วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1253 ผมอยากเป็นแฟนของคุณ
โม่จื่อเหยียนอดขำออกมาไม่ได้ อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะในจังหวะนั้นเธอได้รับสายจากกู้ชิงหลี “จื่อเหยียน คุณว่างหรือเปล่าครับ”
“ค่ะ มีอะไรเหรอคะ อาจารย์กู้”
“ไปทางเข้าหลักของมหาวิทยาลัยแล้วช่วยผมรับเอกสารที…” เขาบอก
“โอเคค่ะ” หลังจากโม่จื่อเหยียนพูดจบ เธอก็สวมรองเท้าก่อนจะไปทางประตูทางเข้าหลักเพื่อรับเอกสารของกู้ชิงหลีแล้วนำมาส่งให้เขา
ตอนนั้นเขากำลังเตรียมการสอนอยู่ ทันทีที่เขาเห็นเธอก็ยื่นมือออกมารับเอกสาร “บ่ายนี้คุณว่างไหมครับ”
“ค่ะ”
“อย่างนั้นก็นั่งอ่านหนังสือรอที่นี่ เราจะได้ไปทานมื้อเย็นด้วยกัน”
โม่จื่อเหยียนสงสัยถึงเหตุผลที่เขาเรียกเธอออกมา แต่ตอนนี้มีสิ่งล่อใจมาอยู่ตรงหน้าเธอ เธอจึงไม่ได้คิดมากนัก ซ้ำยังเห็นได้ชัดว่าเขากำลังลองใจเธออบู่ ด้วยใบหน้าหล่อเหลาขนาดนี้ที่ปรากฏต่อสายตา เธอจะมีสติอยู่กับตัวได้อย่างไร
เขาตั้งใจทำอย่างนี้ชัดๆ ในขณะที่ไม่สนใจเธอและเตรียมสอนต่อไป
ไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงาน
“คุณออกไปก่อนก็ได้ครับ ผมจะตามหลังไปเอง” กู้ชิงหลีเป็นคนใส่ใจ เขารู้ว่าโม่จื่อเหยียนคงรู้สึกประหม่าถึงได้บอกให้เธอรอเขาอยู่ชั้นล่าง
เธอเก็บของและออกจากห้องทำงานของเขาไป จากนั้นจึงรอเขาอยู่ข้างประตูมหาวิทยาลัย เมื่อเห็นเขามาแต่ไกลใจของเธอก็เริ่มเต้นระรัว
ครั้งนี้เขาไม่ได้ขับรถมาหากแต่กลับเดินกับเธอมาที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ห่างออกมา
โม่จื่อเหยียนสงสัยว่าเขามาไกลขนาดนี้เพื่อเลี่ยงการเจอหน้าคนรู้จัก แต่เขากลับอธิบายออกมา “ไม่ใช่ว่าผมอยากจะปิดบังตัวตนของคุณหรอกนะครับ ผมแค่รู้สึกว่ามันสะดวกกว่าแล้วก็ไม่อยากให้ใครมาทำให้คุณคิดมาก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของคุณคือการตั้งใจกับการสอบนะครับ”
เธอเบาใจลงทันที ว่าแต่เขารู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ได้อย่างไรกัน
โม่จื่อเหยียนเริ่มสงสัยว่าเขาฝังแมลงสายสืบไว้ในท้องของเธอหรือเปล่า
“ผมมีสอนหลายคาบแต่ก็อยากเจอคุณ เลย…ขอให้คุณทำโน่นทำนี่ให้ คุณคงไม่ได้ถือใช่ไหมครับ”
เธอรีบส่ายหน้า
เขาระบายยิ้ม ยกข้อมือดูเวลา ตอนนี้ยังไม่ดึกเขาจึงเอ่ยชวนเธอ “ช่วงนี้มีหนังสนุกๆ บ้างไหมครับ คุณอยากดูอะไรบ้างไหม”
โม่จื่อเหยียนเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจอย่างตอบอะไรไม่ถูก
“หรือว่าคืนนี้คุณยุ่งครับ”
“ต่อให้จะยุ่งฉันก็เลื่อนออกไปได้ค่ะ” เธอรีบตอบ “ที่ฉันหมายถึงคือ…ฉันไม่ได้มีธุระอะไรคืนนี้น่ะค่ะ ฉันว่าง”
“ยัยบื้อ”
ความรู้สึกของเธอมันเขียนไว้บนหน้าเธอหมดแล้ว เขาไม่ต้องเดาว่าเธอรู้สึกอะไรด้วยซ้ำ
ทว่าเขากลับพบว่ามันสุดแสนจะน่ารักอย่างอธิบายไม่ถูก “คุณอยากดูอะไรล่ะครับ หรือว่าดูอะไรก็ได้”
“อะไรก็ได้ค่ะ” เธอบอกกลับ
อย่างไรเสียเธอก็แค่ไปเพื่อดูกับคนบางคนเท่านั้น กู้ชิงหลีเข้าใจว่าเธอคิดอะไรอยู่ เพื่อทำให้เธอสมหวังเช่นเดียวกันเขา ถึงได้เลือกภาพยนตร์ดนตรีที่กินเวลายาวนานสามชั่วโมง
สำหรับโม่จื่อเหยียนมันไม่ได้สำคัญว่าพวกเขาดูอะไรกัน สิ่งที่สำคัญคือคนที่นั่งข้างๆ เธอต่างหาก
กู้ชิงหลีใส่ใจเธอมาก เขาเดินไปโรงภาพยนตร์กับเธอหลังจากมื้อเย็นจบลง
เขาเป็นคนมีมารยาทและเธอก็ประทับใจเขาเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด
ทว่าชายคนนี้กลับเป็นอาจารย์ของเธอ
ไม่นานกู้ชิงหลีก็ไปซื้อตั๋วหนังและป๊อปคอร์นมาก่อนส่งสัญญาณบอกให้เธอตามเขาเข้าไปด้านใน เขาส่งป๊อปคอร์นให้เธอหลังจากนั่งลง
“ผมไม่มั่นใจว่าคุณชอบของหวานหรือเปล่า แต่ก็ซื้อมาแล้วล่ะครับ”
ท่ามกลางความมืด โม่จื่อเหยียนถือป๊อปคอร์นไว้ด้วยหัวใจที่ลิงโลดด้วยความยินดี!
“คุณยังคิดว่าทุกอย่างเป็นแค่ความฝันอยู่หรือเปล่าครับ” เขาพลันถามขึ้นก่อนที่ภาพยนตร์จะเริ่มฉาย “จริงๆ แล้วผมไม่ใช่คนที่เข้าถึงยากอย่างที่ทุกคนคิดหรอกนะครับ ผมก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ”
“ไม่อีกแล้วค่ะ” เธอส่ายหน้า แขนของเขาพาดอยู่ที่หลังเก้าอี้ของเธอ ในที่สุดเธอถึงได้รู้สึกตัวว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง
“อาจารย์กู้…”
“คุณจะยังเรียกผมอย่างนั้นตอนอยู่กันสองคนเหรอครับ” เขาถามพลางมองหน้าเธอพร้อมรอยยิ้ม “เรียกผมว่าชิงหลีสิครับ ผมไม่ได้แก่กว่าคุณมากนักหรอก”
“แต่ว่าชิงหลีมันดูห่างเหินไปหน่อยนะคะ” เธอท้วง
“ผมเป็นพี่น้องคนที่สี่ในตระกูล คุณเรียกผมว่าพี่สี่ก็ได้ครับ”
พี่สี่…
โม่จื่อเหยียนยอมรับชื่อนี้ อย่างน้อยมันก็ดูสนิทสนมมากว่า ชิงหลี
“ในเมื่อเราออกมานอกมหาวิทยาลัยแล้ว คุณก็ควรลืมว่าเราเป็นใครไปนะครับ คุณไม่ใช่ลูกศิษย์ของผมและผมก็ไม่ใช่อาจารย์ของคุณ เราเป็นแค่ผู้ชายกับผู้หญิงคนหนึ่ง โอเคไหมครับ”
“จะไม่โอเคได้ยังไงล่ะ” เธอครุ่นคิดกับตัวเอง
จังหวะนั้นเองที่เขาเอื้อมแขนออกไปจับมือโม่จื่อเหยียนในความมืดอย่างไม่คิดลังเล
โม่จื่อเหยียนชะงักไป เธอนึกไม่ถึงว่ามือของเขาจะเรียวและอบอุ่นได้ขนาดนี้…
“ผมคิดว่าเราคบกันได้นะครับ” เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหันภายใต้แสงไฟกระพริบจากหน้าจอตรงหน้าพวกเขา
เธอรู้สึกสุขล้นในหัวใจ หากแต่ในห้วงต่อมาเธอก็รีบหยิกตัวเอง
เมื่อเขาเห็นเช่นนี้ก็อดขำออกมาไม่ได้ “มันเป็นเรื่องจริงครับ จื่อเหยียน คุณดึงดูดและน่าประทับใจมากกว่าที่ตัวเองคิดนะ อย่าคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับผมเลยครับ เพราะจริงๆ แล้วผมต่างหากที่ไม่คู่ควรกับคุณ”
“กู้…พี่สี่ มันกะทันหันเกินไปน่ะค่ะ ไม่รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องจริงสักนิดเลยล่ะค่ะ”
กู้ชิงหลีกระชับจับมือเธอแน่นขึ้น หลังจากภาพยนตร์จบ เขาเริ่มอธิบายระหว่างที่เดินกุมมือกันไปตามถนน “ผมเป็นคนที่เชื่อในความประทับใจครั้งแรกนะครับ คุณทำให้ผมรู้สึกสบายใจแล้วก็สงบพอได้เห็นหน้าคุณ อีกอย่างทันทีที่ผมรู้ว่าคุณรู้สึกยังไง สิ่งแรกที่ผมทำก็คือไปค้นจดหมายสารภาพรักของคุณ แทนที่จะมาเป็นห่วงที่โดนคุณรบกวน
“มันหมายความว่าผมไม่เคยไม่ชอบที่คุณมาชอบผมเลยไงครับ…
“หลังจากได้รู้จักคุณมาสองวัน ผมก็รู้ตัวว่าอยากจะเห็นมุมน่ารักๆ ของคุณให้มากขึ้น ถึงได้…อยากจะเป็นแฟนกับคุณ
“ผมขอโทษถ้าคุณรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป ก็แค่ผมรู้ว่าคุณเข้าใจผมดีมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา เลยไม่คิดว่าคุณจะต้องการเวลาเพื่อเข้าใจผมอีก” เขาหัวเราะ “คุณจะตกลงไหมครับ”
โม่จื่อเหยียนไม่อาจห้ามใจพยักหน้ารับได้ “ผมจะพยายามเข้าใจและดูแลคุณให้ดีที่สุดให้ได้ แต่ผมคิดว่าผมจะมั่นใจมากขึ้นถ้าคุณเป็นแฟนของผม ผมแน่ใจว่าคุณก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
“สำหรับผมคุณแตกต่างจากคนอื่น ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมผมถึงไม่ปฏิบัติกับคุณให้ต่างจากคนอื่นตั้งแต่แรกเลยล่ะครับ”
คำพูดเหล่านี้ทำให้โม่จื่อเหยียนหวั่นไหว
อย่างไรเสียคำอธิบายของเขาก็มีเหตุผล
เธอเองก็เข้าใจเขาดีแล้วจริงๆ
ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับพวกเขา
อย่างไรก็ตามเดิมทีเธอกำลังเจ็บปวดจากการอกหัก แต่อยู่ๆ กลับลงเอยด้วยการมีแฟนหนุ่มเป็นตัวเป็นตนได้อย่างไรกัน
แฟน…
โม่จื่อเหยียนไม่ได้กำลังจะถูกฉวยโอกาสอย่างนั้นหรือ
ทว่ากู้ชิงหลีไม่เคยคิดฉวยโอกาสกับเธอ เขาเพียงแค่รู้สึกว่าเธอเป็นเด็กสาวที่ดีจนอดปกป้องและเอ็นดูไม่ได้เท่านั้น
Comments