วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 860 คุณไม่ได้มองเห็นผิดไปหรอก
“ฉันไม่คิดว่าเขาจะชอบเธอเหมือนกันนะ อีกอย่างใครจะไปชอบคนที่อยู่ๆ ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้แล้วมาแย่งความรักจากพ่อแม่ของพวกเขาไปกันล่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น คุณหนูหลี่ถอนใจออกมาอย่างโล่งอกในขณะที่สนใจในตัวเฉวียนจื่อเยี่ยมากขึ้น
งานฉลองกำลังจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ทว่าหลินเฉี่ยนยังคงไม่ปรากฏตัวขึ้น คุณนายเฉวียนจึงคิดว่าเธอคงจะไม่มาแล้ว หากแต่ในจังหวะที่เธอกำลังจะเผยยิ้มเยาะ รถสปอร์ตสีขาวคันหนึ่งก็มาจอดด้านหน้าบ้าน พร้อมหลินเฉี่ยนในชุดกระโปรงยาวเหลือบประกายและผ้าคลุมสีเงินระยิบระยับที่ก้าวออกมาจากรถ ดูอ่อนหวานน่ามองเป็นที่สุด
“นั่นเด็กที่ตระกูลเฉวียนรับมาเลี้ยงไม่ใช่เหรอ”
“นั่นหลินเฉี่ยนเหรอ เธอสวยจังเลย”
“เราไม่ได้เจอเด็กคนนี้บ่อยๆ ฉันคิดไม่ถึงว่าเธอจะสวยจับใจขนาดนี้เลย”
ทุกคนต่างเริ่มพูดถึงหลินเฉี่ยน จริงๆ แล้วมีบางคำที่ลอยเข้าหูของเธอ
ทว่าเธอกลับไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังเดินอย่างสง่างามตรงไปหาคุณพ่อเฉวียนและคุณนายเฉวียนที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงสีขาว ก่อนเข้าไปกอดพวกเขา “คุณแม่ คุณพ่อ สวัสดีค่ะ”
คุณพ่อเฉวียนรู้สึกเฉยๆ ด้วยรู้สึกมาสักพักว่าเป็นการดีที่เธอจะกลับมา ผิดกับสายตาของคุณนายเฉวียนที่มองมาอย่างอาฆาตและเย็นชา
หลินเฉี่ยนมองผู้อาวุโสทั้งสองคน ในตอนที่เธอกำลังจะยื่นของขวัญให้พวกเขา อยู่ๆ เฉวียนจื่อเยี่ยก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนและโอบกอดเธออย่างอ่อนโยน “เฉี่ยนเฉี่ยน…”
หลินเฉี่ยนกระทืบเท้าเขาด้วยความโกรธ ผู้ชายคนนี้จงใจที่จะทำเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ชายคาเดียวกันแล้วก็ตาม
ทุกคนต่างเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงจะเป็นเพียงกอดหลวมๆ แต่มันก็ยังทำให้พวกเขาประหลาดใจ
เขาไม่ได้เข้าใกล้คุณหนูตระกูลดังในห้องสักคนเดียวแต่กลับปฏิบัติกับหลินเฉี่ยนอย่างรักใคร่ ดูเหมือนเรื่องที่ว่าพี่ชายคนนี้ไม่ถูกกับหลินเฉี่ยนคงจะเป็นเพียงข่าวลือที่คนพูดถึงกันเสียแล้ว
คุณนายเฉวียนออกอาการไม่พอใจสุดขีดกับการกระทำของลูกชายตัวเอง แต่เธอไม่อาจโวยวายต่อหน้าคนอื่นได้ จึงได้แต่เอ่ยเตือนเขาเบาๆ “จื่อเยี่ย ไปช่วยแม่รับแขกหน่อย”
หลินเฉี่ยนหยิกเฉวียนจื่อเยี่ยก่อนที่คนถูกกระทำจะหัวเราะออกมา
ไม่นานก็ถึงเวลาเปิดของขวัญ แต่ละครอบครัวได้ให้ของขวัญราคาแพงกับคุณพ่อเฉวียน โดยเฉพาะคุณหนูหลี่ที่มอบของโบราณอายุนับพันปีให้ด้วยรู้ว่าเขาชอบเก็บสะสม
“นี่มันเป็นสิบล้านเลยนี่!”
“ดูเหมือนว่าคุณหนูหลี่กำลังพยายามชนะใจว่าที่พ่อสามีในอนาคตสินะ”
“นี่มันแพงเกินไปแล้ว…”
หลังจากได้รับคำชื่นชมจากทุกคน ริมฝีปากคุณหนูหลี่ก็ยกขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่คุณนายเฉวียนเอ่ยชื่นชมหญิงสาวไม่หยุดปาก
“เสี่ยวอ้าย หนูนี่จิตใจดีจริงๆ …เดี๋ยวป้าจะให้จื่อเยี่ยไปขอหนูเต้นรำนะจ๊ะ”
คุณหนูหลี่หันไปมองหลินเฉี่ยน แม้ว่าจะมีผู้หญิงมากมายในงานแต่เธอกลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับหลินเฉี่ยนขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก หรือจะเป็นเพราะว่าเธอคือน้องสาวของเฉวียนจื่อเยี่ยกันนะ
“เฉี่ยนเฉี่ยน เธอเตรียมอะไรมาให้คุณพ่อล่ะ” ผู้สูงวัยถามขึ้น “กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงเธอมาได้ไม่ง่ายเลย เธอต้องสำนึกในบุญคุณพวกเขาเอาไว้นะ”
หลินเฉี่ยนระบายยิ้ม หยิบกล่องของขวัญออกมาจากกระเป๋าก่อนยื่นให้กับคุณพ่อเฉวียน
“หนูไม่มีของมีค่าอะไรหรอกนะคะ หนูเลยให้ได้แค่ของเก่าเก็บนี้เท่านั้นค่ะ” หลินเฉี่ยนว่าขึ้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
ทุกคนคิดกันไปว่าหลินเฉี่ยนไม่มีอะไรจะมาเทียบคุณหนูหลี่ได้ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคนในตระกูลเฉวียนถึงส่งยิ้มด้วยความยินดีให้กับ ว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคต และทำเฉยชาใส่หลินเฉี่ยน
คุณพ่อเฉวียนรับกล่องมา ทว่าทันทีที่เปิดมันออกมาเขาก็นิ่งค้างไปชั่วขณะ ก่อนที่นัยน์ตาจะเอ่อคลอไปด้วยหยาดใส “เฉี่ยนเฉี่ยน เธอไปหาสิ่งนี้มาจากที่ไหนกัน”
“หนูได้ยินคุณพ่อพูดถึงตอนที่ยังเด็กๆ น่ะค่ะ หนูเลยตามหามันมาหลายปี”
ที่แท้ของขวัญที่เธอมอบให้คุณพ่อเฉวียนคือสิ่งที่เคยเป็นของปู่ของเฉวียนจื่อเยี่ย เมื่อก่อนเขาขายนาฬิกาพังๆ เรือนนี้ไปเพื่อเอาเงินไปดำเนินธุรกิจของตัวเอง
นี่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสำหรับคุณพ่อเฉวียนเป็นอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าคุณพ่อเฉวียนพึงพอใจกับนาฬิกาพังๆ เรือนนี้มากกว่าวัตถุโบราณที่ได้รับมาจากคุณหนูหลี่ ในขณะที่เขาถือมันเอาไว้ในมือและลูบมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
คุณนายเฉวียนจ้องมองหลินเฉี่ยนด้วยความโกรธแค้นที่เธอแย่งความสนใจไปจากหลี่อ้าย
หากแต่หลินเฉี่ยนกลับแสร้งทำเป็นไม่เห็นพร้อมทำทีเมินเฉยสายตาของอีกฝ่าย
“เขาถึงพูดกับว่าลูกสาวคือความอบอุ่นใจของคนเป็นพ่อ ฉันว่าคงเป็นเรื่องจริง”
“แค่เพราะเธอได้ยินเรื่องนี้ตอนเด็กๆ แต่ยังจำได้จนมาถึงตอนนี้ เธอนี่เป็นคนกตัญญูจริงๆ …”
ภาพลักษณ์ของหลินเฉี่ยนในสายตาของทุกคนจึงเริ่มเปลี่ยนไป
“เฉี่ยนเฉี่ยน ฉันได้ยินมาว่าเธอทำงานเป็นผู้จัดการในวงการบันเทิงเหรอ เขาว่ากันว่าพวกดารานี่ไม่น่าคบไม่ใช่เหรอ” บางคนจงใจเข้ามาหาเรื่องเธอ พวกเขาต้องการให้หลินเฉี่ยนอับอายและทำให้เธอดูเหมือนกำลังคลุกคลีกับพวกตัวตลก
หากแต่หลินเฉี่ยนกลับแย้มยิ้มอย่างผ่าเผยและสวนกลับ “ฉันคิดว่าคนที่ไม่น่าคบหาก็คือคุณนั่นแหละค่ะ พวกเขาไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ฉันเลยสักนิด”
ทันทีที่อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็นิ่งอึ้งไป
“ฉันต้องขอโทษด้วย ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ คุยกันต่อได้เลยค่ะ” หลินเฉี่ยนรู้ว่าหากเธอไม่ออกมา อีกไม่นานทุกคนจะเริ่มพูดจาโจมตีตัวเองจึงรีบแยกตัวมา แต่ทว่าในจังหวะที่เธอกำลังจะถึงประตูห้องน้ำ อยู่ๆ ก็มีเงาดำมาแนบชิดร่างของเธอก่อนผลักให้เข้าไปด้านในและล็อกประตูไว้
“นายบ้าไปแล้วหรือไง” หลินเฉี่ยนสบตามองเฉวียนจื่อเยี่ย
พลันเขาก็จับข้อมือของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว และกดจูบลงบนริมฝีปากของเธอ “ฉันมั่นใจว่าเธอคิดไว้แล้วว่าฉันจะทำอย่างนี้”
หลินเฉี่ยนกัดริมฝีปากของอีกฝ่ายและถอนหายใจออกมา “นายอยากให้ทั้งโลกรู้ว่าเรากำลังทำผิดศีลธรรมอยู่หรือยังไง”
“ฉันสนใจแค่ความสุขของฉันเท่านั้นแหละ ฉันไม่จำเป็นต้องสนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง”
“แต่ฉันสนใจ อย่าต้อนให้ฉันจนมุมเลย” หลินเฉี่ยนว่าขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง
หลังได้ยินดังนั้น เฉวียนจื่อเยี่ยดึงหลินเฉี่ยนเข้ามาในอ้อมกอด “แค่ให้ฉันได้กอดเธออีกนิดนะ ฉันรับปากว่าจะทำตัวเชื่อฟัง…”
ในตอนนี้เองที่ใจของหลินเฉี่ยนอ่อนยวบและเลิกขัดขืน จากนั้นไม่นานเขาก็ปล่อยตัวเธอตามที่สัญญา “คืนนี้กลับบ้านด้วยกันนะ”
พูดจบเขาก็เปิดประตูและวิ่งออกไป
หลินเฉี่ยนหันไปมองกระจกและเริ่มเติมเครื่องสำอาง หลี่อ้ายพลันก้าวเข้ามาในห้องน้ำไม่นานหลังจากนั้นและเอ่ยถามขึ้น “เมื่อกี้เธอกับเฉวียนจื่อเยี่ยอยู่ในห้องน้ำด้วยกันเหรอ”
“คุณหนูหลี่ ฉันว่าคุณคิดมากไปแล้วล่ะค่ะ” หลินเฉี่ยนตอบอย่างใจเย็น
“แต่ฉันเห็นมากับตาตัวเอง…”
“คุณเห็นเหรอคะ…”
แต่หลี่อ้ายมั่นใจว่าเธอมองไม่ผิด เธอยังเห็นเฉวียนจื่อเยี่ยเช็ดลิปสติกออกจากปากตอนที่เขาเดินออกมาด้วยซ้ำ
เกิดอะไรขึ้นกับพี่น้องคู่นี้กันแน่
สติของเธองุนงงไปหมด หลี่อ้ายคิดหาเหตุผลที่เป็นไปได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอเชื่อมากที่สุดคือหลินเฉี่ยนเป็นฝ่ายยั่วยวนเฉวียนจื่อเยี่ย ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกันอยู่แล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลี่อ้ายก็รู้สึกว่าหลินเฉี่ยนนั้นช่างน่าขยะแขยง
เธอจึงตัดสินใจจะบอกเรื่องนี้กับคุณนายเฉวียน เธอจะทำอย่างไรถ้ารู้เรื่องนี้เข้า
หลังจากกลับเข้ามาในงานเลี้ยง หลี่อ้ายเข้ามาหาเฉวียนจื่อเยี่ยและถามขึ้น “จื่อเยี่ย… ฉัน… ฉันว่าฉันเพิ่งเห็นคุณอยู่ในห้องน้ำกับหลินเฉี่ยน ฉันมองผิดไปใช่ไหมคะ”
“ไม่นี่ คุณไม่ได้มองผิดไปหรอกครับ” เฉวียนจื่อเยี่ยยอมรับอย่างไม่ลังเล
“อะไรนะคะ” หลี่อ้ายจ้องเขาอย่างตกตะลึง ตาเบิกกว้างจนลูกตาแทบจะหลุดมาจากเบ้า
Comments