วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1221 เธอยอมรับ
โม่จื่อซีมาถึงห้องพักของเฉินจิ้งหรงอย่างไม่สบอารมณ์นัก ทว่าแม้ซิงเจ๋อจะไม่ได้เกิดมา และเขารู้ว่าเฉินจิ้งหรงกำลังโกหกเขามาตั้งแต่ต้น เขาก็คงยังไม่อยู่กับเธอต่อไป
อย่างไรเสียจะมีความจริงใจใดๆ อยู่ในความสัมพันธ์ที่เกิดจากคำหลอกลวงหรือ
เฉินจิ้งหรงไปเปิดประตู ทันทีที่เธอเห็นโม่จื่อซีก็ส่งยิ้มให้ “เกิดอะไรขึ้นที่บ้านเหรอคะ”
“ใช่และไม่ใช่ครับ” โม่จื่อซีเดินเข้าไปในห้องและทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา
“มีอะไรเหรอคะ” เฉินจิ้งหรงพลันถามขึ้นพลางโน้มตัวลงมาตรงหน้าเขาอย่างเป็นห่วง
“จิ้งหรง มีบางอย่างที่ผมต้องสะสางกับคุณ” เขาเงยหน้ามองเธอ
“จริงจังอะไรขนาดนั้นกันคะ”
“คืนนั้นเมื่อสี่ปีก่อน เรามีอะไรกันจริงๆ เหรอครับ” โม่จื่อซีถามด้วยท่าทีความจริงจัง
เฉินจิ้งหรงดูประหม่าขึ้นมาทันควันพร้อมมือที่สั่นเทา
“ทำไม…ทำไมอยู่ๆ คุณถึงได้ถามเรื่องนี้ล่ะคะ ถ้าไม่ใช่ฉันจะเป็นใครไปได้ล่ะคะ” เธอถาม “คุณได้ยินข่าวลือมั่วๆ มาเหรอคะ”
“เราคบกันมาสี่ปีแล้วผมเลยขอให้คุณย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเพราะคิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันมั่นคงดีแล้ว แต่คุณก็ปฏิเสธผมแล้วบอกว่าอยากรอให้เราแต่งงานกันก่อน หรือเป็นเพราะคุณกลัวว่าผมจะรู้ว่าจริงๆ แล้วคุณยังบริสุทธิ์อยู่ครับ” โม่จื่อซีถามอย่างเย้ยหยันตัวเอง “ผมเคารพการตัดสินใจของคุณมาตลอด แต่ตอนนี้พอผมมาคิดดู ผมก็ขอบคุณที่คุณทำอย่างนั้นเพราะมันรั้งผมไม่ให้ลงใจกับคุณไปมากกว่านี้
“ถ้าเรื่องเป็นอย่างนี้ต่อไปปัญหาก็คงจะรุนแรงมากขึ้น คุณคิดปิดบังผมได้ยังไงครับ แล้วจะแก้ปัญหานี้ยังไง หรือว่าคุณจะทำศัลยกรรมเหรอครับ”
เฉินจิ้งหรงลุกขึ้นและไม่มั่นใจว่าจะแก้ตัวอย่างไรขึ้นมากะทันหัน
“ผมผิดหวังที่คุณทำทุกอย่างไม่เลือกเพื่อความรักขนาดนี้
“ในเวลาเดียวกันมันก็ทำให้ผมปวดใจที่เราคบกันมาสี่ปี แต่ไม่รู้ว่าคุณเป็นคนยังไงกันแน่ คุณนี่แสดงละครตบตาเก่งจริงๆ”
โม่จื่อเฉินเริ่มสั่นระริกด้วยไม่รู้ว่าเขารู้อะไรมา
“ฉะนั้น จิ้งหรง เราจบกันตรงนี้เถอะครับ ผมไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลือกับคนที่โกหกผมมาสี่ปี มันเหนื่อยใจที่จะมาเดาว่าคุณจะโกหกอะไรผมในทุกวันอีก…
“นี่เป็นผลดีกับเราทั้งสองคนนะครับ ผมมาเพื่อบอกคุณแค่นี้แหละ ผมจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้แต่เราเลิกกันเถอะครับ”
หลังจากว่าจบ เขาลุกขึ้นจากโซฟาและตั้งท่าเดินจากไป ทว่าเฉินจิ้งหรงพลันกอดเขาไว้ “จื่อซี ฟังฉันนะคะ ฉันจะไม่โกหกคุณอีก มันแค่ครั้งเดียวเท่านั้นค่ะ จริงๆ นะคะ”
“จิ้งหรง ให้เราสองคนเหลือความเคารพตัวเองบ้างเถอะครับ เพราะผมไม่ใช่คนเดียวที่คุณทำร้าย”
โม่จื่อซีสะบัดแขนของเธอออกจากตัวหลังเอ่ยจบ “ทุกอย่างระหว่างเรามันจบสิ้นแล้วครับ”
เฉินจิ้งหรงพยายามคว้ามือเขาไว้แต่เขากลับปัดมือเธอทิ้ง ทว่าเธอไม่อาจทำใจได้จึงวิ่งตามเขาไปทั้งเท้าเปล่าและพยายามรั้งเขาไว้ หากแต่เขาจากไปโดยไม่หันหลังกลับมา
เธอรู้ว่าหากเขายอมอะลุ่มอล่วยในท้ายที่สุด มันคงเป็นการไร้ความรับผิดชอบต่อเฉินจิ้งหรง รวมถึงเหยาอันฉีกับซิงเจ๋อ
เขาถึงได้ออกมาจากบ้านของเฉินจิ้งหรงและไปห้องของเพื่อนเพื่อดื่มด้วยกัน
“นายสะสางเรื่องทุกอย่างกับเฉินจิ้งหรงแล้วเหรอ” เพื่อนของเขาถาม “นายไม่ได้กล่าวหาเธอใช่ไหม”
“เธอยอมรับมันเอง” โม่จื่อซีส่ายหน้าอย่างเยาะเย้ยตัวเองขณะเติมเหล้าใส่แก้ว
“ใครจะรู้ว่าเฉินจิ้งหรงจะเป็นคนที่แย่ขนาดนี้กัน โทษนายไม่ได้หรอก แม้แต่เราที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอมาหลายปียังดูเธอไม่ออกเลย”
โม่จื่อซีหัวเราะพลางกระดกเหล้าในแก้วลงคอ
“ในเมื่อเป็นเรื่องในอดีตก็อย่างพูดถึงมันอีกเลย นายควรจะมีความสุขที่ได้เป็นพ่อคนไม่ใช่เหรอ
“ตอนนี้นายแก้ปัญหากับเฉินจิ้งหรงแล้ว แล้วเหยาอันฉีล่ะ เธอคลอดลูกของนายมา ต่อไปเธอก็คงจะแต่งงานได้ไม่ง่ายนักหรอก นายก็ควรรับผิดชอบไม่ใช่เหรอ”
“ฉันว่ามันดูเลวที่จะไปหาผู้หญิงอีกคนทันทีหลังจากบอกเลิกน่ะ” โม่จื่อซีแจง “ปล่อยให้ไปตามธรรมชาติเถอะ โชคดีที่เธอไม่ได้เป็นผู้หญิงขี้ตื๊อ ตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดคือการดูแลสุขภาพของซิงเจ๋อต่างหาก”
“ฉันเข้าใจนาย”
โม่จื่อซีหัวเราะกับคำตอบนี้ มีใครในโลกที่จะเข้าใจความเจ็บปวดของคนอื่นจริงๆ กันล่ะ
ไม่มีหรอก!
มันก็แค่คำปลอบใจเท่านั้นแหละ!
ทั้งสองดื่มและคุยกันกระทั่งตกดึก ก่อนที่โม่จื่อซีเตรียมจะกลับไป หากแต่อยู่ๆ เพื่อนของเขาก็ห้ามไว้ “คืนนี้นอนที่นี่เถอะ เฉินจิ้งหรงอาจจะรอนายอยู่หน้าประตูก็ได้”
โม่จื่อซีตบบ่าเพื่อและหัวเราะ “ไม่จำเป็นหรอก ฉันจะไปโรงพยาบาลหน่อยน่ะ”
“โอเค งั้นก็ระวังด้วยแล้วกัน แน่ใจว่าไม่เมาใช่ไหม”
“ฉันสติครบดีน่า!” โม่จื่อซีบอกขณะคว้าเสื้อแจ็กเกตและตรงไปที่โรงพยาบาลทหาร ถึงได้เห็นว่าเหยาอันฉีกำลังง่วนกับงานในแผนกฉุกเฉินอยู่
เธอเป็นหุ่นยนต์หรือยังไง เธอไม่พักผ่อนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยได้อย่างไรกัน
หากแต่เขาก็ทำเพียงยืนมองเธอช่วยทำแผลให้คนไข้อยู่ที่มุมหนึ่งโดยไม่ไปรบกวนเธอ ขณะนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นไฝที่ใบหูของเธอ ทันใดนั้นทุกความทรงจำในคืนนั้นก็ไหลย้อนกลับมา
ตอนนั้นเขาเห็นไฝเม็ดนี้แต่ไม่เห็นมันบนตัวเฉินจิ้งหรงจึงคิดว่าเป็นแค่สิ่งที่คิดไปเอง
ซ้ำเขายังไม่เคยเห็นเหยาอันฉีหลังจากคืนนั้น จึงคิดไม่ถึงว่าที่แท้เธอจะเป็นผู้หญิงที่หลับนอนด้วย
“หมอเหยาคะ คุณต้องเย็บแผลให้คนไข้ ยังไหวไหมคะ” นางพยาบาลถามขณะมาตามเธอ
เหยาอันฉีหันไปพยักหน้าให้ “ค่ะ ฉันไม่เป็นไร”
เธอเห็นโม่จื่อซีในจังหวะต่อมา ตอนแรกเธอตกใจแต่หันไปทางอื่นทันที
“ตอนนี้ไปด้านในเถอะค่ะ”
โม่จื่อซีมองเธอเดินจากไปหากแต่เขาไม่ได้ตามเธอไปหรือแสดงท่าทีเป็นห่วง เขาไม่อยากสร้างปัญหาให้เธอ อย่างไรเสียเขาก็เพิ่งเลิกกับเฉินจิ้งหรง
ในไม่ช้าเขาก็กลับไปที่ฐานทัพเพื่อขอลาไปจัดการเรื่องของซิงเจ๋อ
เมื่อหัวหน้าของเขารู้เรื่องนี้ เขาถูกลากเข้ามาในห้องทำงานและโดนสั่งสอน “บอกฉันมา นายไปทำอะไรมา”
“หัวหน้าครับ ผมผิดไปแล้ว!”
“ในเมื่อนายมีลูกแล้ว นายก็ต้องรับผิดชอบ รีบยื่นขออนุญาตแต่งงานกับฉันซะ ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปพวกนายสองคนตายแน่”
“ครับ หัวหน้า”
“แล้วจิ้งหรงเป็นยังไงบ้างล่ะ”
Comments