ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 726 อย่ากลัวจนฉี่ราดล่ะ + 727 ที่เปรียบเสมือนจวนอ๋อง
ตอนที่ 726 อย่ากลัวจนฉี่ราดล่ะ
ทันทีที่เหมยเหมยวางสายไปก็อมยิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้อยู่แล้วว่าต่อให้เรื่องยากแค่ไหน ถ้ามีพี่หมิงซุ่นซะอย่างมันก็เป็นแค่เพียงเรื่องจิ๊บจ๊อย!
แต่เมื่อกี้พี่หมิงซุ่นบอกว่าจะถึงในสามวันนี่หน่าหมายความว่าอย่างไรกัน?
ระบบขนส่งในสมัยนี้รวดเร็วขนาดนี้แล้วหรือ?
เธอไม่ได้เสียเวลาคิด ทำมือเป็นสัญลักษณ์ว่า OK ให้สยงมู่มู่ “พี่หมิงซุ่นจะซื้อแล้วส่งมาให้”
สยงมู่มู่อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “เหมยเหมยเธอมีเงินไม่ใช่เหรอ หรือว่าเราซื้อสองเครื่องดี? ฉันกับเจ้าอ้วนไม่ได้ดูทีวีเลยตั้งแต่เช้ายันค่ำ แย่งคุณตาคุณยายไม่เคยได้สักที พวกเขาคือโจรป่าชัด ๆ”
“พูดจาอย่างนี้ได้ไง ไร้สัมมาคารวะ คุณปู่คุณย่าดูทีวีหน่อยจะเป็นไรไป นายไม่เห็นต้องไปแย่งพวกท่านเลย? อีกอย่างนายยังมีเวลามาดูทีวีอีกเหรอ? นายไม่แต่งเพลงแล้วเหรอ? แล้วก็อู่เชานายไม่เขียนบทความแล้วเหรอ? แต่ละคนว่างไม่มีอะไรทำสินะ?”
เหมยเหมยไล่ตบคนละที ตะคอกใส่เจ้าสองคนนี้จนชักสงสัยในชีวิต
เมื่อวานบนเครื่องบินยังสาบานอยู่เลยว่าจะพยายาม จะหาเงิน สุดท้ายพอลงเครื่องก็ลืมจนหมดสิ้น เหมือนผายลมแล้วลอยกระจายหายไปในพริบตา
สองคนสยงมู่มู่ไม่กล้าทักท้วงสักแอะ เดินตามหลังเหมยเหมยหัวหด
น้องสาวที่เมื่อก่อนขี้อ้อนนุ่มนวล บัดนี้กลายเป็นสาวแกร่งไปเสียแล้ว เฮ้อ!
เหมยเหมยเตรียมตัวไปเที่ยวหาเซียวเซ่อโดยไม่ต้องโทรหา เด็กสาวผู้นี้ชอบหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน แม้สมัยนี้จะไม่มีอินเตอร์เน็ต เขาก็สามารถหมกตัวอยู่บ้านได้ตลอดทั้งวัน ไม่ออกบ้านทั้งปียังได้
อีกทั้งยายนี่ไม่ต้องไปโรงเรียนเพราะจ้างครูส่วนตัวมาสอนที่บ้าน แค่โผล่หน้าไปสอบปลายภาคเป็นครั้งคราวเท่านั้น เวลาอื่นหากเธอเลือกไม่ออกบ้านได้ก็จะไม่ออก เพราะ–
“ข้างนอกไม่มีใครที่เห็นแล้วสบายตา!”
เซียวเซ่อเคยบอกเหมยเหมยไว้เช่นนี้โดยเฉพาะขณะที่พูดทำหน้าเท่ๆ เรียกให้เหมยเหมยชื่นชมจากใจ
แม่หญิงเซียวต่างหากที่ใช้ชีวิตได้เป็นอิสระที่สุด!
“เหมยเหมยไม่กลับบ้านเหรอ?”
หลังเปลี่ยนมาสองสถานีสยงมู่มู่ถึงสังเกตถึงความผิดปกติ นี่ไม่ใช่ทิศทางกลับบ้านนี่นา
“ฉันจะไปเที่ยวบ้านเซ่อเซ่อ ไม่งั้นพวกนายกลับบ้านก่อนเถอะ!” เหมยเหมยกล่าว
“ไม่ได้ พี่หกให้เราตามติดเธอไม่ให้ห่าง” สยงมู่มู่ปฏิเสธหนักแน่น น้องสาวหน้าตาสวยขนาดนี้ถ้าเจอคนไม่ดีเข้าจะทำอย่างไร
“แล้วแต่พวกนาย แล้วเดี๋ยวอย่าตกใจจนฉี่ราดก็พอ” เหมยเหมยยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“หมายความว่ายังไง? หรือว่าเพื่อนที่ชื่อว่าเซียวเซ่อของเธอหน้าตาน่าเกลียดจนใครๆ ก็กลัว?” สยงมู่มู่ถามอย่างแปลกใจ
เหมยเหมยกลอกตาใส่เขาที “ไอ้บ้า เซ่อเซ่อดูดีกว่านายร้อยเท่า”
จะว่าไปพระเจ้าสลับตัวสองคนนี้หรือเปล่า คนหนึ่งดูเย้ายวนยิ่งกว่าผู้หญิงแต่ดันเป็นเด็กผู้ชาย อีกคนมาดเท่ยิ่งกว่าผู้ชายแต่ดันเกิดเป็นเด็กผู้หญิงซะงั้น ถ้าสลับร่างกันก็คงดี
สยงมู่มู่แค่นเสียงอย่างไม่พอใจ บนโลกใบนี้เขายอมรับแค่น้องสาวคนนี้กับคุณป้าสะใภ้ที่ดูดีกว่าตัวเอง คนอื่นหรือจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?
คฤหาสน์ของเซียวเซ่ออยู่แถบชานเมือง ซึ่งเป็นเก่าแก่ขนาดใหญ่ ได้ยินว่าอดีตเป็นจวนของจวิ้นอ๋อง พื้นที่โดยรวมประมาณเกือบยี่สิบไร่ คฤหาสน์ขนาดใหญ่มีเพียงเซียวเซ่อและคนรับใช้ประจำอีกประมาณสิบกว่าคนอาศัยจึงดูว่างเปล่าไปบ้าง
“โอ้โห บ้านหลังนี้ใหญ่จริงๆ เป็นคฤหาสน์หลังโตของจริง เหมยเหมย เพื่อนของเธอคนนี้รวยมาก” สยงมู่มู่เห็นกำแพงด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลเซียวก็พูดชมไม่ขาดปาก
เหมยเหมยไม่สนใจเขาพลางยู่ปากใส่ฉิวฉิวในอ้อมแขน เจ้าตัวเล็กเข้าใจความหมายจึงแวบไปที่หลังคาและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานประตูบานใหญ่สีแดงฉานก็เปิดออก เซียวเซ่อที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำจับคู่กับกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ผมตัดสั้นวิ่งออกมากอดเหมยเหมยแล้วหวีดร้องอย่างดีอกดีใจ
………………………..
ตอนที่ 727 ที่เปรียบเสมือนจวนอ๋อง
สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดในสองปีนี้ของแม่หญิงเซียวก็คือส่วนสูง เธอเกิดปีเดียวกับเหมยเหมยแต่กลับสูงกว่าเธอกว่าคืบ คาดว่าน่าจะสูงถึงร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรได้ ถ้ายังสูงต่อไปคาดว่าต้องถึงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรแน่นอน
“โอ้ เซ่อเซ่อเธอสูงขึ้นอีกแล้วเหรอ? ถ้าเธอยังสูงขึ้นต่อไปแบบนี้ฉันจะไม่เป็นเพื่อนกับเธอแล้ว”
เหมยเหมยเขย่งปลายเท้าวัดส่วนสูงจึงพบว่าไม่ถึงปลายคางอีกคนด้วยซ้ำ ทั้งที่ชาตินี้ตัวเธอสูงขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก ตอนนี้สูงตั้งร้อยห้าสิบหกเซนติเมตร คาดว่าอนาคตจะสูงสักร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรคงไม่ใช่ปัญหา ชาติที่แล้วกระทั่งวันตายเธอยังสูงแค่ร้อยหกสิบเซนติเมตรด้วยซ้ำ!
แต่ส่วนสูงที่เธอภาคภูมิใจมากที่สุดกลับถูกเซียวเซ่อบดขยี้เป็นผุยผงในชั่วพริบตา
เซียวเซ่อโอบไหล่เหมยเหมยอย่างสนิทสนม พูดเสียงเท่ “ตอนนี้ฉันกำลังสูงพอดี โอบไหล่เธอไม่เหนื่อยเลยสักนิด เมื่อก่อนฉันเปลืองแรงแทบแย่!”
เหมยเหมยยิ้มขบขัน ล้วงหมวกลวดลายสีสันสดใสจากกระเป๋าออกมาพลางพูดว่า “ดูสินี่หมวกที่ฉันเอามาให้ไทเฮา มันต้องชอบแน่ๆ”
เซียวเซ่อฉีกยิ้มที่มุมปาก ดีใจมากที่เพื่อนสามารถเปิดใจยอมรับเหล่าสัตว์เลี้ยงของเธอได้ เธออมยิ้มน้อยๆ “ไทเฮากลัวร้อนเลยไปอาบน้ำในสระแล้ว ถ้าเล่นเสร็จคงกลับมา”
“งั้นฉันไปดูฮ่องเต้กับกุ้ยเฟยก่อน ฉาฉาก็คิดถึงพวกมันจะแย่”
“ดีเลย ตอนนี้ช่วงกลางวันฮ่องเต้ไม่อยู่ในกล่องเก็บอุณหภูมิแล้ว ชอบวิ่งไปขโมยดอกไม้ในสวนกินจนดอกไม้เสียหายไปตั้งเยอะ ว่าก็ไม่ฟัง เดี๋ยวให้ฉาฉาสั่งสอนมันที”
เซียวเซ่อพูดถึงก็โมโห สวนดอกทานตะวันที่เธอโปรดปรานมากที่สุดใกล้ถูกฮ่องเต้ทำลายหมดแล้ว เธอทำใจอบรมสั่งสอนฮ่องเต้ไม่ได้ เหมยเหมยมาพอดี ฮ่องเต้กลัวฉาฉาที่สุด ไม่แน่อาจจะช่วยกู้ชีวิตดอกทานตะวันได้บางส่วน!
เพื่อนสนิทสองคนเดินไปคุยไปอย่างออกรส หลงลืมสองคนด้านหลังอย่างสิ้นเชิง สยงมู่มู่กับเจ้าอ้วนน้อยได้ยินก็ยืนงง
ฮ่องเต้ ไทเฮาแล้วก็กุ้ยเฟย?
ไทเฮาชอบแช่น้ำ ฮ่องเต้ชอบเด็ดดอกไม้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!
แล้วก็เด็กผู้หญิงสกุลเซียวคนนี้ พวกเขายืนมองตาโตก็ไม่เห็นว่าเธอคนนี้จะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าหลังแบนราบเหมือนกัน แตกต่างจากพวกเขาตรงไหน?
ทั้งสองบ่นกระปอดกระแปด แต่ไม่วายที่จะรู้สึกอิจฉาบ้านของเจ้าทอมเซียวเซ่อว่าใหญ่โตมากจริงๆ เหมือนจวนอ๋องในละครเลย ภูเขาปลอม สวนดอกไม้ ศาลาพักร้อนและระเบียงยาวราวกับสวนสาธารณะ เกรงว่าต้องใช้คนทำความสะอาดหลายคน!
“สยงมู่มู่ เจ้าของบ้านนี้คือใคร? ทำไมฉันเหมือนเดินเข้าวังเลย!” อู่เชาถามเสียงเบา แอบทึ่งในใจว่าสมแล้วกับเมืองหลวงที่เป็นดินแดนหลบซ่อนของเหล่ามังกรเสือสิงโต ดูท่าทางตระกูลเซียวนี้คงไม่ใช่ตระกูลขนาดเล็กด้วยเช่นกัน!
“รู้จักอาจารย์เซียวเหยี่ยนสินะ? เป็นปู่ของเซียวเซ่อไง พ่อของเธอโด่งดังกว่า เซียวจิ่งหมิง เคยได้ยินมั้ย?” สยงมู่มู่ลดเสียงอธิบายพื้นหลังครอบครัวตระกูลเซียวให้ฟังคร่าว ๆ
อู่เชาไม่เคยได้ยินชื่อเซียวจิ่งหมิงมาก่อนจริงๆ เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องราวฝั่งตะวันตกเท่าไรและไม่ติดตาม แต่เซียวเหยี่ยนเขารู้จัก!
อาจารย์ท่านนี้สุดยอดจริงๆ ไม่ใช่แค่สร้างชื่อเสียงในแวดวงศิลปะสไตล์จีนมาหลายปี แต่ได้สร้างผลงานด้านดนตรี พู่กันจีน เพลงประกอบละครเวที ด้านโบราณคดีต่างๆ ไว้อย่างลึกซึ้ง มีตำแหน่งในวงการศิลปะดนตรี โบราณคดีและศิลปะพู่กันจีนที่ยากจะสั่นคลอนได้ เจ้าอ้วนไม่รู้จักสิแปลก!
อู่เชาเงียบไปชั่วอึดใจ ยืดหลังตรงสง่าขณะเดินในบ้านของอาจารย์เซียว เขาจะทำตัวไม่มีมารยาทไม่ได้!
สยงมู่มู่ไม่สนใจท่าทางนอบน้อมของเพื่อนเลยสักนิด หลุดขำทีพลางเอ่ยขึ้นว่า “นายจะประหม่าไปทำไม อาจารย์เซียวอยู่บ้านดีขนาดนี้ไม่ไหวหรอก เขาอาศัยอยู่สวนชิงหัว”
อู่เชาผ่อนคลายลงทันทีพลันกล่าวตามที่ตนเข้าใจ “ฉันรู้แล้ว ที่นี่เป็นบ้านของเซียวเซ่อกับพ่อแม่ของเธอ”
“เปล่า ที่นี่มีแค่เซียวเซ่ออยู่คนเดียว พ่อแม่เธอมีบ้านเป็นของตัวเอง โอ๊ย เรื่องตระกูลเซียวจะพูดให้เข้าใจสั้นๆ ไม่กี่คำไม่ได้หรอก ไว้คืนนี้ฉันค่อยเล่าให้ฟังละเอียด กลัวว่าสามวันสามคืนก็พูดไม่จบเนี่ยสิ!”
สยงมู่มู่พูดไปส่ายศีรษะไป ไม่ค่อยเห็นด้วยกับคุณหนูใหญ่เฝิงและเซียวจิ่งหมิงเท่าไร!
……………………….
Comments