วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 710 จะมีใครในวงการนี้ที่ยังกล้าร่วมงานกับคุณอีก

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 710 จะมีใครในวงการนี้ที่ยังกล้าร่วมงานกับคุณอีก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พักหลังๆ นี้นายใหญ่ดูเป็นกังวลมากเลยนะคะ คุณอยู่บ้านเฉยๆ และเตรียมตัวคลอดไม่ได้เหรอคะ” หลงเจี่ยกลอกตา

 

 

“ฉันรู้จักร่างกายของตัวเองดียิ่งกว่าใคร” ถังหนิงดูสงบนิ่งดังเคย

 

 

“ได้ถามหมอเรื่องเพศของเด็กหรือยังคะ คุณไม่สนใจเรื่องนั้นเลยเหรอ” หลงเจี่ยผู้ดูกระวนกระวายยิ่งกว่าถังหนิงเอ่ยถาม พลางจ้องไปยังท้องที่ยื่นออกมาของถังหนิงและจินตนาการถึงเจ้ามนุษย์ตัวน้อยที่กำลังจะออกมาลืมตาดูโลก

 

 

“ทำไมต้องถามด้วยล่ะ เดี๋ยวพอฉันคลอดแล้วพวกเราก็จะรู้เอง” ถังหนิงอยากเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นเซอร์ไพรส์สำหรับโม่ถิงและตัวเธอเอง ไม่ว่าเด็กคนนี้จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เขาก็จะเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับทั้งสองอย่างเท่าเทียมกัน

 

 

“หลานตัวน้อยของฉัน รีบออกมาเจอโลกได้แล้วนะ…พวกเราทุกคนรออยู่” หลงเจี่ยกล่าวพลางคุกเข่าลงตรงหน้าถังหนิงแล้วโน้มตัวเข้าไปหาท้องของหญิงสาว เด็กในท้องเตะกลับมาราวกับว่าได้ยินประโยคนั้น เมื่อหลงเจี่ยสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวของเจ้าตัวน้อย เธอก็พูดไม่ออกด้วยความประหลาดใจ

 

 

ทันทีที่ถังหนิงได้เห็นเช่นนั้น รอยยิ้มอันเปี่ยมสุขก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเธอ…

 

 

 

 

ภายใต้การปกป้องของผู้อาวุโสซ่ง ซ่งซินหลีกหนีจากสายตาของสาธารณชนได้อย่างรวดเร็วในขณะที่คำสาปแช่งและคำด่าทอถึงเธอนั้นถูกบดบังไปด้วยข่าวเรื่องล่าสุด ยกตัวอย่างเช่น ทุกคนกำลังสงสัยว่าถังหนิงไปลบหลู่ใครจนทำให้ภาพยนตร์ของเธอถูกถอดออกจากโรงภาพยนตร์

 

 

ในความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์ของถังหนิงนั้นย่ำแย่ยิ่งกว่าที่สาธารณชนจินตนาการเอาไว้ เพราะถึงอย่างไร ผู้ให้ความช่วยเหลือที่ตระกูลซ่งไปพบมานั้นก็มีความสามารถที่ทำให้ทั้งวงการบันเทิงยืนขาสั่นไปตามๆ กัน ถังหนิงถูกจำกัดไม่ให้ไปปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน ไม่ใช่แค่เฉพาะในภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงตัวโฆษณาทั้งในอดีตและในอนาคตอีกด้วย ดูเหมือนว่าสำหรับข้าราชการระดับสูงบางคนแล้ว ทั้งวงการบันเทิงนี้อยู่ในกำมือของเขาและเขาก็สามารถกดขี่ศิลปินสักคนได้ในชั่วพริบตา…

 

 

แม้ไห่รุ่ยจะอยากช่วยเธอ…

 

 

…พวกเขาก็จำต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมาด้วย!

 

 

ซ่งซินรับรู้สถานการณ์ของถังหนิงผ่านผู้อาวุโสซ่ง การอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจนั้นมีประโยชน์ตามที่คาดเอาไว้ โม่ถิงมีฝีมือไม่ใช่เหรอ ไห่รุ่ยเก่งเรื่องการประชาสัมพันธ์ไม่ใช่เหรอ แต่พวกเขาก็ทำได้แค่มองดูถังหนิงถูกกดขี่โดยที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อยู่ดี

 

 

ทว่ายังมีอีกสิ่งหนึ่งที่กวนใจซ่งซิน ต้วนจิ่งหงผู้ถูกถังหนิงลักตัวไปนั่นเอง

 

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซ่งซินจึงไปที่ห้องทำงานของผู้อาวุโสซ่งอีกครั้งแล้วครวญครางว่า “คุณปู่คะ ยังจำเพื่อนคนดีของหนูที่ชื่อต้วนจิ่งหงได้ไหมคะ”

 

 

“คนที่คอยติดตามและอยู่เคียงข้างหลานไปทุกที่น่ะเหรอ” ผู้อาวุโสซ่งพยายามนึกพลางวางปากกาในมือลง

 

 

“ใช่แล้วค่ะ ตอนนี้เธอตกอยู่ในมือของถังหนิง คุณปู่ช่วยคิดหาทางช่วยเหลือเธอได้ไหมคะ” ซ่งซินเอ่ยถาม “หนูรู้ว่ามันยากแล้วที่คุณปู่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น แต่ตอนนี้หนูก็ยังมาขอให้คุณปู่เข้าไปพัวพันกับเรื่องใหม่อีก มันต้องลำบากแน่ๆ …”

 

 

“หลานแค่อยากได้คนคนคนนั้นไม่ใช่เหรอ หลานคิดว่าถังหนิงจะขัดขืนได้หรือยังไง” ผู้อาวุโสซ่งเอ่ยถาม “รอข่าวดีได้เลย แค่อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับปู่ก็พอ”

 

 

“ค่ะ คุณปู่” ซ่งซินพยักหน้าระรัว

 

 

เวลาผู้อาวุโสซ่งสัญญาอะไรแล้ว เขามักจะทำตามนั้นเสมอ ดังนั้นหลังจากที่ซ่งซินออกไปจากห้อง ชายชราจึงหยิบแว่นอ่านหนังสือออกมาสวมอีกครั้งแล้วโทรหาใครบางคน

 

 

 

 

เช้าวันถัดมา ตำรวจก็เดินทางไปถึงไฮแอทรีเจนซี่และเคาะประตูบ้านของถังหนิง พวกเขาแสดงตราตำรวจทันทีที่เห็นหญิงสาวพร้อมอธิบายว่า “ทางเราได้รับแจ้งมาว่าผู้หญิงที่ชื่อต้วนจิ่งหงหายตัวไปได้สองสามวันแล้ว จากการสืบสวนของทางเราพบว่าคนที่พาเธอออกมาจากโรงพยาบาลคือคนของคุณ ดังนั้นเราจึงมาทำความเข้าใจกับสถานการณ์ดังกล่าวครับ…”

 

 

ทันทีที่ถังหนิงได้ยินเช่นนั้น เธอก็รู้ว่าซ่งซินมาที่นี่เพื่อเอาตัวคนของเธอกลับไป ดังนั้นหญิงสาวจึงยิ้มให้กับเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตอบว่า “คุณตำรวจคะ ต้วนจิ่งหงคือคนเป็นๆ ทั้งคนนะคะ เธอจะถูกฉันพาตัวไปอย่างง่ายดายแบบนั้นได้ยังไง พวกคุณลองติดต่อเธอหรือยังคะ”

 

 

ตำรวจไม่ตอบอะไร

 

 

เมื่อเห็นเช่นนี้ ถังหนิงจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาต้วนจิ่งหงต่อหน้าพวกเขา “จิ่งหง เธออยู่ที่ไหนเหรอ มีตำรวจมาตามหาเธอถึงบ้านฉันเลยนะ เป็นไปได้ว่าครอบครัวของเธอไปแจ้งความว่าเธอหายตัวไป พวกเขาได้ติดต่อหาเธอบ้างหรือยัง”

 

 

ถังหนิงเปิดลำโพงเพื่อให้เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินคำตอบของต้วนจิ่งหงด้วย ทว่าคำตอบของเธอคือ “ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่ที่บ้านกับพ่อและแม่ของฉันนะ ใครแจ้งความกันเนี่ย คงจะเป็นเรื่องผิดพลาดแล้วล่ะ…”

 

 

ความกระอักกระอ่วนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเล็กน้อย

 

 

“คุณตำรวจคะ ถ้าพวกคุณยังต้องการทำความเข้าใจกับเรื่องอื่นๆ อยู่อีก พวกคุณสามารถไปที่บ้านตระกูลต้วนเพื่อคุยกับพวกเขาอย่างเป็นการส่วนตัวได้เลยค่ะ”

 

 

เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รู้จะพูดอย่างไร ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่ขอโทษเท่านั้น “ขอโทษที่ทำให้เสียเวลาครับ!”

 

 

“ฉันเข้าใจค่ะ พวกคุณเพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น” แน่นอนว่าคำพูดของถังหนิงมีความหมายสองทาง

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนั้นจ้องหน้าถังหนิงไม่วางตาก่อนจะออกจากคฤหาสน์ไป

 

 

ครู่ต่อมา ต้วนจิ่งหงก็โทรกลับมาหาถังหนิง “นี่ ‘คนคนนั้น’ กำลังตามหาตัวฉันอยู่เหรอ”

 

 

“เธอคิดว่าไงล่ะ” ถังหนิงถามกลับ

 

 

“อย่าห่วงเลย ฉันไม่หันหลังกลับไปหรอก”

 

 

“ฉันไม่ใช่ซ่งซินนะ ฉันไม่ข่มขู่ใคร ถ้าเธออยากจะไปก็ไปได้เลย ฉันไม่ห้ามหรอก”

 

 

ต้วนจิ่งหงไม่ได้ตอบในทันที เธอเงียบจนถังหนิงได้ยินเสียงแทรกมาจากปลายสาย หลังจากผ่านไปชั่วครู่ หญิงสาวก็ตอบกลับมาว่า “ฉันก็มีความเคารพต่อตัวเองเหมือนกันนะ ไม่ไปๆ มาๆ ตามที่หล่อนต้องการหรอก”

 

 

อีกเหตุผลหนึ่งที่ต้วนจิ่งหงตอบมาเช่นนี้ก็เพราะถังหนิงกำลังปกป้องครอบครัวของเธอ

 

 

ต้วนจิ่งหงไม่เคยคาดคิดเลยว่าซ่งซินจะได้มาลงเอยเช่นนี้ แต่หญิงสาวเข้าใจนิสัยของซ่งซินดี ในเมื่อเธอเป็นภัย เธอก็รู้ว่าซ่งซินมีวิธีการอีกมากมายที่จะจัดการกับเธอ

 

 

หญิงสาวนั้นยังมีศรัทธาว่าตัวเองยังมีอนาคตจากการติดตามถังหนิง หากเธอติดตามซ่งซินต่อไป เธอรู้ว่าตัวเองจะถูกนำไปใช้ในทุกๆ ทางที่เป็นไปได้และมีจุดจบอันน่าอนาถ ดังนั้นต้วนจิ่งหงจึงรู้ว่าการติดตามถังหนิงนั้นเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยตัวเองได้ เธอจะไม่เหยียบกับดักของซ่งซินอีกแล้ว หญิงสาวไม่ได้โง่ เธอรู้วิธีการเปลี่ยนไปหาสิ่งที่ดีกว่า

 

 

“ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ควรหนักข้อนักนะ เธอก็รู้ว่าซ่งซินตอบโต้กับสิ่งนั้นได้อย่างเลวร้ายที่สุด…” ถังหนิงเตือนต้วนจิ่งหงให้ระวังตัว

 

 

“แล้วคุณล่ะ ตอนนี้ซ่งซินกำลังกดขี่คุณ จะมีใครในวงการนี้ที่ยังกล้าร่วมงานกับคุณอีก”

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังหนิงก็หยุดพูดไปชั่วขณะก่อนจะตอบว่า “ถ้าฉันถูกข่มเหงโดยคนอย่างซ่งซินได้อย่างง่ายดายแล้วละก็ ฉันก็คงไม่ใช่ถังหนิงแล้ว ฉันไม่รังเกียจที่ศัตรูทุกคนของฉันคิดว่าแผนชั่วของตัวเองสำเร็จแล้วหรอกนะ พวกเขาสามารถรู้สึกสาแก่ใจได้ตามที่ต้องการเลย เพราะหลังจากนั้นพวกเขาก็จะเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมาอย่างรวดเร็ว…”

 

 

ต้วนจิ่งหงไม่เข้าใจว่าถังหนิงหมายความถึงอะไรและไม่ได้บังคับให้ตัวเองเข้าใจด้วย ตราบใดที่ถังหนิงมีฝีมือมากกว่าที่เธอคาดเอาไว้ เธอก็พอใจแล้ว

 

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ดูแลตัวเองด้วยนะ” นี่เป็นสิ่งเดียวที่ต้วนจิ่งหงสามารถทำให้ถังหนิงได้

 

 

ถังหนิงยิ้มอย่างสบายๆ “เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว สามีของฉันใส่ใจในความปลอดภัยของฉันยิ่งกว่าใครเลยล่ะ”

 

 

พูดจบถังหนิงก็กดวางสาย

 

 

จากนั้นต้วนจิ่งหงก็จ้องไปยังโทรศัพท์ของตัวเอง เธอแน่ใจเหลือเกินว่าซ่งซินจะโทรมาหาเธอในเร็วๆ นี้…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด