วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 766 เตรียมประกาศบทพระเอก!
“‘ชายาหนิง’ กำหนดเริ่มฉายตอนแรกวันที่สิบห้าหลังจากปีใหม่ วัตถุประสงค์คือตั้งใจจะเริ่มฉายก่อน ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เมื่อไหร่ก็ตามที่ละครแนวย้อนยุคสองเรื่องเริ่มฉายในเวลาไล่เลี่ยกัน เรื่องที่ฉายก่อนมักจะได้เปรียบกว่าเสมอ ประการแรกเพราะผู้ชมมักจะชอบใครก็ตามที่มาก่อนเสมอ ประการที่สอง เมื่อมีสิ่งที่คล้ายกันเกิดขึ้นติดๆ กัน คนดูมักกจะเบื่อได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้น ‘ชายาหนิง’ ยังได้ฉายในช่องที่ดีที่สุดและได้ฉายในช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกด้วย เรื่องนี้ไม่ดีกับเราอย่างแน่นอน”
ระหว่างการประชุมของไห่รุ่ย เจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลการเผยแพร่สื่อเริ่มแสดงความคิดเห็นของเขา
“ไป๋อวี๋มักจะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อเสมอและภาพลักษณ์ของเธอก็ดีมาตลอด ต่อให้ก่อนหน้านี้เธอเคยพลาดท่าให้เรา แต่เมื่อมองในภาพใหญ่จะเห็นได้ว่าทีมงานของ ‘ชายาหนิง’ ยังสามารถควบคุมทุกอย่างเอาไว้ได้
“ที่สำคัญที่สุดคือเรายังไม่ได้เปิดเผยพระเอกของเรา หลังจากการโปรโมตรอบแรกทำให้ความคาดหวังที่มีต่อ ‘ชายาหนิง’ เพิ่มสูงขึ้นเป็นสองเท้าเมื่อเทียบกับของเรา
“ท่านประธานโม่ครับ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ยังถ่ายทำไม่เสร็จ เราควรทำยังไงกันดี หรือเราควรจะเลื่อนไปปล่อยช่วงตรุษจีนแทนดีครับ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะพลาดรางวัลเฟยเทียนของปีนี้”
“ใครพูดว่าเราจะเริ่มฉายหลังจาก ‘ชายาหนิง’ ” โม่ถิงถามไปยังทุกคนที่อยู่ภายในห้อง “’ ชายาหนิง’ ได้ช่องและช่วงเวลาที่ดีที่สุดไปก็จริง แต่พวกนั้นได้แค่ช่วงวันทำธรรมดาเท่านั้น แล้ววันเสาร์อาทิตย์ล่ะ”
“วันหยุดสุดสัปดาห์มีรายการวาไรตี้ครองไว้หมดแล้ว…”
“ถ้าช่วงเวลาหลังจากรายการวาไรตี้พวกนั้นจบแล้วล่ะ”
“ท่านประธานโม่กำลังจะพูดว่าเราจะใช้ช่วงเวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างนั้นหรือครับ”
โม่ถิงจะปล่อยให้ ‘ชายาหนิง’ โปรโมตตัวเองยังไงก็ได้ เพราะถึงอย่างไรเขาก็มีข้อมูลเด็ดอยู่ในมือ หากเขาเปิดเผยข้อมูลนั้น ‘ชายาหนิง’ ก็ไม่มีค่าอะไรอีก ที่สำคัญที่สุดคือเขามีหลักฐานเรื่องไป๋หลินหลินเป็นชู้กับสามีของไป๋อวี๋ หากประเด็นคือไป๋อวี๋เป็นเหยื่อ เขาไม่อาจเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะได้ เขาจะจัดการเรื่องในเป็นการส่วนตัว เพราะเขารู้ดีว่าหากเขาเปิดเผยเรื่องนี้สู่สาธารณะ ไป๋อวี๋ก็มีแต่จะได้คะแนนความสงสารมากขึ้น
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้กลับมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในกองถ่ายของ ‘หวงเฟยยอดสตรี’
เนื่องด้วยสภาพอากาศและความหละหลวมของทีมงานถ่ายทำ ทำให้ผู้กำกับเฉินเฟิงได้รับอุบัติเหตุระหว่างการถ่ายทำและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
จากนั้นไม่นาน ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้รั่วไหลออกไปและก่อให้เกิดการคาดการณ์มากมายขึ้น
[ฉันได้ยินมาว่าผู้กำกับเฉินเฟิงพลัดตกจากหน้าผาสูงและเสียชีวิตแล้ว…]
[ฉันได้ยินมาว่าสถานที่ถ่ายทำ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เป็นสถานที่ต้องสาปที่มีคนตายมาหลายคนแล้ว]
[ไม่นะ ซวยเป็นบ้า…]
[ฉันได้ยินมาด้วยว่าตอนที่ผู้กำกับเฉินเฟิงตาย หัวเขาหลุดออกจากตัวเลยนะ น่ากลัวที่สุด!]
หากไม่นับรวมข่าวลือต่างๆ สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ จะต้องถูกเลื่อนและกระบวนการถ่ายทำจะต้องล่าช้าออกไป
ที่จริงในระหว่างเหตุการณ์เช่นนี้ สิ่งที่ไห่รุ่ยสามารถทำได้มีเพียงออกมาแถลงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและความจริงจะต้องถูกเปิดเผย แต่เรื่องน่ากังวลใจอยู่ที่ขาทั้งสองข้างของผู้กำกับเฉินเฟิง ซึ่งตอนนี้ไม่สะดวกที่จะกลับมาถ่ายทำได้อีก
…
“แม้แต่สวรรค์ยังอยู่ข้างฉันเลย” ไป๋อวี๋ยิ้มเยาะหลังได้อ่านข่าวดังกล่าว “มาดูกันสิว่ากองถ่ายเส็งเคร็งนั่นจะยื้อต่อไปได้อีกนานแค่ไหน”
“ที่จริงเราไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วนะคะพี่อวี๋ เรตติ้งจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่าผู้ชนะที่แท้จริงคือใคร” ผู้ช่วยของเธอกล่าวให้กำลังใจ
“ถ้างั้นเธอช่วยฉันจับตาดูคู่แข่งไว้ให้ดีแล้วกัน ‘ชายาหนิง’ เกือบจะถึงวันฉายตอนแรกแล้ว ฉันไม่ต้องการให้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น” ไป๋อวี๋ออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น
เนื่องจากถังหนิงรู้เกี่ยวกับประวัติความสัมพันธ์ระหว่างไป๋อวี๋กับหวงฝู่ซั่ว เธอจึงตัดสินใจบอกเขาเรื่องที่ไป๋หลินหลินกับสามีของไป๋อวี๋กำลังคบชู้กันเพื่อช่วยให้เขาได้บรรเทาความโกรธลง แต่หลังจากหวงฝู่ซั่วได้ฟังสิ่งที่ถังหนิงพูดจนจบ เขากลับไม่รู้สึกสะใจอย่างเช่นแต่ก่อน นั่นไม่ใช่เพราะเขาไม่เกลียดไป๋อวี๋ แต่เป็นเพราะเขาเข้าใจสิ่งหนึ่ง นั่นคือไม่ว่าในอดีตไป๋อวี๋จะเคยปฏิบัติกับเขาไว้เลวร้ายเพียงใด เขาก็ต้องรู้จักควบคุมตัวเอง เขารู้ดีว่าทุกอย่างที่ไป๋อวี๋ติดค้างเขาไว้จะต้องหวนคืนกลับไปในที่สุด
เนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในกองถ่าย ‘หวงเฟยยอดสตรี’ โม่ถิงจึงให้ทีมงานทั้งหมดได้พัก ในระหว่างนั้น หวงฝู่ซั่วพบเข้ากับไป๋อวี๋ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ขณะที่เขามองไปยังสามีที่ยืนอยู่ข้างอีกฝ่าย เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสมเพช
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขาจงใจปรากฏตัวที่โรงแรมแห่งนี้หลังจากหาข้อมูลว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน
ไป๋อวี๋ทำตัวราวกับเป็นใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้เฉกเช่นทุกครั้ง ดังนั้นทันทีที่เธอสังเกตเห็นหวงฝู่ซั่ว เธอจึงรีบเข้าไปยืนขวางทางอีกฝ่าย ขัดขวางไม่ให้เขาปลีกตัวออกไป “ฉันว่าฉันยังไม่เคยแนะนำสามีของฉันให้คุณรู้จักใช่ไหม”
“ผมว่าไม่จำเป็นหรอก พักหลังมานี้ผมค่อนข้างคุ้นเคยกับเขาดีทีเดียว” หวงฝู่ซั่วพูดอย่างมีนัยแอบแฝง
“ในเมื่อคุณคุ้นเคยกับเขาแล้ว คุณก็ควรรู้สินะว่าฉันไม่ใช่คนที่คุณควรจะมาต่อกรด้วย” ไป๋อวี๋กล่าวเตือนที่ข้างหูของหวงฝู่ซั่ว
หวงฝู่ซั่วรู้สึกว่าไป๋อวี๋นั้นช่างน่าเวทนา แต่เขาไม่คิดว่าเธอควรได้รับความสงสาร
“อีกอย่าง ได้ยินมาว่ากองถ่ายของคุณถูกเลื่อนการถ่ายทำออกไป ก่อนหน้านี้ก็ต้องล้มลุกคลุกคลานกับการหาคนแสดงเป็นพระเอก แล้วคราวนี้ผู้กำกับก็มาบาดเจ็บอีก กองถ่ายของคุณนี่เจอเรื่องยุ่งยากเยอะน่าดูเลยนะ” แววตาไป๋อวี๋แสดงออกถึงความพึงพอใจ ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ไป๋อวี๋ดูราวกับเป็นคนแปลกหน้าที่ยืนอยู่ใต้แสงไฟนีออน “คุณรู้หรือเปล่าวว่า ‘ชายาหนิง’ กำลังจะฉายตอนแรกหลังจากปีใหม่ ฉันหวังว่าคุณจะมีส่วนของเรตติ้งในฐานะผู้ชมนะ…
“ส่วนตอนที่ละครของคุณออกฉายต่อหน้าคนดู ฉันก็ได้แต่ขอให้โชคดีแล้วกัน!”
หวงฝู่ซั่วยืนกอดอกขณะที่เขาเผชิญหน้ากับคำพูดยั่วยุของไป๋อวี๋และเผยรอยยิ้มออกมา “ใส่หน้ากากต่อหน้าคนอื่นนี่ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”
“แล้วใครบอกให้ฉันมาเป็นนักแสดงล่ะ”
“ไป๋อวี๋ ผมมาที่นี่ก็เพื่อดูว่าคุณมันน่าตลกแค่ไหน ไม่ช้าก็เร็ว คุณจะได้รู้ตัวเองโง่แค่ไหน” พูดจบ หวงฝู่ซั่วก็กดปุ่มลิฟต์และหายไปจากสายตาของคนทั้งคู่
ไป๋อวี๋มองไปยังทิศทางที่หวงฝู่ซั่วเดินจากไปและหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “เขามาถึงจุดนี้แล้วแท้ๆ ยังจะมาวางท่าอยู่อีก”
แต่เป็นโชคร้ายของไป๋อวี๋เพราะหวงฝู่ซั่วนั้นไม่ได้กำลังวางท่า ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เพียงแค่ยังไม่ได้ประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองออกมาเท่านั้น
แม้พวกเขาจะยังถ่ายทำไม่เสร็จ แต่นั่นไม่ได้ส่งผลถึงการฉายของละครเรื่องนี้ มันจะเป็นละครสุดสัปดาห์ซึ่งมักจะมีหนึ่งหรือสองซีซั่นเสมอ แล้วนี่ถือว่าพวกเขากำลังเผชิญความลำบากอยู่งั้นหรือ
หวงฝู่ซั่วรู้สึกว่าเขามีหน้าที่จะต้องฉีกหน้ากากของไป๋อวี๋ต่อหน้าทุกคนเพราะมันขัดกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขา แต่เขาจะรอจนกว่า ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เริ่มฉายแล้วเสียก่อน
เช่นเดียวกับเรื่องฉาวโฉ่ระหว่างน้องสาวแท้ๆ กับสามีของผู้หญิงคนนี้ มันจะสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัสถ้าเธอเป็นคนพบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง…
ไป๋อวี๋แค่รู้สึกว่าหวงฝู่ซั่วกับถังหนิงนั้นเหมือนกัน คือทั้งคู่รู้วิธีสร้างภาพและน่ารังเกียจ ดังนั้นในระหว่างการอีเวนต์โปรโมตละครของเธอหลังจากนั้น เธอจึงแสดงความสงสารเวทนาที่เธอมีต่อ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เธอจงใจพูดถึงละครอีกเรื่องหนึ่งราวกับเธอใจกว้างพอที่จะแบ่งความนิยมให้กับละครเรื่องนั้น
หลังจากนั้นสักพัก ไห่รุ่ยก็ออกมาให้ข่าวกับสาธารณะถึงอาการของผู้กำกับเฉินเฟิงและลบล้างข่าวลือที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งหมด
นอกจากนี้ ไห่รุ่ยยังดูเหมือนพร้อมจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกด้วย
ไห่รุ่ยเตรียมจะประกาศชื่อนักแสดงบทพระเอก!
[ถึงจุดนี้ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ไม่มีผลแล้ว ไม่ใช่ว่าพวกนั้นต้องหยุดถ่ายทำแล้วหรอกเหรอ]
[ฉันรู้ เวลามันผ่านมานานมากจนระดับความคาดหวังของฉันมันหายไปหมดแล้ว]
[ฉันเตรียมตัวดู ‘ชายาหนิง’ แล้ว ส่วน ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ค่อยเอาไว้อ่านเป็นนิยายแทนแล้วกัน…]
Comments