วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 654 ฆาตกรเงียบ

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 654 ฆาตกรเงียบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เธอเป็นศิลปินในสังกัดของฉัน แล้วฉันทำแบบนั้นมันผิดตรงไหน”

 

 

เฉินซิงเยียนมองลึกเข้าไปในดวงตาของอันจื่อเฮ่า เพราะเธอไม่ต้องการพลาดแม้แต่ท่าทีเล็กๆ ที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “แอนนี่ยอกว่านายลำเอียงเข้าข้างฉันมาตลอด”

 

 

“เธอเป็นศิลปินในสังกัดของฉัน ถ้าฉันอยากจะลำเอียง แล้วผู้หญิงคนนั้นจะทำอะไรได้งั้นเหรอ” ขณะที่อันจื่อเฮ่าพูด น้ำเสียงของเขาก็เริ่มฟังดูเหมือนนายทหารซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ยากที่จะเข้าใจเหตุผลที่เอามาอ้าง

 

 

เฉินซิงเยียนมองหน้าอันจื่อเฮ่าด้วยความจริงจัง ก่อนจะถอนหายใจออกมาโดยไม่พูดอะไรและเอนตัวลงบนเตียง “ไปทำธุระของนายเถอะ ฉันจะงีบสักหน่อย”

 

 

เดิมทีอันจื่อเฮ่าตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในเวลาแบบนี้ เขาไม่อาจประมาทได้เพราะมีเรื่องดราม่ามากมายเกิดขึ้นอยู่ภายนอก

 

 

เฉินซิงเยียนตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้านหนึ่งเธอรู้สึกผิดหวังเพราะความอับอายที่ได้รับ แต่อีกด้านหนึ่งหัวใจเธอก็หวั่นไหวเล็กน้อยกับสิ่งที่อันจื่อเฮ่าทำให้เธอทั้งหมด

 

 

เป็นเรื่องปกติหรือเปล่าที่คนทั่วไปจะเสนอความช่วยเหลือให้คนอื่นโดยไม่มีเหตุผล และเป็นเรื่องปกติหรือเปล่าที่ใครบางคนจะลำเอียงเข้าข้างเธอจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

 

 

 

เช้าวันต่อมา

 

 

ในที่สุดหลงเจี่ยก็มีความคืบหน้ามาให้ถังหนิง เธอได้จัดการให้ถังหนิงได้พบกับผู้กำกับแมตต์จากเรื่อง ‘The Savage Wars’ โดยยืนยันสถานที่นัดพบเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองจะพบภายในห้องส่วนตัวของโรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนทัล

 

 

นอกจากเพื่อนสนิทในวงการที่มีอยู่เพียงไม่กี่คนแล้ว ก็มีคนไม่มากนักที่สามารถเชิญถังหนิงไปร่วมงานอีเวนต์ได้ ไม่ว่างานนั้นจะใหญ่โตสักแค่ไหนก็ตาม แต่เพื่อเฉินซิงเยียน ถังหนิงถึงกับเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง คงไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว ถังหนิงเป็นใคร และเฉินซิงเยียนเป็นใครก็เห็นความต่างอย่างชัดเจน

 

 

“คุณอยากให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม” โม่ถิงถามขณะสวมชุดสูทลายทาง ก่อนจะได้เวลาที่ถังหนิงจะออกไปตามนัด

 

 

ถังหนิงเลือกเสื้อผ้าออกมาชุดหนึ่งและส่ายหน้า “คุณไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้หรอกค่ะ”

 

 

“ฟังนะ ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อไหร่ สิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดคือร่างกายของคุณ”

 

 

ถังหนิงหัวเราะคิกคักพลางสวมกอดโม่ถิงจากด้านหลัง แม้จะเป็นเพียงอ้อมกอดอันแผ่วเบาก็ตาม “คุณรู้ไหม ฉันชอบกอดคุณจากด้านหลังที่สุดเลย กอดแบบนี้ฉันสามารถหลบซ่อนอยู่เบื้องหลังไหล่หนาๆ ของคุณราวกับมันเป็นกำแพงที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก”

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น โม่ถิงก็ยืนนิ่งและปล่อยให้ถังหนิงกอดเขาขณะที่เขาทำให้เธอสัมผัสได้ถึงปลอดภัยที่สุด

 

 

“พวกอเมริกันรับมือได้ยาก ถ้าคุณเจอปัญหาอะไรละก็อย่าลืมโทรหาผมนะ”

 

 

“โอเคค่ะ” ถังหนิงพยักหน้า

 

 

หลังจากนั้นสักครู่ ถังหนิงเดินออกจากคฤหาสน์ เมื่อเธอเดินออกมา ก็บังเอิญพบกับลู่เช่อที่เธอไม่ได้เห็นหน้ามานาน

 

 

“กลับมาแล้วเหรอ”

 

 

“คุณผู้หญิง ขึ้นรถเถอะครับ ท่านประธานขอให้ผมขับไปส่งคุณที่โรงแรม” ลู่เช่อกล่าวขณะที่เขาเปิดประตูรถให้เธอ

 

 

ถังหนิงพยักหน้ารับและก้าวขึ้นนั่งบนรถ แต่หลังจากที่ประตูรถปิดลง เธอก็ถาม “นายได้อะไรที่เป็นประโยชน์จากการไปสืบที่ต่างประเทศบ้างไหม”

 

 

“ไม่มีเลยครับ ทุกอย่างดูเป็นปกติ ฮว่าเหวินเฟิ่งรอดจากเหตุเพลิงไหม้เหมือนสิบกว่าปีก่อนและมีหลักฐานว่าเธอใช้เวลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลระยะหนึ่งจากเหตุการณ์นั้น เมื่อเธอตื่นขึ้นมา บุคลิกของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่หมอบอกว่ามันเกิดจากความผลกระทบทางจิตใจหลังการช็อก นอกจากนั้นผมก็ไม่พบอะไรอีก” ลู่เช่อตอบ

 

 

เหตุเพลิงไหม้…

 

 

ด้วยข้อมูลนี้ ถังหนิงนึกถึงแผลไฟไหม้ตามตัวของไป๋ลี่หวา ดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องการระบุตัวตนของทั้งสองจะเริ่มต้นขึ้นจากตอนนั้น

 

 

แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาสะสางปัญหานี้ เพราะคนที่เธอจำเป็นต้องช่วยเป็นอันดับแรกคือลูกสาวของไป๋ลี่หวาซึ่งเป็นน้องสาวของโม่ถิง

 

 

ไม่นานนัก ถังหนิง ลู่เช่อและทีมบอดีการ์ดได้เดินทางมาถึงโรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนทัล ในขณะเดียวกัน ผู้กำกับของ ‘The Savage Wars’ และคนที่มีส่วนรับผิดชอบสำคัญได้นั่งรออยู่ที่โซฟาอย่างสบายใจอยู่ก่อนแล้ว

 

 

“ถังหนิง!” ผู้กำกับแมตต์ยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นถังหนิง เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของเธอจากหลายที่มา “ผมไม่คิดเธอว่าผมจะได้มีโอกาสพบกับผู้หญิงที่เป็นตำนานอย่างคุณ ผมรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเลย”

 

 

ถังหนิงยิ้มขณะจับมือกับชายทั้งสอง ก่อนตอบรับเป็นภาษาอังกฤษอย่างสมบูรณ์แบบ “เป็นเกียรติที่ได้พบคุณสองคนเช่นกันค่ะ”

 

 

“แต่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำไมคุณถึงอยากพบพวกเราล่ะ” แมตต์ถามพลางเอามือมารองที่คางของตนเอง

 

 

ถังหนิงยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาวางลงบนโต๊ะและแสดงให้ชายทั้งสองคนเห็น “เพราะเธอคนนี้”

 

 

เฉินซิงเยียนยิ้มอย่างสดใสอยู่ในรูปบนมือถือของถังหนิง แต่เธอกลับต้องมาปวดหัวเพราะชายอเมริกันสองคนนี้

 

 

“ผู้หญิงคนนี้อีกแล้วเหรอ เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา เราเปลี่ยนตัวเธอออกไปแล้ว”

 

 

“ฉันทราบเรื่องนั้นดีค่ะ ไม่เพียงแค่ผู้กำกับแมตต์จะเปลี่ยนตัวเฉินซิงเยียนออก แต่คุณยังถึงขนาดใช้ข่าวฉาวของเธอมาเป็นข้ออ้างในการทำแบบนั้นด้วย” ถังหนิงกล่าวพร้อมความหมายแฝง “ฉันจะพูดเข้าประเด็นเลยนะคะ ฉันมาที่นี่เพื่อเฉินซิงเยียนโดยเฉพาะ”

 

 

“เดี๋ยวก่อน ผมขอถามหน่อยได้ไหมว่าคุณเกี่ยวข้องอะไรกับผู้หญิงคนนี้”

 

 

“ไม่ว่าเราจะมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เธอก็ไม่ใช่คนที่คุณจะมาหาเรื่องได้” น้ำเสียงของถังหนิงแข็งขึ้นเล็กน้อย

 

 

“แต่… ฉันรู้ว่าเธอถูกเปลี่ยนตัวออก และคนที่มาแทนที่เธอก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับผู้จัดการของตัวเอง ฉันมั่นใจว่าพวกคุณรู้เรื่องนี้ดี” ถังหนิงเริ่มถกเถียงกับชายทั้งสองคน “คุณรู้ไหมว่าได้ทำการตัดสินใจอย่างไร้เหตุผล ผู้กำกับแมตต์ ข้อแรก เฉินซิงเยียนเป็นนักแสดงบทบู๊ระดับท็อปและคุณเองก็มีวัยวุฒิพร้อมกับหนังมากมายอยู่ในมือ แต่มีกี่ครั้งที่คุณได้รับรางวัล

 

 

“โปรดักชั่นระดับสามไม่เพียงพอที่จะได้รับรางวัลอะไร คุณคงไม่อยากเสียเวลาในวัยสูงอายุไปกับการทำหนังขยะเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องหรอกจริงไหมคะ

 

 

“อีกอย่าง เฉินซิงเยียนเป็นศิลปินในสังกัดของอันจื่อเฮ่าและอันจื่อเฮ่าเป็นคนสนิทคนหนึ่งของฉัน แค่เรื่องความสัมพันธ์นี้ คุณก็ไม่ควรตัดสินใจโดยใช้เงินเป็นหลักแล้ว”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของถังหนิง แมตต์ก็คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ผมไม่คิดว่าผมจำเป็นต้องให้คุณมาสอนว่าผมต้องทำอะไร ข่าวฉาวของเฉินซิงเยียนกับผู้จัดการเป็นความจริง ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่ผมจะเปลี่ยนตัวเธอออก คุณถังหรือคุณนายโม่ ผมรู้ว่าสามีของคุณเป็นนายใหญ่ของวงการบันเทิงในปักกิ่ง แต่คุณจะมาพูดแบบนี้กับวงการบันเทิงของอเมริกาไม่ได้หรอกนะ”

 

 

“ก็ได้ ดูเหมือนคุณแมตต์จะต้องการได้ยินอะไรที่ชัดเจนสินะ” ถังหนิงไม่ได้โมโหขณะเอามือมากอดออกแล้วเอนหลังกับเก้าอี้ด้วยท่าทีใจเย็นและให้อภัยอีกฝ่าย

 

 

“เฉินซิงเยียนผ่านการออดิชั่นของคุณ แต่คุณกลับเปลี่ยนตัวเธอออกก่อนข่าวฉาวพวกนั้นจะถูกเปิดเผยเสียอีก แล้วยังคนใหม่ที่คนจ้าง ต่อให้คุณยังไม่ประกาศ คุณก็ซ่อนฉันไม่มิดหรอก ฉันรู้ว่าคุณเปลี่ยนตัวเฉินซิงเยียนออกและใช้แอนนี่ซึ่งเป็นศิลปินอีกคนของอันจื่อเฮ่าแทน

 

 

“ถ้าคุณไม่พอใจที่อันจื่อเฮ่ากับศิลปินของเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนต่อกัน งั้นคุณก็ไม่ควรพิจารณาแอนนี่เช่นกัน ทำไมคุณถึงเลือกเปลี่ยนเฉินซิงเยียนเป็นแอนนี่ล่ะ

 

 

“อีกอย่าง มีสิทธิ์อะไรที่แอนนี่จะมาแทนที่เฉินซิงเยียน

 

 

“เพราะประธานหวังจ่ายเงินให้คุณก้อนโตใช่ไหม

 

 

“ผู้กำกับแมตต์ เอเจนซี่ของคุณนี่น่าอัศจรรย์จริงๆ คุณรับผลประโยชน์ทุกอย่างแต่กลับทิ้งปัญหาให้คนอื่นตามล้างตามเช็ด คุณนี่เหมือนกับฆาตกรเงียบเลย”

 

 

“คุณกำลังพูดอะไรไร้สาระน่ะ” แมตต์ถามด้วยสีหน้าบูดเบี้ยว

 

 

“ฉันมั่นใจว่าคุณรู้ดีว่าฉันกำลังพูดเรื่องไร้สาระหรือเปล่า แต่ต่อให้คุณไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อประนีประนอมอะไรอยู่แล้ว” ถังหนิงกล่าวด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ฉันแค่มาบอกให้พวกคุณรู้ว่าฉันวางแผนจะทำอะไร…

 

 

“คุณจะรังแกใครก็ได้ แต่ถ้าเป็นเฉินซิงเยียนละก็…

 

 

“ฉันไม่อนุญาต!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด