่มู่และอู่เชาพวกเขายังไม่กลับมา ในตอนนี้ไม่มีคนแม้แต่คนเดียว

อู่เยวี่ยมองไปทางนั้นอย่างว่างเปล่า มีความคิดบ้าบิ่นเกิดขึ้นมาในใจของเธอ สายตาก็ยิ่งสว่างวาววับ

“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

อู่เยวี่ยพูดกับเพื่อนร่วมห้องเสียงเบา ถือโอกาสหยิบของบางอย่างจากโต๊ะข้างตัว ออกไปทางประตูใหญ่ ตอนที่ผ่านสถานที่ที่พวกอู่เหมยอยู่ อู่เยวี่ยก็ชนเข้ากับม้านั่ง ดูแล้วชนไปไม่เบาเลย ก้มตัวลงไปนวดคลึงอยู่สักพัก

สยงมู่มู่กับอู่เชาพูดคุยหัวเราะกลับมาถึงพอดี เห็นอู่เยวี่ยยังนั่งนวดคลึงเท้าเล็กๆ อยู่ สีหน้าดูลุกลี้ลุกลน อู่เชารีบถาม “พี่เป็นอะไรหรือเปล่า?”

“ไม่มีอะไร แค่ดินชนม้านั่งเฉยๆ เสี่ยวเชาอีกเดี๋ยวตั้งใจแสดงให้ดีๆ นะ ฉันจะให้กำลังใจอยู่ด้านหลัง”

อู่เยวี่ยสงบอารมณ์ลงมาอย่างรวดเร็ว ยิ้มอย่างอ่อนหวานสวยงาม และยังหันไปผงกหัวให้สยงมู่มู่อีกด้วย แล้วเดินตรงไปทางห้องน้ำ

“นายจะสนใจเธอทำไม?”

สยงมู่มู่รู้สึกไม่ค่อยพอใจ เขาเป็นคนที่แบ่งรักหรือเกลียดไว้อย่างชัดเจน คนที่ชอบจะก่อเรื่องวุ่นวายแค่ไหนก็ได้ คนที่ไม่ชอบแม้กระทั่งมองก็ยังไม่ควรค่าแก่การมองแม้แต่นิดเดียว ไม่เหมือนคนบางพวก คนที่ไม่ชอบแค่ไหนก็ยังต้องเสแสร้งพูดคุยอยู่หลายประโยค

อู่เชาตอกกลับอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน เป็นลูกพี่ลูกน้องญาติสนิทตามสายเลือด หรือว่านายจะให้ฉันไม่ต้องมีความสัมพันธ์กับใครทั้งสิ้นไม่ต้องเห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น?”

สยงมู่มู่มองเขาอย่างเห็นใจ ยื่นมือออกไปตบหัวของเด็กอ้วนน้อยเบาๆ “มีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นบ้าขนาดนี้ คงทำให้นายลำบากแล้วจริงๆ”

อู่เชาส่งเสียงเฮอะ ตบไปที่มือของเขา เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า อาจารย์ประจำชั้นทั้งสองเข้ามาเร่งหลายรอบแล้ว บอกให้พวกเขารีบไปเตรียมตัว

อู่เหมยและเจียงซินเหมยรีบวิ่งกลับมาอย่างรีบร้อน อาจารย์แต่งหน้ายังคิดจะเข้ามาแต่งหน้าให้พวกเขา อู่เหมยชี้ไปที่หน้าของตัวเองที่แต่งเตรียมขึ้นเวทีไว้แล้ว อาจารย์แต่งหน้าพลันรู้สึกว่าตัวเองด้อยฝีมือในทันที เธอคงแต่งให้ได้แค่ก้นลิงเท่านั้น อย่าทำร้ายใบหน้าเล็กๆ ของเด็กน้อยเลยจะดีกว่า

“อู่เหมย อู่เชา สยงมู่มู่ พวกเธอรีบๆ หน่อย อีกสองนาทีก็จะต้องขึ้นเวทีแล้ว รีบๆ หน่อย!”

อาจารย์อู๋วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา หน้าหนาวแบบนี้แต่ดูเหมือนเธอวิ่งในหน้าร้อนยังไงอย่างนั้น ลำบากเธอแล้วจริงๆ

อู่เหมยรีบร้อนจัดชุดเต้นรำให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วก็ส่องกระจกสำรวจทรงผมและการแต่งหน้า สมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ!

สุดท้ายถึงจะเปลี่ยนเป็นรองเท้าเต้น รองเท้าเต้นเป็นรองเท้าที่เฮ่อเหวินจิ้งตั้งใจซื้อให้เธอ สีเดียวกันกับชุดเต้น สวยงามเป็นอย่างมาก

“โอ๊ย”

อู่เหมยที่เพิ่งจะสวมเข้าไป ก็เจ็บจนร้องออกมาเสียงดัง กระโดดขึ้นมาเหมือนสปริง ทำเอาทุกคนตกใจกันยกใหญ่

“เป็นอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”

อาจารย์อู๋ตึงเครียดกว่าใครทั้งนั้น เธอปรารถนาว่าอู่เหมยในการแสดงนี้จะนำมาซึ่งเกียรติยศให้เธอ ห้ามเกิดเรื่องผิดพลาดโดยเด็ดขาด!

“ในรองเท้ามีตะปู ฉันเจ็บส้นเท้า”

อู่เหมยถอดรองเท้าขาดซ้ายออกมาแล้ว ส้นเท้ามีตะปูตัวใหญ่แทงอยู่ มีเลือดไหลซึมออกมาไม่ขาดสาย

…………………………………………..

ตอนที่ 416 ใครเป็นคนใส่ตะปู

“นี่…นี่ทำไมถึงได้มีตะปูได้ล่ะ? อู่เหมยรีบถอดถุงเท้าออกมาให้ครูดูหน่อยว่าเป็นแผลรุนแรงหรือไม่?”

อาจารย์อู๋ถึงแม้ว่าจะหงุดหงิด แต่เธอเป็นห่วงเท้าของอู่เหมยมากกว่า มากเกินกว่าการแสดงที่จะนำเกียรติยศมาให้ เธอไม่อยากให้นักเรียนเกิดเรื่องขึ้นมากกว่า

เจียงซินเหมยประคองอู่เหมยนั่งลง แล้วดึงตะปูตัวใหญ่ออกมาก่อน แล้วก็ถอดถุงเท้าแทนเธอ โชคดีที่อู่เหมยมีปฏิกิริยาตอบโต้ไวเลยแทงไม่ลึกมาก เพียงแค่ทำให้เกิดแผลนิดหน่อย

“ไม่เป็นอะไร ตอนนี้ไม่เจ็บแล้ว ไม่มีผลต่อการเต้นหรอก” อู่เหมยพูดยิ้มๆ

เพียงแค่แผลเล็กๆ เธอน่าจะสามารถอดทนได้ ถึงอย่างไรการแสดงนี้ก็ทำพวกเขาเสียเวลาไปเดือนกว่า แถมยังเป็นการทุ่มแรงกายแรงใจของเฮ่อเหวินจิ้ง ถ้าหากยอมแพ้กลางคัน เธอจะสู้หน้าเฮ่อเหวินจิ้งได้ยังไงกัน?

ยังมีจ้าวอิงหนานสามีภรรยาด้านล่างเวทีนั้น คุณปู่คุณย่าของสยงมู่มู่ ไม่สามารถให้พวกเขาผิดหวังกลับไปได้!

ที่สำคัญที่สุดก็คือ เธอไม่อยากให้อู่เยวี่ยหัวเราะเยาะได้ แล้วก็คิดอยากจะให้พวกคุณปู่ตั้งใจดูดีๆ ว่าเธอเต้นดีกว่าอู่เยวี่ยเป็นร้อยเท่า

อาจารย์อู๋เห็นว่าแผลไม่ลึกมากก็วางใจ เพียงแค่กำชับอู่เหมยว่าอย่าพยายามจนเกินไป ถ้าหากไม่ไหวก็ให้ยกเลิก ร้ายแรงที่สุดก็แค่การแสดงเป็นโมฆะไป ถึงอย่างไรก็เป็นแค่การแสดงของทางโรงเรียนเท่านั้น ยังไงก็พูดคุยกันได้

“ในรองเท้าทำไมถึงมีตะปูได้ล่ะ? เห็นชัดๆ ว่าก่อนที่พวกเราไปเข้าห้องน้ำยังไม่มีเลย!”

เจียงซินเหมยสงสัยอย่างถึงที่สุด ก่อนที่อู่เหมยจะไปเข้าห้องน้ำก็ใส่รองเท้าเต้นตั้งหลายรอบ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยสักนิด ตอนนี้ตะปูอันนี้กระโดดมาจากไหน?

“เรื่องนี้ไว้ค่อยว่ากัน พวกเธอรีบเตรียมตัวขึ้นเวที ผู้ประกาศเขาประกาศการแสดงของพวกเธอแล้ว มา หายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับครู หนึ่ง สอง สาม หายใจเข้า หายใจออก โอเค ไม่ต้องตื่นเต้น!”

ท่าทางและอารมณ์การแสดงออกของอาจารย์อู๋นั้นเว่อร์เป็นอย่างมาก อู่เหมยที่เดิมยังรู้สึกตื่นเต้น ก็อดไม่ไหวหัวเราะพรืดออกมา อารมณ์ตื่นเต้นก็ค่อยๆ หายไป

เจียงซินเหมยหยิบรองเท้าทั้งสองข้างมาเขย่าๆ กลับแล้วเทมีตะปูออกมาอยู่หลายชิ้น ส่องแสงวาววับ อาจารย์อู๋ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว แต่ไม่ได้แสดงออกบนใบหน้าของเธอ ซึ่งยังคงยิ้มอย่างมีความสุข

“น่าจะไม่มีตะปูแล้วล่ะ อู่เหมยรีบเปลี่ยนรองเท้าเร็ว”

เจียงซินเหมยช่วยอู่เหมยใส่รองเท้า ปากก็สบถด่าออกมา “ถ้าฉันจับได้ว่าสารเลวตัวไหนเป็นคนใส่ตะปูนะ จะตบหน้าสั่งสอนให้เข็ด ใจดำอำมหิตชะมัด!”

ในใจของอู่เหมยก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ตะปูอันนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนตั้งใจเอามาใส่ไว้ เป้าหมายชัดเจน คือทำร้ายให้เธอขึ้นไปเต้นไม่ได้ รอการแสดงจบก่อนค่อยไปสืบหาทีหลัง

ลากคอคนที่มีเจตนาชั่วร้ายออกมาถึงจะถูก ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำร้ายคนอีกตอนไหน!

“เสร็จแล้ว ควรขึ้นเวทีได้แล้ว!”

อาจารย์ประจำชั้นของสยงมู่มู่ก็เข้ามา อู่เหมยเดินไปข้างหน้า สยงมู่มู่และอู่เชาอยู่ข้างหลัง ค่อยๆ เดินขึ้นไปบนเวที

จ้าวอิงหนานสะกิดพ่อแม่ของสามีที่กำลังสัปหงกอยู่ พูดเสียงเบาว่า “พ่อคะแม่คะรีบตื่นเร็ว ถึงการแสดงของมู่มู่แล้ว”

ทันใดนั้นคุณปู่สยงและคุณย่าสยงก็เหมือนกับได้รับการบำรุงด้วยเลือดไก่ กระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที มองไปบนเวทีตาเป็นประกาย เห็นคนที่ใส่ชุดโบราณยุคฮั่นสีขาว หลานชายสุดที่รักเหมือนกับเซียนที่ลงมาจากสวรรค์ก็ไม่ปาน ยิ้มจนปากหุบไม่ลงเลยทีเดียว

“สยงมู่มู่ของฉันแค่ยืนเฉยๆ ไม่ทำอะไรก็ดูดีมากแล้ว ยังมีเด็กน้อยคนนั้นก็ไม่เลว อิงหนานสายตาของเธอใช้ได้เลยทีเดียว พี่น้องสองคนนี้มองแล้วเหมือนคู่ที่เหมาะสมกันยังไงอย่างนั้น ช่างมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาจริงๆ!”

สองผู้เฒ่าของตระกูลสยงชมเชยไม่ขาดปาก เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นอู่เหมย แค่เห็นก็ชอบเลยทันที เป็นเด็กที่สวยมากเลยจริงๆ เหมือนเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมาให้กับหลานชายของพวกเขา

ลูกสะใภ้เป็นคนที่มองการณ์ไกล ยังเด็กขนาดนี้ก็สะกดทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ได้ขนาดนี้ เรื่องหลานสะใภ้ก็ไม่ต้องกลุ้มใจแล้ว!

สยงมู่มู่ยกมือขึ้นทั้งสองข้าง บรรเลงฉินอย่างสง่างาม ทำให้พวกอาจารย์นักเรียนที่กำลังง่วงเหงาหาวนอนกันอยู่ตื่นขึ้นในทันที ภาพตรงหน้าสว่างชัดเจน ดูอย่างตั้งอกตั้งใจขึ้นมา

อู่เหมยก็เริ่มเต้นช้าๆ แปลกมาก ตอนที่อยู่ข้างล่างเวทีเธอรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่พอขึ้นมาบนเวที ใจของเธอกลับสงบลงมาได้ เหมือนกับตอนซ้อมเต้น เต้นอย่างสง่างาม

…………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด