ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 423 อู่เจิ้งซือผู้ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม + 424 คนกำลังทำสวรรค์กำลังมอง
ตอนที่ 423 อู่เจิ้งซือผู้ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม
อู่เหมยคิดออดอ้อนอู่เจิ้งซือ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกผิดหวังกับอู่เจิ้งซือเมื่อชาติที่แล้วเหลือเกิน แต่ระยะนี้การแสดงออกของอู่เจิ้งซือก็ค่อยๆ ทำให้เธอใจอ่อนลงทีละนิดแล้ว
อันที่จริงสิ่งที่สำคัญก็คือเธอปรารถนาความรัก ก็เหมือนพืชกลางทะเลทรายที่ขาดน้ำมาเป็นเวลานาน ต่อให้มีแค่ละอองน้ำกระเซ็นมา ก็สามารถแตกกิ่งก้านให้ดำรงอยู่ต่อไปได้ พยายามดูดน้ำอันน้อยนิดนั้นอย่างน่าเวทนา
อู่เหมยขาดความรักจึงปรารถนาที่จะได้ความรัก แค่การเปลี่ยนแปลงท่าทีของอู่เจิ้งซือทำให้ใจที่ตายไปแล้วของเธอฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ เพียงแค่อยากเหมือนลูกสาวบ้านอื่นที่ออดอ้อนพ่อเวลาล้มเจ็บหรือไม่สบายก็เท่านั้น
สายตาที่ห่วงใยของคนเป็นพ่อและคำพูดที่ใช้ปกป้องจะทำให้ลูกสาวที่รู้สึกน้อยใจเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมกลับมามีเสียงหัวเราะได้อีกครั้ง
อู่เหมยก็คิดแบบนี้ ความเมตตาและความรักของแม่เธอไม่มีทางได้มันมาแน่นอน จึงหวังจะได้รับความรักจากพ่อที่ยิ่งใหญ่ราวกับภูเขามาช่วยเติมเต็มหัวใจที่กระหายความรักของเธอ
แต่ว่า——
พออู่เหมยได้ยินคำพูดของอู่เจิ้งซือด้วยสายตาเย็นชา ใจที่กำลังจะอ่อนลงก็กลับมาแข็งขึ้นอีกครั้งในชั่วพริบตา เธอจะดูแลกิ่งก้านด้วยตัวเธอเอง จะไม่ไปร้องขอความรักขอพ่อให้รำคาญใจอีก!
เธอยิ้มเยาะให้ตัวเอง คนอื่นเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด แต่เธอกลับยิ่งโง่ ตายไปแล้วรอบหนึ่งก็ยังมองไม่ออก โง่จนไม่รู้สรรหาคำไหนมาด่าแล้ว
“พ่อคะ ดูก็รู้ว่าเท้าของหนูโดนตะปูแทงจนเป็นแผล ทำไมถึงได้บอกว่าเท้าเคล็ดล่ะ? พ่อไม่ใช่เคยบอกว่าห้ามโกหกหรอ?” อู่เหมยแสร้งพูดอย่างไร้เดียงสา แต่ในใจกลับท้อแท้และเหน็บหนาว
อู่เจิ้งซือทำสีหน้าไม่ถูก ทำสายตา ใส่อู่เหมย ความหมายก็คือบอกให้เธอกลับบ้านค่อยว่ากัน อู่เหมยก้มหน้าลงไม่สนใจสายตาที่บ่งบอกความนัยของอู่เจิ้งซือ
อยู่กับแม่บุญธรรมอย่างจ้าวอิงหนานดีกว่า ให้แม่บุญธรรมออกหน้าแทนเธอ
“พ่อคะ หนูอยากที่จะจับคนที่ทำร้ายหนูคนนั้นออกมา เธอทำร้ายหนูจนเสียโอกาสที่จะได้เจ้าร่วมการแสดงของเมือง หนูจะไม่ให้อภัยเธอเด็ดขาด” อู่เหมยแสดงออกถึงความต้องการของเธออย่างเด็ดเดี่ยว
อู่เจิ้งซือขมวดคิ้วแน่น รู้สึกไม่พอใจที่อู่เหมยไม่เชื่อฟัง แต่ก็ต้องทนยิ้มพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้กลับบ้านไปค่อยว่ากัน เหมยเหมย มา…เดี๋ยวพ่อแบกลูกกลับบ้าน”
จ้าวอิงหนานเดินเข้ามา ใบหน้าแฝงด้วยรอยยิ้มเหน็บแนม คำพูดที่อู่เหมยพูดเมื่อกี้เธอได้ยินทั้งหมด เดิมทีคิดว่าจะไว้หน้าอู่เจิ้งซือสักหน่อย แต่พอเห็นเขาจะพาอู่เหมยกลับให้ได้ ไหนเลยที่จ้าวอิงหนานจะทนไหว
“อาจารย์อู่ เหมยเหมยบาดเจ็บครั้งนี้ฉันจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่นอน อาจารย์ใหญ่หยวนเขาจะต้องหาเรื่องนี้มาให้ฉันก่อน ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรหาอธิบดีหู ให้สำนักงานตำรวจเข้ามาสืบหาคนที่ใส่ตะปูในรองเท้า สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ต้องเป็นคนที่จิตผิดปกติแน่ ต้องหาตัวมาให้ได้!”
จ้าวอิงหนานด่าทอคนร้ายไปยกใหญ่ เปลี่ยนหัวข้อสนทนาถามอีกว่า “อาจารย์อู่คุณก็ต้องปวดใจมากเหมือนกันใช่ไหม? ฉันเป็นแม่บุญธรรมยังเจ็บเหมือนโดนมีดขนาดนี้ คุณเป็นพ่อแท้ๆ แน่นอนว่าจะต้องเจ็บปวดกว่าอยู่แล้ว”
อู่เจิ้งซือยิ้มเจื่อน เจ็บใจแน่นอนอยู่แล้วล่ะแต่ไม่เจ็บขนาดเหมือนโดนมีดแทง แค่เจ็บนิดหน่อยเท่านั้น แต่ไม่คุ้มที่จะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำให้อาจารย์ใหญ่หยวนไม่พอใจ!
แต่คำพูดพวกนี้เขาก็ไม่สามารถพูดได้ เขาเป็นพ่อที่ดีของลูกสาวอันเป็นที่รัก อย่าให้จ้าวอิงหนานพูดได้ว่าเขาไม่เป็นห่วงลูกสาว
จ้าวอิงหนานมองอู่เจิ้งซือที่ลำบากใจหน้านิ่ง ในดวงตามีความเหยียดหยามส่งผ่านออกมา เห็นคนโง่อย่างเหอปี้อวิ๋นยังสบายตากว่าเห็นคนเสแสร้งทำดีเสียอีก
ภายใต้ความเด็ดขาดของจ้าวอิงหนาน อู่เจิ้งซือพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว ทำได้แค่เพียงแบกอู่เหมยกลับไปอย่างกล้ำกลืนฝืนทน ในใจรู้สึกแย่มาก ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะอธิบายกับอาจารย์ใหญ่หยวนยังไง
ตอนบ่ายเขารับปากอาจารย์ใหญ่หยวนไว้แล้วว่าจะไม่ไต่สวนเรื่องนี้ต่ออีก เดิมทียังคิดจะให้อู่เหมยพูดเกลี้ยกล่อมจ้าวอิงหนาน แต่คาดไม่ถึงว่าอู่เหมยกลับไม่เชื่อฟังด้วยอีกคน
เฮ้อ แค่หวังว่าอาจารย์ใหญ่หยวนอย่าต่อว่าแล้วกัน!
…………………………………………..
ตอนที่ 424 คนกำลังทำสวรรค์กำลังมอง
อู่เยวี่ยที่กลับมาถึงบ้าน เห็นอู่เหมยเลยเข้ามาถามไถ่อย่างห่วงใย เอาใจใส่เป็นอย่างดี ทำให้อารมณ์ของอู่เจิ้งซือดีขึ้นมาหน่อย บนใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมา
“เหมยเหมยอย่าทุกข์ใจไปเลย เธอเต้นได้ดีขนาดนี้ ปีหน้าจะต้องมีโอกาสเข้าร่วมงานการแสดงของเมืองอย่างแน่นอน” อู่เยวี่ยปลอบใจเสียงอ่อนเสียงหวาน มองๆ ไปแล้วดูจะทุกข์ใจกว่าอู่เหมยเสียอีก
อู่เหมยมองอู่เยวี่ยที่ทำท่าทีเสแสร้ง ต่อให้ผู้หญิงคนนี้จะแสดงละครได้ดีแค่ไหน แต่ในใจลึกๆ ของเธอที่กลับรู้สึกยินดีบนความโชคร้ายของคนอื่นนั้นปิดบังอู่เหมยไม่ได้หรอก ฉับพลันนั้นเธอก็ใจเต้นนึกขึ้นมาได้
คนที่จงใจวางตะปูไว้มีจุดประสงค์ก็เพื่อทำร้ายไม่ให้เธอเต้นจนจบ และพลาดโอกาสที่จะไปทำการแสดงในงานแสดงของเมือง ตอนนี้จุดประสงค์ของคนๆ นั้นเป็นไปอย่างลุล่วงแล้ว ต่อให้เธอได้รางวัลมาก็หมดหนทางที่จะเข้าร่วมงานการแสดงของเมืองรางวัลนี้จะได้มาหรือไม่ก็มีประโยชน์เท่ากัน
ถึงแม้ว่าเพื่อนนักเรียนที่โรงเรียนจะไม่ค่อยสนิทกับเธอเท่าไร แต่ก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกัน ตัวเธอเองก็ไม่เคยไปล่วงเกินใคร คิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีใครที่จะใช้แผนร้ายแบบนี้ทำร้ายเธอ!
ยกเว้นแค่เพียง ——อู่เยวี่ย
ทั้งโรงเรียนมีแค่เพียงอู่เยวี่ยที่ไม่ลงรอยกับเธอ แล้วก็มีแค่เพียงอู่เยวี่ยที่อยากจะเห็นตัวเธอโชคร้าย
ยิ่งไปกว่านั้นอู่เยวี่ยน่าจะเป็นเพียงคนเดียวที่มีความกล้าทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้ได้ นักเรียนคนอื่นๆ จะกล้าลงมือทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้ไม่ได้หรอก!
โง่ อู่เหมยนึกด่าตัวเองในใจ น่าจะนึกได้ตั้งนานแล้วว่าอู่เยวี่ยเป็นคนทำ ต้องโทษที่เธอประมาทเลินเล่อเกินไป รู้ทั้งรู้ว่าอู่เยวี่ยมันเป็นงูพิษ ต่อให้อายุยังน้อย แต่ก็เป็นงูพิษตัวหนึ่งอยู่ดี งูพิษที่จะแว้งกัดได้ทุกเวลา
ระยะนี้คิดแค่เพียงจะกำราบอู่เยวี่ย เลยประมาทธาตุแท้ของนังงูพิษอย่างอู่เยวี่ยไป ที่ต้องมาซวยขนาดนี้เพราะนังสารเลวนี่ ทั้งยังทำให้สยงมู่มู่อู่เชาเสียโอกาสที่ได้เข้าร่วงงานการแสดงของเมืองไปอีก
“ขอบคุณความห่วงใยของพี่สาว พี่พูดถูก ปีหน้ายังมีโอกาสอีกแน่นอน อีกอย่างเท้าเจ็บก็ดี ฉันจะได้มีเวลาสงบจิตสงบใจเตรียมตัวแข่งวาดรูปในปีหน้า”
อู่เหมยพูดไปก็สังเกตหน้าของอู่เยวี่ยอย่างละเอียดไปด้วย ถึงแม้ว่าความอิจฉาริษยาและความโกรธแค้นในสายตาจะมีแค่เพียงประเดี๋ยวประด๋าว แต่เธอก็ยังจับได้ ยิ่งทำให้มั่นใจเข้าไปใหญ่ว่าอู่เยวี่ยเป็นคนร้าย
นังสารเลว รอเท้าของฉันดีขึ้นมาก่อนเถอะ จะตอบแทนกลับไปร้อยเท่าเลย!
อู่เยวี่ยฝืนยิ้ม “เหมยเหมยพูดไม่ผิด การแข่งขันวาดภาพนั้นก็สำคัญ เหมยเหมยจะต้องตั้งใจเตรียมตัวดีๆ นะ!”
เหอปี้อวิ๋นถือน้ำซุปเข้ามาในห้อง หัวเราะเยาะกับสิ่งที่ได้ยิน “ต่อให้วาดได้ดีแค่ไหนแล้วมีประโยชน์อะไร? กินไม่ได้ใส่ไม่ได้ เยวี่ยเยวี่ยอย่าไปสนใจมัน รีบมากินซุปไก่ แม่ใส่สมุนไพรแก้เวียนหัวด้วย ลูกกินเข้าไปรับรองว่านอนสบาย”
อู่เหมยมองอู่เยวี่ยอย่างไม่สนใจ ยกมุมปากพูดว่า “คนกำลังทำสวรรค์กำลังมอง คนที่วางตะปูจะต้องได้รับกรรมตามสนองแน่นอน เรื่องหลายวันที่ผ่านมานี้ พี่รอดูแล้วกันนะ!”
อู่เยวี่ยตัวสั่นระริก เป็นวัวสันหลังหวะ สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ ฝืนยิ้ม “ใช่แล้ว ทำเรื่องไม่ดีจะต้องโดนกรรมตามสนองแน่นอน เหมยเหมยอย่าคิดมาก มากินซุปไก่ดีกว่า พี่ตักให้นะ!”
เหอปี้อวิ๋นไหนเลยจะเข้าใจความหมายที่มีลับลมคมในของสองพี่น้องนี้ ยังนึกว่าอู่เหมยตีวัวกระทบคราด พูดตำหนิเธอ พูดอย่างโมโหด้วยสีหน้าดูไม่ได้ว่า “คนดีอายุไม่ยืน คนเลวอยู่เป็นหมื่นปี ทำเรื่องไม่ดีก็ไม่ใช่ว่าจะต้องโดนกรรมตามสนองเสมอไป เยวี่ยเยวี่ยกินซุปเยอะๆ หน่อย ตอนเย็นจะได้หลับสบาย พรุ่งนี้ไปเรียนจะได้มีชีวิตชีวา”
อู่เหมยยิ้มเยาะในใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก รับชามซุปไก่มาจากอู่เยวี่ย ค่อยๆ กิน
สยงมู่มู่พอกลับถึงบ้านก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงความสงสัยของเขากับพ่อแม่ จ้าวอิงหนานสีหน้าเปลี่ยน มองอู่เยวี่ยในมุมมองใหม่อีกครั้ง
เด็กน้อยคนนี้อายุยังน้อย กลับทำเรื่องได้เหี้ยมโหดขนาดนี้ ดูไม่ออกเลยจริงๆ!
เหมยเหมยเด็กคนนี้ช่างน่าสงสาร พ่อก็เสแสร้งจอมปลอมเห็นแก่ตัว แม่ก็ลำเอียงอำมหิต พี่สาวก็เป็นหมาป่าคอยจะขย้ำ เมื่อก่อนเธอใช้ชีวิตผ่านมันมาได้ยังไง!
………………………………………….
Comments