ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 732 รสนิยมคล้ายกัน + 733 ดูถูก

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 732 รสนิยมคล้ายกัน + 733 ดูถูก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 732 รสนิยมคล้ายกัน

จู่ๆ สยงมู่มู่ก็ชักสังหรณ์ใจไม่ดี ทันใดนั้นบั้นท้ายของเขาก็ถูกวัตถุบางอย่างกระแทกใส่อีกครั้ง  ส่วนไทเฮาที่อยู่ในน้ำกลับทำท่าดีใจอีกหน ร่างใต้น้ำเกลือกกลิ้งไปมาจนเกิดระลอกคลื่นซัดสาด  และมีบางส่วนกระเซ็นมาโดนตัวสยงมู่มู่

สยงมู่มู่กลอกตาใส่ ถือเป็นครั้งแรกที่เห็นงูโง่ขนาดนี้ ตอนนี้เขาไม่ค่อยกลัวไทเฮาแล้ว เขาไม่ได้โง่สักหน่อยสัมผัสได้อยู่แล้วว่าไทเฮาไม่มีเจตนาร้ายกับเขา น่าจะแค่อยากเล่นด้วยเท่านั้น

อีกอย่างเวลาผ่านไปตั้งนานเหมยเหมยกลับไม่คิดทำอะไร บ่งบอกว่าเหมยเหมยรู้ว่าเจ้างูยักษ์โง่ตัวนี้ไม่มีทางทำร้ายเขาได้ ไม่อย่างนั้นจะปล่อยให้เขาเสี่ยงชีวิตได้อย่างไรกันเล่า!

ต้องบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเหมยเหมยดีไม่น้อย อีกอย่างช่วงนี้ไม่ได้ทะเลาะกัน เหมยเหมยไม่มีทางเพิกเฉยไม่ยอมช่วยชีวิตเขาอยู่แล้ว!

เพียงแต่ว่าตัวอะไรกำลังจิ้มบั้นท้ายเขาอยู่ตอนนี้นะ?

คงไม่ใช่งูยักษ์อีกตัวหรอกมั้ง?

ไม่อย่างนั้นเจ้างูโง่ในน้ำจะดีใจขนาดนั้นทำไม ไม่แน่อาจเป็นพวกของมันก็ได้!

คิดได้ดังนั้นสยงมู่มู่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากทีเดียว ทำใจดีสู้เสือหมุนตัวกลับไป

เจ้าอ้วนน้อยที่กินคุกกี้ไปพลางดูเรื่องสนุกไปจู่ ๆ ก็ชี้นิ้วไปบนฝั่งตะโกนขึ้นว่า “ด้านหลังสยงมู่มู่คือตัวอะไรน่ะ? ตัวเขียวๆ ไม่เหมือนต้นไม้เลย!”

เจ้าอ้วนหรี่ตามองอยู่พักใหญ่ น่าสงสารเขาที่สายตาสั้นมองอย่างไรก็มองไม่ชัดว่าตัวสีเขียวนั่นคือตัวอะไร อดถามพวกเหมยเหมยไม่ได้

เซียวเซ่อหันหน้าไปมองแล้วหัวเราะเสียงเบา “ฮ่องเต้มาได้ยังไง!”

เหมยเหมยเองก็ยิ้มตาม “น่าจะเป็นฉิวฉิวที่ล่อมันมา ฉิวฉิวชอบหยอกมันเล่นที่สุดเลย เอ๊ะ ว่าแต่ฮ่องเต้กำลังทำอะไรน่ะ?”

เซียวเซ่อขมวดคิ้วเล็กน้อยและเริ่มไม่พอใจที่เหล่าสัตว์เลี้ยงของตนกำลังรายล้อมตัวสยงมู่มู่อย่างสนุกสนาน ความรู้สึกเหมือนของรักของเธอถูกคนแย่งไป เธอกำลังเตรียมเป่าปากเรียกสัตว์เลี้ยงกลับมาแต่สยงมู่มู่ดันกรีดร้องอย่างตกใจ เจ้าตัวกระโดดสูงสามคืบ อีกครั้ง–

หัวคะมำลงสระน้ำแหวกว่ายมาทางเรือลำเล็กราวกับปลานกกระจอก  และด้านหลังมีไทเฮาตามมาอย่างร่าเริง บนตัวมีอีกัวนาขนาดใหญ่สีเขียวหนึ่งตัว บนหัวอีกัวนากลับสวมหมวกสีขาวใบหนึ่ง นั่นคือฉิวฉิวที่ขยุกขยิกตัวไม่หยุด  โบกมือเต้นรำอย่างมีความสุข ส่ายหางจ้ำม้ำไปมาไม่หยุด

สยงมู่มู่ที่ปวดใจได้แสดงศักยภาพอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ไม่นานก็ว่ายมาถึงขอบเรือแล้วปีนขึ้นตามแนวเรือในสภาพตัวเปียกโชกดูไม่จืด

ในขณะนี้เจ้าอ้วนน้อยได้เห็นสัตว์ประหลาดตัวเขียวชัดเต็มสองตาแล้ว นั่นคืออีกัวนาสีเขียวที่ขนาดตัวยาวเกือบสองเมตร ช่วงลำตัวไม่ค่อยยาวเท่าไร แต่หางกลับยาวถึงหนึ่งเมตร กระโดดลงจากตัวไทเฮาแล้วย่างกรายมาข้างสยงมู่มู่เหมือนเป็นนายท่านยื่นกรงเล็บหน้าเหยียบลงบั้นท้ายของสยงมู่มู่เหมือนเหยียบลูกบอล เห็นได้ชัดว่ามันเห็นสยงมู่มู่เป็นของเล่นไปอีกตัว

เหมยเหมยที่มองอยู่ก็เอะใจ เหล่าสัตว์เลี้ยงของเซียวเซ่อเข้าหาคนง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?

เมื่อก่อนเธอใช้เวลาไปตั้งเกือบครึ่งเดือนถึงจะเล่นกับพวกไทเฮาฮ่องเต้ได้!

แต่สยงมู่มู่เพิ่งมาถึงวันแรกก็ได้รับการต้อนรับจากไทเฮาและฮ่องเต้เป็นอย่างดี การปฏิบัติมันแตกต่างกันเกินไปแล้วนะ!

เซียวเซ่อเองแสดงสีท่าไม่พอใจ กระแทกเสียงเบาใส่ “ฮ่องเต้มานี่!”

ไขมันบนตัวเจ้าอ้วนน้อยสั่นเทิ้ม โอ้โห ที่แท้อีกัวนายักษ์ตัวนี้ก็คือฮ่องเต้นี่เอง!

ก็ได้ เขาไม่อยากรู้แล้วว่าคนสวยอย่างกุ้ยเฟยคือตัวอะไร  คิดว่าคงไม่ใช่ตัวที่น่าประทับใจเท่าไร เด็กผู้หญิงที่ชื่อเซียวเซ่อนี่มีงานอดิเรกที่ช่างแตกต่างจากคนทั่วไปจริงๆ!

เป็นคนประเภทเดียวกับเหมยเหมยอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด รสนิยมเข้ากันดี  ซึ่งต่างก็ชอบสัตว์เลือดเย็นพิสดารเหมือนกัน!

………………..

 ตอนที่ 733 ดูถูก

ฮ่องเต้ได้ยินเสียงเรียกขานจากเจ้าของพลางชักขากลับอย่างจำใจ มนุษย์พวกนี้เล่นด้วยสนุกออก

เซียวเซ่อหยิบเศษกลีบดอกไม้สีทองเหลืองที่ติดอยู่บนตัวฮ่องเต้ออก อยากจะฟาดมือลงบนตัวเขาแรงๆ สักที พลางสบถด่า “ไปแอบกินดอกทานตะวันของฉันอีกแล้วสินะ อยากให้ฉันลงไม้ลงมือนักเหรอ!”

ฮ่องเต้เอาหัวถูตัวเซียวเซ่อเหมือนสุนัขพันธุ์ปั๊กอย่างเอาอกเอาใจ เซียวเซ่อจะทำใจตีเขาลงได้อย่างไรเล่า แค่ตีหน้าขรึมอยู่ครู่เดียวเท่านั้นก็ใจอ่อนอย่างห้ามไม่ได้ หยิบลูกแอปเปิ้ลสีแดงฉ่ำบนโต๊ะโยนใส่ปากฮ่องเต้

รอฮ่องเต้เดินมาเจ้าอ้วนน้อยก็รีบคลานไปอยู่ข้างๆ สยงมู่มู่  ในใจลึกๆ นึกแอบทึ่งเซียวเซ่อกับเหมยเหมย ทั้งที่เป็นสัตว์ตัวใหญ่ที่น่าสะพรึง แต่สองคนนี้กลับหยอกล้อมันเล่นราวกับเป็นลูกหมาตัวน้อย

สยงมู่มู่เหนื่อยจนหมดสภาพ ไม่อยากขยับตัวสักนิด ความรู้สึกโกรธปนเศร้าอัดจุกอยู่ในใจ!

งูเหลือมยักษ์มาก่อนแล้วตามมาด้วยอีกัวนายักษ์ แต่ละตัวจ้องแต่จะรังแกเขา!

คนตั้งมากมีแค่เขาที่ดูอ่อนแอน่ารังแกหรือไงกัน!

“เพื่อนยากยังสบายดีใช่มั้ย? หายใจได้มั้ย?” เจ้าอ้วนน้อยยื่นนิ้ววัดลมหายใจใต้จมูกสยงมู่มู่ รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่หนักหน่วงก็เบาใจลง งับคุกกี้ชิ้นเล็กต่อไป

“เจ้าอ้วนอย่ามัวแต่กินเอง ป้อนฉันหน่อยสิ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!” สยงมู่มู่ว่าอย่างขุ่นเคือง

กินอิ่มถึงจะมีแรง เขาต้องรักษาพลังงานไว้ ใครจะรู้ว่าเซียวเซ่อที่ไม่รู้เป็นเพศไหนจะปล่อยตัวสัตว์ประหลาดอะไรออกมาอีก!

เมื่อครู่สยงมู่มู่เข้าใจทุกอย่างแล้ว งูเหลือมยักษ์กับอีกัวนาเป็นสัตว์เลี้ยงของเซียวเซ่อ เช่นนั้นสัตว์สองตัวนี้ต้องเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของมัน เช่นนั้นเป็นการบ่งบอกอะไรได้อีก?

บ่งบอกว่าสภาพดูไม่จืดของเขาเมื่อครู่เป็นเพราะยัยเซี่ยวเซ่อนี่ทั้งนั้น เหอะ ต้องแก้แค้นที่เขาเพิ่งบอกว่าเธอหน้าตาเหมือนผู้ชายเลยจงใจให้สัตว์เลี้ยงของเธอมาหยอกล้อตัวเขา ผู้หญิงนี่ช่างคิดเล็กคิดน้อยเสียจริงๆ!

เหมยเหมยเริ่มกังวลว่าสยงมู่มู่ที่ตัวเปียกโชกจะเป็นหวัดเลยให้เซียวเซ่อสั่งให้พายเรือกลับฝั่งเพื่อให้พ่อบ้านพาสยงมู่มู่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

“ตอนนี้ฤดูร้อน ถึงจะแช่ในน้ำทั้งวันก็ไม่เป็นหวัดหรอก เราเล่นกันอีกสักแป๊บเถอะ” เซียวเซ่อไม่ยินยอมนัก เธอยังสนุกไม่พอเลย!

“ไม่ได้หรอก พี่ชายของฉันสุขภาพไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ถ้าเป็นหวัดเข้าต้องไอเป็นเดือน หายยากมากนะ เซ่อเซ่อเชื่อฟังหน่อยนะ ให้คุณลุงพายเรือกลับฝั่งเถอะ!”

เหมยเหมยว่าอย่างใจเย็น เห็นว่าสยงมู่มู่ตัวสูงขนาดนี้แต่ความจริงก็เป็นแค่ภาพลักษณ์ภายนอก พอถึงช่วงผลัดเปลี่ยนฤดูจากฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูใบไม้ร่วง หากไม่ระวังก็จะเป็นหวัดได้ง่ายๆ คนอื่นเป็นหวัดอย่างมากแค่น้ำมูกไหลหรือจามนิดหน่อย ทานยาไม่กี่วันก็หาย

แต่สยงมู่มู่กลับไม่ใช่อย่างนั้น ไม่เป็นหวัดก็ไม่เป็นอะไร แต่พอเป็นหวัดก็วุ่นวายกันถ้วนหน้า ไข้ขึ้น พอไข้ลดก็ไอต่อ แถมไม่ใช่ไอธรรมดา ไอชนิดที่แทบเป็นแทบตาย ทานยาอะไรก็ไม่หายจนต้องยืดเวลาไปอย่างน้อยหนึ่งเดือน

จึงเป็นสาเหตุที่ถึงช่วงเปลี่ยนฤดูทุกครั้งจ้าวอิงหนานกับคุณพ่อสยงจะกังวลยิ่งกว่าใคร หนึ่งวันพูดวนซ้ำไปมาสามสิบรอบว่าให้สยงมู่มู่ใส่เสื้อหนาๆ อย่าไปโดนลม

ต่อให้เหมยเหมยให้หมอนี่ทานยาที่ชงด้วยหญ้าวิเศษก็ไม่หายเร็วไปกว่าปกติ ใครให้หมอนี่ร่างกายอ่อนแอล่ะ!คงต้องคอยปรับให้เขาค่อยๆ แข็งแรงขึ้น!

เซียวเซ่อได้ยินว่าสยงมู่มู่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงจึงไม่กล้าประมาท รีบสั่งให้พายเรือกลับขึ้นฝั่งแล้วชำเลืองมองสยงมู่มู่ที่สภาพเหมือนลูกหมาตกน้ำแวบหนึ่ง เบะปากเล็กน้อย พูดอย่างไม่ใส่ใจ “พี่ชายของเธออ่อนแอเกินไป แค่นิ้วเดียวของฉันก็สู้ชนะเขาได้สบายๆ”

เหมยเหมยกลอกตาใส่เธอแวบหนึ่งเป็นเชิงตำหนิ ก็แหงสิ แม่หญิงเซียวทั้งเรียนเทควันโดทั้งเรียนฟันดาบ จะไปเทียบกับคนที่ไม่เคยเรียนอะไรมาก่อนได้อย่างไรกัน?

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด