วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 931 เฉี่ยนเฉี่ยนคนซื่อบื้อ
“ฉันไม่ทำค่ะ” หลินเฉี่ยนเอ่ยขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
เธอรู้ว่าหากเธอยอมในครั้งนี้เธอก็ต้องยอมครั้งต่อไปอีก
เฝิงจิ้งจ้องหลินเฉี่ยนเขม็งอย่างไม่อยากจะเชื่อขณะถามขึ้นด้วยความเกรี้ยวกราด “เธอไม่กลัวว่าตระกูลหลี่จะรู้เรื่องนี้หรือยังไง”
“ถ้าตระกูลหลี่ไม่ยอมรับในตัวฉัน ฉันก็จะคิดซะว่าฉันกับหลี่จิ่นไม่มีโชคชะตาที่จะได้อยู่ด้วยกันแล้วกันค่ะ ฉันจะไม่ยอมอ่อนข้อให้คุณเด็ดขาด คุณจะไปบอกตระกูลหลี่ว่าอะไรก็ตามใจเลยค่ะ ฉันไม่กลัวคำข่มขู่ของคุณหรอกค่ะ”
เฝิงจิ้งนึกไม่ถึงว่าหลินเฉี่ยนจะแข็งข้อถึงขนาดนี้
ต่อให้ข่มขู่ขนาดนี้เธอก็ยังไม่สะทกสะท้านใดๆ หัวจิตหัวใจของเธอทำมาจากอะไรกัน
“ก็ได้ เธอพูดเองนะ อย่ามาหาว่าฉันใจดำแล้วกัน!”
หลินเฉี่ยนปรายตามองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาก่อนหันหลังกลับออกไป เธอยืนยันหนักแน่นอย่างไม่มีความลังเลแต่อย่างใด
เฝิงจิ้งทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างผิดหวัง ทำไมหลินเฉี่ยนถึงหัวแข็งขนาดนี้กัน
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่เธอจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ของพวกเธออีกต่อไป
…
ในความเป็นจริงแล้ว หลินเฉี่ยนไม่ได้ออกไปจากโรงแรม เธอเพียงเดินเข้าไปในห้องข้างๆ และโผเข้ากอดถังหนิงทันทีที่เห็นหน้าอีกฝ่าย
หลินเฉี่ยนไม่ได้ร้องไห้ หากแต่ถังหนิงรู้ว่าหัวใจของเธอคงได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เสียแล้ว
ถังหนิงไม่ได้พยายามปลอบหลินเฉี่ยนในทันที หลังจากนั้นไม่นาน เธอบอกกับหลินเฉี่ยน “ฉันเชื่อในความรักของหลี่จิ่นที่มีต่อเธอ ฉันเลยคิดว่าเธอก็ควรเชื่อมั่นในมันเหมือนกันนะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ฉันจะไม่มีทางยอมก้มหัวให้กับความชั่วร้ายเด็ดขาด โดยเฉพาะคนอย่างเฝิงจิ้ง”
ถังหนิงรู้ว่าหลินเฉี่ยนเป็นคนเข้มแข็ง แม้ว่าเธอจะถูกเฝิงจิ้งกดขี่ข่มเหงเธอก็ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
“ฉันจะเอาคืนให้เธออย่างแน่นอน”
หลินเฉี่ยนพลักหน้ารับขณะที่เดินออกไปพร้อมถังหนิง ในตอนนี้เองที่เธอได้รับสายจากหลี่จิ่น
หากแต่เธอไม่ได้รับสาย…
ไม่นานหลินเฉี่ยนก็กลับมาถึงบ้านตระกูลหลี่ เธอเห็นหลี่จิ่นแต่กลับไม่ปริปากพูดสักคำ หลังเงียบอยู่ไปครู่หนึ่ง เธอโผเข้าสู่อ้อมแขนของเขาพลางทุบอกของเจ้าตัว “ทำไมคุณกลับมาช้าจังเลยละคะ”
สิ่งแรกที่หลี่จิ่นนึกถึงเป็นสิ่งแรกเมื่อกลับมาจากปฏิบัติภารกิจคือข่าวบันเทิง ระหว่างทางกลับบ้านเขาจึงได้ข่าวของเฝิงจิ้งที่สร้างเรื่องโกหกใหญ่โตแล้ว
เมื่อคิดถึงสิ่งที่หลินเฉี่ยนต้องทรมานใจทั้งหมด เขารั้งร่างเธอเข้ามากอดแน่น “เฉี่ยนเฉี่ยน ผมขอโทษนะครับ”
หลินเฉี่ยนไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไปพร้อมปล่อยโฮออกมา ด้วยกลัวว่าพ่อแม่ของเขาจะได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของเธอและเข้าใจผิดพวกเขา หลี่จิ่นจึงรีบช้อนตัวอุ้มเธอเข้าไปในห้องของเขา
“เฉี่ยนเฉี่ยน…”
เธอร้องไห้อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะสงบลงและเอ่ย “คุณรู้เรื่องของฉันอยู่แล้วใช่ไหมคะ แม้แต่เฝิงจิ้งยังรู้ คุณเองก็ต้องรู้แล้วแน่ๆ ”
เขาสูดหายใจลึกและพยักหน้ารับพร้อมกอดเธอเอาไว้ “ผมไม่อยากให้คุณรู้เรื่องนี้ไงครับ”
หลินเฉี่ยนหัวเราะและส่ายหน้า “น่าเสียดายที่มีใครบางคนไม่ยอมปล่อยให้ฉันอยู่อย่างสงบสุขได้เลย”
“คุณรู้หรือเปล่าคะ หลี่จิ่น เฝิงจิ้งถึงขั้นพยายามข่มขู่ฉันวันนี้ เธอบอกว่าถ้าฉันไม่ช่วยเธอ เธอจะบอกพ่อแม่ของคุณเรื่องพ่อของฉัน”
“พ่อของคุณมีอะไรเหรอครับ” หลี่จิ่นถามขณะพยายามสงบใจเอาไว้ ความจริงแล้วเขารู้สึกแทบขาดใจ หลินเฉี่ยนเป็นอัญมณีที่ล้ำค่าของเขา แต่ก็ยังมีใครบางคนพยายามทำร้ายเธอ…
“เธอบอกว่าฉันเป็นเด็กที่เกิดจากการข่มขืนค่ะ…”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่จิ่นยิ่งกระชับร่างเธอในอ้อมกอดของตัวเอง “โชคดีที่คุณไม่เชื่อคำพูดของเธอนะครับ”
“หือ” หลินเฉี่ยนมองหลี่จิ่นอย่างงุนงง
เขาคลายอ้อมแขนและไปหยิบเอกสารจากห้องทำงานของเขา “ผมให้เพื่อนสืบเรื่องเฝิงจิ้งและเจอว่าเธอเคยคบกับเศรษฐีหนุ่มก่อนที่จะกลายมาเป็นผู้ช่วยของลัวอิงหงครับ แต่เพราะว่านิสัยหยาบคายของเธอ สุดท้ายเขาก็ทิ้งเธอไป…
“คุณเกิดหลังจากนั้นไม่นาน ดังนั้นพ่อของคุณคือเศรษฐีคนนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
“เฉี่ยนเฉี่ยนคนซื่อบื้อ โชคดีที่คุณไม่หลงเชื่อคำโกหกของเธอไปนะครับ!”
หลินเฉี่ยนรู้สึกว่าภาระหนักอึ้งที่วางไว้บนบ่าได้หายไปในพริบตาขณะที่ไล่สายตาอ่านข้อมูล
“ถ้าคุณอยากกลับไปคืนดีกับพ่อของคุณ…”
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ” หลินเฉี่ยนปฏิเสธ “ฉันว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่อยากถูกทิ้งอีกแล้ว”
ความกังวลของหลินเฉี่ยนไม่ได้เป็นเรื่องไร้สาระ หากชายคนนั้นมีประวัติดีขนาดนั้นตอนนี้เขาคงไม่แต่งงานกับเด็กสาวหรอก ดังนั้นหากอยู่ๆ เธอโผล่มาอ้างว่าเป็นลูกสาวของเขา เธอคงจะได้ไปทำลายครอบครัวแสนสุขแน่
หลินเฉี่ยนไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องจำเป็นนัก
หลี่จิ่นรวบรวมเอกสารแล้วเก็บเอาไว้ด้านในเหมือนเดิม จากนั้นจึงขยับเข้าไปหาหลินเฉี่ยน และดึงเธอเข้ามาในวงแขนตัวเองอีกครั้ง “หากผู้หญิงคนนั้นอยากจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนโดยการไปหาพ่อแม่ของผมก็ให้เธอทำเลยครับ คุณเชื่อใจพ่อแม่ของผมเถอะว่าท่านจะไม่ถูกหลอกง่ายๆ หรอกครับ”
หลินเฉี่ยนเบียดกายเข้าในอ้อมกอดของหลี่จิ่นก่อนพยักหน้ารับในท้ายที่สุด “ฉันเชื่อใจคุณค่ะ แล้วฉันก็เชื่อมั่นในตัวคุณป้ากับคุณลุงด้วย”
เขาเชยประคองใบหน้าของเธอก่อนจูบซับน้ำตาให้เธอ หากแต่จุมพิตของพวกเขากลับยิ่งดูดดื่มลึกซึ้งจนทั้งคู่เกือบเผลอใจไปตามอารมณ์
โชคดีที่หลี่จิ่นได้สติก่อนที่พวกเขาจะทำเลยเถิดไปมากกว่านี้ และลูบศีรษะหลินเฉี่ยนอย่างแผ่วเบาและวางเธอบนเตียง “งีบสักหน่อยนะครับ ผมจะมาเรียกคุณตอนถึงเวลาอาหารเย็นนะ”
“โอเคค่ะ” หลินเฉี่ยนรู้สึกเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน!
หลังจากพาหลินเฉี่ยนเข้านอน หลี่จิ่นลงไปชั้นล่างเพื่อคุยเรื่องเฝิงจิ้งกับพ่อแม่ของเขา
เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด พ่อแม่ของหลี่จิ่นถึงกับออกอาการหัวเสีย โดยเฉพาะคุณนายหลี่ที่ถึงขั้นตบโต๊ะเสียงดังลั่น “มีนังปีศาจร้ายขนาดนั้นอยู่บนโลกด้วยเหรอเนี่ย เธอพยายามใช้ลูกสาวของตัวเองเป็นเครื่องมือด้วยซ้ำ”
“แม่ เฉี่ยนเฉี่ยนทรมานใจมากนะครับ!”
“ไม่ต้องห่วง ถ้านังหน้าด้านนั่นมาหาแม่ เดี๋ยวแม่จะเสแสร้งใส่เธอบ้าง จะได้รู้ซึ้งว่าเธอจะมากดขี่ข่มเหงใครตามใจชอบไม่ได้ ถ้าเธอไม่ต้องการเฉี่ยนเฉี่ยน แม่จะดูแลเธอเอง” คุณนายหลี่โวยวายใหญ่โต
ได้ยินดังนั้นหลี่จิ่นก็เบาใจลง
“ส่วนลูก ลูกเอาแต่ไปทำภารกิจและทิ้งให้เฉี่ยนเฉี่ยนต้องทุกข์ใจเพียงลำพังโดยไม่มีใครปลอบใจเธอเลย”
“แม่ครับ ตอนที่ผมไม่อยู่ แม่ช่วยดูแลเฉี่ยนเฉี่ยนให้หน่อยนะครับ”
“ฮึ่ย ถ้าลูกไม่ใช่ลูกชายแม่ และไม่ได้ทำงานเพื่อประเทศชาติ แม่คงจะตีให้ตายแน่ๆ ” คุณนายหลี่ออกปากบ่น เห็นได้ชัดว่าเธอแปลกใจที่ลูกชายของตัวเองสามารถหาคนดีอย่างหลินเฉี่ยนมาเป็นแฟนได้ เธอดีเกินไปสำหรับเขาด้วยซ้ำ
หลี่จิ่นไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะถูกตำหนิ ตราบใดที่แม่ของเขาเอ็นดูหลินเฉี่ยน คำบ่นเพียงแค่นี้ชายคนนี้ทนได้อยู่แล้ว
“อย่างนั้นผมจะรอดูการแสดงสนุกๆ แล้วกันนะครับ”
หลินเฉี่ยนไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ ทว่าตระกูลหลี่ได้ตัดสินใจที่จะทวงความเป็นธรรมให้กับลูกสะใภ้ของตัวเองแล้ว ในเวลาเดียวกันถังหนิงเองไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ เช่นกัน เฝิงจิ้งคิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหนกัน ไม่นานเธอจะได้รู้ว่าการมาลองดีกับคนที่ไม่ควรมันจะเป็นอย่างไร…
…
ไม่แปลกใจที่เฝิงจิ้งจะรีบลงมือและมั่นอกมั่นใจเสียเหลือเกิน
หากดูผิวเผิน เธอได้เชิญผู้อาวุโสหลี่มาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับงานแต่งงานของหลี่จิ่นและหลินเฉี่ยนด้วยความต้องการเป็นแม่ที่ดี หากแต่ทุกคนรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอตั้งใจมาก่อเรื่องวุ่นวาย
Comments