วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 1255 พอคนรักช่วยกันพวกเขาจะไม่เหนื่อย
โม่จื่อเหยียนยืนในร่มเงาพลางมองกู้ชิงหลีพร้อมหัวใจที่เริ่มเจ็บปวดเล็กน้อย เธอเดินตรงไปยังหลุมศพและเอ่ยกับพ่อของเขา “สวัสดีค่ะ คุณลุง
“ฉันชื่อโม่จื่อเหยียน เป็นแฟนของพี่สี่ ฉันหวังว่าคุณลุงจะไม่ถือที่ฉันเด็กไปหน่อยนะคะ
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ลูกชายคุณลุงเก่งแล้วก็น่าทึ่งมากๆ เขาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยและยังมีคนมาชอบเยอะแยะไปหมด ฉันก็เป็นแค่คนที่โชคดีที่สุดในหมู่พวกเขาเท่านั้น
“ฉันหวังว่าคุณลุงจะชอบฉันได้นะคะ”
หลังได้ยินสิ่งที่เธอบอกกับพ่อของเขา กู้ชิงหลียื่นมือออกไปลูบศีรษะเธอ คืนนั้นที่สุสาน หัวใจที่เคยโดดเดี่ยวของเขาพลันอบอุ่นขึ้นเมื่อมีเธออยู่เคียงข้าง
ขณะที่พวกเขาออกจากสุสาน เขาอดใจโอบกอดโม่จื่อเหยียนและจุมพิตที่ริมฝีปากเธอไม่ได้
เธอถึงกับอึ้งไปไม่น้อย ก่อนจะได้ยินคำขอโทษของเขา “ขอโทษด้วยนะครับ ผมห้ามใจตัวเองไม่ไหว”
“ฉันไม่ได้ถือหรอกค่ะ” เธอตอบด้วยท่าทีจริงจัง “คุณโดดเดี่ยวมานาน ต่อไปนี้ฉันจะอยู่กับคุณเองค่ะ”
เขาอารมณ์ดีขึ้นมากขณะที่หัวเราะเบาๆ ออกมา “ไปกันเถอะครับ ผมจะพาคุณไปทานมื้อเย็น…”
“คุณจะ…ไม่ถามเรื่องครอบครัวของฉันบ้างเหรอคะ” เธอถามเขาระหว่างขับรถไปทานมื้อเย็น
“ไม่ว่าครอบครัวคุณจะเป็นยังไง จะรวยหรือจนผมก็ดูแลคุณได้ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ” กู้ชิงหลีเอ่ยย้ำ
“ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กของโม่ถิงค่ะ” เธอเผย
ทันทีที่เขาได้ยินเช่นนี้ก็เหยียบเบรกและจอดรถเข้าข้างทาง “คุณว่ายังไงนะครับ”
“ฉันบอกว่าฉันเป็นลูกสาวของโม่ถิงกับถังหนิงค่ะ”
กู้ชิงหลียังคงมียิ้มบางค้างไว้บนใบหน้าแม้ว่าจะตกตะลึงไปเล็กน้อย ว่ากันตามเหตุผลลูกสาวของ โม่ถิงกับถังหนิงน่าจะมีเชื้อของคนดังรุ่นที่สอง ไม่ใช่นักศึกษาที่น่ารักและใสซื่ออย่างโม่จื่อเหยียน
“กลัวเหรอคะ”
“ทำไมผมต้องกลัวด้วยล่ะ” เขาถาม
“คุณไม่กลัวถูกตามแอบถ่ายบ้างเหรอคะ” โม่จื่อเหยียนหวั่นใจ “คุณไม่รู้ว่าครอบครัวของฉันถูกสื่อจับตามองตลอดเหรอคะ”
“แต่พวกเขาก็ปกป้องคุณได้ดีนี่ครับ…” ตอนนี้เองที่ทั้งคู่มาถึงชั้นล่างของห้องพักกู้ชิงหลี โม่จื่อเหยียนไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่
เมื่อจอดรถเสร็จเขาก็บอกกับเธอ “มาที่ห้องผมสิ ผมจะทำมื้อเย็นให้คุณเอง”
พวกเขาคบกันได้เพียงไม่กี่วันเธอก็มาบ้านเขาเสียแล้ว นี่มันไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือ
“ยัยบื้อ อย่าเกร็งสิ เราแค่มากินข้าวที่ห้องผมเองนะ”
เธอก้มหน้าอย่างเขินอายขณะที่เขาเย้าเธอ ที่แท้เขาก็รู้ทันเธอไปเสียหมด
ทั้งสองขึ้นไปยังชั้นที่ยี่สิบเจ็ด
โม่จื่อเหยียนคิดว่ากู้ชิงหลีอยู่ตามลำพัง ทว่าเมื่อเข้ามาในห้องนั่งเล่น เธอก็เห็นผู้ช่วยคนหนึ่งเข็นชายสูงวัยท่านหนึ่งออกมา
“คุณกู้กลับมาแล้ว”
“ปู่ผมเป็นยังไงบ้างครับ” เขาถามพลางคุกเข่าลงตรงหน้าชายสูงวัย
“คุณท่านสบายดีค่ะ” ผู้ช่วยตอบ
“จื่อเหยียน มานี่สิ” กู้ชิงหลีบอกขณะพาเธอมาหาชายสูงวัย “ท่านเป็นปู่ของผม ปู่ได้รับความสะเทือนใจอย่างรุนแรงและก็หมดสติไปตอนที่พ่อของผมเสีย พอฟื้นขึ้นมาท่านก็ความจำเสื่อมครับ”
“คนนี้คือ…” ผู้ช่วยถามขณะที่เธอมองไปที่โม่จื่อเหยียน
“แฟนของผมเองครับ” เขาตอบก่อนเอ่ยสำทับ “ป้าฉินครับ พาคุณปู่ไปชั้นล่าง ไม่ต้องกลับขึ้นมาจนกว่าผมจะบอกนะครับ”
“โอเคค่ะ คุณกู้”
ว่าจบผู้ช่วยก็เข็นผู้อาวุโสกู้ไปในลิฟต์ลงไปชั้นล่าง
เมื่อพวกเขาออกไป กู้ชิงหลีเข้าไปในห้องนอนและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง ก่อนจะบอกกับโม่จื่อ
เหยียน “เดินดูรอบๆ ไปก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปเตรียมอาหารเย็น”
โม่จื่อเหยียนพยักหน้าขณะที่เดินสำรวจไปรอบบ้านของชายในฝันของเธอ เมื่อเห็นถ้วยรางวัลในห้องทำงานเธอก็ยิ่งชื่นชมเขายิ่งกว่าเดิม
ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็สังเกตเห็นตึกจำลองสามมิติในห้องทำงานของเขา
โม่จื่อเหยียนหายไปจากสายตาหลังจากเขาทำอาหารเสร็จ เขาจึงไปตามหาที่ห้องทำงาน เมื่อเห็นว่าเธอกำลังมองตึกจำลองของเขาอยู่ก็ยกยิ้มและถามขึ้น “คุณชอบตึกนี้เหรอครับ”
“ฉันคิดว่าเคยเห็นบ้านหลังนี้ที่ไฮแอทรีเจนซีน่ะค่ะ”
“ใช่ครับ” เขาพยักหน้า “ถ้าคุณชอบมันในอนาคตเราย้ายไปที่นั่นก็ได้ครับ”
“หือ”
“ผมเป็นคนซื้อบ้านหลังนี้เองครับ” กู้ชิงหลีตอบ “ผมไม่ได้แค่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ยังลงทุนในอุตสาหกรรมเกมและวัฒนธรรมด้วย”
โม่จื่อเหยียนรู้ว่าเขาไม่ได้ขัดสนเงินทองเพราะทุกอย่างที่เขาใส่บนตัวนั้นมีราคาพอสมควร หากแต่เธอไม่คิดว่าเขาจะมีฐานะถึงเพียงนี้
ชายอายุสามสิบคนนี้มั่งคั่งขนาดนี้แต่ก็ยังมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
“พ่อของผมอยากให้ผมสอนหนังสือน่ะ ท่านหวังให้ผมทำงานในแวดวงวิชาการ”
กู้ชิงหลีถึงได้มาเป็นอาจารย์
“อย่างนั้นฉันก็ควรรู้สึกโชคดีที่แฟนของฉันเป็นประธานบริหารหรือเปล่าคะ”
“ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมแค่รู้สึกเป็นเกียรติที่ผมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับคุณ องค์หญิงคนดีของผม” เขาหัวเราะ “จื่อเหยียน คุณรู้ไหมว่ามันยากขนาดไหนที่ได้เจอคนที่คุณชอบที่อยู่ระดับเดียวกันกับคุณน่ะ”
“แล้ว…”
“แล้วผมก็จะดูแลคุณหมดทั้งใจและจะพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้คุณได้มาเป็นภรรยาของผมให้เร็วที่สุดไงครับ” เขาว่าพลางกอดเธอจากด้านหลัง หลังผ่านห้วงรักไปครู่หนึ่งเขาก็ปล่อยโม่จื่อเหยียน “เดี๋ยวอีกสักพักคุณออกมาทานมื้อเย็นนะครับ”
“ให้ฉันช่วยคุณนะ” เธอเสนอ
“โอเคครับ พอคนรักช่วยกันพวกเขาจะไม่เหนื่อยสินะครับ” เขาจับมือเธอและพาไปที่ห้องครัวหลังพูดจบ
อย่างที่เธอคาดไว้ กู้ชิงหลีมีเสน่ห์ยามที่อยู่ในครัว แม้กระทั่งตอนที่เขาหั่นผักเธอก็ยังเคลิบเคลิ้มไปกับเขา
เธอไม่อยากจะเชื่อว่าชายคนนี้เป็นคนของเธอ รอยยิ้มเพ้อๆ เผยออกมาอย่างห้ามใจไม่ไหวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มของเธอ เขาก็กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่เช่นกัน ยัยซื่อบื้อคนนี้ไม่ยอมเปลี่ยนไปจริงๆ
อาหารจานอร่อยที่สุดที่โม่จื่อเหยียนเคยทานเป็นฝีมือของโม่ถิง แม้เธอจะได้รับเกียรติทานอาหารที่น่าทึ่งจานนั้นเพราะแม่ตัวเอง ฝีมือทำครัวของโม่ถิงก็ยังไม่อาจไม่มีใครเทียบได้
หากแต่ตอนนี้กู้ชิงหลีนั้นอยู่คนละชั้น
แค่ได้มองเขาทำอาหารก็เป็นประสบการณ์ที่ชวนเพลิดเพลิน…
“ถ้าคุณเอาแต่ดูและไม่กินงั้นความตั้งใจของผมก็จะเสียเปล่าไม่ใช่เหรอครับ” เขาถามและเคาะศีรษะของเธอ “รีบทานเข้าครับ ผมจะพาคุณไปส่งที่หอตอนคุณทานเสร็จแล้ว…”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ พี่สี่ คุณชอบลงทุนไม่ใช่เหรอคะ”
“ผมก็พอรู้เรื่องอยู่บ้างแค่นั้นเองน่ะครับ!”
“ดีเลยค่ะ” โม่จื่อเหยียนหยิบสัญญาล่าสุดของไห่รุ่ยออกมาให้เขาดู “ช่วยฉันดูแผนธุรกิจพวกนี้แล้วถ้ามันคุ้มค่ากับการลงทุนก็บอกฉันทีนะคะ”
“นี่เป็นธุรกิจของบ้านคุณ เอามาให้คนอื่นดูง่ายๆ ได้ยังไงล่ะครับ”
“คุณไม่ใช่ คนอื่น สักหน่อย ไม่รู้เหรอคะว่าคุณเป็นอะไรสำหรับฉัน”
เขาอ่านสัญญาก่อนตอบอย่างช่วยไม่ได้ “ดูเหมือนว่าผมจะไม่ใช่แค่อาจารย์ของคุณ แต่ยังเป็นเลขาของคุณด้วยสินะครับ”
Comments