ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 608 ผลกรรมที่สมควรได้รับ + 609 อู่เยวี่ยที่พลาดตกอยู่ในโคลนตม

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 608 ผลกรรมที่สมควรได้รับ + 609 อู่เยวี่ยที่พลาดตกอยู่ในโคลนตม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่  608 ผลกรรมที่สมควรได้รับ

เดิมทีเจ้าอ้วนน้อยไม่ใช่คนขี้แยอะไรอยู่แล้ว เมื่อครู่เพราะซาบซึ้งที่ได้กินเนื้อบ้างเท่านั้นเอง ภายใต้เสียงปลอบโยนของเหล่าเพื่อนๆ และเนื้อชิ้นโต ไม่นานเขาก็เช็ดน้ำตาให้แห้งและก้มหน้าทานเนื้อต่อไป

“คราวหลังถ้าพวกเธอจะพูดอย่าพูดต่อหน้าฉันแล้วกัน ฉันจะถือว่าไม่ได้ยินไปแล้วกัน”

เจ้าอ้วนน้อยแทะกระดูกอย่างขะมักเขม้น แต่ทั่วทั้งใบหน้าและดวงตากลับแดงก่ำไม่หาย

สยงมู่มู่มองเขาอย่างนึกรังเกียจ “กินเนื้อของนายต่อไปเถอะ ดูท่าทางของนายสิ!”

เจ้าอ้วนน้อยสูดจมูกพลางแทะกระดูกต่อไป ฝีมือทำอาหารของคุณพ่อสยงมู่มู่รสชาติดีจริงๆ กระดูกนี่อร่อยชะมัด!

เหมยเหมยทานได้ไม่กี่คำก็อิ่มเสียแล้ว เธอยกกับข้าวที่เหลือให้จ้าวเสวียหลิน จ้าวเสวียหลินก็ไม่รังเกียจและทานต่ออย่างเอร็ดอร่อย

“เงินค่าผ่าตัดของอู่เยวี่ยใครเป็นออกให้?” เหมยเหมยถาม

“อู่เยวี่ยกับอาสะใภ้สอง ไม่สิ กับแม่ของเขาเคยมาขอคุณปู่หลายครั้งแต่คุณปู่ก็ปฏิเสธไป บอกว่าให้อู่เยวี่ยกับแม่ของเธอคิดวิธีหาเงินเอาเอง”

อู่เชาถอนหายใจออกมา เหอปี้อวิ๋นในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนราวฟ้ากับเหว เสื้อผ้าเก่ามอซอ ผมเผ้ายุ่งเหยิง สภาพน่าอนาถใจ แน่นอนว่าอาสองของเขาในตอนนี้ก็ไม่ดีไปกว่ากันเท่าไร

เหมยเหมยรู้สถานการณ์ของเหอปี้อวิ๋นในตอนนี้ดี เสียงานที่เป็นครูบาอาจารย์ไป หลายวันก่อนสิ่งแรกที่อู่เจิ้งซือกลับออกมาจากห้องคุมขังก็คือหย่ากับเหอปี้อวิ๋น เขาไม่ขอเลี้ยงดูอู่เยวี่ยจึงเธอให้ติดตามเหอปี้อวิ๋นไป

น้องชายเหอปี้อวิ๋นอย่างเหอปี้สือกับน้องสะใภ้เองก็เสียงานกันทั้งคู่ เพราะคุณปู่เหอเกษียณไปแล้วจ้าวอิงหัวเลยปล่อยเขาไป ตอนแรกงานของคนทั้งครอบครัวล้วนเป็นพ่อตาหาให้ ตอนนี้ถึงเวลายึดกลับคืนมาแล้ว

ทั้งครอบครัวเหลือเพียงคุณปู่เหอที่มีเงินเดือน ยังมีหลายปากหลายท้องที่ต้องกินต้องใช้ ต่อให้คุณย่าเหอใช้เงินประหยัดแค่ไหนก็ไม่พ้นชีวิตที่ข้าวสารหมดหม้อ คุณย่าเหอเกลียดสองแม่ลูกเหอปี้อวิ๋นเข้าไส้ คิดว่าตัวกาลกิณีสองชีวิตนี้นำพาความซวยมาให้ทั้งครอบครัว วันๆ ไม่ด่าก็ลงไม้ลงมือ เหมือนชีวิตที่ผ่านมาของเหมยเหมย

ตระกูลเหอตอนนี้กินข้าวไม่อิ่มท้องด้วยซ้ำ จะเอาเงินที่ไหนให้อู่เยวี่ยรักษาหู มิน่าเหอปี้อวิ๋นถึงเร่กลับไปขอร้องอ้อนวอนคุณปู่อู่!

“อาสองของนายล่ะ? เขาว่ายังไง?” สยงมู่มู่ถามด้วยความสงสัย

อู่เชาถอนหายใจยาว “ตั้งแต่อาสองของฉันออกมาจากห้องคุมขังก็หมกตัวอยู่แต่บ้านทั้งวัน ไม่ออกไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว ดื่มเหล้าทุกวัน เมาแล้วก็นอน หนวดยาวเฟิ้มเหมือนคนป่า”

อาสองในอดีตดูดีมีราศีขนาดนั้น ตอนนี้กลับเหมือนคนขอทานเสียอย่างนั้น เฮ้อ!

“นั่นเป็นผลกรรมที่เขาควรได้รับ ถ้าเมื่อก่อนอาสองของนายดีกับน้องสาวฉันสักหน่อย พ่อของฉันคงจะปรานีอยู่บ้าง แต่เขาทำอะไรไปบ้าง?” จ้าวเสวียหลินพูดอย่างแค้นใจ

เท่าที่เขาดู จ้าวอิงหัวยังคงปราณีอู่เจิ้งซือมากเกินไป ควรให้คนสารเลวนั่นนอนในคุกไปชั่วชีวิต ถึงจะสาสมกับความแค้นนี้!

ความทุกข์ที่น้องสาวพบเจอ ความทุกข์ที่แม่ของเขาพบเจอ รวมถึงความหวาดกลัวปนกังวลที่เขาและพ่อต้องเจอมาตลอดหลายปี อู่เจิ้งซือโดนแค่นี้เทียบได้ที่ไหนกัน!

อู่เชาถอนหายใจดังเฮือก ไม่พูดอะไรต่อ อาสองของเขาทำตัวเองจริงๆ นั่นแหละ!

เขาไม่มีคำพูดใดที่จะเอื้อนเอ่ยอีกแล้ว!

วันเรียนหนึ่งวันผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เหมยเหมยเดินไปหน้าประตูโรงเรียนพร้อมอู่เชา จ้าวเสวียหลินรอเธอที่หน้าประตูโรงเรียน เพียงแต่จ้าวเสวียหลินกลับเจออู่เยวี่ยแทนเธอ

ข้างๆ เธอคือเหยียนหมิงต๋าที่เดินขนาบกันมา เหยียนหมิงต๋าหันไปพยุงอู่เยวี่ยเป็นพักๆ

อู่เยวี่ยเองก็เห็นเหมยเหมยเช่นกัน รอยยิ้มบนใบหน้าหายวับไปในพริบตา เดิมทีอารมณ์ที่ยังดีพลันชั่วครู่ก็หล่นตกเหววูบ ความเกลียดชังผุดขึ้นมากลางใจ

เธอเกลียดจริงๆ!

เพราะนางแพศยาคนนี้ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตเหมือนหนูตามท้องถนน สภาพครึ่งคนครึ่งผี แถมยังเสียหูไปอีกหนึ่งข้าง!

…………………..

ตอนที่  609 อู่เยวี่ยที่พลาดตกอยู่ในโคลนตม

เหมยเหมยยืนอยู่ห่างจากอู่เยวี่ยราวสามสิบเมตรได้ แม้ไม่ใกล้มากแต่สายตาเธอดีจึงเห็นอู่เยวี่ยชัดเต็มสองตา แม้แต่รอยแผลแตกบนมือบวมแดงของเธอคู่นั้นยังไม่หลุดรอดผ่านสายตาไป

ดูเหมือนช่วงนี้อู่เยวี่ยจะได้ทำงานบ้านไม่น้อย มือคู่นั้นเละกว่าเมื่อก่อนเท่าตัว!

แล้วเสื้อกันหนาวบนตัวเธอยังคงเป็นตัวเดิมของปีที่แล้วที่ไม่ได้ดูทุกข์ยากลำเค็ญนัก เมื่อก่อนเหอปี้อวิ๋นตัดเย็บเสื้อผ้าไว้ให้เธอมากมาย ต่อให้ไม่ซื้อเสื้อผ้าสักปีสองปีคงไม่เป็นไร เพียงแต่สำหรับอู่เยวี่ยที่ต้องซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ทุกวันเทศกาลแล้วการใส่เสื้อผ้าตัวเก่าไปเรียน เธอต้องอารมณ์เสียมากแน่ๆ!

อู่เยวี่ยในขณะนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะมาสนใจเรื่องเสื้อผ้าตัวเก่าตัวใหม่แล้ว เธอแค่อยากรักษาหูให้หาย หูข้างขวาที่สูญเสียการได้ยินนอกจากจะส่งผลต่อทักษะการฟังแล้ว ยังทำให้เธอเดินเซทรงตัวได้ไม่มั่นคง บ่อยครั้งที่เดินอยู่ๆ ก็ล้มพับลงไป เป็นเหตุให้บนตัวมีแผลประดับเพิ่มขึ้นหลายที่

เธอเคยให้เหยียนหมิงต๋าถามคุณย่าหยาง คุณย่าหยางบอกว่าเธอที่สูญเสียการได้ยินเพราะอุบัติเหตุนั้นรักษาได้ โรงพยาบาลในเมืองจินสามารถทำการผ่าตัดนี้ได้แต่ค่าใช้จ่ายไม่น้อย แต่ยิ่งไปผ่าตัดเร็วเท่าไหร่โอกาสที่จะหายก็สูงมากเท่านั้น

ฉะนั้นเธอต้องรีบหาทางเก็บเงิน เธอไม่อยากเป็นคนพิการ!

เธอเป็นอู่เยวี่ยที่สมบูรณ์แบบ จะมีหูข้างเดียวที่ได้ยินเสียงได้อย่างไร?

อู่เยวี่ยมองเหมยเหมยด้วยสีหน้าราบเรียบ สองมือกำหมัดแน่นจนแผลบนมือปริให้เลือดไหลซึมออกมา แต่เธอกลับไร้ความรู้สึก ได้แต่กัดริมฝีปากแน่นอยู่อย่างนั้น

อู่เหมยนางแพศยา ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกจ้าวเหมยแล้ว!

โชคหล่นทับหัวถึงมีพ่อเป็นรองนายกเทศมนตรี ดูท่าทางกำเริบเสิบสานของคนชั่วช้าที่ได้ใจนั่นสิ ต้องกำลังเห็นเธอเป็นตัวตลกอยู่สินะ!

แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย บัญชีแค้นนี้เธอจำไว้แล้ว วันหน้าเธอจะเอาคืนร้อยเท่า!

เธอจะต้องทำลายนางแพศยาคนนี้ให้พังพินาศ!

“พี่หมิงต๋า เราไปกันเถอะ ฉันต้องกลับไปทำงานบ้านอยู่นะ!” อู่เยวี่ยไม่มองเหมยเหมยอีก หันหลังเดินไปทางประตูโรงเรียนอย่างเรียบนิ่ง

เหยียนหมิงต๋ารีบวิ่งตามไป ตอนนี้เยวี่ยเยวี่ยเดินทรงตัวไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ เขาต้องตามประกบให้ดี

เหมยเหมยแค่นเสียงเบา ยอมอู่เยวี่ยง่ายไปแล้ว ตอนนี้ไม่อยู่ด้วยกันเลยไม่สามารถราดน้ำหอมบนหัวอู่เยวี่ย หรือทำให้เธอท้องเสียได้อีกต่อไป นานวันเข้าอู่เยวี่ยจะต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจได้เป็นปกติแน่ๆ

เฮ้อ ในเมื่อเลือกได้เพียงอย่างเดียว งั้นวันหน้าคงต้องคิดหาวิธีอื่นทำลายอู่เยวี่ย จะให้นางแพศยาคนนี้ผงาดขึ้นอีกไม่ได้!

วันไหนคงต้องหาโอกาสบอกพี่หมิงซุ่นว่าเหยียนหมิงต๋าเดินด้วยกันกับอู่เยวี่ยอีกแล้ว  ให้พี่หมิงซุ่นสั่งสอนเจ้าหมูนี่เสียให้เข็ด!

เหยียนหมิงต๋าส่งอู่เยวี่ยไปยังหน้าปากซอยทางเข้าบ้านที่เธอพักอาศัยอยู่ ใช่ว่าจะไม่อยากส่งถึงประตูหน้าบ้านแต่อู่เยวี่ยไม่ให้เขาเข้าไป บอกว่าไม่อยากให้เขาเห็นสภาพน่าอนาถของตัวเอง

ได้ยินหญิงสาวผู้เป็นที่รักพูดแบบนี้เหยียนหมิงต๋าปวดใจดั่งถูกมีดปักอก เขาได้แต่นึกโกรธตัวเองที่ไร้ประโยชน์เกินไป ไม่สามารถช่วยให้อู่เยวี่ยหลุดพ้นจากความยากลำบากนี้ได้!

“ขอบคุณค่ะพี่หมิงต๋า พี่รีบกลับบ้านเถอะ ฉันเองก็จะกลับแล้ว”

อู่เยวี่ยโบกมือให้เขาก่อนเดินเข้าไปในซอยชุมชน เหยียนหมิงต๋าล้วงเงินห้าหยวนและยาทาแผลจากกระเป๋ายัดใส่มืออู่เยวี่ยแล้วรีบหันหลังวิ่งจากไป

อู่เยวี่ยเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี ถ้าเขาวิ่งช้ากว่านี้สักนิด เยวี่ยเยวี่ยจะต้องคืนเงินและยากลับคืนมาให้เขาแน่ ถ้าเขาวิ่งเร็วกว่านี้หน่อยเยวี่ยเยวี่ยก็คืนไม่ทันแล้ว

อู่เยวี่ยมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่จากไปอย่างรีบเร่ง  เงินธนบัตรห้าหยวนยับยู่ยี่ใบหนึ่งและยาทาแผลอีกครึ่งหลอดที่อยู่ในมือ มุมปากเหยียดยิ้มอย่างชอบใจ

ต่อให้เธอสิ้นสภาพมาอยู่ในโคลนตมก็ยังคงมีคนถวายใจให้เธอ เพราะเธอเป็นอู่เยวี่ยผู้สมบูรณ์แบบ เสน่ห์ของเธอนั้นล้นเหลือ!

……………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด