วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1021 เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับถังหนิง

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1021 เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับถังหนิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่เช่อกลับมาถึงบ้านขณะที่หลงเจี่ยกำลังเก็บของ ด้วยรู้ว่าเธอกำลังจะเดินทางไปทำงาน เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนเธอ “เปิดเครื่องไว้ตลอดเวลานะครับ ถ้าคุณเจอปัญหาอะไรก็ติดต่อผมได้ตลอดเวลา อย่าทนเก็บไว้กับตัวเองนะ”

 

 

“ฉันแค่พาวงของฉันไปถ่ายทำที่ต่างประเทศเองค่ะ ฉันจะเจอปัญหาอะไรได้ล่ะคะ” หลงเจี่ยหัวเราะขณะที่โอบเอวเขาไว้ก่อนประกบจูบที่ริมฝีปากของเขา “แค่ไม่กี่วันเองค่ะ ฉันจะรีบกลับมานะคะ ดูแลลูกสาวของเราให้ดีๆ ด้วยล่ะ”

 

 

ก่อนที่หลงเจี่ยจะผละริมฝีปากออก เขารีบตวัดแขนรอบกายเธอและกดจูบลึกซึ้งยิ่งขึ้น “ไม่ว่าคุณจะเจอปัญหาหรือเปล่า ตราบใดที่คุณไม่ได้อยู่ในสายตาของผมก็เป็นห่วงคุณอยู่ดีนั้นแหละ รีบกลับมาเร็วๆ นะครับ”

 

 

“โอเคค่ะ” เธอพยักหน้าพร้อมกระเป๋าสัมภาระในมือ และหันมาเอ่ยกับเขาในตอนที่กำลังจะหันหลังออกไป “ถ้าถังหนิงกลับมาแล้วรีบบอกให้ฉันรู้ทันทีเลยนะคะ”

 

 

“โอเคครับ” ลู่เช่อพยักหน้ารับ

 

 

หลังจากหลงเจี่ยสบายใจแล้ว เธอระบายยิ้มอย่างมีความสุขก่อนออกไปสมทบกับศิลปินและทีมงานของเอสเอเจ

 

 

“หลงเจี่ยคุณมาดูแลศิลปินของคุณด้วยตัวเองเลยเหรอ” หนึ่งในตากล้องของรายการหัวเราะออกมาเมื่อเห็นหลงเจี่ย “ดูเหมือนว่าคุณจะทุ่มเทกับวงนี้มากเลยนะคะ”

 

 

“ฉันไม่มีทางเลือกน่ะค่ะ ศิลปินหน้าใหม่ยังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ต่างๆ ดีและก็เป็นวัยรุ่นที่ไม่รู้จักระวังคำพูดของตัวเอง ฉันหวังว่าหลิงเจี่ยจะช่วยฉันดูแลพวกเขาด้วยนะคะ”

 

 

“แน่สิ ไม่ต้องห่วงหรอก ทุกคนเคยผ่านความตื่นเต้นของศิลปินหน้าใหม่กันทั้งนั่นแหละ ฉันจะพยายามแนะนำพวกเขาให้ดีที่สุดแล้วกัน… ดูพวกเขาสิ ดูสะดุดตามากเลยนะ ไม่น่าล่ะทางรายการถึงได้รีบเชิญพวกเขามาขนาดนี้ วงอย่างนี้จะต้องดังเป็นพลุแตกแน่…”

 

 

หลงเจี่ยตื้นตันกับคำพูดเหล่านี้ อย่างไรเสียใครจะไม่ยินดีกับคำชื่นชมบ้างล่ะ

 

 

พวกเขายังสดใหม่และดูดี ศิลปินคนอื่นๆ ในทีมนักแสดงจึงต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี ระหว่างการถ่ายทำพวกเขาต่างสงวนท่าทีเอาไว้และไม่ได้ปฏิบัติกับพวกเขาดีเกินหน้าคนอื่น เอสเอเจเข้าใจเรื่องนี้ดี

 

 

ในวันแรกของการถ่ายทำ หลงเจี่ยจับตามองพวกเขาอย่างใกล้ชิด ทุกครั้งที่มีบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้น เธอจะเข้ามาบอกให้ศิลปินของเธอรู้ทันที

 

 

พวกเขาไม่ใช่คนไม่มีหัวคิดและเรียนรู้การปฏิบัติตัวต่อรุ่นพี่ได้อย่างรวดเร็ว

 

 

เมื่อหลงเจี่ยเห็นดังนั้นเธอก็เบาใจลง

 

 

การถ่ายทำใช้เวลาสามวันและหลายอย่างก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอด หลังจากมั่นใจว่าวงอยู่ตัวดีแล้ว เธอฝากให้ทีมงานดูแลพวกเขาต่อก่อนกลับไปพักผ่อนที่สักหน่อย เธอรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ฝึกฝนสมาชิกสี่คนนี้มานี้ไม่ได้เสียเปล่า และพวกเขามีไหวพริบมากพอที่จะอยู่รอดในวงการ

 

 

เธอจึงกลับมาที่โรงแรมอย่างมั่นใจ

 

 

ในสองวันแรกของการถ่ายทำไม่ได้เกิดปัญหาใหญ่แต่อย่างใด จนกระทั่งในคืนที่สอง เวลาราวตีหนึ่งหลงเจี่ยบอกสมาชิกเรื่องตารางงานในวันถัดไปและเธอยังคงเฝ้าจับตามองพวกเขาอยู่ ทว่าในเวลาตีสองอยู่ๆ ก็มีใครบางคนมาเคาะประตูห้องของเธอ

 

 

“หลงมั่นๆ เกิดเรื่องแล้ว!”

 

 

เมื่อได้ยินว่ามีเรื่อง หลงเจี่ยรีบกระโดดลงจากเตียงและเดินไปที่ประตูทันที หลิงเจี่ย ตากล้องสาวยืนอยู่หน้าประตูพร้อมสีหน้าตื่นตระหนก

 

 

“มีอะไรเหรอคะ”

 

 

หลิงเจี่ยพาหลงเจี่ยไปที่ชั้นดาดฟ้า ที่ที่เธอพบกลุ่มคนกำลังมองไปที่สมาชิกเอสเอเจที่คุกเข่าอยู่ ชายหนุ่มทั้งสองและหญิงสาวอีกสองคนยกมือไว้ที่ท้ายทอยขณะที่คุกเข่าลงกับพื้น

 

 

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน” หลงเจี่ยเอ่ยถามอย่างงุนงง

 

 

เมื่อหลิงเจี่ยได้ยินคำถามนี้ เธอชูบางอย่างที่ค้นเจอจากตัวของสามชิดเอสเอเจขึ้นมา

 

 

หลงเจี่ยถึงกับอึ้งไปเมื่อมองแค่แวบเดียว

 

 

“พนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งเห็นว่าสี่คนนี้กำลังเสพไอ้นี่อยู่ในห้องเก็บของชั้นดาดฟ้า ถึงตอนนี้ฉันจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว แต่ฉันก็มั่นใจว่าพรุ่งนี้เรื่องจะต้องหลุดรั่วออกไปแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือการถ่ายทำที่ต้องถูกยกเลิกไป คงไม่มีใครรับมือกับกระแสตอบรับของเรื่องนี้ตอนที่มันถูกเปิดโปงแล้วได้หรอกนะ…

 

 

…เราสามารถทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ ฉันเลยแนะนำให้เธอแจ้งความส่งพวกเขาให้ตำรวจจะดีกว่า อย่างน้อยเธอจะได้รักษาชื่อเสียงของตัวเองไว้ได้บ้าง”

 

 

หลังจากหลงเจี่ยได้ยินเช่นนั้นเธอชะงักไปชั่วขณะก่อนเอ่ย “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องอย่างนี้ในวงการค่ะ”

 

 

“ตอนที่เกิดเรื่องแบบนี้กับคนอื่น พวกเขาคงปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ได้ อีกอย่างไม่มีใครเคยถูกจับได้คาหนังคาเขามาก่อน แต่ครั้งนี้… ฉันจะไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ เธอจัดการของเธอเองไปแล้วกัน” หลังเธอพูดจบ หลิงเจี่ยหันหลังเดินไปจากดาดฟ้าที่ลมพัดไหวๆ

 

 

ในขณะเดียวกันสมาชิกทั้งสี่คนของเอสเอเจเอาแต่ก้มหน้า อย่างกลัวเกินกว่าจะสบตามองหลงเจี่ย

 

 

“เรื่องมันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอถาม

 

 

“…” สมาชิกมองหน้ากันคล้ายตอบอะไรไม่ถูก

 

 

“พูดมาสิ!” หลงเจี่ยตวาดลั่น

 

 

“ตั้งแต่…ตอนที่เราเรียนมหาวิทยาลัยกันแล้วครับ” พวกเขาตอบกลับทันทีด้วยความกลัว จากนั้นจึงพยายามอธิบาย “เราแค่ทำมันเป็นครั้งคราวเองครับ”

 

 

“เป็นครั้งคราวงั้นเหรอ” เธอสวนกลับขณะที่หันหน้าหนี “หันซิวเช่อรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า”

 

 

“นอกจากพวกเรากันเองก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ครับ” พวกเขายืนกรานหนักแน่น ด้วยไม่ต้องการให้  คนบริสุทธิ์  ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย ทว่าพวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองถูกจับได้เพราะหันซิวเช่อบอกใบ้ให้กับพนักงานทำความสะอาด

 

 

“ดี” หลังจากเธอพูดจบ หลงเจี่ยหันหลังเดินจากไป หากแต่หนึ่งในสมาชิกสาวจับชายกระโปรงของหลงเจี่ยไว้

 

 

“หลงเจี่ย…คุณจะทิ้งพวกเราเหรอคะ”

 

 

“เธอคิดว่ามีอะไรที่ฉันทำให้พวกเธอได้อีกไหมล่ะ” หลงเจี่ยถามกลับ “ฉันควรจะทำยังไงตอนที่เห็นคาตาว่าสมาชิกในวงทำแบบนี้ล่ะ”

 

 

“เราผิดไปแล้วค่ะ…เราผิดไปแล้วจริงๆ นะคะ”

 

 

ทว่าพูดคำนั้นออกมาตอนนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ

 

 

หลงเจี่ยสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ก่อนหันหลังกลับไปที่ห้องของตัวเองโดยไม่รั้งรอ อย่างไรก็ตามตอนนั้นเองอยู่ๆ เธอก็ได้รับวิดีโอ

 

 

วิดีโอที่บันทึกเรื่องต่ำทรามที่ทั้งสี่คนทำบนดาดฟ้าได้อย่างชัดเจน

 

 

เมื่อเธอมองชื่อคนที่ส่งมา หลงเจี่ยชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงต่อสายหาหันซิวเช่อ

 

 

“ส่งวิดีโอนี้มาให้ฉันทำไม”

 

 

“หลงเจี่ย ผมว่าเราควรออกมาคุยกันหน่อยนะครับ…” หลังหันซิวเช่อว่าเช่นนั้น ก่อนเสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เมื่อเปิดออกก็พบหันซิวเช่อส่งยิ้มเหยียดมาให้เธอพร้อมโบกโทรศัพท์ไปมาอยู่หน้าประตู

 

 

ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปทันที ไม่ว่าเธอจะโง่เง่าสักแค่ไหน เธอก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

เธอหลีกทางและปล่อยให้เขาเข้ามาในห้อง…

 

 

หันซิวเช่อมองเธอก่อนเดินเข้าไปและปิดประตู

 

 

“ทำไมล่ะ” เธอเอ่ยถามขณะที่หันหลังให้เขา เธอโกรธเสียจนไม่ทันรู้ตัวว่ามือตัวเองสั่นระริก “ฉันเฝ้าระวังคุณมาตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่เราทำงานด้วยกันมานาน ฉันก็เชื่อใจคุณเต็มที่”

 

 

หันซิวเช่อไหวไหล่ก่อนหัวเราะออกมา “ก็ไม่ทำไมหรอกครับ ถ้าผมจะต้องให้เหตุผลจริงๆ คงเป็นเพราะคุณสนิทสนมกับถังหนิงเกินไปล่ะมั้งครับ…”

 

 

“ถังหนิงเหรอ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับถังหนิงด้วย” เธอถามด้วยความงุนงง

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1021 เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับถังหนิง

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1021 เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับถังหนิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่เช่อกลับมาถึงบ้านขณะที่หลงเจี่ยกำลังเก็บของ ด้วยรู้ว่าเธอกำลังจะเดินทางไปทำงาน เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนเธอ “เปิดเครื่องไว้ตลอดเวลานะครับ ถ้าคุณเจอปัญหาอะไรก็ติดต่อผมได้ตลอดเวลา อย่าทนเก็บไว้กับตัวเองนะ”

 

 

“ฉันแค่พาวงของฉันไปถ่ายทำที่ต่างประเทศเองค่ะ ฉันจะเจอปัญหาอะไรได้ล่ะคะ” หลงเจี่ยหัวเราะขณะที่โอบเอวเขาไว้ก่อนประกบจูบที่ริมฝีปากของเขา “แค่ไม่กี่วันเองค่ะ ฉันจะรีบกลับมานะคะ ดูแลลูกสาวของเราให้ดีๆ ด้วยล่ะ”

 

 

ก่อนที่หลงเจี่ยจะผละริมฝีปากออก เขารีบตวัดแขนรอบกายเธอและกดจูบลึกซึ้งยิ่งขึ้น “ไม่ว่าคุณจะเจอปัญหาหรือเปล่า ตราบใดที่คุณไม่ได้อยู่ในสายตาของผมก็เป็นห่วงคุณอยู่ดีนั้นแหละ รีบกลับมาเร็วๆ นะครับ”

 

 

“โอเคค่ะ” เธอพยักหน้าพร้อมกระเป๋าสัมภาระในมือ และหันมาเอ่ยกับเขาในตอนที่กำลังจะหันหลังออกไป “ถ้าถังหนิงกลับมาแล้วรีบบอกให้ฉันรู้ทันทีเลยนะคะ”

 

 

“โอเคครับ” ลู่เช่อพยักหน้ารับ

 

 

หลังจากหลงเจี่ยสบายใจแล้ว เธอระบายยิ้มอย่างมีความสุขก่อนออกไปสมทบกับศิลปินและทีมงานของเอสเอเจ

 

 

“หลงเจี่ยคุณมาดูแลศิลปินของคุณด้วยตัวเองเลยเหรอ” หนึ่งในตากล้องของรายการหัวเราะออกมาเมื่อเห็นหลงเจี่ย “ดูเหมือนว่าคุณจะทุ่มเทกับวงนี้มากเลยนะคะ”

 

 

“ฉันไม่มีทางเลือกน่ะค่ะ ศิลปินหน้าใหม่ยังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ต่างๆ ดีและก็เป็นวัยรุ่นที่ไม่รู้จักระวังคำพูดของตัวเอง ฉันหวังว่าหลิงเจี่ยจะช่วยฉันดูแลพวกเขาด้วยนะคะ”

 

 

“แน่สิ ไม่ต้องห่วงหรอก ทุกคนเคยผ่านความตื่นเต้นของศิลปินหน้าใหม่กันทั้งนั่นแหละ ฉันจะพยายามแนะนำพวกเขาให้ดีที่สุดแล้วกัน… ดูพวกเขาสิ ดูสะดุดตามากเลยนะ ไม่น่าล่ะทางรายการถึงได้รีบเชิญพวกเขามาขนาดนี้ วงอย่างนี้จะต้องดังเป็นพลุแตกแน่…”

 

 

หลงเจี่ยตื้นตันกับคำพูดเหล่านี้ อย่างไรเสียใครจะไม่ยินดีกับคำชื่นชมบ้างล่ะ

 

 

พวกเขายังสดใหม่และดูดี ศิลปินคนอื่นๆ ในทีมนักแสดงจึงต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี ระหว่างการถ่ายทำพวกเขาต่างสงวนท่าทีเอาไว้และไม่ได้ปฏิบัติกับพวกเขาดีเกินหน้าคนอื่น เอสเอเจเข้าใจเรื่องนี้ดี

 

 

ในวันแรกของการถ่ายทำ หลงเจี่ยจับตามองพวกเขาอย่างใกล้ชิด ทุกครั้งที่มีบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้น เธอจะเข้ามาบอกให้ศิลปินของเธอรู้ทันที

 

 

พวกเขาไม่ใช่คนไม่มีหัวคิดและเรียนรู้การปฏิบัติตัวต่อรุ่นพี่ได้อย่างรวดเร็ว

 

 

เมื่อหลงเจี่ยเห็นดังนั้นเธอก็เบาใจลง

 

 

การถ่ายทำใช้เวลาสามวันและหลายอย่างก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอด หลังจากมั่นใจว่าวงอยู่ตัวดีแล้ว เธอฝากให้ทีมงานดูแลพวกเขาต่อก่อนกลับไปพักผ่อนที่สักหน่อย เธอรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ฝึกฝนสมาชิกสี่คนนี้มานี้ไม่ได้เสียเปล่า และพวกเขามีไหวพริบมากพอที่จะอยู่รอดในวงการ

 

 

เธอจึงกลับมาที่โรงแรมอย่างมั่นใจ

 

 

ในสองวันแรกของการถ่ายทำไม่ได้เกิดปัญหาใหญ่แต่อย่างใด จนกระทั่งในคืนที่สอง เวลาราวตีหนึ่งหลงเจี่ยบอกสมาชิกเรื่องตารางงานในวันถัดไปและเธอยังคงเฝ้าจับตามองพวกเขาอยู่ ทว่าในเวลาตีสองอยู่ๆ ก็มีใครบางคนมาเคาะประตูห้องของเธอ

 

 

“หลงมั่นๆ เกิดเรื่องแล้ว!”

 

 

เมื่อได้ยินว่ามีเรื่อง หลงเจี่ยรีบกระโดดลงจากเตียงและเดินไปที่ประตูทันที หลิงเจี่ย ตากล้องสาวยืนอยู่หน้าประตูพร้อมสีหน้าตื่นตระหนก

 

 

“มีอะไรเหรอคะ”

 

 

หลิงเจี่ยพาหลงเจี่ยไปที่ชั้นดาดฟ้า ที่ที่เธอพบกลุ่มคนกำลังมองไปที่สมาชิกเอสเอเจที่คุกเข่าอยู่ ชายหนุ่มทั้งสองและหญิงสาวอีกสองคนยกมือไว้ที่ท้ายทอยขณะที่คุกเข่าลงกับพื้น

 

 

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน” หลงเจี่ยเอ่ยถามอย่างงุนงง

 

 

เมื่อหลิงเจี่ยได้ยินคำถามนี้ เธอชูบางอย่างที่ค้นเจอจากตัวของสามชิดเอสเอเจขึ้นมา

 

 

หลงเจี่ยถึงกับอึ้งไปเมื่อมองแค่แวบเดียว

 

 

“พนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งเห็นว่าสี่คนนี้กำลังเสพไอ้นี่อยู่ในห้องเก็บของชั้นดาดฟ้า ถึงตอนนี้ฉันจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว แต่ฉันก็มั่นใจว่าพรุ่งนี้เรื่องจะต้องหลุดรั่วออกไปแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือการถ่ายทำที่ต้องถูกยกเลิกไป คงไม่มีใครรับมือกับกระแสตอบรับของเรื่องนี้ตอนที่มันถูกเปิดโปงแล้วได้หรอกนะ…

 

 

…เราสามารถทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ ฉันเลยแนะนำให้เธอแจ้งความส่งพวกเขาให้ตำรวจจะดีกว่า อย่างน้อยเธอจะได้รักษาชื่อเสียงของตัวเองไว้ได้บ้าง”

 

 

หลังจากหลงเจี่ยได้ยินเช่นนั้นเธอชะงักไปชั่วขณะก่อนเอ่ย “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องอย่างนี้ในวงการค่ะ”

 

 

“ตอนที่เกิดเรื่องแบบนี้กับคนอื่น พวกเขาคงปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ได้ อีกอย่างไม่มีใครเคยถูกจับได้คาหนังคาเขามาก่อน แต่ครั้งนี้… ฉันจะไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ เธอจัดการของเธอเองไปแล้วกัน” หลังเธอพูดจบ หลิงเจี่ยหันหลังเดินไปจากดาดฟ้าที่ลมพัดไหวๆ

 

 

ในขณะเดียวกันสมาชิกทั้งสี่คนของเอสเอเจเอาแต่ก้มหน้า อย่างกลัวเกินกว่าจะสบตามองหลงเจี่ย

 

 

“เรื่องมันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอถาม

 

 

“…” สมาชิกมองหน้ากันคล้ายตอบอะไรไม่ถูก

 

 

“พูดมาสิ!” หลงเจี่ยตวาดลั่น

 

 

“ตั้งแต่…ตอนที่เราเรียนมหาวิทยาลัยกันแล้วครับ” พวกเขาตอบกลับทันทีด้วยความกลัว จากนั้นจึงพยายามอธิบาย “เราแค่ทำมันเป็นครั้งคราวเองครับ”

 

 

“เป็นครั้งคราวงั้นเหรอ” เธอสวนกลับขณะที่หันหน้าหนี “หันซิวเช่อรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า”

 

 

“นอกจากพวกเรากันเองก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ครับ” พวกเขายืนกรานหนักแน่น ด้วยไม่ต้องการให้  คนบริสุทธิ์  ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย ทว่าพวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองถูกจับได้เพราะหันซิวเช่อบอกใบ้ให้กับพนักงานทำความสะอาด

 

 

“ดี” หลังจากเธอพูดจบ หลงเจี่ยหันหลังเดินจากไป หากแต่หนึ่งในสมาชิกสาวจับชายกระโปรงของหลงเจี่ยไว้

 

 

“หลงเจี่ย…คุณจะทิ้งพวกเราเหรอคะ”

 

 

“เธอคิดว่ามีอะไรที่ฉันทำให้พวกเธอได้อีกไหมล่ะ” หลงเจี่ยถามกลับ “ฉันควรจะทำยังไงตอนที่เห็นคาตาว่าสมาชิกในวงทำแบบนี้ล่ะ”

 

 

“เราผิดไปแล้วค่ะ…เราผิดไปแล้วจริงๆ นะคะ”

 

 

ทว่าพูดคำนั้นออกมาตอนนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ

 

 

หลงเจี่ยสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ก่อนหันหลังกลับไปที่ห้องของตัวเองโดยไม่รั้งรอ อย่างไรก็ตามตอนนั้นเองอยู่ๆ เธอก็ได้รับวิดีโอ

 

 

วิดีโอที่บันทึกเรื่องต่ำทรามที่ทั้งสี่คนทำบนดาดฟ้าได้อย่างชัดเจน

 

 

เมื่อเธอมองชื่อคนที่ส่งมา หลงเจี่ยชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงต่อสายหาหันซิวเช่อ

 

 

“ส่งวิดีโอนี้มาให้ฉันทำไม”

 

 

“หลงเจี่ย ผมว่าเราควรออกมาคุยกันหน่อยนะครับ…” หลังหันซิวเช่อว่าเช่นนั้น ก่อนเสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เมื่อเปิดออกก็พบหันซิวเช่อส่งยิ้มเหยียดมาให้เธอพร้อมโบกโทรศัพท์ไปมาอยู่หน้าประตู

 

 

ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปทันที ไม่ว่าเธอจะโง่เง่าสักแค่ไหน เธอก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

เธอหลีกทางและปล่อยให้เขาเข้ามาในห้อง…

 

 

หันซิวเช่อมองเธอก่อนเดินเข้าไปและปิดประตู

 

 

“ทำไมล่ะ” เธอเอ่ยถามขณะที่หันหลังให้เขา เธอโกรธเสียจนไม่ทันรู้ตัวว่ามือตัวเองสั่นระริก “ฉันเฝ้าระวังคุณมาตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่เราทำงานด้วยกันมานาน ฉันก็เชื่อใจคุณเต็มที่”

 

 

หันซิวเช่อไหวไหล่ก่อนหัวเราะออกมา “ก็ไม่ทำไมหรอกครับ ถ้าผมจะต้องให้เหตุผลจริงๆ คงเป็นเพราะคุณสนิทสนมกับถังหนิงเกินไปล่ะมั้งครับ…”

 

 

“ถังหนิงเหรอ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับถังหนิงด้วย” เธอถามด้วยความงุนงง

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+