ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! 60 ชนะอยู่แล้ว

Now you are reading ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! Chapter 60 ชนะอยู่แล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 60 ชนะอยู่แล้ว

คู่ตายายของตระกูลจิ้นไม่ได้สังเกตเห็นความไม่ปกติ พวกเขานั่งกันในห้องรับแขก

ซูชิงหยิงยื่นกล่องใบนึงบนโต๊ะไปให้เสี่ยวเป่า

“เสี่ยวเป่า นี่เป็นของเล่นรถแข่งลิมิเต็ดที่น้าซื้อกลับมาจากต่างประเทศ หนูดูว่าชอบไหม”

คู่ตายายของตระกูลจิ้นรักเสี่ยวเป่าขนาดไหน ซูชิงหยิงรู้ดี เพราะฉะนั้นก็ต้องเอาใจเยอะๆ

เสี่ยวเป่ามองดุรถแข่งแล้วเฉยๆ สีหน้าเขาไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น

เขาไม่อยากได้ของขวัญของเขาสักหน่อย ในใจเสี่ยวเป่ามีน้าสื้อสื้อแค่คนเดียว

คุณหญิงจิ้นรู้อยู่แล้วว่าหลานชายตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เธอรีบออกมาพูดต่อว่า “ขอบคุณนะชิงหยิง เสี่ยวเป่าชอบมาก แต่ไม่ต่อไปถ้ามาไม่ต้องเอาของขวัญแพงๆ มาเยอะขนาดนี้ก็ได้นะ”

“คุณน้าไม่ต้องเกรงใจนะคะ”

ซูชิงหยิงยิ้มที่หน้า แต่ในใจไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น

ดูทรงแล้ว ตระกูลจิ้นคุณชายน้อยก็จัดการยากเหมือนกันนะเนี่ย

พูดคุยกันไปสักพัก คุณหญิงจิ้นก็เริ่มเข้าเรื่องสำคัญ

“เฟิงเฉิน ชิงหยิงเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เตรียมรับมือกับบริษัท”

จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดอะไร แล้วฟังแม่ตัวเองพูดต่อว่า “คุณปู่ซูกลัวว่าประสบการณ์ของเธอไม่มากพอ ก็เลยให้นายหาตำแหน่งในบริษัทให้เธอหนึ่งตำแหน่ง อยากให้นายพาเธอเรียนรู้งาน ให้เธอฝึกเยอะๆ นายไม่มีปัญหาใช่ไหม?”

จิ้นเฟิงเฉินพูด “เดี๋ยวผมให้ผู้ช่วยจัดการครับ”

พอได้ยินเช่นนี้ ซูชิงหยิงก็แอบยิ้ม

“เฟิงเฉิน รบกวนนายด้วยนะ”

จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบเธอ เขาดูนาฬิกาแล้วพูดว่า “พ่อครับแม่ครับ เดี๋ยวผมมีเรื่องต้องจัดการหน่อย คืนนี้ให้เสี่ยวเป่าอยู่ที่นี่นะครับ”

พูดเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นเตรียมออกจากบ้านไป

ให้เสี่ยวเป่าอยู่ที่นี่ คุณหญิงจิ้นพยักหน้าตอบรับแบบมีความสุข

ขณะเดียวกัน ซูชิงหยิงเองก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “คุณน้าคุณลุงคะ นี่ก็ดึกแล้ว หนูขอตัวก่อนนะคะ วันหน้าไว้มาเยี่ยมใหม่นะคะ”

“อื้ม รอบหน้าไม่ต้องเอาของมาเยอะขนาดนี้นะ เฟิงเฉิน นายไปส่งชิงหยิงกลับไปด้วยนะ”

จิ้นเฟิงเฉินเบะปากเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

เขาสองคนออกจากบ้านตระกูลจิ้นมาพร้อมกัน

ในรถที่บรรยากาศเงียบๆ สายตาของซูชิงหยิงมองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน เธอเอ่ยปากถามเขาว่า “เฟิงเฉิน ที่ผ่านมานายสบายดีไหม?”

“ก็ดีนะ” จิ้นเฟิงเฉินตอบ น้ำเสียงเฉยชามาก

ซูชิงหยิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ทำไมเขาถึงไม่ถามกลับมาบ้างมาตัวเองสบายดีไหม?

จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดอะไรต่อ ซูชิงหยิงก็ยังไม่ตายใจ พยายามหาเรื่องคุยต่อ

“เอ้อ ถ้าฉันไปทำงานที่บริษัทนาย มีตรงไหนที่ฉันทำผิดนายว่าฉันได้เลยนะ ไม่ต้องเกร็งใจที่เราเป็นเพื่อนกัน”

“อื้ม ไม่หรอกครับ”

เห็นว่าท่าทีของเขายังคงเย็นชาใส่เธอ ซูชิงหยิงถอดหายใจ

หลังจากนั้นก็พยายามหาเรื่องคุยเพื่อให้ได้คุยกับจิ้นเฟิงเฉิน แต่จิ้นเฟิงเฉินไม่ค่อยพูดเลย สักพักก็ไปถึงตระกูลซูแล้ว ซูชิงหยิงมองหน้าจิ้นเฟิงเฉินเธอไม่อยากจากกับเขา แต่เธอก็ยังคงความเป็นกุลสตรีอยู่ เธอเอ่ยปากถามว่า “เข้าไปนั่งหน่อยไหม วันนี้คุณปู่พูดถึงนายให้ฉันฟังด้วยนะ”

จิ้นเฟิงเฉินตอบกลับไปว่า “ไม่ดีกว่า ฉันยังมีเรื่องที่จัดการไม่เสร็จรอบหน้าค่อยมาเยี่ยมคุณปู่”

ซูชิงหยิงได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดให้อยู่ต่อ

“ก็ได้ งั้นนายขับรถระวังด้วยนะ”

เธอค่อยๆ ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วลงจากรถ มองดูรถค่อยๆ ขับออกไป ซูชิงหยิงยืนถอดหายใจอยู่ที่เดิม

ตอนเด็กๆ ที่ไปบ้านตระกูลจิ้น จิ้นเฟิงเฉินก็เย็นชากับตัวเอง หลายปีผ่านไปก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ

แต่ตอนนี้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเก่าอีก

ซูชิงหยิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอชอบจิ้นเฟิงเฉินตั้งแต่เมื่อไหร่

เมื่อก่อนเธอรู้สึกโชคดีมาก ที่ตัวเองเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้อยู่ใกล้เขา

หลังจากที่เธอไปเรียนต่างประเทศ ซูชิงหยิงก็คอยติดตามจิ้นเฟิงเฉินตลอด

ได้ข่าวว่าเขาเก็บหน่วยกิตทั้งหมดครบตั้งแต่อยู่ปี2 แล้วก็รับมือบริษัทต่อ

หลังจากที่เขารับช่วงต่อจิ้นกรุ๊ป ด้านต่างๆ ของบริษัทก็แข็งแกร่งขึ้น จนได้เป็นธุรกิจที่อยู่อันดับต้นๆ ของประเทศ

เรื่องของเขาถูกเขียนบนหนังสือพิมพ์ของต่างประเทศ

ตอนนั้นซูชิงหยิงก็แน่ใจแล้วว่า ผู้ชายที่เก่งแบบเขานี่แหละที่เหมาะสมกับเธอมากที่สุด

ซูชิงหยิงฝึกเรียนรู้เรื่องต่างๆ ก็เพื่อจะได้ใกล้เจิ้นเฟิงเฉินมากขึ้น

ใต้แสงไฟ สีหน้าเธอดูเหี่ยวเฉาเล็กน้อย เธอมองไปทางที่รถขับออกไปแล้วคิดในใจว่า ซูชิงหยิงอีกไม่กี่วันตัวเองก็จะได้เข้าไปทำงานที่จิ้นกรุ๊ป ถึงตอนนั้นเขาสองคนก็คงได้รู้จักกันมากขึ้น ตอนนี้ก็ยังไม่ต้องรีบก็ได้

ไม่ว่ายังไงการกลับมาครั้งนี้ เธอต้องชนะอยู่แล้ว

…………………………..

ส่วนทางนี้ หลังจากที่เจียงสื้อสื้ออาบน้ำเสร็จ เธอก็เปิดอัลบั้มในโทรศัพท์มาดู

มีรูปของเสี่ยวเป่า จิ้นเฟิงเฉิน แล้วก็รูปที่ครูถ่ายตอนทำกิจกรรม

มองดูรูปต่างๆ สายตาของเจียงสื้อสื้อก็อบอุ่นขึ้นมาทันใด

แล้วหลานชิ่งก็โผล่เข้ามาในหัว

ตระกูลหลาน ตระกูลเจียง………….แล้วก็เรื่องตอนนั้น

เจียงสื้อสื้อถอดหายใจ ตาเธอปริแสงไฟเล็กน้อย ตัวเองกับจิ้นเฟิงเฉินจะไปด้วยกันได้ในที่สุดจริงหรือ?

เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เป็นเหมือนฝันเลย เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าฝันนี้จะตื่นอยู่ตลอดเวลา

แต่ตอนนี้เธอกลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะหลุดเข้าไปแล้วดึงตัวเองกลับมาไม่ได้…..

ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน เจียงสื้อสื้อถึงจะหลับตาลงนอน

………………………

วันที่สองเจียงสื้อสื้อตื่นมาทำธุระตอนเช้าเสร็จ แล้วเธอก็มาทำงานตามปกติ

บริษัทจิ่นซื่อเรียกพนักงานมาประชุม เจียงสื้อสื้อเป็นพนักงานของบริษัทก็ต้องเข้าร่วมด้วย

บริษัทบริษัทจิ่นซื่อเองมีการวางแผนขนาดใหญ่อยู่แล้ว

รวมไปถึงทั้งโฆษณา การขาย กิจกรรม การฉลองต่างๆ นาๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน….

เนื้อหาการประชุมครั้งนี้หลักๆ คือ บริษัทเตรียมร่วมงานกับแบรนด์ที่เกิดใหม่ที่ทำพวกชุดเจ้าสาวโดยเฉพาะ ชื่อแบรนด์ชื่อว่าหยุนซาน

ซูซานใส่เสื้อทางการแล้วยืนพูดอยู่กลางห้องประชุมว่า “หลายวันก่อนเราได้รับแจ้งว่า หยุนซานเปิดตลาดเอเชีย เขากำลังหาบริษัทการออกแบบวางแผนงานมาช่วยโปรโมทสินค้าของพวกเขา”

“ผู้จัดการซูพวกเราต้องเอาโปรเจ็กนี้มาให้ได้ใช่ไหมคะ?”

ซูซานพยักหน้า

ถึงแม่ว่าหยุนซานจะจัดตั้งขึ้นมาไม่นาน แต่ไม่ได้ไม่มีชื่อเสียง ทางกลับกัน คนที่สั่งจองชุดเจ้าสาวกับพวกเขามีเยอะมาก แบบชุดยังได้ขึ้นนิติยาสารแฟชั่นมาหลายครั้ง

“รอบนี้เรามีคู่แข่งที่ขนาดใหญ่จะมาแย่งโปรเจคนี้ เพราะฉะนั้นเราต้องไม่ล่าช้า ต้องเอางานออกแบบวางแผนที่ดีที่สุดออกมา ให้หยุนซานรู้สึกพอใจแล้วร่วมงานกับเรา”

ทุกคนต่างพยักหน้า

โปรเจคงานวันเดินเสี่ยวเป่าทำเสร็จไปแล้ว ตอนนี้เจียงสื้อสื้อไม่มีงาน เพราะฉะนั้นโปรเจ็กหยุนซานเธอก็ต้องเข้าร่วมด้วย แบรนด์ชุดแต่งงานหรือ? เจียงสื้อสื้อก้มหน้าลง เธอกำลังคิดว่าทำงานชิ้นนี้ยังไงดี

ซูซานพูดต่ออีกว่า “เดี๋ยวฉันจะส่งเอกสารหลักไปที่เมลของทุกคนนะคะ พวกคุณเตรียมงานนี้ได้เลย การประชุมจบเพียงเท่านี้ค่ะ”

พอพูดจบ เจียงสื้อสื้อลุกออกจากห้องประชุมไปพร้อมคนอื่นๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด