วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1000 เธอไม่มีปัญญาโด่งดังเองจนบ้าไปแล้วหรือไง

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1000 เธอไม่มีปัญญาโด่งดังเองจนบ้าไปแล้วหรือไง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฉันไม่เห็นว่าเธอจะมีดีตรงไหนเลย”

“ฉันลาออกแล้วค่ะ มาพูดอย่างนี้กับฉันไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ต่อไปนี้คุณก็จะเป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ” ถังอี้เฉินเหยียดยิ้ม “อย่าบอกนะคะว่าคุณก็ยังไม่สบายใจถึงฉันจะไม่อยู่น่ะค่ะ”

“เธอก็ตัดสินใจถูกแล้วนี่ ยังไงก็ไม่มีใครแย่งของที่ฉันต้องการไปได้หรอก”

ถังอี้เฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา หากลู่กวงหลีล่อลวงง่ายขนาดนั้นเขาคงจะไม่อยู่ตัวคนเดียวแบบนี้

“โชคดีแล้วกันนะคะ”

สิ้นคำ ถังอี้เฉินเดินผ่านอีกฝ่ายจากไป ทว่าในจังหวะที่พวกเธอสวนกัน ลูกสาวผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลับว่าสำทับ “พอถึงเวลาฉันจะเชิญเธอไปงานแต่งงานของเราแล้วกันนะ”

อย่างไรก็ตามเธอคงไม่อาจคว้าโอกาสนั้นไว้ได้อีกแล้ว เพราะลู่กวงหลีได้ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังพวกเธอ เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดกัน เขาเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวทั้งสองคนก่อนคว้าแขนถังอี้เฉินและประกบจูบลงบนริมฝีปากของเธอต่อหน้าทุกคน…

“โว้ว…”

ผู้คนต่างส่งเสียงอย่างแตกตื่นเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่ถังอี้เฉินยังนิ่งค้างไป

ไม่นานหลังจากนั้น เขาผละออกมาจากเธอพร้อมรอยยิ้มบางที่หลงเหลืออยู่ “เธอควรจะหลับตาตอนที่ฉันจูบเธอไม่ใช่หรือไง”

ถังอี้เฉินตกตะลึงจนไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร

ลู่กวงหลีรั้งกายเธอเข้ามาในอ้อมแขนก่อนเอ่ยกับลูกสาวผู้อำนวยการ “ไหนๆ ถังอี้เฉินก็ลาออกแล้ว คงไม่จำเป็นต้องปกปิดความสัมพันธ์ของเราอีกแล้วล่ะครับ”

“เราไปมีความสัมพันธ์อะไรกันไม่ทราบ” ถังอี้เฉินพยายามสะบัดตัวออก

“แล้วเธอคิดว่าอะไรล่ะ” เขาถามเสียงเข้ม เธอไม่ตอบพลางก้มหน้างุด

“นอกจากเธอแล้วฉันเคยจูบแค่กับหมาที่บ้านนะ…”

“ไม่จริง พวกคุณจะมีความสัมพันธ์ อย่างนั้น กันได้ยังไง” ลูกสาวผู้อำนวยการท้วงขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ “เห็นๆ กันอยู่ว่าพวกคุณไม่ได้…”

“เราต้องรายงานเรื่องส่วนตัวกับคุณด้วยหรือยังไงครับ” เขาถามกลับอย่างเยาะเย้ยก่อนหันไปมองหน้าถังอี้เฉิน “เธอไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะตามไปหาคืนนี้”

ถังอี้เฉินหลบออกไปทันที เธอไม่รู้ว่าลู่กวงหลีกำลังคิดทำอะไรอยู่

ชายคนนี้อันตรายเกินไป เธอต้องอยู่ให้ห่างจากเขาที่สุดเท่าที่จะทำได้

เป็นเรื่องปกติที่ถังอี้เฉินผู้ไม่สนโลก แท้จริงแล้วจะนึกขี้ขลาดเมื่อเป็นเรื่องของความรัก เมื่อคนอื่นแผ่รังสีอันตรายออกมาแม้เพียงนิดเธอก็จะหลบหนีไปซ่อนทันที

ลู่กวงหลีรู้ดีว่าถังอี้เฉินเป็นคนอย่างไร เขาจึงตัดสินใจอ้างสิทธิ์ในตัวเธอก่อนที่เจ้าตัวจะยอมทำตามความต้องการของตระกูลถังและแต่งงานกับคุณชายเศรษฐี

ความจริงแล้วเขาคิดถูก เพราะถังอี้เฉินคิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ เธอได้วางแผนจะอยู่ให้ห่างตัวเองจากลู่กวงหลีอย่างเด็ดขาด

“แล้วมาดูกันว่าครั้งนี้เธอจะหนีฉันไปได้ยังไง”

หลังจากกลับมาที่โรงพยาบาลของอาจารย์หมอ ใบหน้าของถังอี้เฉินขึ้นสีแดงระเรื่อพร้อมภาพของลู่ กวงหลีและจูบของพวกเขาที่ลอยวนเวียนอยู่ในหัวอย่างสลัดไม่ออก

ถังหนิงสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอจึงเอ่ยถาม “ตั้งแต่กลับมาเธอก็ทำตัวแปลกๆ ไปนะ คิดอะไรอยู่ หน้าแดงอะไรขนาดนั้นกัน”

“ไม่มีอะไรหรอก” ถังอี้เฉินกระแอมในลำคอและหันไปสนใจกับข้อมูลของถังหนิง “เราจะทดสอบกับเธอพรุ่งนี้ว่าเธอพร้อมกับการผ่าตัดไหม คืนนี้ก็นอนเร็วสักหน่อยดีกว่านะ”

ถังหนิงพยักหน้า

“ไม่ต้องห่วงนะ มันมีความเสี่ยงแน่อยู่แล้วล่ะ แต่อาจารย์ของฉันจะช่วยให้ควบคุมทุกอย่างเอาไว้เอง”

ถังหนิงพยักหน้ารับอีกครั้ง

ความจริงแล้วการผ่าตัดของถังหนิงไม่ใช่เรื่องใหญ่โต และเธอไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงขนาดนั้น ในเมื่อเธอฝากชีวิตไว้ในมือหมอแล้ว การกังวลเกินเหตุจึงไม่ได้ส่งผลดีกับเธอและลูก

คืนก่อนการผ่าตัด โม่ถิงมาถึงพร้อมกับซย่าอวี้หลิงและเจ้าตัวแสบทั้งสองคนเพื่อให้กำลังใจ

พี่ชายคนโต โม่จื่อซี มีท่าทีงุนงงขณะที่เขามองสำรวจสิ่งใหม่ๆ รอบตัวในโรงพยาบาล ในขณะเดียวกันโม่จื่อเฉินกลับนั่งอยู่เงียบๆ บนเตียงและแอบช่วยดึงผ้าห่มให้แม่ของตัวเองตอนที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อถังหนิงหันหน้ามามองเขาก็ทำเฉยใส่เสียอย่างนั้น

ถังหนิงเคยชินกับพฤติกรรมแปลกๆ ของเด็กคนนี้เสียแล้ว เธอจึงไม่ได้แปลกใจและทำเพียงแสร้งมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

ด้วยมาถึงป่านนี้เธอก็ยังคงไม่อาจอธิบายได้ว่าเหตุใดโม่จื่อเฉินถึงได้ทำตัวเกินวัยของเขาขนาดนี้

“เมื่อก่อนตอนที่แม่คลอดลูกมาก็ทุลักทุเลมากเหมือนกัน บางทีนี่อาจจะเป็นกรรมพันธุ์ก็ได้ ลูกถึงต้องมาลำบากแบบนี้ โชคดีที่ลูกมีโม่ถิงอยู่ข้างๆ ”

ซย่าอวี้หลิงเอ่ยสำทับ “ตอนนี้เลิกคิดถึงเรื่องในวงการบันเทิงไปได้เลย หลังจากลูกสาวคลอดออกมา ลูกจะต้องยุ่งจนหัวหมุนแน่ๆ ”

“แม่คะ ขอบคุณที่ช่วยดูแลเจ้าตัวป่วนให้นะคะ”

“ทำไมต้องเกรงใจขนาดนั้นด้วยเล่า” ซย่าอวี้หลิงมองค้อนเข้าให้

ถังหนิงหลุดขำออกมาและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก มีครอบครัวอยู่ข้างๆ เช่นนี้เธอไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย

เช้าวันถัดมา ถังหนิงลองเข้าทดสอบและเข้าผ่าตัดในเวลา 8 โมงเช้า

โม่ถิงอยู่ข้างๆ เธอจนกระทั่งมองเธอจะเข้าไปในห้องผ่าตัด “ตอนที่คุณออกมาทุกอย่างจะต้องเป็นไปได้ด้วยดีครับ”

“ฉันไม่ได้ป่วยสักหน่อยค่ะ ฉันแค่คลอดลูกเองนะ” ถังหนิงหัวเราะ “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ”

“ผมจะรออยู่ข้างนอกนะครับ” โม่ถิงโน้มตัวลงประทับจูบที่หน้าผากของเธอ

“โอเคค่ะ”

“ไม่ต้องกังวลนะ ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น” เสียงถังอี้เฉินว่าขึ้นดังมาจากอีกด้านของเตียง “เรากำลังจะเข้าไปกันแล้วนะ…”

เวลานี้ทั้งโรงพยาบาลตกอยู่ในความเงียบ ด้วยโม่ถิงจัดการดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนา

ไม่นานถังหนิงก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัดพร้อมกับป้าย อยู่ระหว่างการปฏิบัติการ ที่สว่างพรึบขึ้น

ในขณะที่ถังหนิงกำลังอยู่ระหว่างการผ่าคลอด ใครบางคนกำลังเอาชื่อมินิถังหนิงมาหากิน ทุกคนรู้ว่าศิลปินคนนี้ทำศัลยกรรมมาจึงกลายเป็นประเด็นใหญ่โตอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทว่าก็ต้องยอมรับว่าในวงการนี้ช่างเต็มไปด้วยผู้เล่นมากมายเหลือเกิน

แล้วถ้าหากผู้คนรุมต่อว่าเธอกันล่ะ

บางคนคล้อยตามและทำให้เธอก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงได้ในที่สุด

ถังหนิงถูกใช้เป็นเครื่องมือบ่อยครั้ง ไห่รุ่ยจะตามไล่บี้ทีละคนจริงๆ หรือ

“เธอไม่มีปัญญาโด่งดังเองจนบ้าไปแล้วหรือไง”

“ให้ตายเถอะ เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าน่ารังเกียจขนาดไหนน่ะ”

“หน้าตาของถังหนิงไม่มีใครเหมือน กล้าดียังไงมาเลียนแบบเธอ! ”

“ถังหนิงก็มีดีแค่ที่รูปร่างนั่นแหละ…น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอแก่แล้ว”

ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ถังหนิงจะไม่ได้อยู่ในวงการอีกแล้ว แต่ก็ยังคงมีการหยิบยกเธอมาพูดถึงอยู่เสมอ

หลงเจี่ยไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“คนพวกนี้มันหน้าด้านจริงๆ… ถังหนิงประกาศลาวงการไปแล้วแท้ๆ ทำไมพวกเขายังตามรังควานเธอไม่เลิกอีก”

“เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นไงล่ะ ต่อให้จะหมายความว่าต้องทำศัลยกรรมก็ตาม! ” หันซิ่วเช่อเอ่ยอย่างระมัดระวังในตอนที่เขามาถึงพร้อมกระดาษในมือ “อีกอย่างถังหนิงก็ไม่ได้อยู่ในวงการแล้ว จะผิดอะไรถ้าจะเลียนแบบเธอกันล่ะ”

“คุณพูดอย่างนั้นเพราะพวกเขาไม่ได้เลียนแบบคุณต่างหาก ถึงได้ไม่รู้ว่ามันน่ารังเกียจขนาดไหนไง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1000 เธอไม่มีปัญญาโด่งดังเองจนบ้าไปแล้วหรือไง

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1000 เธอไม่มีปัญญาโด่งดังเองจนบ้าไปแล้วหรือไง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฉันไม่เห็นว่าเธอจะมีดีตรงไหนเลย”

“ฉันลาออกแล้วค่ะ มาพูดอย่างนี้กับฉันไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ต่อไปนี้คุณก็จะเป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ” ถังอี้เฉินเหยียดยิ้ม “อย่าบอกนะคะว่าคุณก็ยังไม่สบายใจถึงฉันจะไม่อยู่น่ะค่ะ”

“เธอก็ตัดสินใจถูกแล้วนี่ ยังไงก็ไม่มีใครแย่งของที่ฉันต้องการไปได้หรอก”

ถังอี้เฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา หากลู่กวงหลีล่อลวงง่ายขนาดนั้นเขาคงจะไม่อยู่ตัวคนเดียวแบบนี้

“โชคดีแล้วกันนะคะ”

สิ้นคำ ถังอี้เฉินเดินผ่านอีกฝ่ายจากไป ทว่าในจังหวะที่พวกเธอสวนกัน ลูกสาวผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลับว่าสำทับ “พอถึงเวลาฉันจะเชิญเธอไปงานแต่งงานของเราแล้วกันนะ”

อย่างไรก็ตามเธอคงไม่อาจคว้าโอกาสนั้นไว้ได้อีกแล้ว เพราะลู่กวงหลีได้ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังพวกเธอ เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดกัน เขาเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวทั้งสองคนก่อนคว้าแขนถังอี้เฉินและประกบจูบลงบนริมฝีปากของเธอต่อหน้าทุกคน…

“โว้ว…”

ผู้คนต่างส่งเสียงอย่างแตกตื่นเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่ถังอี้เฉินยังนิ่งค้างไป

ไม่นานหลังจากนั้น เขาผละออกมาจากเธอพร้อมรอยยิ้มบางที่หลงเหลืออยู่ “เธอควรจะหลับตาตอนที่ฉันจูบเธอไม่ใช่หรือไง”

ถังอี้เฉินตกตะลึงจนไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร

ลู่กวงหลีรั้งกายเธอเข้ามาในอ้อมแขนก่อนเอ่ยกับลูกสาวผู้อำนวยการ “ไหนๆ ถังอี้เฉินก็ลาออกแล้ว คงไม่จำเป็นต้องปกปิดความสัมพันธ์ของเราอีกแล้วล่ะครับ”

“เราไปมีความสัมพันธ์อะไรกันไม่ทราบ” ถังอี้เฉินพยายามสะบัดตัวออก

“แล้วเธอคิดว่าอะไรล่ะ” เขาถามเสียงเข้ม เธอไม่ตอบพลางก้มหน้างุด

“นอกจากเธอแล้วฉันเคยจูบแค่กับหมาที่บ้านนะ…”

“ไม่จริง พวกคุณจะมีความสัมพันธ์ อย่างนั้น กันได้ยังไง” ลูกสาวผู้อำนวยการท้วงขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ “เห็นๆ กันอยู่ว่าพวกคุณไม่ได้…”

“เราต้องรายงานเรื่องส่วนตัวกับคุณด้วยหรือยังไงครับ” เขาถามกลับอย่างเยาะเย้ยก่อนหันไปมองหน้าถังอี้เฉิน “เธอไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะตามไปหาคืนนี้”

ถังอี้เฉินหลบออกไปทันที เธอไม่รู้ว่าลู่กวงหลีกำลังคิดทำอะไรอยู่

ชายคนนี้อันตรายเกินไป เธอต้องอยู่ให้ห่างจากเขาที่สุดเท่าที่จะทำได้

เป็นเรื่องปกติที่ถังอี้เฉินผู้ไม่สนโลก แท้จริงแล้วจะนึกขี้ขลาดเมื่อเป็นเรื่องของความรัก เมื่อคนอื่นแผ่รังสีอันตรายออกมาแม้เพียงนิดเธอก็จะหลบหนีไปซ่อนทันที

ลู่กวงหลีรู้ดีว่าถังอี้เฉินเป็นคนอย่างไร เขาจึงตัดสินใจอ้างสิทธิ์ในตัวเธอก่อนที่เจ้าตัวจะยอมทำตามความต้องการของตระกูลถังและแต่งงานกับคุณชายเศรษฐี

ความจริงแล้วเขาคิดถูก เพราะถังอี้เฉินคิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ เธอได้วางแผนจะอยู่ให้ห่างตัวเองจากลู่กวงหลีอย่างเด็ดขาด

“แล้วมาดูกันว่าครั้งนี้เธอจะหนีฉันไปได้ยังไง”

หลังจากกลับมาที่โรงพยาบาลของอาจารย์หมอ ใบหน้าของถังอี้เฉินขึ้นสีแดงระเรื่อพร้อมภาพของลู่ กวงหลีและจูบของพวกเขาที่ลอยวนเวียนอยู่ในหัวอย่างสลัดไม่ออก

ถังหนิงสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอจึงเอ่ยถาม “ตั้งแต่กลับมาเธอก็ทำตัวแปลกๆ ไปนะ คิดอะไรอยู่ หน้าแดงอะไรขนาดนั้นกัน”

“ไม่มีอะไรหรอก” ถังอี้เฉินกระแอมในลำคอและหันไปสนใจกับข้อมูลของถังหนิง “เราจะทดสอบกับเธอพรุ่งนี้ว่าเธอพร้อมกับการผ่าตัดไหม คืนนี้ก็นอนเร็วสักหน่อยดีกว่านะ”

ถังหนิงพยักหน้า

“ไม่ต้องห่วงนะ มันมีความเสี่ยงแน่อยู่แล้วล่ะ แต่อาจารย์ของฉันจะช่วยให้ควบคุมทุกอย่างเอาไว้เอง”

ถังหนิงพยักหน้ารับอีกครั้ง

ความจริงแล้วการผ่าตัดของถังหนิงไม่ใช่เรื่องใหญ่โต และเธอไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงขนาดนั้น ในเมื่อเธอฝากชีวิตไว้ในมือหมอแล้ว การกังวลเกินเหตุจึงไม่ได้ส่งผลดีกับเธอและลูก

คืนก่อนการผ่าตัด โม่ถิงมาถึงพร้อมกับซย่าอวี้หลิงและเจ้าตัวแสบทั้งสองคนเพื่อให้กำลังใจ

พี่ชายคนโต โม่จื่อซี มีท่าทีงุนงงขณะที่เขามองสำรวจสิ่งใหม่ๆ รอบตัวในโรงพยาบาล ในขณะเดียวกันโม่จื่อเฉินกลับนั่งอยู่เงียบๆ บนเตียงและแอบช่วยดึงผ้าห่มให้แม่ของตัวเองตอนที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อถังหนิงหันหน้ามามองเขาก็ทำเฉยใส่เสียอย่างนั้น

ถังหนิงเคยชินกับพฤติกรรมแปลกๆ ของเด็กคนนี้เสียแล้ว เธอจึงไม่ได้แปลกใจและทำเพียงแสร้งมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

ด้วยมาถึงป่านนี้เธอก็ยังคงไม่อาจอธิบายได้ว่าเหตุใดโม่จื่อเฉินถึงได้ทำตัวเกินวัยของเขาขนาดนี้

“เมื่อก่อนตอนที่แม่คลอดลูกมาก็ทุลักทุเลมากเหมือนกัน บางทีนี่อาจจะเป็นกรรมพันธุ์ก็ได้ ลูกถึงต้องมาลำบากแบบนี้ โชคดีที่ลูกมีโม่ถิงอยู่ข้างๆ ”

ซย่าอวี้หลิงเอ่ยสำทับ “ตอนนี้เลิกคิดถึงเรื่องในวงการบันเทิงไปได้เลย หลังจากลูกสาวคลอดออกมา ลูกจะต้องยุ่งจนหัวหมุนแน่ๆ ”

“แม่คะ ขอบคุณที่ช่วยดูแลเจ้าตัวป่วนให้นะคะ”

“ทำไมต้องเกรงใจขนาดนั้นด้วยเล่า” ซย่าอวี้หลิงมองค้อนเข้าให้

ถังหนิงหลุดขำออกมาและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก มีครอบครัวอยู่ข้างๆ เช่นนี้เธอไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย

เช้าวันถัดมา ถังหนิงลองเข้าทดสอบและเข้าผ่าตัดในเวลา 8 โมงเช้า

โม่ถิงอยู่ข้างๆ เธอจนกระทั่งมองเธอจะเข้าไปในห้องผ่าตัด “ตอนที่คุณออกมาทุกอย่างจะต้องเป็นไปได้ด้วยดีครับ”

“ฉันไม่ได้ป่วยสักหน่อยค่ะ ฉันแค่คลอดลูกเองนะ” ถังหนิงหัวเราะ “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ”

“ผมจะรออยู่ข้างนอกนะครับ” โม่ถิงโน้มตัวลงประทับจูบที่หน้าผากของเธอ

“โอเคค่ะ”

“ไม่ต้องกังวลนะ ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น” เสียงถังอี้เฉินว่าขึ้นดังมาจากอีกด้านของเตียง “เรากำลังจะเข้าไปกันแล้วนะ…”

เวลานี้ทั้งโรงพยาบาลตกอยู่ในความเงียบ ด้วยโม่ถิงจัดการดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนา

ไม่นานถังหนิงก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัดพร้อมกับป้าย อยู่ระหว่างการปฏิบัติการ ที่สว่างพรึบขึ้น

ในขณะที่ถังหนิงกำลังอยู่ระหว่างการผ่าคลอด ใครบางคนกำลังเอาชื่อมินิถังหนิงมาหากิน ทุกคนรู้ว่าศิลปินคนนี้ทำศัลยกรรมมาจึงกลายเป็นประเด็นใหญ่โตอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทว่าก็ต้องยอมรับว่าในวงการนี้ช่างเต็มไปด้วยผู้เล่นมากมายเหลือเกิน

แล้วถ้าหากผู้คนรุมต่อว่าเธอกันล่ะ

บางคนคล้อยตามและทำให้เธอก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงได้ในที่สุด

ถังหนิงถูกใช้เป็นเครื่องมือบ่อยครั้ง ไห่รุ่ยจะตามไล่บี้ทีละคนจริงๆ หรือ

“เธอไม่มีปัญญาโด่งดังเองจนบ้าไปแล้วหรือไง”

“ให้ตายเถอะ เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าน่ารังเกียจขนาดไหนน่ะ”

“หน้าตาของถังหนิงไม่มีใครเหมือน กล้าดียังไงมาเลียนแบบเธอ! ”

“ถังหนิงก็มีดีแค่ที่รูปร่างนั่นแหละ…น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอแก่แล้ว”

ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ถังหนิงจะไม่ได้อยู่ในวงการอีกแล้ว แต่ก็ยังคงมีการหยิบยกเธอมาพูดถึงอยู่เสมอ

หลงเจี่ยไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“คนพวกนี้มันหน้าด้านจริงๆ… ถังหนิงประกาศลาวงการไปแล้วแท้ๆ ทำไมพวกเขายังตามรังควานเธอไม่เลิกอีก”

“เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นไงล่ะ ต่อให้จะหมายความว่าต้องทำศัลยกรรมก็ตาม! ” หันซิ่วเช่อเอ่ยอย่างระมัดระวังในตอนที่เขามาถึงพร้อมกระดาษในมือ “อีกอย่างถังหนิงก็ไม่ได้อยู่ในวงการแล้ว จะผิดอะไรถ้าจะเลียนแบบเธอกันล่ะ”

“คุณพูดอย่างนั้นเพราะพวกเขาไม่ได้เลียนแบบคุณต่างหาก ถึงได้ไม่รู้ว่ามันน่ารังเกียจขนาดไหนไง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+