วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 859 เธอไม่ใช่หลินเฉี่ยนคนเดิม

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 859 เธอไม่ใช่หลินเฉี่ยนคนเดิม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พ่อคะ คิดยังไงกับเรื่องนี้คะ” ลูกสาวเฉียวเซินเอ่ยถาม “ฉันว่าถังหนิงดูเป็นคนจริงจังนะคะ ถ้าเป็นคนอื่นมาตามหาพ่อ ฉันคงไม่มีทางยอมให้พ่อไปทำงานกับพวกเขาแน่ แต่เพราะเป็นถังหนิง ฉันจะให้พ่อเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วกันค่ะ”

 

 

เฉียวเซินกอดอกและดูหนังที่เปิดอยู่ตรงหน้าต่อไป

 

 

เขาดูหนังทั้งหมดของถังหนิงภายในเวลาเพียงหนึ่งคืน และยอมรับออกมาในที่สุดว่าในฐานะนักแสดง ถังหนิงได้เป็นแรงบันดาลใจให้เขา

 

 

“ช่วยติดต่อเธอกลับไปที”

 

 

“ว่าแล้วเชียว ฉันรู้ว่าพ่อจะเปลี่ยนใจ โชคดีที่ฉันหยิบนามบัตรจากถังขยะมาเก็บไว้นะคะ” ทันทีที่พูดจบ เธอก็ยื่นนามบัตรที่ยับยู่ยี่ให้พ่อของตัวเอง

 

 

เฉียวเซินครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดยังไม่ทันถึงเช้าวันถัดไปดีเขาก็ต่อสายหาถังหนิง…

 

 

 

 

ในขณะเดียวกันมีผู้คนมากมายพยายามติดต่อเพื่อเซ็นสัญญากับถังหนิง ทั้งหลงเจี่ยและหลินเฉี่ยนจึงมีข้อมูลรายละเอียดของศิลปินที่ต้องจัดการอย่างล้นมือ ขณะที่ถังหนิงไปหาผู้กำกับที่เกาะส่วนตัว หมายความว่าในอนาคตเธอจะทุ่มเทให้กับการสร้างภาพยนตร์ไซไฟเรื่องเยี่ยม และไม่มีเวลาที่จะพิจารณาเซ็นสัญญากับศิลปินคนอื่นอีก

 

 

ระหว่างสองวันที่ถังหนิงไม่อยู่ นอกจากการคอยตามดูซย่าหันโม่ที่อยู่ต่างประเทศ หลินเฉี่ยนก็แทบจะใช้เวลาทั้งหมดพักผ่อนอยู่ที่บ้าน

 

 

ในเวลาเดียวกัน เฉวียนจื่อเยี่ยก็ออกไปร่วมงานตามตาราง และอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอตอนที่ไม่มีงาน ถึงแม้ว่าหลินเฉี่ยนจะไม่ได้สนใจเขาก็ตามที

 

 

เป็นช่วงเดียวกับงานวันเกิดครบรอบหกสิบปีของคุณพ่อเฉวียน ทว่าหลินเฉี่ยนกลับไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้สักคำ ดูท่าแล้วเธอเหมือนจะไม่ได้สนใจที่จะพบกับคนตระกูลเฉวียนแม้แต่น้อย

 

 

ในเช้าวันที่สาม ในที่สุดถังหนิงก็กลับมาพร้อมผู้กำกับเฉียนและข่าวดี

 

 

หลินเฉี่ยนจึงกลับไปอยู่ช่วยถังหนิง และอยากพบชายสูงวัยที่ยืนหยัดที่จะสร้างหนังไซไฟเลื่องชื่อ

 

 

เฉียวเซินหลงใหลในภาพยนตร์ไซไฟอย่างที่คาดเอาไว้ หลังจากที่กลับมาที่ปักกิ่ง เขากับถังหนิงไม่จำเป็นต้องคุยกันมากก็เข้าขากันได้อย่างดี

 

 

เขารู้ว่าทันทีที่กำหนดการถ่ายหนังออกมา จะต้องใช้เวลาหลายปีและมีกระบวนการที่ยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงการหลังถ่ายทำเสร็จ เขาจึงบอกให้ถังหนิงเตรียมตัวเอาไว้

 

 

ด้วยเหตุนี้ถังหนิงจึงนำเงินทั้งหมดของตัวเองออกมาลงทุนในส่วนของขั้นตอนหลังการถ่ายทำ จากนั้นจึงบอกให้เฉียวเซินหาทีมงานที่เขาไว้ใจ เพราะเธอต้องการมั่นใจว่าภาพยนตร์จะคุ้มค่าแก่การลงทุน

 

 

เฉียวเซินชื่นชมความเด็ดขาดของถังหนิง แน่นอนว่าเขาได้เตรียมแสดงให้คนอื่นเห็นถึงความสำเร็จของเขาเช่นกัน

 

 

หลังจากทุกอย่างถูกจัดการเสร็จเรียบร้อย ถังหนิงก็พักผ่อนในห้องทำงานของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงเคาะประตูของหลินเฉี่ยนดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามา “คุณไม่มีแผนจะทำอะไรคืนพรุ่งนี้ใช่ไหมคะ”

 

 

“ทำไมเหรอ” ถังหนิงเอ่ยถาม

 

 

“ฉันจำเป็นต้องไปร่วมงานครบรอบวันเกิดหกสิบปีของพ่อบุญธรรมฉันน่ะค่ะ” หลินเฉี่ยนยักไหล่ ฟังจากน้ำเสียงของเธอก็รู้แล้วว่าเธอไม่ได้อยากไป

 

 

“เธอพูดถึงพ่อของเฉวียนจื่อเยี่ยน่ะเหรอ” ถังหนิงเลิกคิ้ว เธอรู้ว่าระหว่างหลินเฉี่ยนและคุณนายเฉวียนมีความบาดหมางกันหลายเรื่อง บางทีอาจเป็นเพราะว่าคุณนายเฉวียนรู้ว่าเธอเป็นบุญธรรม ถึงได้คาดหวังให้เธอสำนึกในบุญคุณอยู่เสมอ เมื่อก่อนหลินเฉี่ยนจึงต้องทรมานใจอยู่ไม่น้อย

 

 

“ใช่ค่ะ” เธอเอ่ยก่อนหันหลังเดินออกไป แต่ถังหนิงกลับเรียกเอาไว้

 

 

“เดี๋ยวก่อน” เธอว่าพลางส่งกุญแจรถของตัวเองให้หลินเฉี่ยน “ฉันคิดว่าเธออาจต้องการใช้สิ่งนี้…”

 

 

“สำหรับผู้หญิงแล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการตอกกลับคนที่ดูถูกเราคือการแสดงให้เห็นว่าเราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน”

 

 

หลินเฉี่ยนระบายยิ้มอย่างเห็นด้วย แต่เธอไม่ได้รับกุญแจรถของถังหนิงไป “ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง”

 

 

เธอรู้ว่าถังหนิงกลัวว่าเธอจะโดนเหยียดหยาม

 

 

ทว่าเธอไม่ใช่หลินเฉี่ยนคนเดิมอีกแล้ว เธอจะไม่ปล่อยให้ใครเอาเธอไปขายได้อีก

 

 

วันถัดมา เฉวียนจื่อเยี่ยอยู่ในชุดสูทเป็นทางการและเตรียมตัวจะไปงาน ครั้นเห็นว่าหลินเฉี่ยนยังไม่ได้ออกมา ชายหนุ่มก็ผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานของเธอและเอ่ยถาม “เธอยังไม่ไปเหรอ”

 

 

“นายไปก่อนเลย ฉันยังมีบางอย่างต้องทำให้เสร็จ”

 

 

“เธอจะไม่ไปกับฉันเหรอ”

 

 

“ทำไมฉันต้องไปกับนายด้วยล่ะ” หลินเฉี่ยนถามกลับ

 

 

เฉวียนจื่อเยี่ยรู้ว่าหลินเฉี่ยนไม่อาจปฏิบัติกับพ่อแม่ของเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ แค่เรื่องที่เธอยินดีไปงานฉลองวันเกิดก็ถือว่าเป็นการยอมมากพอแล้ว เขาจึงค่อยๆ ปิดประตูและเรียกผู้จัดการของตัวเองให้ขับรถมาให้

 

 

“เฉี่ยนเฉี่ยนไม่ไปด้วยเหรอ” ผู้จัดการสงสัยเมื่อเห็นเฉวียนจื่อเยี่ยอยู่เพียงลำพัง

 

 

“ให้เวลาเธอหน่อย”

 

 

พูดจบเขาก็ก้าวขึ้นไปในที่นั่งคนขับและสตาร์ตเครื่อง อย่างไรก็ตามในจังหวะก่อนที่เขาจะออกรถก็ได้เหลือบมองไปที่ห้องของหลินเฉี่ยนเป็นครั้งสุดท้าย

 

 

หลังจากเฉวียนจื่อเยี่ยจากไป หลินเฉี่ยนเก็บเอกสารในมือและค่อยๆ เดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้า…

 

 

 

 

ตระกูลเฉวียนจัดงานฉลองวันเกิดครั้งใหญ่ พวกเขาจึงตกแต่งงานในแบบย้อนยุคอย่างหรูหรา ดูเผินๆ แล้วเหมือนคุณนายเฉวียนและคุณพ่อเฉวียนกำลังจัดงานเลี้ยง แต่ในความเป็นจริง พวกเขาตั้งใจให้เฉวียนจื่อเยี่ยได้พบกับลูกสาวจากตระกูลชนชั้นสูงในปักกิ่ง บางทีเขาอาจถูกตาต้องใจกับหนึ่งในพวกเธอและถอนตัวออกจากวงการบันเทิงก็เป็นได้

 

 

ถึงอย่างไรคุณพ่อเฉวียนก็ไม่ชอบใจที่เฉวียนจื่อเยี่ยไปคลุกคลีในวงการบันเทิงนัก เขาไม่เชื่อว่ามันเป็นอาชีพที่น่านับหน้าถือตาสักเท่าไร

 

 

คุณพ่อและคุณนายเฉวียนโบกมือมาจากห้องรับแขกเมื่อเฉวียนจื่อเยี่ยที่อยู่ในชุดสูทสีดำมาถึง

 

 

เขาดูสง่างาม หล่อเหลา และเปล่งประกายไปด้วยเสน่ห์ที่แสนร้ายกาจ ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นจึงดึงดูดความสนใจจากสาวๆ ในห้องไปได้โดยปริยาย พาให้คุณนายเฉวียนรู้สึกพึงพอใจอย่างถึงที่สุด

 

 

“จื่อเยี่ย ทำไมถึงมาช้าจังเลยล่ะลูก คุณป้ากับคุณลุงกำลังรอพบลูกอยู่เลย…”

 

 

“วันนี้เป็นวันเกิดของพ่อ ทำไมพวกเขาต้องรอผมด้วยล่ะครับ” เฉวียนจื่อเยี่ยเอ่ยถาม

 

 

“เจ้าลูกคนนี้นิ แม่จะบอกอะไรให้นะ ลูกสาวคุณป้าหลี่เพิ่งจะกลับมาจากเรียนต่างประเทศ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาเยี่ยมบ้านเรา เธอยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่ ยังไงลูกพาเธอไปเดินดูรอบๆ หน่อยแล้วกันนะ…”

 

 

ได้ยินดังนั้นเขาก็หลุดหัวเราะออกมาทันทีก่อนมองแม่ของตัวเองด้วยความขบขัน “แม่ครับ เฉี่ยนเฉี่ยนอยู่ไหนล่ะครับ”

 

 

พลันท่าทีของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นบึ้งตึง “ทำไมอยู่ๆ ก็พูดถึงเธอขึ้นมาล่ะ”

 

 

“เธอเป็นน้องสาวผม ทำไมจะถามถึงเธอไม่ได้ล่ะครับ”

 

 

“เธอก็แค่คนนอกเท่านั้นแหละ!” คุณนายเฉวียนเบือนหน้าหนี “รีบไปอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวของคุณป้า

 

 

หลี่ได้แล้ว”

 

 

เขาไม่ได้ขัดคำสั่งแม่ของตัวเองขณะเดินไปหาคุณหนูหลี่ หญิงสาวรูปร่างดีหน้าตาสะสวย แต่เขากลับไม่ได้หันไปมองเธอเป็นครั้งที่สอง

 

 

“จื่อเยี่ย ฉันทำให้คุณลำบากใจหรือเปล่าคะ” เธอสนใจในตัวเขา ถึงอย่างไรการที่เอาชนะใจ  ผู้ชายร้ายๆ  อย่างเขาได้ก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจไม่น้อย

 

 

เฉวียนจื่อเยี่ยรังเกียจคำถามที่รู้คำตอบอยู่แล้วของผู้หญิง เขาจึงตอบกลับไปตามตรง “ใช่ครับ ลำบากใจมาก”

 

 

“นี่… ฉันได้ยินว่าคุณมีน้องสาวด้วย ทำไมไม่เห็นเธอเลยล่ะคะ”

 

 

พอพูดถึงหลินเฉี่ยนขึ้นมา แววตาเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

 

“มันไม่ใช่เรื่องของเธอสักหน่อย” เขาโต้กลับก่อนที่แยกตัวไปอยู่อีกด้าน

 

 

เมื่อเห็นสีหน้างุนงงของคุณหนูหลี่ บางคนได้เข้ามาอธิบายให้เธอเข้าใจ “ตระกูลเฉวียนมีลูกชายเพียงคนเดียว หลินเฉี่ยนเป็นลูกที่ถูกรับมาเลี้ยง เธอไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด ฉันได้ยินมาว่าหลินเฉี่ยนเป็นคนอกตัญญู ไม่มีใครในตระกูลเฉวียนชอบเธอสักคน แล้วตอนนี้เธอก็กำลังทำงานในวงการบันเทิงด้วย”

 

 

“แล้วเฉวียนจื่อเยี่ยล่ะคะ เขาคิดยังไงกับน้องสาวของเขา” คุณหนูหลี่เอ่ยถาม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด