วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 722 ผู้อาวุโสซ่งยังโอเคอยู่ไหม
“ง่ายมาก แค่คุณติดต่อไปหาทุกคนที่คุณสั่งให้แบนถังหนิงแล้วยกเลิกคำสั่งแบนทั้งหมดของเธอ” โม่ถิงตอบอย่างตรงไปตรงมา เผยวัตถุประสงค์ของเขาอย่างไม่ลังเล
“แกกำลังจะบอกให้ฉันกลับคำพูดตัวเองอย่างนั้นเรอะ”
“นั่นเป็นปัญหาของคุณ” น้ำเสียงของโม่ถิงค่อยๆ เยือกเย็นขึ้นเรื่อยๆ “ถ้าคุณไม่รู้สึกผิดกับทุกสิ่งที่หลานสาวของคุณได้ทำลงไป งั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องใส่ใจกับศักดิ์ศรีของคุณ ผมแค่ต้องการเห็นคุณตบหน้าตัวเองเท่านั้นเอง”
ผู้อาวุโสซ่งเบือนหน้าหนี ไม่อยากยอมรับชะตากรรมตัวเอง
“อะไรกัน เมื่อกี้คุณเพิ่งบอกไม่ให้ผมทำตัวจองหองเองไม่ใช่เหรอ ท่าทีพวกนั้นหายไปไหนหมดล่ะ
“ผู้อาวุโสซ่ง ผมเกือบลืมบอกคุณไป หากคุณไม่จัดการสิ่งต่างๆ ที่หลานสาวของคุณทำในวันนี้ ผมจะจัดการเอาคืนกับเธอโดยตรง หลานสาวของคุณทำให้ภรรยาและลูกชายสองคนของผมเกือบเอาชีวิตไม่รอด หากคุณเป็นผม คุณจะเอาคืนเรื่องนี้ยังไงครับ”
ผู้อาวุโสซ่งอ้าปากแต่ไม่มีคำพูดใดหลุดรอดออกมา
ไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถพูดออกมาได้…
“คนเราทำอะไรไว้ก็ต้องชดใช้ไม่ช้าก็เร็ว คุณจะชดใช้หรือผมหรือจะให้หลานของคุณเป็นคนชดใช้ล่ะ”
ผู้อาวุโสซ่งไม่เคยเสียหน้าเช่นนี้มาก่อน เขาไม่เคยถูกคนอ่อนวัยกว่าต้อนจนพูดอะไรแบบนี้
“ในสายตาคุณ ชีวิตคนคนหนึ่งมีค่าแค่น้อยนิดงั้นเหรอครับ”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ผู้อาวุโสซ่งก็สงบลงและคิดถึงสิ่งต่างๆ อย่างถี่ถ้วน เขาเข้าใจดีว่าการกระทำของโม่ถิงนั้นไม่ใช่เรื่องผิด ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง การปกป้องภรรยาของตัวเองเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ เช่นเดียวกับคำถามของโม่ถิงเกี่ยวกับคุณค่าของชีวิตคนคนหนึ่ง…
…มันจะไม่มีค่าได้อย่างไรกัน
กระนั้นเขาไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะเป็นคนอ่อนแอในสายตาของหลานสาวตัวเอง
“เพราะวิธีที่คุณตามใจเธอทำให้ซ่งซินทำสิ่งต่างๆ โดยไม่ยั้งคิด คุณไม่คิดว่าเธอควรรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำบ้างหรือไง”
ชายชรายังคงนิ่งเงียบไปอีกครู่หนึ่งก่อนจะสูดหายใจลึก “ว่ามา… แกต้องการอะไรอีก”
เมื่อเห็นว่าชายชราเริ่มประนีประนอมมากขึ้น โม่ถิงจึงเอนหลังพิงเก้าอี้และหัวเราะ “คุณกำลังถามว่าผมต้องการอะไรอย่างงั้นเหรอ ผมกำลังรอให้ผู้อาวุโสซ่งเสนอแนวทางแก้ไขที่น่าพอใจอยู่
“นอกจากเรื่องที่ผมเรียกร้องไปก่อนหน้านี้ ผมกำลังรอให้ผู้อาวุโสซ่งแสดงให้ผมเห็นว่าเขาสามารถทำอะไรได้อีก ผมจะให้เวลาคุณหนึ่งวันกลับไปคิดให้ดี ถ้าผมไม่เห็นความคืบหน้าอะไรภายในหนึ่งวัน ผมคงต้องโทรหาตำรวจ…”
ใบหน้าชายชราเปลี่ยนเป็นคร่ำเคร่ง เขาโกรธจัดจนพูดอะไรไม่ออก ขณะที่เขาลุกจากเก้าอี้ ชายชราเกือบจะหมดสติเพราะความดันที่พุ่งสูงขึ้นจนโม่ถิงต้องเรียกเลขาของเขาให้มาช่วยพาเขาออกไป
ถ้านี่ไม่เป็นเพราะผู้อาวุโสซ่งไม่สามารถแยกแยะผิดถูกได้ โม่ถิงคนไม่ต้องทำเรื่องยุ่งยากให้กับชายชราเช่นนี้
แต่เมื่อผู้สูงวัยไม่สมควรได้รับการเคารพ พวกเขาก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำ
นอกจากเรียกร้องให้ผู้อาวุโสซ่งถอนคำสั่งแบนถังหนิงแล้ว โม่ถิงไม่ได้ขออะไรอย่างอ่านอีก กลับกัน เขาได้บังคับให้ผู้อาวุโสซ่งคิดอย่างถี่ถ้วนและเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เขาต้องการดูว่าชายชราตั้งใจจะสละอะไรเพื่อปกป้องหลานสาวของตัวเอง
เขายังอยากเห็นแนวทางแก้ไขที่ชายแก่คนนั้นจะทำด้วย
…
ซ่งซินไม่รู้ตัวสักนิดเลยว่าผู้อาวุโสซ่งได้ล่วงรู้ถึงการกระทำอันชั่วร้ายต่างๆ ของเธอแล้ว หลังจากกลับมาที่บ้านและเห็นชายชรากำลังนั่งอยู่ที่โซฟา เดิมทีเธออยากกจะใช้อำนาจของเขาอีกครั้ง แต่ผู้อาวุโสซ่งจ้องเขม็งมาที่เธออย่างเย็นชาและออกคำสั่ง “มานี่”
“คะคุณปู่” ซ่งซินดูประหลาดใจ
“ปู่บอกให้มานี่!” ชายชราย้ำด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ซ่งซินเดินตรงไปหาชายชราด้วยความสงสัยและระแวดระวัง จากนั้นเธอสัมผัสได้ถึงความแสบร้อนบนแก้มขวาของเธอที่มาพร้อมกับเสียงดัง เพียะ!
“คุณปู่…”
“ปู่ต้องการให้หลานไปคุกเข่าต่อหน้าบรรพบุรุษคืนนี้ทั้งคืน ถ้าปู่ไม่บอกให้ลุก อย่าริอาจลุกขึ้นมาเชียว พ่อบ้าน จับตาดูเธอเอาไว้” ชายแก่ไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆ ที่ทำให้เขาโกรธเกรี้ยวพลางชี้ไปทางแท่นบูชาบรรพบุรุษ
“ทำไมคะคุณปู่” ซ่งซินปฏิเสธที่จะทำตามพลางกุมแก้มของตัวเอง “หนูไปทำอะไรให้คุณปู่โกรธนักหนา”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้หลานก็จะรู้” ผู้อาวุโสซ่งสงบสติลง เขาคิดเกี่ยวกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วนแล้ว แม้เขาจะไม่ชอบวิธีการของโม่ถิง แต่เขาก็เข้าใจดีว่าโม่ถิงทำไปเพื่อภรรยาของตัวเอง และต่อให้ถังหนิงไม่มีความหมายอะไรกับโม่ถิง ก็ยังมีลูกๆ ของเขาอีกสองคน เด็กพวกนั้นเกือบต้องตายด้วยน้ำมือของหลานสาวของเขา หากเขาอยู่ในจุดเดียวกับโม่ถิง เขาคงควักปืนออกมายิงตัวต้นตอให้ตายไปแล้ว
แต่สิ่งที่ทำร้ายจิตใจเขามากที่สุดคือความจริงที่ซ่งซินใช้เขาและเอาตำแหน่งหน้าที่ของเขามาใช้ฉวยโอกาสให้กับตัวของเธอเองและบรรลุสิ่งที่เธอต้องการ ขณะทำตัวราวกับเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ ต่อหน้าเขา
เขาเป็นเครื่องมือให้หลานสาวของตัวเองก่อเรื่องต่างๆ!
หลังพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ในที่สุดผู้อาวุโสซ่งก็เลือกที่จะลากซ่งซินไปยังไห่รุ่ยในวันต่อมาเพื่อให้โม่ถิงจัดการลงโทษ เขาจะปล่อยให้โม่ถิงทำในสิ่งที่ต้องการ
เป็นเพราะซ่งซิน ทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่อาจแยกแยะผิดชอบชั่วดี นั่นเป็นสิ่งที่เขายากจะยอมรับได้
…
คืนนั้น โม่ถิงกลับไปที่บ้าน พบว่าถังหนิงกำลังกล่อมลูกทั้งสองคนให้หลับ ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปช่วยเธอ
แม้พ่อลูกจะเพิ่งได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาเพียงชั่วเวลาสั้นๆ เด็กทั้งสองต่างคุ้นเคยกับอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ เด็กๆ ต้องการสัมผัสถึงไออุ่นของเขาจึงจะยอมหลับ
หลังจากนั้น คู่รักก็วางลูกทั้งสองลงในเปลนอนของพวกเขาก่อนเดินเข้าไปยังห้องเสื้อผ้า หลังจากช่วยโม่ถิงถอดสูทแจ็กเกตออก ถังหนิงเอ่ยถามขึ้น “วันนี้คุณได้เจอคนคนนั้นหรือเปล่า”
“ไปพักที่เตียงเถอะ ทำไมคนที่เพิ่งคลอดลูกถึงไม่ดูแลตัวเองนะ” โม่ถิงกล่าวพลางอุ้มถังหนิงไว้ในอ้อมแขน
“ฉันสบายดี ฉันไม่เชื่อธรรมเนียมเก่าๆ ที่ต้องพักอยู่ไฟทั้งเดือนหลังจากคลอดหรอกนะคะ” ถังหนิงหัวเราะ
“ผมสั่งให้เขาหาแนวทางที่น่าพอใจให้เรา” โม่ถิงอธิบายพลางวางถังหนิงลงบนเตียง
“ผู้อาวุโสซ่งยังโอเคอยู่ไหมคะ”
“ตอนแรกเขาก็โกรธ แต่หลังจากคิดดีๆ ผมแน่ใจว่ามันต้องเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะยอมรับเรื่องนี้”
“แน่นอนอยู่แล้ว ใครจะไปรู้สึกดีที่ถูกหลานสาวตัวเองใช้เป็นเครื่องมือกันล่ะ” ถังหนิงยิ้ม “เราแค่ต้องรอแล้วดูความจริงใจของผู้อาวุโสซ่ง ถิง ขอบคุณนะคะที่ช่วยเรื่องจิ่งหง”
“มันไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องการขอบคุณผมหรอกครับ มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณที่ต้องมาขอบคุณผม” โม่ถิงกล่าวก่อนพยายามกล่อมถังหนิงให้เข้านอน “นอนพักก่อนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำหน่อย”
“ไม่ ฉันจะรอคุณ ไม่งั้นลูกๆ จะร้อง”
“อ้อใช่ นั่นสิ ผมไม่มีนมให้พวกเขานี่นะ!”
ถังหนิงหัวเราะพลางต่อยเข้าที่แผ่นอกของโม่ถิงอย่างหยอกเย้าและพยักหน้าให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน “รีบไปอาบน้ำเถอะค่ะ”
ในความเป็นจริง ต้วนจิ่งหงไม่ได้มีหลักฐานอะไรในมือ ต่อให้เธอไปหาตำรวจ เธอก็ทำได้ใส่ร้ายซ่งซิน ท้ายที่สุดจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น
แต่ถึงเป็นเช่นนั้น ซ่งซินจะปล่อยให้ตำรวจหาหลักฐานได้อย่างนั้นหรือ
เธอมีความผิดมากเกินกว่าจะทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นนั้น
ที่จริง ผู้อาวุโสซ่งนั้นไม่อาจดูถูกได้ แม้สัญชาตญาณของเขาจะไม่เฉียบคมเหมือนแต่ก่อนและมีแนวโน้มที่จะถูกซ่งซินเป่าหู เขาก็ยังคงเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถนำจุดจบมาสู่ซ่งซินได้
ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ ทุกคนจะต้องรอดูว่าผู้อาวุโสซ่งวางแผนอะไรไว้
หลังคิดเช่นนั้น ถังหนิงก็ชำเลืองตามองไปยังลูกทั้งสองของเธอ ผู้อาวุโสจากตระกูลโม่และตระกูลถังต่างพากันอุ้มพวกเขาไปมาทั้งวันโดยไม่มีใครยอมปล่อยมือเลย!
นี่หมายความว่านับจากนี้ไป เธอจะแทบไม่มีโอกาสได้อุ้มลูกทั้งสองเลยอย่างนั้นหรือ
Comments