ลูกพลับสีหม่น (Mpreg) 9 ชวนไปกินข้าว
หลังจากวันนั้นแทนไทก็ไม่แยแสลูกพลับอีกเลย เพราะเขาเกลียดความรู้สึกของตัวเองที่มองเด็กคนนั้นด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป จากเคยเกลียดตุ๊ดกลับเป็นรู้สึกเฉย ๆ ออกจะชอบสัมผัสตัวด้วยซ้ำ เขาพยายามทำเป็นไม่สนใจเวลาที่พบเจอกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือมหาวิทยาลัย ใช้ชีวิตหนุ่มโสดสุดฮอตเหมือนแต่ก่อน ควงหญิงเข้าโรงแรมม่านรูดไม่ซ้ำหน้าเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกบ้า ๆ พวกนั้นออกจากหัว
แต่นั่นเป็นเรื่องดีสำหรับลูกพลับ เพราะไม่ต้องมีคนมาก่อกวนให้รู้สึกรำคาญ แม้จะรู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆ แทนไทก็ไม่มาตามรังควานเหมือนก่อนหน้านี้ อาจเป็นเพราะคำสัญญาที่เคยให้ไว้ในวันแรกที่เกิดเรื่อง อีกฝ่ายคงกลัวว่าความลับจะผูกเปิดเผย กลัวว่าสาว ๆ แฟนคลับทั้งหลายจะเลิกชื่นชอบสินะ คิดแล้วก็ส่ายหน้าเพื่อสลัดความคิดไร้สาระพวกนี้ออกจากหัว
ในช่วงที่แทนไทไม่มาก่อกวน กลับมีใครบางคนเข้ามาขายขนมจีบอย่างไม่หยุดหย่อน คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจตน์ หลังจากทานข้าวด้วยกันในวันนั้นแล้วก็เร่งทำคะแนนมาเรื่อย ๆ มาหาที่มหาวิทยาลัยบ่อย ๆ ชวนไปทานข้าว ชวนไปดูหนังสองต่อสอง ตอนแรกลูกพลับก็ปฏิเสธบ้าง แต่นานเข้าก็รู้สึกคุ้นเคยกันจึงได้แต่เออออตาม มันก็ดีเหมือนกันจะได้มีกิจกรรมทำเพื่อไม่ให้คิดมากกับเรื่องไร้สาระ
วันนี้เพื่อนรักอย่างฮ่องเต้มีนัดกับแฟนหนุ่ม หลังจากเรียนคาบวิชาสุดท้ายของวันจบลงแล้ว ลูกพลับจึงเดินออกมาที่หน้ามหาวิทยาลัยเพื่อขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ทว่าในจังหวะนั้นก็เห็นรถคันหรูที่คุ้นตาเป็นอย่างดีของแทนไทขับมาจอดตรงหน้านักศึกษาสาวคนหนึ่ง ลูบพลับหยุดชะงักยืนมองอย่างไม่ได้ตั้งใจ แทนไทลงจากรถเพื่อมาเปิดประตูให้คู่ควงคนใหม่ ในจังหวะนั้นทั้งสองสบตากันอย่างบังเอิญ แทนไทชะงักเล็กน้อยราวกับเห็นเจ้ากรรมนายเวร รีบหันหน้าหนีแล้วส่งยิ้มให้เธอคนนั้น เปิดประตูรถส่งเธอเข้าไปนั่งแล้วกลับมาขึ้นรถฝั่งคนขับ
ทุกอิริยาบถของชายหนุ่มสะท้อนเข้ามาในหน่วยตาคู่สวย เหตุใดจึงรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เขาเกลียดนายนั่นมาก ต้องรู้สึกดีที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจตนเองแล้ว มันควรจะรู้สึกอย่างนั้นมิใช่หรือ
ปี๊บ ๆ
เสียงแตรรถทำให้ลูกพลับสะดุ้งโหยง หลุดจากห้วงความคิด หันไปมองรอบตัวก็พบว่ามีรถคันหนึ่งจอดอยู่ด้านหลัง คนขับเปิดกระจกรถแล้วโบกมือให้ แถมรอยยิ้มหล่อ ๆ มาพร้อมด้วยอีกต่างหาก
“น้องพลับทางนี้ครับ”
“เฮียเจตน์”
เมื่อรู้ว่าเป็นใครก็เดินยิ้มเข้าไปหา ปกติแล้วหากจะชวนไปไหนเจตน์มักจะแจ้งล่วงหน้าเสมอ ครั้งนี้คงบังเอิญมาพบกัน ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกก็ว่าได้
“น้องพลับจะไปไหนเหรอครับ”
“ผมจะกลับบ้านครับ แล้วเฮียเจตน์มาทำอะไรแถวนี้ครับ อย่าบอกนะว่ามาเหล่สาว ๆ แถวนี้”
“เปล่าสักหน่อย ถ้าจะเหล่ก็น้องพลับนั่นล่ะ เฮียตั้งใจมาหาน้องพลับกะว่าจะชวนไปกินข้าวด้วยกัน”
“อ้าว ทำไมวันนี้ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย อีกอย่างถ้าชวนเร็วกว่านี้คงได้ไปพร้อมกับฮ่องเต้และพี่กายแล้ว”
“เฮียขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน ขึ้นรถเร็วค่อยว่ากันอีกที”
“ก็ได้ครับ”
ลูกพลับยอมขึ้นรถไปอย่างไม่ได้คิดอะไร ระหว่างทางเจตน์ก็ชวนคุยเหมือนเช่นเคย อีกฝ่ายรบเร้าให้ไปทานมื้อเย็นด้วยกันอยู่นานจนลูกพลับทนลูกอ้อนไม่ไหว ตัดสินใจโทรบอกป้าปิ่นว่าวันนี้อาจจะกลับดึกหน่อยเพราะมีนัดทานข้าวกับรุ่นพี่ เพื่อทำให้ท่านสบายใจ
ภัตตาคารหรูบนตึกสูงระฟ้าคือจุดหมายปลายทางของวันนี้ ลูกพลับเดินเคียงข้างหนุ่มหล่อสมาร์ตเข้าไปอย่างประหม่า สังเกตลูกค้าที่มาใช้บริการมีแต่คนในแวดวงสังคมไฮโซเท่านั้น เขาเป็นเพียงหลานของแม่บ้าน ถึงคนอื่นจะไม่รู้แต่ก็อดคิดไม่ได้
ทั้งสองนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของร้านซึ่งสามารถมองเห็นภาพมุมสูงของเมืองกรุงในช่วงพลบค่ำได้อย่างงดงาม ลูกพลับตื่นตากับภาพที่เห็น เอาแต่หันไปมองพร้อมทั้งถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย เจตน์มองดูความน่ารักอยู่อย่างนั้นไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ แค่มองดูก็ทำให้ยิ้มได้และรู้สึกเพลินตา เขาหลงเด็กคนนี้จนคิดอยากจะเป็นเจ้าของให้ได้ เหมือนที่เคยทำกับคนอื่น ๆ ที่เคยคบหา
“ที่นี่เป็นร้านโปรดของเฮียกับครอบครัวเลยนะครับ ปกติเฮียไม่เคยพาใครมาเลย”
Comments