วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1037 คุณพ่อถิงสุดยอดไปเลย!

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1037 คุณพ่อถิงสุดยอดไปเลย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทรมานเหรอ ผมต้องทรมานอยู่แล้วล่ะ แต่ผมจะไม่นั่งอยู่เฉยๆ หรอกนะ” หันซิวเช่อหัวเราะเยาะหม่าเวยเวยระหว่างที่ทำงานการ์ตูนของเขาอยู่ “น่าสงสารจังเลยนะครับ…”

ถังหนิงอยากจะทำภาพยนตร์ไซไฟขึ้นมาจริงๆ หรือ

หันซิวเช่อมีประสบการณ์กับเรื่องไซไฟมามาก หากมีความเป็นไปได้ที่ถังหนิงจะสร้างบางอย่างในแวดวงนั้น แล้วจะมีอะไรที่เขาทำไม่ได้กันล่ะ

ระหว่างนั้นเองเรื่องของจู้ซิงมีเดียยังคงยืดเยื้อต่อไป แต่สิ่งที่น่าผิดหวังคือจู้ซิงมีเดียก่อตั้งขึ้นมาโดยถัง หนิง แต่เธอกลับทิ้งมันได้ง่ายถึงเพียงนี้ สำหรับหันซิวเช่อแล้วเธอช่างเป็นคนกลับกลอกเสียจริง

ไม่ว่าคนอื่นจะชื่นชมเธออย่างไร มันก็ไม่ใช่เรื่งสำคัญ แค่เขารู้ว่าแท้จริงแล้วเธอจอมปลอมแค่ไหนก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว

ในขณะเดียวกันหม่าเวยเวยตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช อย่างไรเสียชะตากรรมของเธอย่อมผูกติดกับถังหนิง และไม่อาจควบคุมมันได้

ทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอคือการคว้างานของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในระดับนานาชาติมาให้ได้ อย่างไรก็ตามเธอคงนึกไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกเหยียดหยามที่งานคัดตัวในวันถัดมาขนาดไหน

เช้าวันถัดมา…

ถังหนิงรับปากก่อนหน้านี้ว่าเธอจะพาโม่จื่อเฉินไปทดสอบกับโม่ถิงหลังจากกลับมาปักกิ่ง เจ้าตัวแสบเป็นคนฉลาดแต่เขาไม่เคยพยายามสื่อสารกับผู้ใหญ่อย่างที่เด็กคนอื่นๆ ทำ พวกเขาจึงต้องพาเขาไปทดสอบ

อย่างน้อยหากพฤติกรรมแปลกๆ ของเขาเป็นอาการป่วยจะได้รักษาได้ทันท่วงที

ด้วยเหตุนี้หลงเจี่ยจึงติดต่อผู้เชี่ยวชาญและเก็บเรื่องการนัดหมายของถังหนิงและเจ้านายเป็นความลับ คาดไม่ถึงว่าเจ้าตัวป่วนจะไม่ได้มีอาการกลัวแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้ออกจากบ้านมาก่อนก็ตาม

โม่ถิงอุ้มลูกชายพร้อมถังหนิงที่อยู่ข้างๆ ทั้งคู่ทำตัวไม่ให้เป็นที่จับตามองขณะที่มุ่งหน้าไปยังแผนกประสาทวิทยาของโรงพยาบาล

เมื่อหมอเห็นทั้งสอง เธอรีบเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มและรับโม่จื่อเฉินมาจากมือของพวกเขา “ฉันได้ยินเรื่องพฤติกรรมแปลกๆ ของนายน้อยจากคุณหลงแล้วค่ะ เขาแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกันจริงค่ะ แม้แต่กับน้องชายฝาแฝดของเขาเองก็ตาม

“ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณโม่และคุณนายโม่ ฉันจะคอยดูแลนายน้อยตลอดการทดสอบเป็นอย่างดีเลยค่ะ วางใจได้เลย”

โม่ถิงโอบไหล่ถังหนิงก่อนพยักหน้าให้ จากนั้นจึงออกไปรอที่ห้องรับรองกับหลงเจี่ย

การทดสอบใช้เวลาทั้งหมดราวๆ 1 ชั่วโมง หมออุ้มโม่จื่อเฉินออกมาส่งคืนให้โม่ถิงในเวลาต่อมา

ครั้งนี้เจ้าตัวแสบได้ผล็อยหลับไปเสียแล้ว

“หมอ ผลเป็นยังไงบ้างครับ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ นายน้อยแข็งแรงดีและไม่ได้มีอาการน่าเป็นกังวลเลยค่ะ”

“แต่ว่าเขาไม่ร้องไห้หรืองอแง หรือแม้แต่พูดออกมาเลยนะครับ”

“นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ ถ้าเขาอยากจะพูดเดี๋ยวเขาก็จะพูดออกมาเอง พวกคุณสองคนอาจจะให้กำเนิดอัจฉริยะมาก็ได้นะคะ! ต่อไปนี้คุณควรสนับสนุนในสิ่งที่เขาชอบ และเอามันมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเท่าที่จะทำได้ ถ้าทำอย่างนั้นคุณก็จะพบว่าเขาเป็นอัจฉริยะด้านไหนได้ค่ะ

“แต่ก็ต้องระวังว่าเด็กที่ฉลาดมักจะสุ่มเสี่ยงกับอาการโดดเดี่ยวด้วยนะคะ”

ถังหนิงมองหน้าโม่ถิงพลางลูบศีรษะลูกชาย ก่อนพยักหน้าให้หมอ “เราจะระวังเอาไว้ค่ะ”

จากนั้นทั้งคู่จึงพาลูกชายกลับบ้าน

ระหว่างทางกลับบ้าน ถังหนิงเห็นว่าโม่ถิงไม่ได้มีท่าทีกังวลแต่อย่างใด “ถ้าเขาฉลาดเกินไปจนเรารับมือไม่ไหวขึ้นมาล่ะคะ”

“มันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกครับ” โม่ถิงหันไปมองภรรยาของตัวเองอย่างจริงจัง “แค่เขาสุขภาพดีก็พอแล้ว ต่อไปนี้ผมจะเป็นคนสอนเขาเอง โอเคไหมครับ”

เดิมทีถังหนิงพาโม่จื่อเฉินไปโรงพยาบาลเพราะต้องการรู้ว่าเขาแข็งแรงดีหรือไม่ เธอไม่ได้สนใจเรื่องอื่นแม้แต่น้อย ดังนั้นไม่ว่าเจ้าตัวแสบจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังเป็นเด็กชายตัวน้อยที่มีค่าสำหรับเธอและโม่ถิง นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้

ถังหนิงถอนหายใจ “ฉันไม่ได้หวังอะไรมากหรอกค่ะ แค่เขามีความสุขและเป็นคนดีก็พอแล้ว เขาจะประสบความสำเร็จในชีวิตหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้วล่ะค่ะ”

“ไม่ต้องห่วงนะครับ โอเคไหม” โม่ถิงอุ้มโม่จื่อเฉินไว้ด้วยแขนเดียวขณะที่ยกมือไล้ไปตามเรือนผมของถังหนิง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งคู่อาจพยายามไม่ทำตัวให้โดดเด่น แต่คนที่ผ่านไปมายังคงสังเกตเห็นพวกเขาและโพสต์รูปลงในโลกออนไลน์

ผู้คนต่างแสดงความเห็นว่าการได้เห็นโม่ถิงกับภรรยาของเขาในสถานการณ์อึมครึมระหว่างหม่าเวยเวยกับถังหนิงนับว่าเป็นสิ่งที่ชื่นตาชื่นใจไม่น้อย

ในรูปปรากฏภาพโม่ถิงกำลังอุ้มลูกชายอย่างคล่องแคล่วในขณะที่ถังหนิงซบแขนของเขา ทั้งสามดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหลือเกิน

“คุณพ่อถิงสุดยอดไปเลย…”

“นายใหญ่แห่งวงการบันเทิงทุ่มเทให้กับภรรยาและรักลูกชายของเขาจริงๆ น่าประทับใจสุดๆ ! ”

แน่นอนว่ามีบางคนอ้างว่าถังหนิงพยายามสร้างภาพว่าตัวเองเป็นแม่ที่ดีในสายตาคนภายนอก หากแต่ความคิดเห็นเช่นนี้กลับถูกคนอื่นๆ ตอกกลับทันควัน

“เธอแค่พาลูกไปโรงพยาบาล ทำไมบางคนต้องต่อว่าเธอขนาดนั้นด้วย เด็กๆ ก็ต้องป่วยง่ายอยู่แล้วนี่…”

“อย่าลืมว่าใครเป็นอาจารย์ของถังหนิงนะ เธอไม่ได้สร้างภาพอะไรทั้งนั้นแหละ”

“บางคนเห็นข่าวอย่างนี้แล้วหงุดหงิดใจได้ยังไงกัน ต้องเป็น แฟนๆ รุ่นแม่ แน่ๆ ”

“ไม่มีใครสังเกตว่าลูกชายของเธอน่ารักบ้างเลยเหรอ”

ในภาพโม่จื่อเฉินกำลังนอนหลับซบไหล่ของคนเป็นพ่อ ใบหน้าของเขาจึงดูน่ารักน่าเอ็นดู คนจึงอดไม่ได้ที่จะถอนใจออกมา ต้องเป็นเพราะพันธุกรรมแน่ๆ…

“ฉันเองก็อยากจะมีลูกน่ารักๆ แบบนี้บ้างจัง! ”

ในขณะที่เกิดข้อถกเถียงเหล่านี้ขึ้น บ้านของถังหนิงอบอวลไปด้วยความอบอุ่นเพราะการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนของโม่จื่อเฉินได้ดึงดูดเรื่องดีๆ มากมาย…

เวลาเดียวกันนั้นด้วยความช่วยเหลือจากทางต้นสังกัด หม่าเวยเวยเข้าพบเจ้าของยี่ห้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าชั้นนำที่เธอกำลังจะเข้าร่วมคัดตัวได้สำเร็จ แต่หลังจากคุยกันครู่หนึ่งชายคนนั้นก็มองสำรวจเธอหัวจรดเท้าและแสดงท่าทีที่คาดเดาไม่ถูกออกมา ดูไม่ออกสักนิดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่…

ดังนั้นต้นสังกัดของหม่าเวยเวยจึงได้แต่งุนงง หรือพวกเขาทุ่มเทเพื่อลูกค้าอย่างหนักจนอีกฝ่ายไม่มั่นใจกัน แต่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทเองก็เหนื่อยมามากเพื่อสิ่งนี้…

“คุณโจวครับ คุณคงรู้ว่าตอนนี้เวยเวยของเราโด่งดังในปักกิ่งมากแค่ไหน มีส่วนไหนที่คุณไม่พอใจเหรอครับ”

คุณโจวเงยหน้าก่อนเหลือบมองหม่าเวยเวย จากนั้นจึงตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะ “พูดตามตรงเลยนะครับ มีต้นสังกัดมากมายที่ติดต่อผมมาเพื่องานนี้ ผมรู้ว่าบริษัทของคุณหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับผมเต็มที่ แต่ผมต้องขอโทษด้วยครับ ตัวเลือกแรกของเราคือถังหนิงมาตลอด แต่เธอปฏิเสธเราไปแล้ว

“ถึงจะเป็นอย่างนั้น

“เราเองก็ยินดีจะหาคนอื่นที่จะทำงานร่วมกันมากกว่าคนหน้าพลาสติกบางคน มันเหมือนเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของเราน่ะครับ” เขาว่าขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “อีกอย่างถ้าพูดถึงเรื่องชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ศิลปินในสังกัดคุณยังห่างชั้นกับถังหนิงมากครับ เราจะจ้างคนที่ไม่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติได้ยังไงกันล่ะครับ

“สำหรับเราแล้วเงินและผลประโยชน์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุดก็คือ

“เราต้องการหาตัวแทนที่เหมาะสมกับตัวตนของเราจริงๆ

“เราจำเป็นต้องคำนึงถึงสถานะด้วยน่ะครับ สถานะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เข้าใจใช่ไหมครับ

“น่าเสียดายที่ศิลปินของคุณไม่ได้มาตรฐาน…”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1037 คุณพ่อถิงสุดยอดไปเลย!

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1037 คุณพ่อถิงสุดยอดไปเลย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทรมานเหรอ ผมต้องทรมานอยู่แล้วล่ะ แต่ผมจะไม่นั่งอยู่เฉยๆ หรอกนะ” หันซิวเช่อหัวเราะเยาะหม่าเวยเวยระหว่างที่ทำงานการ์ตูนของเขาอยู่ “น่าสงสารจังเลยนะครับ…”

ถังหนิงอยากจะทำภาพยนตร์ไซไฟขึ้นมาจริงๆ หรือ

หันซิวเช่อมีประสบการณ์กับเรื่องไซไฟมามาก หากมีความเป็นไปได้ที่ถังหนิงจะสร้างบางอย่างในแวดวงนั้น แล้วจะมีอะไรที่เขาทำไม่ได้กันล่ะ

ระหว่างนั้นเองเรื่องของจู้ซิงมีเดียยังคงยืดเยื้อต่อไป แต่สิ่งที่น่าผิดหวังคือจู้ซิงมีเดียก่อตั้งขึ้นมาโดยถัง หนิง แต่เธอกลับทิ้งมันได้ง่ายถึงเพียงนี้ สำหรับหันซิวเช่อแล้วเธอช่างเป็นคนกลับกลอกเสียจริง

ไม่ว่าคนอื่นจะชื่นชมเธออย่างไร มันก็ไม่ใช่เรื่งสำคัญ แค่เขารู้ว่าแท้จริงแล้วเธอจอมปลอมแค่ไหนก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว

ในขณะเดียวกันหม่าเวยเวยตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช อย่างไรเสียชะตากรรมของเธอย่อมผูกติดกับถังหนิง และไม่อาจควบคุมมันได้

ทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอคือการคว้างานของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในระดับนานาชาติมาให้ได้ อย่างไรก็ตามเธอคงนึกไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกเหยียดหยามที่งานคัดตัวในวันถัดมาขนาดไหน

เช้าวันถัดมา…

ถังหนิงรับปากก่อนหน้านี้ว่าเธอจะพาโม่จื่อเฉินไปทดสอบกับโม่ถิงหลังจากกลับมาปักกิ่ง เจ้าตัวแสบเป็นคนฉลาดแต่เขาไม่เคยพยายามสื่อสารกับผู้ใหญ่อย่างที่เด็กคนอื่นๆ ทำ พวกเขาจึงต้องพาเขาไปทดสอบ

อย่างน้อยหากพฤติกรรมแปลกๆ ของเขาเป็นอาการป่วยจะได้รักษาได้ทันท่วงที

ด้วยเหตุนี้หลงเจี่ยจึงติดต่อผู้เชี่ยวชาญและเก็บเรื่องการนัดหมายของถังหนิงและเจ้านายเป็นความลับ คาดไม่ถึงว่าเจ้าตัวป่วนจะไม่ได้มีอาการกลัวแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้ออกจากบ้านมาก่อนก็ตาม

โม่ถิงอุ้มลูกชายพร้อมถังหนิงที่อยู่ข้างๆ ทั้งคู่ทำตัวไม่ให้เป็นที่จับตามองขณะที่มุ่งหน้าไปยังแผนกประสาทวิทยาของโรงพยาบาล

เมื่อหมอเห็นทั้งสอง เธอรีบเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มและรับโม่จื่อเฉินมาจากมือของพวกเขา “ฉันได้ยินเรื่องพฤติกรรมแปลกๆ ของนายน้อยจากคุณหลงแล้วค่ะ เขาแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกันจริงค่ะ แม้แต่กับน้องชายฝาแฝดของเขาเองก็ตาม

“ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณโม่และคุณนายโม่ ฉันจะคอยดูแลนายน้อยตลอดการทดสอบเป็นอย่างดีเลยค่ะ วางใจได้เลย”

โม่ถิงโอบไหล่ถังหนิงก่อนพยักหน้าให้ จากนั้นจึงออกไปรอที่ห้องรับรองกับหลงเจี่ย

การทดสอบใช้เวลาทั้งหมดราวๆ 1 ชั่วโมง หมออุ้มโม่จื่อเฉินออกมาส่งคืนให้โม่ถิงในเวลาต่อมา

ครั้งนี้เจ้าตัวแสบได้ผล็อยหลับไปเสียแล้ว

“หมอ ผลเป็นยังไงบ้างครับ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ นายน้อยแข็งแรงดีและไม่ได้มีอาการน่าเป็นกังวลเลยค่ะ”

“แต่ว่าเขาไม่ร้องไห้หรืองอแง หรือแม้แต่พูดออกมาเลยนะครับ”

“นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ ถ้าเขาอยากจะพูดเดี๋ยวเขาก็จะพูดออกมาเอง พวกคุณสองคนอาจจะให้กำเนิดอัจฉริยะมาก็ได้นะคะ! ต่อไปนี้คุณควรสนับสนุนในสิ่งที่เขาชอบ และเอามันมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเท่าที่จะทำได้ ถ้าทำอย่างนั้นคุณก็จะพบว่าเขาเป็นอัจฉริยะด้านไหนได้ค่ะ

“แต่ก็ต้องระวังว่าเด็กที่ฉลาดมักจะสุ่มเสี่ยงกับอาการโดดเดี่ยวด้วยนะคะ”

ถังหนิงมองหน้าโม่ถิงพลางลูบศีรษะลูกชาย ก่อนพยักหน้าให้หมอ “เราจะระวังเอาไว้ค่ะ”

จากนั้นทั้งคู่จึงพาลูกชายกลับบ้าน

ระหว่างทางกลับบ้าน ถังหนิงเห็นว่าโม่ถิงไม่ได้มีท่าทีกังวลแต่อย่างใด “ถ้าเขาฉลาดเกินไปจนเรารับมือไม่ไหวขึ้นมาล่ะคะ”

“มันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกครับ” โม่ถิงหันไปมองภรรยาของตัวเองอย่างจริงจัง “แค่เขาสุขภาพดีก็พอแล้ว ต่อไปนี้ผมจะเป็นคนสอนเขาเอง โอเคไหมครับ”

เดิมทีถังหนิงพาโม่จื่อเฉินไปโรงพยาบาลเพราะต้องการรู้ว่าเขาแข็งแรงดีหรือไม่ เธอไม่ได้สนใจเรื่องอื่นแม้แต่น้อย ดังนั้นไม่ว่าเจ้าตัวแสบจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังเป็นเด็กชายตัวน้อยที่มีค่าสำหรับเธอและโม่ถิง นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้

ถังหนิงถอนหายใจ “ฉันไม่ได้หวังอะไรมากหรอกค่ะ แค่เขามีความสุขและเป็นคนดีก็พอแล้ว เขาจะประสบความสำเร็จในชีวิตหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้วล่ะค่ะ”

“ไม่ต้องห่วงนะครับ โอเคไหม” โม่ถิงอุ้มโม่จื่อเฉินไว้ด้วยแขนเดียวขณะที่ยกมือไล้ไปตามเรือนผมของถังหนิง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งคู่อาจพยายามไม่ทำตัวให้โดดเด่น แต่คนที่ผ่านไปมายังคงสังเกตเห็นพวกเขาและโพสต์รูปลงในโลกออนไลน์

ผู้คนต่างแสดงความเห็นว่าการได้เห็นโม่ถิงกับภรรยาของเขาในสถานการณ์อึมครึมระหว่างหม่าเวยเวยกับถังหนิงนับว่าเป็นสิ่งที่ชื่นตาชื่นใจไม่น้อย

ในรูปปรากฏภาพโม่ถิงกำลังอุ้มลูกชายอย่างคล่องแคล่วในขณะที่ถังหนิงซบแขนของเขา ทั้งสามดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหลือเกิน

“คุณพ่อถิงสุดยอดไปเลย…”

“นายใหญ่แห่งวงการบันเทิงทุ่มเทให้กับภรรยาและรักลูกชายของเขาจริงๆ น่าประทับใจสุดๆ ! ”

แน่นอนว่ามีบางคนอ้างว่าถังหนิงพยายามสร้างภาพว่าตัวเองเป็นแม่ที่ดีในสายตาคนภายนอก หากแต่ความคิดเห็นเช่นนี้กลับถูกคนอื่นๆ ตอกกลับทันควัน

“เธอแค่พาลูกไปโรงพยาบาล ทำไมบางคนต้องต่อว่าเธอขนาดนั้นด้วย เด็กๆ ก็ต้องป่วยง่ายอยู่แล้วนี่…”

“อย่าลืมว่าใครเป็นอาจารย์ของถังหนิงนะ เธอไม่ได้สร้างภาพอะไรทั้งนั้นแหละ”

“บางคนเห็นข่าวอย่างนี้แล้วหงุดหงิดใจได้ยังไงกัน ต้องเป็น แฟนๆ รุ่นแม่ แน่ๆ ”

“ไม่มีใครสังเกตว่าลูกชายของเธอน่ารักบ้างเลยเหรอ”

ในภาพโม่จื่อเฉินกำลังนอนหลับซบไหล่ของคนเป็นพ่อ ใบหน้าของเขาจึงดูน่ารักน่าเอ็นดู คนจึงอดไม่ได้ที่จะถอนใจออกมา ต้องเป็นเพราะพันธุกรรมแน่ๆ…

“ฉันเองก็อยากจะมีลูกน่ารักๆ แบบนี้บ้างจัง! ”

ในขณะที่เกิดข้อถกเถียงเหล่านี้ขึ้น บ้านของถังหนิงอบอวลไปด้วยความอบอุ่นเพราะการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนของโม่จื่อเฉินได้ดึงดูดเรื่องดีๆ มากมาย…

เวลาเดียวกันนั้นด้วยความช่วยเหลือจากทางต้นสังกัด หม่าเวยเวยเข้าพบเจ้าของยี่ห้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าชั้นนำที่เธอกำลังจะเข้าร่วมคัดตัวได้สำเร็จ แต่หลังจากคุยกันครู่หนึ่งชายคนนั้นก็มองสำรวจเธอหัวจรดเท้าและแสดงท่าทีที่คาดเดาไม่ถูกออกมา ดูไม่ออกสักนิดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่…

ดังนั้นต้นสังกัดของหม่าเวยเวยจึงได้แต่งุนงง หรือพวกเขาทุ่มเทเพื่อลูกค้าอย่างหนักจนอีกฝ่ายไม่มั่นใจกัน แต่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทเองก็เหนื่อยมามากเพื่อสิ่งนี้…

“คุณโจวครับ คุณคงรู้ว่าตอนนี้เวยเวยของเราโด่งดังในปักกิ่งมากแค่ไหน มีส่วนไหนที่คุณไม่พอใจเหรอครับ”

คุณโจวเงยหน้าก่อนเหลือบมองหม่าเวยเวย จากนั้นจึงตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะ “พูดตามตรงเลยนะครับ มีต้นสังกัดมากมายที่ติดต่อผมมาเพื่องานนี้ ผมรู้ว่าบริษัทของคุณหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับผมเต็มที่ แต่ผมต้องขอโทษด้วยครับ ตัวเลือกแรกของเราคือถังหนิงมาตลอด แต่เธอปฏิเสธเราไปแล้ว

“ถึงจะเป็นอย่างนั้น

“เราเองก็ยินดีจะหาคนอื่นที่จะทำงานร่วมกันมากกว่าคนหน้าพลาสติกบางคน มันเหมือนเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของเราน่ะครับ” เขาว่าขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “อีกอย่างถ้าพูดถึงเรื่องชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ศิลปินในสังกัดคุณยังห่างชั้นกับถังหนิงมากครับ เราจะจ้างคนที่ไม่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติได้ยังไงกันล่ะครับ

“สำหรับเราแล้วเงินและผลประโยชน์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุดก็คือ

“เราต้องการหาตัวแทนที่เหมาะสมกับตัวตนของเราจริงๆ

“เราจำเป็นต้องคำนึงถึงสถานะด้วยน่ะครับ สถานะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เข้าใจใช่ไหมครับ

“น่าเสียดายที่ศิลปินของคุณไม่ได้มาตรฐาน…”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+