ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! 68 ผมสอนคุณเอง

Now you are reading ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! Chapter 68 ผมสอนคุณเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 68 ผมสอนคุณเอง

ซูชิงหยิงก้าวเท้าเดินขึ้นไปบนเวที เธอกวาดสายตามองทุกคน แล้วยิ้มอย่างสง่าความด้วยความมั่นใจ ต่อมาก็เริ่มพูดแนะนำตัวเอง

“สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่านค่ะ ดิฉันคือซูชิงหยิง”

คนล่างเวทีพากันจ้องมองเธอ เหล่าคุณชายจากตระกูลร่ำรวยต่างจ้องมองด้วยแววตาหลงใหล ส่วนผู้ใหญ่ต่างก็มองเธอด้วยความชื่นชม เจียงสื้อสื้อยืนอยู่ข้างล่างเวที สักพักก็รู้สึกมึนงงไม่น้อย ไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึกว่าสถานะของตนเองกับซูชิงหยิงต่างกันราวฟ้ากับเหว

ซูชิงหยิงดูราวกับเจ้าหญิง ไม่เพียงแต่หน้าตาดี การศึกษาดี ภูมิหลังครอบครัวก็ดีด้วย

แต่ตัวเองนั้น……ก็แค่เด็กคนหนึ่งที่ถูกครอบครัวไล่ออกมาจากบ้าน ยอมคลอดลูกให้กับคนอื่นเพื่อเงิน

เจียงสื้อสื้อมองต่ำลง ตะกี้ก็ได้ยินมาจากปากของจิ้นเฟิงเหราว่า ซูชิงหยิงกับจิ้นเฟิงเฉินรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งสองตระกูลเป็นพันธมิตรกัน

เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม มันรู้สึกอัดอั้นตันใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ

เจียงสื้อสื้อหันไปมองจิ้นเฟิงเฉินที่อยู่แถวนั้น ตอนแรกเธอนึกว่าเขากำลังมองซูชิงหยิงที่อยู่บนเวทีเหมือนกับคนอื่นๆ แต่คิดไม่ถึงว่าเขากลับกำลังมองมาที่ตนเองอยู่

ทั้งสองสบตากัน เจียงสื้อสื้ออึ้งตะลึงทันที ก่อนจะรีบหันสายตาไปมองทางอื่นอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ซูชิงหยิงแนะนำตัวเองบนเวทีเสร็จ ก็พูดต่ออีกสองสามประโยค จากนั้นก็ให้ทุกคนมีความสุขและสนุกกับงานในคืนนี้ ก่อนจะเดินลงมา

……

ในงานเลี้ยง มีเสียงดนตรีที่แสนไพเราะดังขึ้น ชายหญิงไม่น้อยต่างพากันเดินเข้าไปที่ฟลอร์เต้นรำ

เจียงสื้อสื้อที่ตอนแรกกะจะหาที่สักที่หนึ่งนั่งลงสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าจิ้นเฟิงเหราที่อยู่แถวนั้นกลับพูดขึ้นมา“คุณเจียง ไปเต้นด้วยกันสักเพลงไหม?”

“หือ?”เจียงสื้อสื้อชะงักเล็กน้อย ก่อนจะรีบเอ่ยปากตอบปฏิเสธ“ไม่ไหวๆ ฉันเต้นไม่เป็น คุณชายรองไปหาคนอื่นเต้นด้วยเถอะค่ะ?”

“ไม่เป็นไร ผมจะสอนคุณเอง”

หลังจากพูดเสร็จ จิ้นเฟิงเหราก็หันไปส่งสัญญาณให้กับพี่ชายของเขาหนึ่งที เขาไม่สนใจคำปฏิเสธของเจียงสื้อสื้อ จากนั้นก็ลากเธอเข้าไปที่ฟลอร์เต้นรำ

“เดี๋ยวสิ คุณชายรองจิ้น……”

เจียงสื้อสื้อหมดคำที่จะพูด คิดอยากจะลากเธอมาก็ลากเลยอย่างนั้นเหรอ ให้เธอตอบตกลงก่อนจะตายหรือไง!

ซูชิงหยิงที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม หันไปมองจิ้นเฟิงเฉินพร้อมกับพูดขึ้น“เฟิงเฉิน ไปเต้นรำด้วยกันไหม?”

สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวังและความรัก

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว ตอนแรกกะที่จะปฏิเสธ แต่เห็นเจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเหราที่อยู่ในฟลอร์เต้นรำ เขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตอบรับคำเชิญชวนของซูชิงหยิง

ตอนแรกซูชิงหยิงนึกว่าเขาจะปฏิเสธ แต่คิดไม่ถึงว่าจะตอบตกลง เธอยกมุมปากยิ้มๆ

ทั้งสองเดินเข้าไปในฟลอร์แล้วเริ่มเต้นรำกัน เพื่อพัฒนาทักษะของตัวเอง ซูชิงหยิงได้เรียนการเต้นประเภทต่างๆตั้งแต่เด็กๆ

จึงทำให้ทุกๆก้าวเดินดูสง่างามมาก

ทั้งคู่เหมาะสมดั่งกิ่งทองใบหยก ทำให้ผู้คนแถวๆนั้นกลายเป็นตัวประกอบของพวกเขา ทุกคนต่างพากันเอ่ยปากชม

“ว้าวๆๆ คุณชายจิ้นหล่อจังเลย!คุณซูก็สวยมากๆ ทั้งสองคือคู่ที่ฟ้าส่งมาคู่กันชัดๆ!”

“ครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นคุณชายจิ้นมาเต้นรำในงานเลี้ยงแบบนี้ ในงานเลี้ยงก่อนหน้านี้มีคุณหนูมากมายมาเชิญเขาให้เต้นรำด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับไปทุกคน”

“ดูทรงแล้วคงจะชอบคุณซูล่ะสิ? ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ถึงไม่ยอมมีแฟนสักที”

……

คุณท่านซูที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นภาพภาพนี้ก็หน้าตายิ้มแย้ม ดูๆแล้ว จิ้นเฟิงเฉินคนนี้ก็มีความรู้สึกให้กับหลานสาวของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ว่ายังขาดโอกาสที่จะยืนยันความสัมพันธ์ คืนนี้ก็ไม่เลวเลยนี่นา

คุณท่านหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

พอได้ยินเสียงซุบซิบกันของทุกคน โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินว่าจิ้นเฟิงเฉินชอบตนเอง ซูชิงหยิงก็ก้มหัวลง สีหน้าแดงเล็กน้อย เธอชำเลืองตาไปมองจิ้นฟิงเฉิน ก่อนจะพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มๆ“เฟิงเฉิน หลายปีมานี้ คุณยังคงเต้นรำเก่งอยู่เหมือนเดิมเลยนะ”

ตอนวันเกิดครบสิบแปดปีของซูชิงหยิง ก็เคยเต้นรำกับจิ้นเฟิงเฉินแล้ว ในงานเลี้ยงเมื่อตอนนั้น เธอได้เชิญจิ้นเฟิงเฉิน ต่อหน้าคนเยอะแยะมากมาย แถมเป็นวันเกิดครบสิบแปดปีของเธอด้วย จิ้นเฟิงเฉินจึงไม่กล้าปฏิเสธ ก็เลยตอบตกลงไป

พอได้ยินที่เธอพูด จิ้นเฟิงเฉินก็ตอบกลับไปแบบลวกๆ

“อื้อ คุณก็ไม่เลวเลย”

พอได้ยินแบบนั้น ไม่ต้องบอกว่าในใจของซูชิงหยิงรู้สึกดีใจแค่ไหน เพราะว่ารู้สึกเขินอายไม่น้อย จึงไม่ได้มองตาของจิ้นเฟิงเฉิน ก็เลยไม่เห็นว่าตอนนี้สายตาของฝ่ายชายกำลังจ้องมองไปยังคนคนหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป……

เจียงสื้อสื้อดูเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอเต้นไม่เป็นเลยสักนิด

เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในตระกูลเจียง เสิ่นซูหลันจงใจที่ปิดกั้นไม่ให้เจียงสื้อสื้อได้เข้าสังคมเลย เวลามีงานเลี้ยง งานเต้นรำ ปกติแล้วเธอก็แทบไม่ได้เข้าร่วม พอหลังจากออกมาจากตระกูลเจียงแล้ว ก็ดันมายุ่งเรื่องงานกับอาการป่วยของแม่ จึงทำให้ยิ่งไม่มีโอกาสได้ไปเรียน ดังนั้นการเต้นรำในงานสังคมอะไรพวกนี้ เจียงสื้อสื้อแทบจะไม่เป็นเลย

จิ้นเฟิงเหราก็รู้สึกแปลกใจ เจียงสื้อสื้อบอกว่าเติบโตมาในตระกูลเจียงตั้งแต่เด็กๆ ก่อนหน้านี้เขายังนึกอยู่เลยว่าเธอไม่อยากเต้นรำกับตนเองก็เลยโกหกว่าเต้นไม่เป็น คิดไม่ถึงว่าจะเต้นไม่เป็นจริงๆ

“คุณชายรองจิ้น คุณดูสิคุณสอนฉันมาสักพักหนึ่งแล้วฉันก็ยังคงเต้นไม่ได้ ฉันว่าคุณไปเต้นกับคนอื่นดีกว่านะ”

“ไม่ได้ คุณเป็นคู่ควงของผม ผมจะไปหาคนอื่นได้ยังไง”จิ้นเฟิงเหรายิ้มๆ จากนั้นก็พูดขึ้นต่อ“วางใจได้!มันง่ายนิดเดียว เรียนอีกหน่อยก็เป็นแล้วล่ะ”

พูดพราง จิ้นเฟิงเหราก็เริ่มสอนเจียงสื้อสื้อเต้นรำต่อ

เจียงสื้อสื้อทำได้แค่เรียนตามเขาไป พยายามทำตามที่เขาบอก แต่ถึงยังไงมันก็เป็นครั้งแรกของเธอ จู่ๆเท้าของคุณชายรองจิ้นก็ถูกเหยียบเข้าไปเต็มแรง

ส้นสูงเหยียบอยู่บนเท้าของตนเอง จิ้นเฟิงเหรากลั้นเสียงร้องเอาไว้ สีหน้าของเขาบอกได้เลยว่ากำลังน้ำตาตกใน

แต่ช่วยไม่ได้นี่เป็นพี่สะใภ้ของเขา เขากล้าพูดอะไรที่ไหนล่ะ!

เจียงสื้อสื้อรู้สึกอึดอัดไม่ไหวแล้ว“ช่างเถอะ!คุณชายรองจิ้น ฉันว่าคุณเลิกสอนฉันดีกว่า ขืนคุณยังสอนฉันต่อ เกรงว่าพรุ่งนี้คุณคงจะเดินไม่เป็นปกติแน่นอน……”

จิ้นเฟิงเหราสีหน้าข่มขืน ตอนแรกเขาวางแผนว่าพอเต้นไปสักพัก จะส่งเจียงสื้อสื้อต่อให้กับพี่ชายของเขา

แต่ผลที่ได้กลับคิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้ของเขาจะเท้าหนักขนาดนี้!

เพื่อความสุขของพี่ชายของเขา ตนเองต้องเสียสละมากจริงๆ

กลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ จิ้นเฟิงเหรากัดฟันพูดขึ้น“ไม่เป็นไร ลองใหม่”

เจียงสื้อสื้อจ้องมองเขา สักพักก็รู้สึกเป็นห่วง คุณชายรองคนนี้ทำไมถึงดื้อด้านขนาดนี้นะ!ถูกเหยียบจนมีสภาพนี้แล้วยังจะเอาใหม่อยู่อีก……

แต่ว่าเขาอุส่าพูดขนาดนี้แล้ว เจียงสื้อสื้อก็ค่อยๆเรียนอย่างระมัดระวัง พยายามไม่ให้เท้าไปเหยียบเขาอีก เต้นไปเต้นมา จิ้นเฟิงเหราก็ให้เธอหมุนตัวหนึ่งรอบ วินาทีต่อมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็รู้สึกตัวเองเหมือนกำลังถูกผลักออกไป เจียงสื้อสื้อตกใจหน้าถอดสี ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ

หลังจากดึงสติกลับมา จู่ๆตัวเธอก็เข้าไปประกบแผ่นอกที่แข็งแรงของคนคนหนึ่งเข้า

ผู้ชายที่หน้าตาดูคุ้นเคยโผเข้ามาหาเธอ

เจียงสื้อสื้อเงยหน้ามองขึ้นด้วยความอึ้งตะลึง สบตาเข้ากับจิ้นเฟิงเฉินพอดี เขาโอบเอวของเธอไว้ เสียงทุ้มต่ำถามขึ้น“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เจียงสื้อสื้ออึ้งไปสองวินาที ก่อนจะดึงสติกลับมาแล้วส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ”

เธอมองออกไปไม่ไกล คู่เต้นของจิ้นเฟิงเหราก็เปลี่ยนไปเป็นซูชิงหยิงเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

ในขณะนี้ ซูชิงหยิงก็มองมาทางนี้ด้วยความตกตะลึงเช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่ายังไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา

เจียงสื้อสื้อพูดอะไรไม่ออก

จิ้นเฟิงเหราคนนี้……ต้องจงใจแน่ๆ

ในขณะนี้ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาผ่านหัวของเธอ

“เต้นต่อเถอะ เดี๋ยวผมสอนคุณเอง”

ได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด