วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1117 มันคือชะตากรรมของเหลียงหย่งอวี๋!

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1117 มันคือชะตากรรมของเหลียงหย่งอวี๋! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนแรกที่โทรหาคือแม่ของเขา น้ำเสียงของหญิงสูงวัยฟังดูผิดหวังไม่น้อยขณะเอ่ย “เหล่ยเอ๋อร์ ข่าวออนไลน์นั่นเป็นเรื่องจริงเหรอ”

“แม่ครับ เกิดอะไรขึ้น”

“มาดูด้วยตาตัวเองสิ”

เขากับเหลียงหย่งอวี๋ร่วมกันตกเป็นพาดหัวข่าวบันเทิง

‘เหลียงหย่งอวี๋สมคบคิดกับชู้รักหลอกเอาเงินหนึ่งพันล้านหยวนจากตระกูลตี๋โดนกรรมตามทันจนพังพินาศ!’

‘คุณหมอแสนสวยผู้มีไหวพริบเปิดโปงเรื่องชั่วช้า หรือเธอจะเป็นลูกศิษย์ของถังหนิงกัน’

ฉีเหล่ยอ่านข่าวออนไลน์อย่างละเอียดก่อนมีอาการสติแตก!

ไม่นานเขาก็ได้รับสายจากที่ทำงานของเขาว่าตัวเองถูกไล่ออก ในขณะเดียวกันทั้งเพื่อนๆ และคนในครอบครัวต่างโทรมาต่อว่าเขาว่าเป็นคนสารเลว!

เพราะไม่เพียงแต่คุณหมอสาวจะเปิดเผยว่าเขาร่วมหัวกับเหลียงหย่งอวี๋เพื่อหลอกลวงตระกูลตี๋ แต่ยังแฉว่าเขาคบกับผู้หญิงสามคนในคราวเดียวกันและหลอกให้รักและเอาเงินไปโดยใช้หน้าที่การงานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของเขา

แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนรู้ถึงความชั่วร้ายของฉีเหล่ยกับเหลียงหย่งอวี๋แล้ว พวกเขาเริ่มรู้สึกสงสารตระกูลตี๋ และยังชื่นชมคุณหมอสาวที่มีความรับผิดชอบพอที่จะบริจาคเงินสกปรกหนึ่งพันล้านหยวนนั้นให้กับโรงพยาบาลเพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง

ตอนนี้เรื่องมาจนถึงจุดนี้แล้วยังจะมีโอกาสให้พลิกเกมอีกหรือ

ไม่มีทาง…ช่างโชคร้ายฉีเหล่ยคงต้องอยู่อย่างอับอายและใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเพื่อไม่ให้ใครจำเขาได้ไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา

เมื่อคิดได้เช่นนี้ฉีเหล่ยก็เริ่มหัวเราะเยาะตัวเองออกมา ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองฉลาดเสียเต็มประดา แต่เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นในมือใครสักคน… อย่างไรเสียใครจะจัดการกับคนอื่นได้รุนแรงไปมากกว่านี้กันล่ะ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงโม่ถิงกับถังหนิงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ของขวัญตอบแทนเช่นนี้นั้นสาสมกับเหลียงหย่งอวี๋แล้ว!

“จนถึงป่านนี้เหลียงหย่งอวี๋อดอยากมาสี่วันโดยที่ไม่มีเงินติดตัวสักนิด เธอกำลังพยายามใช้บ้านของเธอเป็นหลักค้ำประกันเพื่อกู้เงินอยู่ แต่ว่าทางธนาคารไม่อนุมัติครับ เธอเลยใช้ชีวิตอย่างทุลักทุเลมาก

“เห็นได้ชัดว่าช่วงหลายวันมานี้เธอไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆ บ้านตระกูลตี๋ ผมเกรงว่าเธอจะทนไม่ไหว เป็นอย่างนี้ต่อไปเธอจะต้องไปอ้อนวอนพวกเขาแน่นอนครับ”

หลังได้ได้ยินลู่เช่อว่าเช่นนั้น โม่ถิงกับถังหนิงสบตามองกัน

ถังหนิงตอบกลับหลังผ่านไปชั่วขณะ “ถ้าอย่างนั้นก็เตือนตี๋หลินเทียนเรื่องที่เขาสัญญาไว้กับฉันแล้วกัน”

“ไม่ต้องห่วงครับ นายหญิง!”

เหลียงหย่งอวี๋ไม่รู้ว่าตี๋หลินเทียนจะมีคนรักใหม่เร็วขนาดนี้ เดิมทีเธอคิดว่าตระกูลตี๋คงจะช่วยเธอหากเธอกลับไปขอร้องพวกเขา เธอจึงรอเวลาก่อนรีบตรงเข้าไปขวางไมบัคของตี๋หลินเทียนเอาไว้…

รถหยุดพร้อมเสียงล้อที่เสียดสีกับพื้นถนนดังลั่น ตี๋หลินเทียนมองออกไปอย่างงุนงงและเดินออกมาหลังจากเห็นว่าเป็นเหลียงหย่งอวี๋

“เธอเองเหรอ…”

เหลียงหย่งอวี๋คุกเข่าต่อหน้าเขาและปล่อยโฮออกมา “หลินเทียนฉันรู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว ได้โปรดให้อภัยฉันเถอะ ตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไรแล้วและฉันก็ไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วด้วย

“คุณเห็นแก่เรื่องในอดีตของเราและช่วยฉันได้ไหม”

“ไหนๆ เราก็พูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว ฉันอยากจะบอกให้เธอรู้เอาไว้สองเรื่อง อย่างแรก จริงอยู่ที่ตระกูลตี๋รักเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่เราก็ไม่ได้ทำร้ายลูกสาวคนโตของเธอจนตาย ตระกูลตี๋อาจจะน่ารังเกียจแต่เราไม่มีทางฆ่าลูกหลานของเราเด็ดขาด

“สอง ฉันรู้ว่าตัวเองสมควรถูกลงโทษกับสิ่งที่ทำกับเธอไว้เมื่อก่อน ฉะนั้นหลังจากที่เธอทำร้ายฉันไปแล้วตอนนี้ฉันว่าเราก็เสมอกันแล้ว

“สาม เห็นแก่เรื่องในอดีตของเรา ฉันว่าเธออยู่ให้ห่างตระกูลตี๋จะดีกว่านะ”

“ไม่นะ หลินเทียน ฉันมีลูกชายอีกคนให้คุณได้นะ ฉันทำได้แน่ๆ …”

“มันไม่จำเป็นหรอก มีศักดิ์ศรีในตัวเองบ้างสิ” ตี๋หลินเทียนเอ่ยก่อนหันไปมองหญิงสาวในรถของเขา

เมื่อเจียงรั่วหลินเห็นเช่นนั้น เธอก้าวลงมาจากรถและเข้าไปหาเหลียงหย่งอวี๋ “ถึงคุณจะดูน่าสงสารมาก ฉันก็ดีใจที่ได้เห็นคุณแสดงตัวตนที่อ่อนแอออกมาแบบนี้นะคะ

“เมื่อก่อนหลินเทียนอาจจะทำผิดต่อคุณและทำเหมือนคุณเป็นของเล่น แต่เขาก็ได้ชดใช้เรื่องนี้แล้วค่ะ ดังนั้นอย่าพูดถึงเรื่องในอดีตอีกเลยนะคะ

“คุณเหลียงเลิกร้องไห้ต่อหน้าเราสักที คุณเองก็มีแขนมีขา คุณทำมาหาเลี้ยงตัวเองได้ดังนั้นเลิกทำตัวน่าสงสารเถอะนะคะ

“ในโลกนี้ไม่มีอะไรคอยหนุนหลังคุณทุกอย่างหรอกนะคะ!

“ฉันหวังว่าวันนี้ฉันจะพูดให้คุณเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว อย่าเจอกันอีกเลยค่ะ!” พูดจบเจียงรั่วหลินก็เดินมาหาตี๋หลินเทียนและคล้องแขนเขา “กลับบ้านกันเถอะค่ะ”

“ตี๋หลินเทียน คุณไม่กลัวว่าฉันจะเปิดเผยทุกอย่างที่คุณเคยทำไว้เหรอ”

“เชิญตามสบาย!” เขาหันเดินจากไปพร้อมเจียงรั่วหลินโดยไม่หันกลับมามอง

ไม่ว่าเหลียงหย่งอวี๋จะร้องไห้ขนาดไหนเขาก็ไม่สนใจ

“ทำไมคุณถึงไปท้าทายเธอล่ะคะ” เจียงรั่วหลินถาม “คุณไม่กลัวว่าเธอจะแฉคุณจริงๆ เหรอ”

“ผมแค่อยากซื่อสัตย์และเปิดเผยน่ะครับ!” เขาตอบ

ทว่าตอนนี้ต่อให้เหลียงหย่งอวี๋จะบีบน้ำตาต่อหน้าสื่อและพยายามเปิดโปงบางอย่างเพียงไหนก็ไม่มีใครเชื่อเธออีกแล้ว…

มันคือชะตากรรมของเหลียงหย่งอวี๋!

….

หลังจากได้ชมการแสดง หลงเจี่ยที่ท้องอยู่ออกอาการพึงพอใจ เธอจึงอารมณ์ดีขึ้นมาก

“คุณจัดการกับนังชั่วนั่นอย่างนี่เองสินะ! เธอทั้งโลภแล้วก็ร้ายกาจ เพราะมีคนอย่างเธอโลกนี้เลยมัวหมองไปหมด”

“ในวงการบันเทิงเหลียงหย่งอวี๋ก็เป็นแค่น้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรเท่านั้นแหละ ทุกคนในวงการต่างก็แสวงหาชื่อเสียงและโชคกันทั้งนั้น ใครจะไม่มีเบื้องหลังต้องหลบซ่อนบ้างล่ะ” ถังหนิงว่าขึ้นขณะอ่านข่าว

“อย่าพูดให้ดูน่ากลัวอย่างนั้นสิคะ ถ้ามีคนอย่างเหลียงหย่งอวี๋อยู่ก็มีต้องคนแบบคุณอยู่ด้วยเหมือนกันค่ะ…” หลงเจี่ยขยิบตาให้ “อีกอย่างฉันก็อยู่ที่นี่มานานแล้วแต่คุณดูใจลอยไปที่อื่นนะคะ ดูอะไรอยู่เหรอคะ”

“กำลังอ่านประวัติของใครบางคนน่ะ…”

“ศิลปินที่คุณอยากจะช่วยเหรอคะ”

“ไม่ใช่อยู่แล้ว แต่เป็นคนโดดเดี่ยวคนหนึ่งที่ฉันอยากขอให้ช่วยน่ะ” ถังหนิงถอนหายใจ

หลังจากเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย ถังหนิงปรึกษาเรื่องนี้กับโม่ถิง เธออยากจะพูดคุยกับผู้กำกับและดูว่าเขาจะมาเป็นเฉียวเซินคนต่อไปได้หรือไม่

เธอถึงได้หาข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังของผู้กำกับคนนี้ เขาเป็นคนที่มีฝีมือชั้นเยี่ยม ความจริงแล้วมันเป็นความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ หากแต่มีคนไม่มากที่เข้าใจเขา พวกเขาแค่รู้สึกว่าความคิดของเขาแปลกอย่างที่เฉียวเซินเคยเจอ ถังหนิงจึงได้สนใจในตัวเขา

อย่างไรก็ตามเธอไม่มั่นใจว่าผู้กำกับคนใหม่นี้จะสนใจในด้านไซไฟอย่างเฉียวเซินหรือไม่ เธอได้แต่พยายามให้ถึงที่สุดเท่านั้น

ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่สิ่งที่ยังขาดหายไปคือผู้กำกับที่มีความคิดตรงกันกับเธอ…

นี่เป็นแนวทางที่เธอกำลังมุ่งหน้าไป

“ความคิดของคุณก็แปลกนิดๆ อยู่แล้วนี่คะ แต่เพราะว่าเป็นอย่างนั้นคุณถึงได้มาถึงจุดนี้ได้” หลงเจี่ยถอนหายใจ “บอกฉันมาสิคะว่าคุณวางแผนจะทำเรื่องชวนอึ้งอะไรอีก”

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ทุกคนอึ้งแต่อยากจะสนับสนุนคนที่มีความสามารถที่แท้จริงต่างหาก!” ถังหนิงตอบ “ในเมื่อตอนนี้เธอท้องอยู่ ฉันจะให้หลินเฉี่ยนดูแลจู้ซิงมีเดียไปก่อน พอคลอดเมื่อไหร่เธอค่อยกลับไปช่วยแล้วกัน”

“โอเคค่ะ” การพูดถึงจู้ซิงมีเดียทำให้หลงเจี่ยรู้สึกสับสนในใจไม่น้อย

“เธอท้องโย้ขนาดนี้น่าจะช่วยอะไรฉันมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ กลับบ้านไปพักผ่อนให้มากเท่าที่จะทำได้เถอะ”

ต่อไปนี้ถังหนิงจะวางแผนจัดการเรื่องผู้กำกับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1117 มันคือชะตากรรมของเหลียงหย่งอวี๋!

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 1117 มันคือชะตากรรมของเหลียงหย่งอวี๋! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนแรกที่โทรหาคือแม่ของเขา น้ำเสียงของหญิงสูงวัยฟังดูผิดหวังไม่น้อยขณะเอ่ย “เหล่ยเอ๋อร์ ข่าวออนไลน์นั่นเป็นเรื่องจริงเหรอ”

“แม่ครับ เกิดอะไรขึ้น”

“มาดูด้วยตาตัวเองสิ”

เขากับเหลียงหย่งอวี๋ร่วมกันตกเป็นพาดหัวข่าวบันเทิง

‘เหลียงหย่งอวี๋สมคบคิดกับชู้รักหลอกเอาเงินหนึ่งพันล้านหยวนจากตระกูลตี๋โดนกรรมตามทันจนพังพินาศ!’

‘คุณหมอแสนสวยผู้มีไหวพริบเปิดโปงเรื่องชั่วช้า หรือเธอจะเป็นลูกศิษย์ของถังหนิงกัน’

ฉีเหล่ยอ่านข่าวออนไลน์อย่างละเอียดก่อนมีอาการสติแตก!

ไม่นานเขาก็ได้รับสายจากที่ทำงานของเขาว่าตัวเองถูกไล่ออก ในขณะเดียวกันทั้งเพื่อนๆ และคนในครอบครัวต่างโทรมาต่อว่าเขาว่าเป็นคนสารเลว!

เพราะไม่เพียงแต่คุณหมอสาวจะเปิดเผยว่าเขาร่วมหัวกับเหลียงหย่งอวี๋เพื่อหลอกลวงตระกูลตี๋ แต่ยังแฉว่าเขาคบกับผู้หญิงสามคนในคราวเดียวกันและหลอกให้รักและเอาเงินไปโดยใช้หน้าที่การงานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของเขา

แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนรู้ถึงความชั่วร้ายของฉีเหล่ยกับเหลียงหย่งอวี๋แล้ว พวกเขาเริ่มรู้สึกสงสารตระกูลตี๋ และยังชื่นชมคุณหมอสาวที่มีความรับผิดชอบพอที่จะบริจาคเงินสกปรกหนึ่งพันล้านหยวนนั้นให้กับโรงพยาบาลเพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง

ตอนนี้เรื่องมาจนถึงจุดนี้แล้วยังจะมีโอกาสให้พลิกเกมอีกหรือ

ไม่มีทาง…ช่างโชคร้ายฉีเหล่ยคงต้องอยู่อย่างอับอายและใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเพื่อไม่ให้ใครจำเขาได้ไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา

เมื่อคิดได้เช่นนี้ฉีเหล่ยก็เริ่มหัวเราะเยาะตัวเองออกมา ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองฉลาดเสียเต็มประดา แต่เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นในมือใครสักคน… อย่างไรเสียใครจะจัดการกับคนอื่นได้รุนแรงไปมากกว่านี้กันล่ะ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงโม่ถิงกับถังหนิงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ของขวัญตอบแทนเช่นนี้นั้นสาสมกับเหลียงหย่งอวี๋แล้ว!

“จนถึงป่านนี้เหลียงหย่งอวี๋อดอยากมาสี่วันโดยที่ไม่มีเงินติดตัวสักนิด เธอกำลังพยายามใช้บ้านของเธอเป็นหลักค้ำประกันเพื่อกู้เงินอยู่ แต่ว่าทางธนาคารไม่อนุมัติครับ เธอเลยใช้ชีวิตอย่างทุลักทุเลมาก

“เห็นได้ชัดว่าช่วงหลายวันมานี้เธอไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆ บ้านตระกูลตี๋ ผมเกรงว่าเธอจะทนไม่ไหว เป็นอย่างนี้ต่อไปเธอจะต้องไปอ้อนวอนพวกเขาแน่นอนครับ”

หลังได้ได้ยินลู่เช่อว่าเช่นนั้น โม่ถิงกับถังหนิงสบตามองกัน

ถังหนิงตอบกลับหลังผ่านไปชั่วขณะ “ถ้าอย่างนั้นก็เตือนตี๋หลินเทียนเรื่องที่เขาสัญญาไว้กับฉันแล้วกัน”

“ไม่ต้องห่วงครับ นายหญิง!”

เหลียงหย่งอวี๋ไม่รู้ว่าตี๋หลินเทียนจะมีคนรักใหม่เร็วขนาดนี้ เดิมทีเธอคิดว่าตระกูลตี๋คงจะช่วยเธอหากเธอกลับไปขอร้องพวกเขา เธอจึงรอเวลาก่อนรีบตรงเข้าไปขวางไมบัคของตี๋หลินเทียนเอาไว้…

รถหยุดพร้อมเสียงล้อที่เสียดสีกับพื้นถนนดังลั่น ตี๋หลินเทียนมองออกไปอย่างงุนงงและเดินออกมาหลังจากเห็นว่าเป็นเหลียงหย่งอวี๋

“เธอเองเหรอ…”

เหลียงหย่งอวี๋คุกเข่าต่อหน้าเขาและปล่อยโฮออกมา “หลินเทียนฉันรู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว ได้โปรดให้อภัยฉันเถอะ ตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไรแล้วและฉันก็ไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วด้วย

“คุณเห็นแก่เรื่องในอดีตของเราและช่วยฉันได้ไหม”

“ไหนๆ เราก็พูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว ฉันอยากจะบอกให้เธอรู้เอาไว้สองเรื่อง อย่างแรก จริงอยู่ที่ตระกูลตี๋รักเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่เราก็ไม่ได้ทำร้ายลูกสาวคนโตของเธอจนตาย ตระกูลตี๋อาจจะน่ารังเกียจแต่เราไม่มีทางฆ่าลูกหลานของเราเด็ดขาด

“สอง ฉันรู้ว่าตัวเองสมควรถูกลงโทษกับสิ่งที่ทำกับเธอไว้เมื่อก่อน ฉะนั้นหลังจากที่เธอทำร้ายฉันไปแล้วตอนนี้ฉันว่าเราก็เสมอกันแล้ว

“สาม เห็นแก่เรื่องในอดีตของเรา ฉันว่าเธออยู่ให้ห่างตระกูลตี๋จะดีกว่านะ”

“ไม่นะ หลินเทียน ฉันมีลูกชายอีกคนให้คุณได้นะ ฉันทำได้แน่ๆ …”

“มันไม่จำเป็นหรอก มีศักดิ์ศรีในตัวเองบ้างสิ” ตี๋หลินเทียนเอ่ยก่อนหันไปมองหญิงสาวในรถของเขา

เมื่อเจียงรั่วหลินเห็นเช่นนั้น เธอก้าวลงมาจากรถและเข้าไปหาเหลียงหย่งอวี๋ “ถึงคุณจะดูน่าสงสารมาก ฉันก็ดีใจที่ได้เห็นคุณแสดงตัวตนที่อ่อนแอออกมาแบบนี้นะคะ

“เมื่อก่อนหลินเทียนอาจจะทำผิดต่อคุณและทำเหมือนคุณเป็นของเล่น แต่เขาก็ได้ชดใช้เรื่องนี้แล้วค่ะ ดังนั้นอย่าพูดถึงเรื่องในอดีตอีกเลยนะคะ

“คุณเหลียงเลิกร้องไห้ต่อหน้าเราสักที คุณเองก็มีแขนมีขา คุณทำมาหาเลี้ยงตัวเองได้ดังนั้นเลิกทำตัวน่าสงสารเถอะนะคะ

“ในโลกนี้ไม่มีอะไรคอยหนุนหลังคุณทุกอย่างหรอกนะคะ!

“ฉันหวังว่าวันนี้ฉันจะพูดให้คุณเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว อย่าเจอกันอีกเลยค่ะ!” พูดจบเจียงรั่วหลินก็เดินมาหาตี๋หลินเทียนและคล้องแขนเขา “กลับบ้านกันเถอะค่ะ”

“ตี๋หลินเทียน คุณไม่กลัวว่าฉันจะเปิดเผยทุกอย่างที่คุณเคยทำไว้เหรอ”

“เชิญตามสบาย!” เขาหันเดินจากไปพร้อมเจียงรั่วหลินโดยไม่หันกลับมามอง

ไม่ว่าเหลียงหย่งอวี๋จะร้องไห้ขนาดไหนเขาก็ไม่สนใจ

“ทำไมคุณถึงไปท้าทายเธอล่ะคะ” เจียงรั่วหลินถาม “คุณไม่กลัวว่าเธอจะแฉคุณจริงๆ เหรอ”

“ผมแค่อยากซื่อสัตย์และเปิดเผยน่ะครับ!” เขาตอบ

ทว่าตอนนี้ต่อให้เหลียงหย่งอวี๋จะบีบน้ำตาต่อหน้าสื่อและพยายามเปิดโปงบางอย่างเพียงไหนก็ไม่มีใครเชื่อเธออีกแล้ว…

มันคือชะตากรรมของเหลียงหย่งอวี๋!

….

หลังจากได้ชมการแสดง หลงเจี่ยที่ท้องอยู่ออกอาการพึงพอใจ เธอจึงอารมณ์ดีขึ้นมาก

“คุณจัดการกับนังชั่วนั่นอย่างนี่เองสินะ! เธอทั้งโลภแล้วก็ร้ายกาจ เพราะมีคนอย่างเธอโลกนี้เลยมัวหมองไปหมด”

“ในวงการบันเทิงเหลียงหย่งอวี๋ก็เป็นแค่น้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรเท่านั้นแหละ ทุกคนในวงการต่างก็แสวงหาชื่อเสียงและโชคกันทั้งนั้น ใครจะไม่มีเบื้องหลังต้องหลบซ่อนบ้างล่ะ” ถังหนิงว่าขึ้นขณะอ่านข่าว

“อย่าพูดให้ดูน่ากลัวอย่างนั้นสิคะ ถ้ามีคนอย่างเหลียงหย่งอวี๋อยู่ก็มีต้องคนแบบคุณอยู่ด้วยเหมือนกันค่ะ…” หลงเจี่ยขยิบตาให้ “อีกอย่างฉันก็อยู่ที่นี่มานานแล้วแต่คุณดูใจลอยไปที่อื่นนะคะ ดูอะไรอยู่เหรอคะ”

“กำลังอ่านประวัติของใครบางคนน่ะ…”

“ศิลปินที่คุณอยากจะช่วยเหรอคะ”

“ไม่ใช่อยู่แล้ว แต่เป็นคนโดดเดี่ยวคนหนึ่งที่ฉันอยากขอให้ช่วยน่ะ” ถังหนิงถอนหายใจ

หลังจากเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย ถังหนิงปรึกษาเรื่องนี้กับโม่ถิง เธออยากจะพูดคุยกับผู้กำกับและดูว่าเขาจะมาเป็นเฉียวเซินคนต่อไปได้หรือไม่

เธอถึงได้หาข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังของผู้กำกับคนนี้ เขาเป็นคนที่มีฝีมือชั้นเยี่ยม ความจริงแล้วมันเป็นความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ หากแต่มีคนไม่มากที่เข้าใจเขา พวกเขาแค่รู้สึกว่าความคิดของเขาแปลกอย่างที่เฉียวเซินเคยเจอ ถังหนิงจึงได้สนใจในตัวเขา

อย่างไรก็ตามเธอไม่มั่นใจว่าผู้กำกับคนใหม่นี้จะสนใจในด้านไซไฟอย่างเฉียวเซินหรือไม่ เธอได้แต่พยายามให้ถึงที่สุดเท่านั้น

ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่สิ่งที่ยังขาดหายไปคือผู้กำกับที่มีความคิดตรงกันกับเธอ…

นี่เป็นแนวทางที่เธอกำลังมุ่งหน้าไป

“ความคิดของคุณก็แปลกนิดๆ อยู่แล้วนี่คะ แต่เพราะว่าเป็นอย่างนั้นคุณถึงได้มาถึงจุดนี้ได้” หลงเจี่ยถอนหายใจ “บอกฉันมาสิคะว่าคุณวางแผนจะทำเรื่องชวนอึ้งอะไรอีก”

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ทุกคนอึ้งแต่อยากจะสนับสนุนคนที่มีความสามารถที่แท้จริงต่างหาก!” ถังหนิงตอบ “ในเมื่อตอนนี้เธอท้องอยู่ ฉันจะให้หลินเฉี่ยนดูแลจู้ซิงมีเดียไปก่อน พอคลอดเมื่อไหร่เธอค่อยกลับไปช่วยแล้วกัน”

“โอเคค่ะ” การพูดถึงจู้ซิงมีเดียทำให้หลงเจี่ยรู้สึกสับสนในใจไม่น้อย

“เธอท้องโย้ขนาดนี้น่าจะช่วยอะไรฉันมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ กลับบ้านไปพักผ่อนให้มากเท่าที่จะทำได้เถอะ”

ต่อไปนี้ถังหนิงจะวางแผนจัดการเรื่องผู้กำกับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+