วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1241 คนประเภทเดียวกันก็ควรอยู่ด้วยกัน
เหยาอันฉีนึกไม่ถึงว่าโม่จื่อซีจะใจร้อนได้ขนาดนี้ เธอจึงรีบท้วงออกมา “ฉันยังไม่สะดวกนะคะ…”
เขาก้มหน้าลงด้วยความหดหู่ทันที
อย่างไรก็ตามเธอก็ยังกล่าวปลอบใจเขา “ไม่เป็นไรนะคะ…ฉันยังช่วยคุณได้ค่ะ”
…
ความจริงแล้ว โม่จื่อซีไม่ได้ต้องการบีบเฉินจิ้งหรงให้จนมุมจนถึงขนาดนั้น อย่างไรเสียพวกเขาก็คบหากันมาสี่ปี ต่อให้ไม่ได้รักกันก็ยังเป็นเพื่อนที่สนิทชิดเชื้อที่สุด เขาถึงไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตเกินไปนัก
หากตระกูลเฉินไม่ทำรุนแรงขนาดนี้ เขาคงยังมีภาพลักษณ์ดีๆ ของเฉินจิ้งหรงติดอยู่ในหัวใจอยู่บ้าง
แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการที่ตระกูลเฉินทำร้ายภรรยาที่รักของเขา
ด้วยเขาไม่ได้มีวันหยุดมากนัก โม่จื่อซีต้องการใช้เวลากับเหยาอันฉีให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เขาถึงอยากจะแก้ปัญหาเรื่องเฉินจิ้งหรงให้เร็วที่สุด
เขาตกลงยอมพบกับเฉินจิ้งหรง และเจ้าตัวก็ดีใจเหลือเกิน หากแต่ในจังหวะที่พวกเขามาถึงสถานที่นัดพบ เธอก็เห็นว่าเขาพาเหยาอันฉีมากับเขาด้วย
ทั้งคู่เดินจับมือกันมาท่าทางหวานชื่น
เฉินจิ้งหรงกดเก็บความเจ็บปวดไว้พลางยืนขึ้นทักทายเขา “จื่อซี คุณมาแล้ว…”
เขาไม่ได้นั่งลงทันที กลับช่วยเหยาอันฉีขยับเก้าอี้ออกค่อยนั่งหลังจากเธอนั่งลงเรียบร้อยดีแล้ว
ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงผิดหวัง “เดิมทีผมอยากจะจากคุณมาแบบไว้หน้าบ้างนะครับ แต่ดูเหมือนคุณจะไม่เห็นค่ามันเลย ผมไม่โทษที่คุณใส่ร้ายว่าผมนอกใจหรอก จิ้งหรง ตอนนี้เราได้มาเจอกันแล้ว มาสะสางทุกอย่างให้ชัดเจนสักที ผมหวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก”
เฉินจิ้งหรงดูไม่พอใจนัก ความจริงแล้วเธอหน้าถอดสีไปเล็กน้อยด้วยซ้ำ
“ฉันเรียกคุณมาเพราะพ่อของฉัน…เขาถูกจับไปแล้ว”
“ผมรู้” โม่จื่อซีตอบ “อย่างมากพ่อของคุณก็โดนถอดจากตำแหน่ง เขาจะไม่ได้ถูกส่งตัวเข้าคุกหรือต้องมีชีวิตอยู่ในอันตรายหรอก คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินจิ้งหรงก็เบาใจลง ในที่สุดเธอถึงได้ถามออกมา “คุณกับเหยาอันฉีแต่งงานกันแล้วเหรอคะ”
“ครับ” เขายอมรับพร้อมพยักหน้า
“คุณ…แต่งงานเพราะลูกใช่ไหมคะ”
“เราแต่งงานเพราะเรารักกันครับ” เขาว่าเสียงหนักแน่น “ความเข้าใจผิดเมื่อสี่ปีก่อนทำให้เราคลาดกันไป แต่สุดท้ายผมก็รู้ใจตัวเอง จิ้งหรง ทุกอย่างระหว่างเรามันจบลงไปแล้ว คุณไม่ต้องมาเสียเวลากับผมอีกแล้ว เพราะผมไม่มีทางกลับไปแน่นอน
“คุณมีชีวิตที่ดีก็น่าจะใช้มันตามหาความสุขของคุณเอง การจมอยู่กับอดีตไม่ได้มีผลดีอะไรกับคุณหรอกครับ
“ผมไม่เคยต้องการเห็นคุณเป็นศัตรู ฉะนั้นหวังว่าคุณจะเคารพการตัดสินใจของผมด้วย
“โดยเฉพาะเรื่องของอันฉี ถ้าคุณตัดเรื่องของผมไป คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าทำร้ายเธอไป เพราะความเห็นแก่ตัวของคุณ เธอถูกบีบให้เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่สี่ปีโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ แน่นอนว่าผมเองก็ต้องรับผิดชอบที่ทำร้ายพวกคุณทั้งสองคนด้วย
“แต่ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจกับความรักที่ผมให้คุณไปหรอก ตอนนี้ที่ผมอยากทำคือการใช้ทั้งชีวิตที่เหลือเพื่อรักอันฉี
“คุณเข้าใจที่ผมหมายถึงไหม”
โม่จื่อซีบอกอย่างใจเย็น
“ผมไม่ได้มาเจอคุณเพราะรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์จะมาตามรังควานกันอีกหลังจากเราเลิกกัน มันมีแต่จะทำให้เราทั้งสองฝ่ายทุกข์ใจ ผมเลยอยากขอให้คุณปล่อยเราสองคนไปซะที
“ผมเองก็หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันด้วย
“ผมรับประกันไม่ได้ว่าตัวเองจะทำอะไรลงไปถ้าคุณทำร้ายอันฉีอีก”
เฉินจิ้งหรงเข้าใจคำพูดของเขา ดูเหมือนเธอจะเป็นแค่ตัวตลกมาตั้งแต่ต้น และคนที่ที่ทำให้เธอเป็นเช่นนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวเธอเอง
หากเธอไม่ตามตื๊อโม่จื่อซีเป็นบ้าเป็นหลัง บางทีเรื่องราวคงจบลงในแบบที่ต่างออกไป
“หยุดโอ้อวดว่าความรักของคุณมันยิ่งใหญ่ขนาดไหนต่อหน้าฉันซะที ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่ ฉันคิดว่าตัวเองสำคัญแต่ฉันว่าฉันคงแค่หลอกตัวเอง
“โม่จื่อซี การทิ้งฉันไปคือการสูญเสียของคุณ”
พูดจบเฉินจิ้งหรงก็ลุกขึ้นและออกไปจากร้านพร้อมน้ำตา หากแต่ทั้งโม่จื่อซีกับเหยาอันฉีไม่มีใครคิดปลอบใจเธอ เพราะพวกเขาต่างรู้ว่ามันไม่จำเป็น
“ฉันหวังว่าเธอจะคิดได้ว่าจะใช้ชีวิตยังไงนะคะ”
“เราน่าจะกลับบ้านกันนะครับ” โม่จื่อซีเอ่ยขณะยืนขึ้นและจับมือเหยาอันฉีไว้ จังหวะที่เดินออกมาจากร้าน โม่จื่อซีโน้มมากระซิบข้างหูเธอ “เมื่อไหร่คุณจะสะดวกอีกล่ะครับ”
“ฉันจะสะดวกหลังจากที่คุณไปแล้วค่ะ” เธอหัวเราะ
ตอนนี้ซิงเจ๋อยังอยู่ที่บ้านตระกูลโม่ เป็นโอกาสเหมาะเจาะที่ทั้งคู่จะได้พัฒนาความสัมพันธ์ ทว่า…
…พวกเขายังไม่อาจทำอะไรได้
มันทำให้เขาหงุดหงิดเต็มที
แต่กระนั้นเขาก็จะไม่ทำกับร่างกายของเธออย่างไม่ให้เกียรติ
ในเมื่อพวกเขายังมีชีวิตด้วยกันไปอีกนาน เขาไม่มีเหตุผลต้องรีบร้อน
…
ในขณะเดียวกัน หลังออกมาจากร้าน เฉินจิ้งหรงก็พุ่งตรงไปที่บาร์หมายจะปลดปล่อยความเสียใจไปกับแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตามชายคนเดิมได้ห้ามเธอไว้
“ครั้งนี้ทำไมคุณถึงพยายามเมาอีกล่ะครับ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” เฉินจิ้งหรงหัวเราะระคนร้องไห้ในเวลาเดียวกัน ขณะที่เริ่มพูดกับตัวเอง “นี่มันต้องเป็นกรรมแน่ๆ ฉันทำเรื่องงามหน้าไปเมื่อสี่ปีก่อน ตอนนี้ฉันก็กำลังชดใช้กับมัน ฉันมันนังแพศยา ไม่สิ ฉันไม่ได้แค่แพศยาแต่ยังโง่ด้วย ฉันคิดว่าตัวเองสำคัญกับโม่จื่อซี แต่ว่า…
“…ฉันก็แค่ตัวแทนของเหยาอันฉี โม่จื่อซีชอบผู้หญิงที่เขานอนด้วย แล้วเขาก็คิดว่าว่าผู้หญิงคนนั้นคือฉัน!
“ฮ่าๆๆ ฉันละสงสัยว่าเราคนไหนที่โง่กว่ากัน”
เขายื่นแขนออกมาประคองเธอไว้เมื่อเห็นเธอโซเซไปมา “ผมบอกคุณแล้วไง ถ้าคุณแต่งงานกับผม ผมช่วยคุณทำให้โม่จื่อซีเสียใจได้”
“เสียใจเหรอ เขาจะเสียใจได้ยังไงกัน”
“ถ้าผมบอกว่าเขาจะเสียใจ เขาก็จะเสียใจ” ว่าจบชายคนนั้นก็อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน และเป็นอีกครั้งที่ตรงไปยังโรงแรมในครั้งก่อน ครั้งนี้เธอไม่ได้เมาเสียทีเดียวหากแต่เธอไม่สนใจร่างกายตัวเองอีกต่อไปแล้ว
หากกิจกรรมนี้สามารถนำพาความสุขมาให้ทั้งหญิงชายได้ เธอทำมันกับใครจะสำคัญตรงไหนกันล่ะ มันก็เหมือนๆ กันหมดไม่ใช่หรือ
เธอจึงหลับตาลงและยอมรับชะตากรรม ทว่าเธอไม่รู้ว่าผู้ชายที่อยู่เหนือร่างเธอในขณะนี้คือนายแบบที่เป็นที่นิยมที่สุดในปักกิ่ง
หากข่าวหลุดออกไปว่าลูกชายของโม่ถิงทิ้งแฟนเก่าไปคบกับชู้ เขาคงไม่อาจอยู่อย่างสงบสุขได้อีก…
อย่างไรก็ตามนายแบบคนนี้ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องทำเรื่องสุ่มเสี่ยงอย่างการไปหาเรื่องตระกูลโม่เพราะผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาด้วย!
บางทีคนประเภทเดียวกันก็ควรอยู่ด้วยกัน!
หากแต่ใครบางคนก็เหมือนกันยาเสพติด สูดดมเพียงครั้งเดียวก็ชวนให้ติดใจ มองเพียงรอบเดียวก็พาให้ติดกับไปตลอดกาล!
Comments