ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 714 เหยียนหมิงซุ่นที่ถูกอบรมสั่งสอน + 715 เกลียดจนอยากบีบคอให้ตายเสียรู้แล้วรู้รอด

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 714 เหยียนหมิงซุ่นที่ถูกอบรมสั่งสอน + 715 เกลียดจนอยากบีบคอให้ตายเสียรู้แล้วรู้รอด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 714 เหยียนหมิงซุ่นที่ถูกอบรมสั่งสอน

แม้ข้างนอกจะอากาศร้อนระอุแต่ภายในบ้านตระกูลเหยียนกลับหนาวเหน็บยิ่งกว่าฤดูหนาว เหยียนโฮ่วเต๋อทำหน้าเย็นชา สีหน้าคุณปู่เหยียนเองก็ไม่ดีไปกว่ากันมากเท่าไร มองหลานชายคนโตที่ตั้งความหวังไว้อย่างปวดใจ

เหยียนโฮ่วเต๋อเพิ่งรู้จากการทักถามของเพื่อนร่วมงานว่าลูกชายคนโตที่เขาภาคภูมิใจมาโดยตลอดไม่ได้เข้าสอบคัดเลือกระดับมหาวิทยาลัย ทุกอย่างเป็นศูนย์คะแนน จะไปเรียนที่ไหนก็ไม่ได้

เมื่อนั้นเขาแทบสลบล้มพับลงไป ฝืนทำงานทั้งวันก็เร่งฝีเท้ากลับบ้าน เหยียนหมิงซุ่นไม่อยู่บ้าน เขาถามพ่อแม่ว่ารู้เรื่องนี้หรือไม่  ซึ่งคนแก่ทั้งสองแทบไม่อยากเชื่อ กระทั่งเหยียนหมิงซุ่นกลับบ้านจึงยอมรับเองกับปาก พวกเขาถึงต้องเชื่อ

เหยียนโฮ่วเต๋อมองลูกชายคนโตอย่างผิดหวัง พูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “ทำไมไม่เข้าสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย? เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกที่บ้านสักคำ?”

เหยียนหมิงซุ่นตอบเสียงเรียบว่า “ไม่จำเป็น เรื่องของผม ผมตัดสินใจเองได้”

“แก…”

เหยียนโฮ่วเต๋อโกรธจนลุกยืนขึ้น ตวัดฝ่ามือหมายจะฟาดลงไป ไฟโทสะลุกโหมท่วมตัวเขาแล้ว  ไอ้ลูกทรพีทำให้เขาอับอายขายหน้าเพื่อนร่วมงาน สมแล้วที่เป็นไอ้ตัวอ่อนขี้ขลาดตาขาว อ่อนแอไร้ความสามารถ!

เหยียนหมิงซุ่นยื่นมือบังฝ่ามือเหยียนโฮ่วเต๋อได้อย่างง่ายดาย แค่นเสียงหัวเราะออกมา “พ่อไม่มีสิทธิ์ตีผม และพ่อก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของผม!”

“โอ้ หมิงซุ่นทำไมพูดแบบนี้กับพ่อเธอล่ะ? ไม่มีสิทธิ์อะไรกัน เขาเป็นพ่อของเธอเชียวนะ คนเป็นพ่อสั่งสอนลูกเป็นเรื่องปกติ!”

ถานซูฟางน้ำเสียงประชดประชันและทุกประโยคได้ยั่วยุไฟโทสะของเหยียนโฮ่วเต๋อเป็นอย่างดี เขาหน้าตึงขึ้นเรื่อยๆ หายใจหนักหน่วง ความเย็นชาจากแววตาเองก็มากขึ้นเรื่อยๆ

“ไอ้ลูกทรพี ไม่เข้าสอบมหาวิทยาลัยคิดจะทำอะไรในอนาคต? หรือว่าแกอยากให้ฉันเลี้ยงแกตลอดชีวิต?”

เหยียนโฮ่วเต๋อชักมือกลับหลายรอบแต่ไม่สำเร็จ ทั้งโกรธทั้งโมโหจนเส้นเลือดตรงหน้าผากปูดโปน เป็นห่วงเสียจริงว่าเขาจะเส้นเลือดในสมองแตกเอา!

เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “พ่อเลี้ยงผมตั้งแต่เมื่อไหร่? คนที่เลี้ยงผมมาคือคุณปู่คุณย่า อนาคตผมจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับพ่อ พ่อสบายใจได้ ต่อให้ไปเป็นขอทานก็ไม่มีวันไปขอข้าวบ้านพ่อกินหรอก!”

คุณปู่เหยียนตวาด “หมิงซุ่น พูดแบบนี้กับพ่อได้ยังไง?”

เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้เดินหนีเงียบๆ เหมือนอย่างเคยแต่เถียงกลับ “เขาไม่คู่ควรเป็นพ่อของผม แม่ของผมตายเพราะผู้หญิงคนนี้ยั่วโมโห ตอนเด็กผมถูกผู้หญิงคนนี้ทารุณเขาก็ไม่เคยออกมาห้าม ดังนั้นเขาไม่คู่ควร คุณปู่ครับ ที่ผมไม่ได้เปลี่ยนนามสกุลเพราะเห็นแก่คุณปู่กับคุณย่า แต่ไม่ใช่เขา!”

คนตระกูลเหยียนตะลึงกับท่าทีที่แตกต่างจากอดีตของเหยียนหมิงซุ่น เมื่อก่อนแม้เหยียนหมิงซุ่นจะไม่ค่อยให้ความสนใจเหยียนโฮ่วเต๋อมากนัก  แต่ยังไว้ซึ่งความเคารพ ใช่ว่าจะพูดจาไร้สัมมาคารวะเหมือนตอนนี้?

ความจริงทั้งหมดนี้เป็นคุณงามความดีของเหมยเหมย!

เดิมทีเหยียนหมิงซุ่นคิดว่าลูกผู้ชายล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย รออนาคตเขาประสบความสำเร็จค่อยเอาคืนเหยียนโฮ่วเต๋อกับถานซูฟาง แต่เหมยเหมยมักเอาแนวความคิดเรื่องการแก้แค้นกรอกข้างหูเขาอยู่บ่อยครั้ง

สิ่งสำคัญก็คือเมื่อชาติที่แล้วเนื่องด้วยอู่เยวี่ยมีพี่ชายสามีที่ทรงอำนาจถึงได้วางท่าโอหังขนาดนี้   ไหนจะเหยียนโฮ่วเต๋อกับถานซูฟางที่มีหน้ามีตาในสังคมจากอำนาจของเหยียนหมิงซุ่น เธอไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชาตินี้อีกเด็ดขาด

เหยียนโฮ่วเต๋อกับถานซูฟางมีสิทธิ์อะไรที่จะได้เสพสุขกับผลลัพธ์ที่เหยียนหมิงซุ่นต่อสู้มาด้วยหยาดเหงื่อตัวเองเล่า

เหยียนหมิงซุ่นที่ถูกเหมยเหมยอบรมสั่งสอนมาเองก็คิดขึ้นได้ รู้สึกว่าที่เจ้าหญิงตัวน้อยพูดมีเหตุผล ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะถอยอีกต่อไปและระเบิดอารมณ์ออกมา!

…………………..

 ตอนที่ 715 เกลียดจนอยากบีบคอให้ตายเสียรู้แล้วรู้รอด

เหยียนโฮ่วเต๋อโกรธจนหน้ามืดตัวสั่นเพราะความไร้สัมมาคารวะของเหยียนหมิงซุ่น ทำเอาเสียทุกคนต่างเป็นห่วงเหลือเกินว่าเขาจะเส้นเลือดในสมองแตกหรือไม่!

ถานซูฟางถอดสีหน้าทันที แหวเสียงสูงกระแทกกลับไปว่า “แม่ของแกมันชีวิตสั้นเอง เกี่ยวอะไรกับฉัน? โฮ่วเต๋อคุณดูสิว่าเจ้าเด็กนี่พูดจายังไง ไม่เห็นหัวฉันเลยสักนิด!”

เหยียนหมิงซุ่นแววตาเย็นชาลงหยิบน้ำชาที่เย็นชืดบนโต๊ะสาดใส่ถานซูฟาง จนทั้งศีรษะและใบหน้าเต็มไปด้วยเศษใบชา สภาพดูไม่จืดเอาเสียเลย

“คุณกล้าสาบานต่อหน้าฟ้าดินมั้ยล่ะ? ว่าการตายของแม่ผมไม่เกี่ยวกับคุณ? คุณอย่าคิดว่าเรื่องผิดศีลธรรมที่คุณเคยทำไว้จะไม่มีใครรู้ แม่ผมป่วยหนักนอนอยู่โรงพยาบาลแต่คุณกับเขากลับนอนกกกอดกันอยู่ในบ้าน ไม่ใช่แค่นี้ ยังวิ่งแจ้นอวดความสัมพันธ์คบชู้ของพวกคุณต่อหน้าแม่ผมอีก ถานซูฟาง คุณทำแบบนี้ต้องการอะไร? ไม่ใช่ว่าคนใจอำมหิตอย่างคุณอยากให้แม่ผมอกแตกตายหรือไง?”

เหยียนหมิงซุ่นพูดฉอด ๆ ระรัวใส่ไม่เว้นช่วงให้ถานซูฟางได้หายใจ คุณปู่เหยียนกับคุณยายหยางต่างมีใบหน้าเรียบตึง พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเหยียนหมิงซุ่นจะรู้เรื่องทั้งหมด!

ที่คนแก่อย่างพวกเขาทั้งสองไม่ชอบใจถานซูฟางเพราะผู้หญิงคนนี้หน้าไม่อาย จิตใจชั่วช้าและบอกได้เลยว่าถานซูฟางเป็นฆาตกรทางอ้อมที่ฆ่าแม่ของเหยียนหมิงซุ่น

ถานซูฟางส่อแววพิรุธออกมา ยังคงปากแข็งเถียงกลับไป “ช่างเป็นเรื่องไม่มีต้นสายปลายเหตุอะไรเลย แม่ของเธอชีวิตสั้นเอง เขาตายไปฉันกับพ่อของเธอถึงอยู่ด้วยกัน เหล่าเหยียน รีบพูดอะไรหน่อยสิ คุณดูสิว่าเจ้าเด็กนี่พูดจาไม่มีสัมมาคารวะแค่ไหน!”

คุณปู่เหยียนตวาดเสียงดัง “แกหุบปากละไสหัวไปอยู่เฉยๆ แกไม่มีสิทธิ์พูด!”

ถานซูฟางยืนนิ่ง อารมณ์โกรธพุ่งปรี๊ดแล้วตะคอกใส่ “ทำไมฉันถึงไม่มีสิทธิ์ หลานชายที่พ่อกับแม่สอนมา ดูสิว่ามันทำอะไรกับฉันบ้าง นี่เป็นท่าทางที่ควรแสดงต่อผู้อาวุโสเหรอ?”

เหยียนหมิงซุ่นแค่นเสียงเหยียดกลับไปว่า “คุณเป็นผู้อาวุโสฝั่งไหนของผมล่ะ? คุณเป็นคู่แค้นที่ฆ่าแม่ของผมงั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่ว่าฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต ผมเกลียดจนแทบอยากจะบีบคอคุณให้ตายซะรู้แล้วรู้รอด ให้คุณไปเสิร์ฟน้ำชาให้แม่ผมที่ยมโลก กราบเท้ายอมรับผิด”

ถานซูฟางถูกเด็กหนุ่มตรงหน้าที่รู้สึกทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าทำให้ตกใจสะดุ้ง ตัวสั่นเทาเล็กน้อยและความหนาวเหน็บเริ่มเกาะกุมหัวใจ

เมื่อมองดวงตาที่ฉายแววเย็นชาของเหยียนหมิงซุ่นเธอ  ถึงสำนึกได้ว่าลูกเลี้ยงที่ปกติทำตัวเรียบง่าย ไม่ใช่แกะน้อยที่เธอจะทำอะไรก็ได้อีกต่อไป แต่เป็นหมาป่าตัวหนึ่ง หมาป่าที่ฆ่าคนได้

“เหล่าเหยียน ลูกชายของคุณเป็นบ้าไปแล้ว เขาเป็นบ้าไปแล้ว!” ถานซูฟางพูดด้วยความหวาดกลัว

แม้คุณยายหยางจะตื่นตกใจกับหลานชายที่แปลกไปตรงหน้า  แต่เธอยังยืนอยู่ข้างเดียวกับหลานชาย พอได้ยินถานซูฟางพูดจาใส่ร้ายหลานชายของเธอก็โกรธจนเด้งตัวออกมาตวัดฝ่ามือตบหน้าถานซูฟางไปทีหนึ่ง

“เหลวไหล แกต่างหากที่บ้า ถ้ากล้าพูดเหลวไหลอีกก็ไสหัวกลับบ้านตัวเองไปซะ!”

ถานซูฟางไม่ใช่คนที่จะยอมโดนทำร้ายง่ายๆ เมื่อก่อนที่ยอมอดทนเพราะกลัวเหยียนโฮ่วเต๋อโกรธ แต่ตอนนี้เธอถูกเหยียนหมิงซุ่นทำให้อารมณ์โกรธพุ่งปรี๊ด อีกทั้งปักใจเชื่อว่าต้องเป็นเพราะไอ้แก่สองคนนี้ที่ชอบนินทาว่าร้ายเธอต่อหน้าเขาแน่  ถึงทำให้เหยียนหมิงซุ่นแค้นเธอเข้ากระดูกดำเช่นนี้

ตอนที่นางแพศยานั่นตาย  เหยียนหมิงซุ่นเพิ่งไม่ถึงสองขวบดี ยังจำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นเขาจะรู้เรื่องละเอียดขนาดนี้ได้อย่างไร?

ถานซูฟางถลึงตาจ้องคุณยายหยางด้วยความแค้น “คนที่พูดเหลวไหลคือแม่เองหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่เพราะแม่นินทาฉันต่อหน้าเด็กคนนี้ เจ้าเด็กนี่จะทำตัวแบบนี้กับฉันได้ยังไง? ทำไมแม่ถึงไม่ชอบใจฉันได้ขนาดนี้?จิตใจของแม่โหดร้ายจริงๆ!”

คุณยายหยางโกรธจนตัวสั่นไม่หยุด ถึงเธอไม่ชอบถานซูฟางแต่เธอไม่เคยนินทาว่าร้ายเธอต่อหน้าเหยียนหมิงซุ่นเลยสักคำเดียว

——————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด