วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 658 ความรู้สึกของการได้ขโมยของจากคนอื่น

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 658 ความรู้สึกของการได้ขโมยของจากคนอื่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หมายความว่ายังไง” แอนนี่กดดันให้ชายคนนั้นอธิบาย

 

 

“คุณผู้หญิงครับ นี่เป็นงานปฐมทัศน์สำหรับภาพยนตร์ของนักแสดงระดับท็อปอย่างหลินเซิงนะครับ ทุกคนที่มาที่นี่ล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ โปรดอย่าถือสาหากผมต้องพูดตามตรง ว่าคุณคิดว่าคุณเป็นใครงั้นเหรอครับ” ชายคนนั้นถามอย่างซึ่งๆ หน้า

 

 

“ก็ได้ ตัวตนของฉันอาจจะไม่มีความสำคัญอะไร แต่ผู้หญิงคนนี้ล่ะ” แอนนี่กล่าวพลางชี้นิ้วไปที่เฉินซิงเยียน “ผู้หญิงคนนี้มีความสำคัญกับใครหรือไง”

 

 

“เธอมีความสำคัญอย่างแน่นอนครับ เธอมาที่นี่ในฐานะตัวแทนถังหนิงซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของหลินเซิง ในเมื่อเธออยู่ที่นี่ในฐานะตัวแทนของถังหนิง ดังนั้นเธอจึงเป็นแขกพิเศษไปโดยปริยาย หากคุณยังไม่คืนที่นั่งให้คุณเฉินเดี๋ยวนี้ ผมจำเป็นต้องเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย”

 

 

แอนนี่ชำเลืองตามองเฉินซิงเยียน แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลุกจากที่นั่ง “มิน่าล่ะ… ฉันรู้แล้วว่าเธอจับปลาตัวใหญ่ได้สินะ แต่ถ้าถังหนิงดีกับเธอจริง ทำไมถึงไม่ออกมาช่วยแก้ต่างข่าวฉาวโฉ่ของเธอแล้วไม่ช่วยเธอรักษาโอกาสต่างๆ เอาไว้ล่ะ”

 

 

“อันที่จริงที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของคุณแอนนี่ แต่หลังจากคุณเฉินบอกว่าเธอจะเข้าร่วมงานด้วย พวกเราจึงยกที่นั่งนี้ให้เธอครับ” เจ้าหน้าที่อธิบายอย่างสุภาพ “นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณถังปฏิบัติกับคุณเฉินดีแค่ไหน”

 

 

ดังนั้น…

 

 

…เดิมทีที่นั่งนี้เป็นของแอนนี่

 

 

แต่ถังหนิงกลับขโมยที่นั่งของเธอไปโต้งๆ!

 

 

เธอกำลังถูกเอาคืนอย่างชัดเจน!

 

 

ถังหนิงกำลังช่วยเฉินซิงเยียนแก้แค้น

 

 

เฉินซิงเยียนรู้สึกอึ้งเมื่อรู้ความจริง เธอไม่เคยนึกเลยว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของถังหนิง ปรากฏว่านี่คือวัตถุประสงค์ที่ทำให้ถังหนิงมาร่วมงานปฐมทัศน์ในครั้งนี้

 

 

“แล้วจะให้ฉันนั่งที่ไหนล่ะ” แอนนี่ถามขณะพยายามระงับความโกรธ “นายคงไม่คิดจะให้ฉันนั่งกับพื้นใช่ไหม”

 

 

“ถ้าคุณอยากทำแบบนั้นก็ตามสบายครับ แต่เรามีโซนยืนบริเวณด้านหน้ากับด้านหลังของโรงภาพยนตร์ คุณจะลองไปดูก็ได้”

 

 

“พวกนายจะกลั่นแกล้งกันเกินไปแล้วนะ!” แอนนี่ตะโกน

 

 

“ขอโทษด้วยนะครับแต่ทีมผู้จัดงานยอมรับพวกเขากำลังกลั่นแกล้งคุณจริงๆ” เจ้าหน้าที่คนนั้นยิ้มอย่างเย้ยหยัน “หากคุณแอนนี่ไม่อาจรับมือได้ จะกลับไปก็ได้นะครับ”

 

 

มือทั้งข้างของแอนนี่กำกระเป๋าไว้แน่นจนมือกลายเป็นสีขาว

 

 

เธอได้เซ็นสัญญากับบริษัทใหม่และมีเส้นสายกับประธานหวัง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวงการบันเทิงที่แท้จริง สิ่งที่ประธานหวังทำได้กลับมีแค่การมองดูเธอถูกกลั่นแกล้ง เขาช่วยอะไรไม่ได้เลย

 

 

“ฉัน… ฉันจะไม่ออกไปแบบนี้”

 

 

“งั้นก็ช่วยตัวเองแล้วกันนะครับ” เจ้าหน้าที่คนนั้นยิ้มก่อนจะโน้มตัวไปพูดกับเฉินซิงเยียน “คุณเฉินครับ หากคุณต้องการอะไรบอกผมได้เลยนะครับ ผมจะช่วยเหลือคุณอย่างดีที่สุด”

 

 

“ขอบคุณ ตอนนี้ฉันโอเคดี” เฉินซิงเยียนรู้สึกดี นี่สินะความรู้สึกได้ที่ขโมยของจากคนอื่น มันรู้สึกดีเป็นพิเศษเพราะฝ่ายตรงข้ามคือแอนนี่

 

 

“โอเค ถ้างั้นผมขอตัวก่อน” พูดจบ ชายคนนั้นก็หันหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่ก่อนที่เขาจะเริ่มเดินออกไปนั่น เขาพูดกับแอนนี่ “ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนมาจากภูมิหลังที่ดี ผมมั่นใจว่าคุณแอนนี่คงไม่โง่ถึงขนาดบังคนอื่น อย่าโทษที่ผมต้องเตือนคุณแบบนี้เลยนะครับ ถ้าคุณก่อความรำคาญให้บุคคลสำคัญคนอื่นๆ ชะตากรรมของคุณคงไม่จบแค่ถูกขโมยที่นั่งแน่ๆ การรับมือกับคนอย่างคุณมันไม่ต่างอะไรกับการบี้มดเดียวหนึ่งสำหรับคนพวกนั้น”

 

 

แอนนี่เดือดดาลด้วยความโกรธ แต่สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงมองหน้าประธานหวังเท่านั้น โชคไม่ดีที่ประธานหวังเองก็เป็นเพียงหน้าใหม่ในวงการและเขาไม่มีอิทธิพลมากพอในอาณาเขตของหลินเซิง

 

 

ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจเธอขณะที่เธอเดินออกมาอยู่ที่ด้านหลังของโรงภาพยนตร์

 

 

ทุกคนที่มีนั่ง ยกเว้นเธอ!

 

 

ไม่สิ พูดให้ถูกคือเธอมีที่นั่ง แต่เฉินซิงเยียนขโมยมันไป!

 

 

แอนนี่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวตลกขณะที่ทุกคนหันมาชี้และซุบซิบนินทาเธอ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของเฉินซิงเยียน!

 

 

แต่เธอยังไม่พ่ายแพ้เสียทีเดียว ต่อให้ถังหนิงอยู่ข้างเฉินซิงเยียน แอนนี่ก็ยังมีบทของ ‘The Savage Wars’ อยู่ในมือ ในขณะที่เฉินซิงเยียนไม่มีอะไรเลยนอกจากข่าวฉาว

 

 

กระนั้นความหยิ่งผยองของแอนนี่คงอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะก่อนที่ภาพยนตร์จะเริ่มฉาย หลินเซิงลุกขึ้นยืนบนเวทีและกล่าวถ้อยคำเล็กๆ น้อยๆ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรมากนัก ถังหนิงปรากฏตัวขึ้นบนเวทีอย่างฉับพลันจากทางเข้าด้านหนึ่ง

 

 

ในฐานะแขกเซอร์ไพรส์ ถังหนิงจึงสร้างความแตกตื่นขึ้น ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะรู้จักเธอเป็นการส่วนตัวหรือไม่ ถังหนิงก็เป็นตำนานที่ทุกคนต่างเคารพ

 

 

“พระเจ้าช่วย ถังหนิงจริงๆ ด้วย…”

 

 

“ถังหนิงมาที่นี่จริงๆ ฉันตาฝาดหรือเปล่าเนี่ย”

 

 

“ถังหนิงตัวจริง ขนาดท้องยังสวยเลย”

 

 

“ขาเธอสวยที่สุดในโลกเลย ดูสิขาเธอยาวจัง…”

 

 

เฉินซิงเยียนฟังคำสรรเสริญและพบว่าคนคนหนึ่งสามารถมีเสน่ห์จนคนทั้งโลกต้องยอมรับและหลงรักได้ถึงขนาดนี้

 

 

และแน่นอนว่าหลินเซิงเองก็ประหลาดใจ เพราะทั้งสถานะปัจจุบันรวมถึงสภาพร่างกายของถังหนิง การที่เธอมาปรากฏตัวในงานของเขาทำให้เขารู้สึกดีใจ

 

 

เมื่อมองดูจากสายตาของเธอ ทุกคนต่างบอกได้เป็นเสียงเดียวว่าเธอยังคงเป็นถังหนิงคนเดิม ถังหนิงที่ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อให้ภาพยนตร์ออกมาดีที่สุด เธอไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ที่สำคัญกว่านั้น เธอยังรู้จักกตัญญูอีกด้วย

 

 

“เซิงเกอ ฉันขอให้ขายตั๋วได้เยอะๆ นะคะ” ถังหนิงแทบจะไม่ปรากฏตัวในงานไหนเลย นับตั้งแต่วันที่เธอถูกฮว่าเหวินเฟิ่งใส่ร้าย เธอก็ไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณะอีกเลย ดังนั้นนี่จึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอไว้หน้าหลินเซิงมากแค่ไหนที่มาปรากฏตัวในงานนี้

 

 

“ฉันดีใจจริงๆ ที่เธอมางานนี้ได้” หลินเซิงสวมกอดถังหนิงอย่างอ่อนโยน

 

 

“ฉันไม่เคยลืมบุญคุณที่พี่เคยช่วยฉันไว้เลยค่ะ” ถังหนิงยิ้ม

 

 

“ฉันไม่ได้ทำอะไรขนาดนั้นหรอก”

 

 

“วันนี้ฉันเอาของขวัญมาให้ด้วย” ถังหนิงกล่าวขณะที่เธอถือไมโครโฟนอยู่ในมือและมองไปที่เฉินซิงเยียน “ฉันได้ยินมาจากพี่ลั่วว่าพี่กำลังมองหานักศิลปะป้องกันตัวมือโปร ฉันมีคนเก่งๆ ที่จะแนะนำ ถึงเธอจะยังเด็กอยู่สักหน่อย แต่เธอมีทักษะด้านศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวทุกรูปแบบ ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง”

 

 

หลังได้ฟังคำพูดของถังหนิง หลินเซิงตระหนักได้ถึงวัตถุประสงค์ของเธอ เธอต้องการแนะนำใครบางคนให้เขา

 

 

แน่นอนว่าหากเป็นคนอื่น หลินเซิงคงรู้สึกรังเกียจ แต่ถังหนิงนั้นต่างออกไป กระนั้นเมื่อเธอพูดถึงเด็กสาวที่มีทักษะเป็นเลิศ คนคนนั้นจะเด็กสักแค่ไหนกันนะ

 

 

“ซิงเยียน ขึ้นมาบนนี่แล้วทำให้พี่หนิงประทับใจตามสไตล์ของเธอสิ” ถังหนิงกล่าวต่อหน้าเฉินซิงเยียนหลังสังเกตเห็นว่าหลินเซิงไม่ได้ปฏิเสธคำแนะนำของเธอ

 

 

ทุกคนต่างรู้ดีว่าถังหนิงกำลังช่วยรุ่นน้องคนหนึ่ง

 

 

แต่รุ่นน้องคนไหนกันที่มีความสามารถพอให้ถังหนิงแนะนำ

 

 

ชั่วครู่หลังจากนั้น เด็กสาวที่อยู่ในวัยสิบปลายๆ ลุกขึ้นยืนท่ามกลางกลุ่มคนในขณะที่ทุกคนต่างจ้องมองเธอด้วยความสงสัย แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ตัวว่านี่คือเด็กสาวที่ปรากฏอยู่ในรูปฉาวโฉ่ของอันจื่อเฮ่า

 

 

ทุกคนต่างสงสัยว่าเด็กสาวคนนี้จะมีความสามารถสักแค่ไหนด้วยวัยเพียงเท่านี้

 

 

เฉินซิงเยียนเดินขึ้นไปบนเวทีและโค้งแสดงความเคารพต่อหลินเซิงอย่างมีมารยาท จากนั้นเธอก็มองไปยังฝูงชนจนในที่สุดก็พบแอนนี่

 

 

นี่เป็นโอกาสที่ถังหนิงมอบให้ โอกาสใหญ่ที่จะได้แสดงทักษะต่างๆ ของเธอ… โอกาสที่จะได้โค่นแอนนี่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด