วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1222 ฉันรู้สึกเหมือนแย่งผู้ชายของคนอื่นมา
“ผมสะสางเรื่องทุกอย่างกับจิ้งหรงแล้วครับ” โม่จื่อซีตอบ
หัวหน้ามีท่าทีพึงพอใจทันที “อย่างน้อยนายก็ทำเรื่องดีๆ ละนะ นายเป็นทหารมานานแล้วก็ไม่ได้พักเลย งั้นฉันจะให้นายหยุดเดือนหนึ่งแล้วกัน ไปจัดการเรื่องให้ดีและอย่าให้ฉันได้ยินข่าวลืออีก!
“ไม่อย่างนั้น นายต้องรับผิดชอบ!”
โม่จื่อซีทำความเคารพหัวหน้าก่อนหันหลังออกไป ทว่าในจังหวะที่เขาก้าวเท้าออกมาจากห้องทำงาน เสียงเคาะโต๊ะของหัวหน้าได้ดังขึ้นด้านหลังเขา “รีบยื่นขอจดทะเบียนสมรสกับฉันด้วยล่ะ”
แต่งงานหรือ ทำไมฟังดูเหมือนเป็นสิ่งที่เขาต้องทำกันล่ะ
ทว่าอย่างที่เขาบอกไว้ เขาไม่ต้องการแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนทันทีที่เลิกกับอีกคนหนึ่ง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเหมาะสมก็ตาม
หลังออกจากห้องทำงานของหัวหน้า โม่จื่อซีขับรถไปจอดที่ลานจอดรถใกล้โรงพยาบาล
เขารู้ว่าเขาไม่สามารถกลับห้องได้ชั่วคราวและไม่มีของต้องเก็บ
อย่างไรก็ตามเขาลงเอยด้วยการรออยู่กว่าชั่วโมง เวลาล่วงเลยไปจนตีสี่กว่าจะเห็นเหยาอันฉีเดินออกมา และโรงพยาบาลก็ค่อนข้างจะโล่งมาก
โม่จื่อซีมองไปทางเธอก่อนบีบแตรรถ
เมื่อเธอหันมาและเห็นว่าเป็นเขาก็อึ้งไปเล็กน้อย “ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่คะ”
“ขึ้นรถมาสิครับ ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน ผมจะถือโอกาสไปเอาของใช้ให้ซิงเจ๋อด้วย” โม่จื่อซีตอบ
“แต่ว่า…”
“ถ้าคุณเอาแต่ชักช้าใครบางคนอาจจะมาเห็นนะครับ” เขาเอ่ยเตือน
เธอไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดประตูและก้าวเข้าไปในที่นั่งผู้โดยสาร
ทว่าในระหว่างที่พวกเขาอยู่ในรถกลับไม่ได้พูดคุยกันมากนัก เดิมทีพวกเขาเป็นเพียงคนรู้จักกันเท่านั้น หากแต่อยู่ๆ ก็ได้กลายมาเป็นพ่อแม่ของเด็ก คนส่วนใหญ่คงปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่ได้
แต่หากพวกเขายังประหม่าใส่กันต่อไป คงรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเชื่องช้าและยาวนาน สุดท้ายเขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก “ต่อไปนี้คุณจะเจอผมบ่อยขึ้นแล้วผมก็จะมาหาคุณ แต่จะพยายามไม่ก่อเรื่องเดือดร้อนให้คุณที่สุดนะครับ”
“ว่าแต่เรื่องของพี่เฉินล่ะคะ”
“ผมสะสางเรื่องทุกอย่างกับจิ้งหรงแล้วครับ” โม่จื่อซีตอบ “ไม่ใช่เพราะว่าคุณหรอกนะครับ เราเลิกกันเพราะมีปัญหากันตั้งแต่แรก”
“จะไม่ใช่เพราะฉันได้ยังไงล่ะคะ ฉันรู้สึกเหมือนแย่งผู้ชายของคนอื่นมาเลยค่ะ…”
“คุณไม่ได้แย่งมาจากเธอสักหน่อย เธอแย่งจากคุณต่างหาก” เขาอธิบาย “ผมรู้ว่ามันคงจะยากจะสบายใจได้ถ้าผมไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงให้คุณฟัง งั้นผมจะบอกความจริงกับคุณแล้วกัน ถ้าเฉินจิ้งหรงไม่โกหกผม ผมก็คงจะตัดขาดกับเธอได้ยาก แต่…มันไม่มีคำว่าถ้าไงครับ เธอตั้งใจหลอกผมมาสี่ปีจริงๆ นี่
“เมื่อสี่ปีก่อนในคืนนั้น ผมไม่รู้ว่าคือคุณ ตอนที่ผมตื่นขึ้นมาเธอก็นอนอยู่ข้างๆ ผมเลยคิดว่าเธอคือคนที่ผมมีอะไรด้วย”
“แล้วจากนั้น…”
“ผมไม่ได้แตะต้องเธอครับ เธอยังบริสุทธิ์อยู่” โม่จื่อซีหัวเราะ “ดังนั้นต่อไปนี้อย่าโทษตัวเองอีกเลยครับ ผมจะไม่พูดถึงเธออีกเหมือนกัน ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนที่อยากมีปัญหา งั้นก็ปล่อยเรื่องนี้ไว้ตรงนี้แล้วไม่ต้องพูดถึงมันอีกแล้วกันครับ”
เหยาอันฉีพยักหน้า ตราบใดที่เธอไม่ใช่ชู้เธอก็ไม่ได้มีปัญหา
หลังคุยกันสั้นๆ ในที่สุดเขาก็มาถึงบ้านของเธอ
หากแต่แทนที่จะเรียกว่า บ้าน มันดูเหมือนที่กำบังจากลมและฝนเสียมากกว่า เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้กินหรูอยู่สบายนัก
“ถ้าไม่ใช่เพราะซิงเจ๋อ คุณคงเป็นผู้หญิงที่รวยไปแล้ว”
“ฉันเป็นเด็กกำพร้าค่ะ หลังจากคลอดลูกเราก็มีแค่กันและกัน” เธออธิบายขณะที่เก็บของส่งให้เขา
“ซิงเจ๋อของพวกนี้และใช้บ่อยๆ น่ะค่ะ ถ้าเขาเห็นมันเขาจะไม่งอแงหาฉัน”
“เมื่อไหร่คุณจะไปเยี่ยมเขาล่ะครับ” โม่จื่อซีถาม
“ฉัน…ว่าต่อไปนี้ตัวเองไม่ควรไปเจอเขาบ่อยๆ หรอกค่ะ ไม่อย่างนั้นเราจะผูกพันกันมากเกินไป”
หลังได้ยินจากปากเธอ โม่จื่อซีมองหน้าเธออย่างจริงจังก่อนบอก “คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ในครอบครัวของผมหรอกนะครับ ผมจะไม่มีทางหาแม่เลี้ยงเพื่อลูกชายของผม การแต่งงานไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับผม คุณมาเยี่ยมได้ทุกครั้งที่ต้องการนะครับ”
“นายพลโม่…”
“คุณเอาแต่โทษตัวเอง แต่ผมไม่เคยคิดว่าคุณทำให้ชีวิตผมยุ่งยากเลยนะครับ ความจริงแล้วคุณช่วยผมได้ทันเวลาด้วยซ้ำ” เขาบอกอย่างใจเย็น “มันยังไม่เช้าดีเลย คุณควรพักผ่อนสักหน่อยนะครับ ขอบตาคุณคล้ำหมดแล้ว ผมจะเอาของพวกนี้ไปก่อนแล้วคุณค่อยโทรหาผมตอนที่มีโอกาสก็ได้ ผมจะทิ้งเบอร์ไว้ให้คุณบนโต๊ะ ผมได้ลาหยุดหนึ่งเดือนน่ะครับ”
เหยาอันฉีเหนื่อยจนไม่มีเรี่ยวแรงคิดเรื่องอื่น
หลังจากโม่จื่อซีจากไป เธอทิ้งตัวบนเตียงก่อนผล็อยหลับไป
โม่จื่อซีต้องการบอกไม่ให้เธอทำงานหนักเกินไปจริงๆ
ยิ่งเมื่อเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของเธอ เขาคิดว่าเขาควรช่วยเธอย้ายไปที่อื่น
ในที่สุดเขาก็มาถึงบ้านตอนหกโมงเช้า ถังหนิงผู้ตื่นแต่เช้าเห็นลูกชายตัวเองกลับมาพร้อมข้าวของของ
ซิงเจ๋อจึงถามขึ้นทันที “ลูกจัดการทุกอย่างหรือยัง”
“ครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว” เขาตอบ “แม่ครับ ซิงเจ๋ออยู่ไหนล่ะครับ ผมอยากเจอเขา”
“อยู่ในห้องน้องสาวลูกโน่น เธอรักเขามากเลยละ” ถังหนิงบอกพลางชี้ไปทางห้องของโม่จื่อเหยียน
“โอเคครับ งั้นผมเข้าไปตอนที่เธอตื่นแล้วก็ได้ครับ” เขาเอ่ยขณะขนของกลับเข้าไปในห้องตัวเอง
บางทีเธออาจสัมผัสถึงความลำบากของลูกชายถึงได้ตามเขาขึ้นชั้นบนไป
“ถ้าลูกเหนื่อยก็แค่ร้องออกมานะ เราทุกคนอยู่ตรงนี้เพื่อลูก”
เขาไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อน เขาซบศีรษะกับหน้าท้องของแม่ตัวเองและเริ่มร้องไห้ออกมาขณะกอดเอวเธอไว้ “แม่ครับ ผมรู้สึกว่าทำพลาดเลยครับ
“ทำไมผมถึงไม่รู้ความจริงก่อนหน้านี้ ทำไมผมถึงไม่รู้ว่าตัวเองมีลูกชายก่อนหน้านี้
“ถ้าผมรู้ก่อนหน้านี้ เหยาอันฉีคงไม่ต้องลำบากมากขนาดนี้ และซิงเจ๋อก็คงมีพ่อคอยให้ความรักกับเขา
“และผมก็คงไม่โดนหลอกมานานหลายปีอย่างกับคนโง่”
“อันฉีไม่ได้อยากรบกวนชีวิตของลูกไง” ถังหนิงกล่าวปลอบพลางลูบหลังเขา “ลูกควรดีใจที่อันฉีเป็นคนดีที่คลอดเด็กที่น่ารักขนาดนี้ให้ลูกนะ แล้วก็ยังช่วยลูกไว้ทันเวลาด้วย”
“แม่ครับ…ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผมก็ยังรู้สึกแย่ ผมทุ่มเทกับความสัมพันธ์มาสี่ปีเพื่อพบว่าสุดท้ายทุกอย่างมันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น”
“สี่ปีแล้วยังไงล่ะ สุดท้ายความจริงก็ถูกเปิดเผยออกมานี่” เธอปลอบใจ “แค่เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองแล้วอย่าทำพลาดอีกก็พอแล้ว”
“แล้วผมก็ไม่รู้จะทำยังไงกับเหยาอันฉีด้วยครับ” โม่จื่อซีสะอื้น “ผมไม่แต่งงานกับเธอไม่ได้เพราะเธอคลอดลูกชายของผมมาแล้ว แต่ถ้าผมพยายามแต่งงานกับเธอ เธอก็อาจจะไม่ยอม อีกอย่างเธอก็มีชีวิตที่ดีกว่านี้มากได้แน่นอนนะครับ”
Comments