วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1003 เพราะเธอซื่อบื้อเกินไปยังไงล่ะ

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1003 เพราะเธอซื่อบื้อเกินไปยังไงล่ะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถังอี้เฉินก้มหน้าเอาแต่เงียบ เธอนึกว่าตัวเองแค่ฝันไป

 

 

ลู่กวงหลีชอบเธอจริงๆ หรือ

 

 

ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจผิดไปใช่ไหม

 

 

“ถ้าคุณชอบฉัน ทำไมไม่สารภาพตั้งแต่ก่อนหน้านี้ล่ะ”

 

 

“เพราะเธอซื่อบื้อเกินไปยังไงล่ะ” ลู่กวงหลีเขกหัวเธอขณะที่แก้มเขาเริ่มขึ้นริ้วระเรื่อ อย่างไรเสียเขาก็เป็นอัจฉริยะทางการแพทย์แสนน่าภูมิใจที่ไม่รู้วิธีจีบผู้หญิง หากพี่ชายของเขาไม่แนะนำให้ เขาคงได้แต่มองผู้หญิงซื่อบื้อคนนี้ก้าวเข้าสู่โลกของการนัดบอด

 

 

“สมองของฉันก็อยู่ระดับเดียวกับคนทั่วไป สู้กับอัจฉริยะอย่างคุณไม่ได้อยู่แล้วล่ะค่ะ” ถังอี้เฉินกลอกตาแล้วเริ่มมองสำรวจไปทั่วห้องพักชายโสดของเขา

 

 

ลู่กวงหลีทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างสบายอารมณ์ เอ่ยขึ้นพลางยกแขนพาดพนักพิง “ฉันมีพี่ชายอยู่คนหนึ่ง เขาเป็นประธานกรรมการบริหารของกวงหลีอินเตอร์แนชันนัลอยู่ แล้วพ่อแม่ของฉันก็ยังมีชีวิตแต่อยู่ที่นอร์เวย์น่ะ

 

 

“ครอบครัวของฉันไม่ได้รวยมากนัก แต่ฉันก็คู่ควรกับคุณหนูรองตระกูลถังนะ!”

 

 

“คุณกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย”

 

 

“เล่าเรื่องของครอบครัวฉันให้เธอฟังไง” เขาตอบ “ส่วนชีวิตรักของฉัน ฉันว่าเธอคงรู้มากกว่าตัวฉันว่ามีคนมาชอบฉันเยอะแยะ แต่ว่า…”

 

 

“เลิกมั่นใจในตัวเองขนาดนั้นได้แล้วค่ะ” ถังอี้เฉินว่าเข้าให้ “ในเมื่อคุณคบกับฉันแล้ว ต่อไปนี้คุณต้องฟังคำสั่งฉัน!”

 

 

ลู่กวงหลีได้ยินดังนั้น ก็เอนตัวขยับเข้าใกล้ถังอี้เฉินก่อนเอ่ยอย่างยั่วยวน “อยากให้ฉันทำอะไรก็บอกมาได้เลย…”

 

 

 

 

หนึ่งอาทิตย์หลังจากเหยียนเอ๋อร์ลืมตาดูโลก ถังหนิงก็ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้าน กระนั้นเหยียนเอ๋อร์ก็ยังคงต้องอยู่ในตู้อบเด็กทารกต่อไปอีกหนึ่งเดือน

 

 

หลังจากมาถึงบ้าน ถังหนิงกลับมาออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งนักโภชนาการที่โม่ถิงจ้างมายังคิดเมนูอาหารให้กับเธอโดยเฉพาะเพื่อให้ร่างกายกลับมาสมบูรณ์แบบมากกว่าเมื่อก่อน

 

 

ระหว่างนี้โม่ถิงพยายามหามหาวิทยาลัยที่เหมาะสมให้กับถังหนิง ด้วยเธอไม่ต้องการทำตัวให้โดดเด่น รวมถึงหาห้องพักใกล้ๆ มหาวิทยาลัยให้ถังหนิงและตัดสินใจบินไปมาระหว่างสองที่ หากแต่ถังหนิงขอพาเหยียนเอ๋อร์ไปกับเธอด้วยเพื่อที่เธอจะสามารถดูแลลูกได้

 

 

ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามศิลปินรุ่นใหม่คนนั้นที่ใช้ชื่อถังหนิงก็ยังคงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

เธอไม่ได้แจ้งเกิดด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่น่ามองนักและพยายามแย่งอะไรไปจากถังหนิง ต้นสังกัดของเธอเพียงแค่บอกว่าจุดประสงค์ของเธอคือช่วยสานฝันให้ถังหนิงเท่านั้น

 

 

ส่วนเรื่องของการศัลยกรรม เจ้าตัวยอมรับออกมาตามตรงและไม่ได้ปิดบังสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ความจริงแล้วเธอเข้าร่วมงานสังคมต่างๆ ได้อย่างไม่ติดขัด แม้ว่าผู้คนทั้งโลกจะสงสัยในตัวเธอก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเธอมีไหวพริบดี

 

 

ในเมื่อถังหนิงไม่ได้อยู่ในวงการต่อไปแล้ว และไม่มีใครคอยผดุงคุณธรรมอีก ผู้คนจึงพึงพอใจแค่เพียงได้ยกบางเรื่องขึ้นมานินทาให้สนุกปาก

 

 

หลังจากกลับมาที่บ้าน ถังหนิงได้ยินข่าวเรื่องศิลปินคนใหม่ ทำให้เธอพลันนึกถึงมินิถังหนิงในอดีตขึ้นมา แต่ไม่ว่าอย่างไรของปลอมก็ไม่มีทางเป็นของจริงไปได้อยู่ดี

 

 

ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ห้องพักของหันซิวเช่อค่อยๆ เต็มไปด้วยรูปของถังหนิง ไม่ว่าจะเป็นภาพในอดีตในฐานะนางแบบหรือหลังจากผันตัวมาเป็นนักแสดง ดูเหมือนเขาจะหมกมุ่นกับการคว้าถังหนิงที่น่าหลงใหลมาครอบครอง

 

 

เมื่อผู้จัดการของเขาเห็นดังนั้น เธอก็ถึงกับอึ้งไป

 

 

“ฉันไม่ได้มาเยี่ยมแค่ไม่กี่วัน ห้องของคุณกลายมาเป็นอย่างนี้เลยเหรอคะ”

 

 

“อือฮึ” หันซิวเช่อพยักหน้าให้ขณะที่แขวนอีกรูป “ฉันถึงได้บอกให้เธอรายงานข่าวล่าสุดของถังหนิงให้ฉันรู้ไง ตอนนี้เธอเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันเลยล่ะ”

 

 

“แต่ว่าทำแบบนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ใช่ว่าถังหนิงจะชอบคุณสักหน่อย”

 

 

“ฉันไม่สนหรอก ฉันแค่ต้องการเจอเธอเท่านั้น… ตอนนี้เธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกความคิดสร้างสรรค์ของฉัน”

 

 

ผู้จัดการทนฟังเขาไม่ไหวหากแต่ไม่รู้จะห้ามเขาอย่างไร “ลืมมันซะเถอะค่ะ ฉันเหนื่อยจะจัดการกับคุณแล้ว ถ้าคุณไม่ใช่ลูกชายของประธานกรรมการบริหาร เขาคงไม่ปล่อยให้คุณเซ็นสัญญากับจู้ซิงมีเดียหรอกค่ะ ฉันว่าถึงเวลาที่คุณต้องรู้จักพอได้แล้วนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณคงได้ทำร้ายตัวเองก่อนที่จะได้เจอกับถังหนิงด้วยซ้ำค่ะ”

 

 

“ถ้าเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยฉันก็เงียบไปเถอะน่า”

 

 

ผู้จัดการทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ขณะมองหันซิ่งเช่ออย่างจนปัญญา ผู้ชายธรรมดาสุดๆ อย่างเขาเสียสติขนาดนี้ได้อย่างไรกัน

 

 

“ถ้าคุณอยากรู้ว่าถังหนิงทำอะไรอยู่ ไปถามจู้ซิงมีเดียจะไม่เร็วกว่าเหรอคะ”

 

 

“ฉันจะให้พวกเขารู้เจตนาที่แท้จริงของฉันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่ทำมาจะไม่มีความหมายเลย…” หันซิวเช่อในกรอบแว่นสีทองของเขาดูเหมือนตัวร้ายจากในละครโทรทัศน์ไม่มีผิด

 

 

“งั้นฉันก็จะไม่สนใจคุณแล้วค่ะ…” ในฐานะผู้หญิงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้จัดการสาวจะไม่ชอบการกระทำของเขา จึงไม่คิดจะช่วยเขาแต่อย่างใด หากแต่เธอไม่ได้จะเปิดโปงเขาเช่นกัน จึงได้แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทว่าเธอก็ไม่อาจเข้าใจว่าเหตุใดเขาจะต้องทำในสิ่งที่ใครก็ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วย ในเมื่อเขามีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าแท้ๆ

 

 

หันซิวเช่อขึ้นชื่อเรื่องเอาแต่ใจตัวเอง ผู้จัดการของเขาจึงคิดเอาเองว่าคงเป็นเพราะเขาขาดความรักจากแม่มาตั้งแต่เด็ก

 

 

 

 

เมื่อถังหนิงสามารถลุกจากเตียงได้ เธอขอให้โม่ถิงพาเธอไปเยี่ยมลูกสาว แม้ว่าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้จะได้รับการเอาอกเอาใจล้นเหลือจากคนที่มาเยี่ยมแล้วก็ตาม

 

 

หากแต่ทั้งคู่ไม่ได้มากันเพียงลำพัง กลับพ่วงเจ้าตัวแสบสองคนมาให้ทำความรู้จักน้องสาวของตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ด้วย ถังหนิงแทบอดใจรอที่จะพาลูกทั้งสองคนไปเจอเธอไม่ไหว

 

 

ในขณะที่โม่จื่อเฉินเริ่มที่จะคึกและซุกซนเป็นพิเศษ โม่จื่อซีกลับนั่งอยู่เงียบๆ ข้างแม่ของเขาราวกับคนแก่ในร่างเด็ก

 

 

“ดูเขาสิคะ” ถังหนิงส่งสัญญาณบอกให้โม่ถิงมองลูกชายของพวกเขา

 

 

แต่โม่ถิงเคยชินกับมันเสียแล้ว “ผมจะพาเขาไปทดสอบพรุ่งนี้ครับ บางทีเขาอาจจะแตกต่างกับคนปกติจริงๆ ก็ได้”

 

 

ทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าลูกๆ ของตัวเองมีความผิดปกติอยู่มาก

 

 

ถังหนิงพยักหน้ารับ ทว่าเธอก็อดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้ เธอไม่ได้คาดหวังให้ลูกชายของตัวเองต้องประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ เพียงแค่พวกเขามีความสุขก็พอแล้ว

 

 

ไม่นานทั้งครอบครัวก็มาถึงโรงพยาบาล ทั้งสองอุ้มพี่ชายคนโตทั้งสองเข้าไปในแผนกกุมารเวชและยืนมองเหยียนเอ๋อร์จากด้านหลังกระจก

 

 

“ลูกสาวของเราหน้าตาเหมือนคุณเลยนะครับ” โม่ถิงเอ่ยกับถังหนิง

 

 

“มันไม่ได้หมายความว่าต้องมีคนตามจีบเธอเยอะเหรอค่ะ” ถังหนิงหัวเราะ

 

 

“ผมเกรงว่าการเข้ามาเป็นลูกเขยของตระกูลโม่จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ น่ะสิครับ…”

 

 

แน่นอนว่าใครจะไปกล้าลองดีกับคุณพ่อที่โหดอย่างโม่ถิงกัน

 

 

“ผมจองตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษและติดต่อทางมหาวิทยาลัยไว้ให้คุณแล้ว คุณไปถึงที่นั่นเมื่อไหร่ก็เริ่มเรียนได้ทันทีเลยนะครับ”

 

 

ถังหนิงมองลูกสาวของเธอก่อนเลื่อนสายตาไปที่โม่ถิงอย่างทำใจไม่ได้ “ทำไมถึงปุบปับขนาดนี้ล่ะคะ”

 

 

“ในเมื่อคุณตั้งใจจะไปเรียนต่อแล้ว คุณก็น่าจะลงมือทำให้เร็วที่สุดนะครับ” โม่ถิงตอบ “คุณไม่อยากสานฝันให้เฉียวเซินเหรอครับ หรือคุณจะทิ้ง  มดราชินี  ไว้กลางทางล่ะ คุณคงไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1003 เพราะเธอซื่อบื้อเกินไปยังไงล่ะ

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1003 เพราะเธอซื่อบื้อเกินไปยังไงล่ะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถังอี้เฉินก้มหน้าเอาแต่เงียบ เธอนึกว่าตัวเองแค่ฝันไป

 

 

ลู่กวงหลีชอบเธอจริงๆ หรือ

 

 

ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจผิดไปใช่ไหม

 

 

“ถ้าคุณชอบฉัน ทำไมไม่สารภาพตั้งแต่ก่อนหน้านี้ล่ะ”

 

 

“เพราะเธอซื่อบื้อเกินไปยังไงล่ะ” ลู่กวงหลีเขกหัวเธอขณะที่แก้มเขาเริ่มขึ้นริ้วระเรื่อ อย่างไรเสียเขาก็เป็นอัจฉริยะทางการแพทย์แสนน่าภูมิใจที่ไม่รู้วิธีจีบผู้หญิง หากพี่ชายของเขาไม่แนะนำให้ เขาคงได้แต่มองผู้หญิงซื่อบื้อคนนี้ก้าวเข้าสู่โลกของการนัดบอด

 

 

“สมองของฉันก็อยู่ระดับเดียวกับคนทั่วไป สู้กับอัจฉริยะอย่างคุณไม่ได้อยู่แล้วล่ะค่ะ” ถังอี้เฉินกลอกตาแล้วเริ่มมองสำรวจไปทั่วห้องพักชายโสดของเขา

 

 

ลู่กวงหลีทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างสบายอารมณ์ เอ่ยขึ้นพลางยกแขนพาดพนักพิง “ฉันมีพี่ชายอยู่คนหนึ่ง เขาเป็นประธานกรรมการบริหารของกวงหลีอินเตอร์แนชันนัลอยู่ แล้วพ่อแม่ของฉันก็ยังมีชีวิตแต่อยู่ที่นอร์เวย์น่ะ

 

 

“ครอบครัวของฉันไม่ได้รวยมากนัก แต่ฉันก็คู่ควรกับคุณหนูรองตระกูลถังนะ!”

 

 

“คุณกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย”

 

 

“เล่าเรื่องของครอบครัวฉันให้เธอฟังไง” เขาตอบ “ส่วนชีวิตรักของฉัน ฉันว่าเธอคงรู้มากกว่าตัวฉันว่ามีคนมาชอบฉันเยอะแยะ แต่ว่า…”

 

 

“เลิกมั่นใจในตัวเองขนาดนั้นได้แล้วค่ะ” ถังอี้เฉินว่าเข้าให้ “ในเมื่อคุณคบกับฉันแล้ว ต่อไปนี้คุณต้องฟังคำสั่งฉัน!”

 

 

ลู่กวงหลีได้ยินดังนั้น ก็เอนตัวขยับเข้าใกล้ถังอี้เฉินก่อนเอ่ยอย่างยั่วยวน “อยากให้ฉันทำอะไรก็บอกมาได้เลย…”

 

 

 

 

หนึ่งอาทิตย์หลังจากเหยียนเอ๋อร์ลืมตาดูโลก ถังหนิงก็ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้าน กระนั้นเหยียนเอ๋อร์ก็ยังคงต้องอยู่ในตู้อบเด็กทารกต่อไปอีกหนึ่งเดือน

 

 

หลังจากมาถึงบ้าน ถังหนิงกลับมาออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งนักโภชนาการที่โม่ถิงจ้างมายังคิดเมนูอาหารให้กับเธอโดยเฉพาะเพื่อให้ร่างกายกลับมาสมบูรณ์แบบมากกว่าเมื่อก่อน

 

 

ระหว่างนี้โม่ถิงพยายามหามหาวิทยาลัยที่เหมาะสมให้กับถังหนิง ด้วยเธอไม่ต้องการทำตัวให้โดดเด่น รวมถึงหาห้องพักใกล้ๆ มหาวิทยาลัยให้ถังหนิงและตัดสินใจบินไปมาระหว่างสองที่ หากแต่ถังหนิงขอพาเหยียนเอ๋อร์ไปกับเธอด้วยเพื่อที่เธอจะสามารถดูแลลูกได้

 

 

ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามศิลปินรุ่นใหม่คนนั้นที่ใช้ชื่อถังหนิงก็ยังคงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

เธอไม่ได้แจ้งเกิดด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่น่ามองนักและพยายามแย่งอะไรไปจากถังหนิง ต้นสังกัดของเธอเพียงแค่บอกว่าจุดประสงค์ของเธอคือช่วยสานฝันให้ถังหนิงเท่านั้น

 

 

ส่วนเรื่องของการศัลยกรรม เจ้าตัวยอมรับออกมาตามตรงและไม่ได้ปิดบังสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ความจริงแล้วเธอเข้าร่วมงานสังคมต่างๆ ได้อย่างไม่ติดขัด แม้ว่าผู้คนทั้งโลกจะสงสัยในตัวเธอก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเธอมีไหวพริบดี

 

 

ในเมื่อถังหนิงไม่ได้อยู่ในวงการต่อไปแล้ว และไม่มีใครคอยผดุงคุณธรรมอีก ผู้คนจึงพึงพอใจแค่เพียงได้ยกบางเรื่องขึ้นมานินทาให้สนุกปาก

 

 

หลังจากกลับมาที่บ้าน ถังหนิงได้ยินข่าวเรื่องศิลปินคนใหม่ ทำให้เธอพลันนึกถึงมินิถังหนิงในอดีตขึ้นมา แต่ไม่ว่าอย่างไรของปลอมก็ไม่มีทางเป็นของจริงไปได้อยู่ดี

 

 

ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ห้องพักของหันซิวเช่อค่อยๆ เต็มไปด้วยรูปของถังหนิง ไม่ว่าจะเป็นภาพในอดีตในฐานะนางแบบหรือหลังจากผันตัวมาเป็นนักแสดง ดูเหมือนเขาจะหมกมุ่นกับการคว้าถังหนิงที่น่าหลงใหลมาครอบครอง

 

 

เมื่อผู้จัดการของเขาเห็นดังนั้น เธอก็ถึงกับอึ้งไป

 

 

“ฉันไม่ได้มาเยี่ยมแค่ไม่กี่วัน ห้องของคุณกลายมาเป็นอย่างนี้เลยเหรอคะ”

 

 

“อือฮึ” หันซิวเช่อพยักหน้าให้ขณะที่แขวนอีกรูป “ฉันถึงได้บอกให้เธอรายงานข่าวล่าสุดของถังหนิงให้ฉันรู้ไง ตอนนี้เธอเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันเลยล่ะ”

 

 

“แต่ว่าทำแบบนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ใช่ว่าถังหนิงจะชอบคุณสักหน่อย”

 

 

“ฉันไม่สนหรอก ฉันแค่ต้องการเจอเธอเท่านั้น… ตอนนี้เธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกความคิดสร้างสรรค์ของฉัน”

 

 

ผู้จัดการทนฟังเขาไม่ไหวหากแต่ไม่รู้จะห้ามเขาอย่างไร “ลืมมันซะเถอะค่ะ ฉันเหนื่อยจะจัดการกับคุณแล้ว ถ้าคุณไม่ใช่ลูกชายของประธานกรรมการบริหาร เขาคงไม่ปล่อยให้คุณเซ็นสัญญากับจู้ซิงมีเดียหรอกค่ะ ฉันว่าถึงเวลาที่คุณต้องรู้จักพอได้แล้วนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณคงได้ทำร้ายตัวเองก่อนที่จะได้เจอกับถังหนิงด้วยซ้ำค่ะ”

 

 

“ถ้าเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยฉันก็เงียบไปเถอะน่า”

 

 

ผู้จัดการทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ขณะมองหันซิ่งเช่ออย่างจนปัญญา ผู้ชายธรรมดาสุดๆ อย่างเขาเสียสติขนาดนี้ได้อย่างไรกัน

 

 

“ถ้าคุณอยากรู้ว่าถังหนิงทำอะไรอยู่ ไปถามจู้ซิงมีเดียจะไม่เร็วกว่าเหรอคะ”

 

 

“ฉันจะให้พวกเขารู้เจตนาที่แท้จริงของฉันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่ทำมาจะไม่มีความหมายเลย…” หันซิวเช่อในกรอบแว่นสีทองของเขาดูเหมือนตัวร้ายจากในละครโทรทัศน์ไม่มีผิด

 

 

“งั้นฉันก็จะไม่สนใจคุณแล้วค่ะ…” ในฐานะผู้หญิงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้จัดการสาวจะไม่ชอบการกระทำของเขา จึงไม่คิดจะช่วยเขาแต่อย่างใด หากแต่เธอไม่ได้จะเปิดโปงเขาเช่นกัน จึงได้แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทว่าเธอก็ไม่อาจเข้าใจว่าเหตุใดเขาจะต้องทำในสิ่งที่ใครก็ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วย ในเมื่อเขามีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าแท้ๆ

 

 

หันซิวเช่อขึ้นชื่อเรื่องเอาแต่ใจตัวเอง ผู้จัดการของเขาจึงคิดเอาเองว่าคงเป็นเพราะเขาขาดความรักจากแม่มาตั้งแต่เด็ก

 

 

 

 

เมื่อถังหนิงสามารถลุกจากเตียงได้ เธอขอให้โม่ถิงพาเธอไปเยี่ยมลูกสาว แม้ว่าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้จะได้รับการเอาอกเอาใจล้นเหลือจากคนที่มาเยี่ยมแล้วก็ตาม

 

 

หากแต่ทั้งคู่ไม่ได้มากันเพียงลำพัง กลับพ่วงเจ้าตัวแสบสองคนมาให้ทำความรู้จักน้องสาวของตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ด้วย ถังหนิงแทบอดใจรอที่จะพาลูกทั้งสองคนไปเจอเธอไม่ไหว

 

 

ในขณะที่โม่จื่อเฉินเริ่มที่จะคึกและซุกซนเป็นพิเศษ โม่จื่อซีกลับนั่งอยู่เงียบๆ ข้างแม่ของเขาราวกับคนแก่ในร่างเด็ก

 

 

“ดูเขาสิคะ” ถังหนิงส่งสัญญาณบอกให้โม่ถิงมองลูกชายของพวกเขา

 

 

แต่โม่ถิงเคยชินกับมันเสียแล้ว “ผมจะพาเขาไปทดสอบพรุ่งนี้ครับ บางทีเขาอาจจะแตกต่างกับคนปกติจริงๆ ก็ได้”

 

 

ทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าลูกๆ ของตัวเองมีความผิดปกติอยู่มาก

 

 

ถังหนิงพยักหน้ารับ ทว่าเธอก็อดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้ เธอไม่ได้คาดหวังให้ลูกชายของตัวเองต้องประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ เพียงแค่พวกเขามีความสุขก็พอแล้ว

 

 

ไม่นานทั้งครอบครัวก็มาถึงโรงพยาบาล ทั้งสองอุ้มพี่ชายคนโตทั้งสองเข้าไปในแผนกกุมารเวชและยืนมองเหยียนเอ๋อร์จากด้านหลังกระจก

 

 

“ลูกสาวของเราหน้าตาเหมือนคุณเลยนะครับ” โม่ถิงเอ่ยกับถังหนิง

 

 

“มันไม่ได้หมายความว่าต้องมีคนตามจีบเธอเยอะเหรอค่ะ” ถังหนิงหัวเราะ

 

 

“ผมเกรงว่าการเข้ามาเป็นลูกเขยของตระกูลโม่จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ น่ะสิครับ…”

 

 

แน่นอนว่าใครจะไปกล้าลองดีกับคุณพ่อที่โหดอย่างโม่ถิงกัน

 

 

“ผมจองตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษและติดต่อทางมหาวิทยาลัยไว้ให้คุณแล้ว คุณไปถึงที่นั่นเมื่อไหร่ก็เริ่มเรียนได้ทันทีเลยนะครับ”

 

 

ถังหนิงมองลูกสาวของเธอก่อนเลื่อนสายตาไปที่โม่ถิงอย่างทำใจไม่ได้ “ทำไมถึงปุบปับขนาดนี้ล่ะคะ”

 

 

“ในเมื่อคุณตั้งใจจะไปเรียนต่อแล้ว คุณก็น่าจะลงมือทำให้เร็วที่สุดนะครับ” โม่ถิงตอบ “คุณไม่อยากสานฝันให้เฉียวเซินเหรอครับ หรือคุณจะทิ้ง  มดราชินี  ไว้กลางทางล่ะ คุณคงไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+