วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 954 คุณปกป้องฉันอย่างนี้จะไม่เป็นไรจริงเหรอ
ถังหนิงทนกับแรงกดดันและเดินไปอยู่ข้างโม่ถิง เมื่อเธอเดินมาถึง โม่ถิงลุกขึ้นยืนและให้เธอนั่งลงตำแหน่งหัวโต๊ะ
“ที่ผมขอให้คุณมาวันนี้เพราะผู้อำนวยการหลินพูดในการประชุมกรรมการบริหารถึงสองครั้งว่าต้องการปิดจู้ซิงมีเดีย ผมเลยต้องการทราบความคิดเห็นของคุณครับ อย่างไรคุณเองก็เป็นคนที่สร้างจู้ซิงมีเดียมาด้วยสองมือของตัวเอง”
เมื่อได้ยินดังนั้นถังหนิงจ้องมองผู้อำนวยการหลินเขม็งกว่าสิบวินาทีก่อนที่จะบอกกลับ “ก่อนที่ฉันจะให้คำตอบกับคุณ ขอฉันชี้แจงว่าเรื่องนี้เป็นมายังไงก่อนได้ไหมคะ”
โม่ถิงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ ในขณะที่ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ พยักหน้าให้
หลังได้รับการตอบรับ ถังหนิงก็เริ่มอธิบาย “ฉันคิดว่าเรื่องระหว่างผู้อำนวยการหลินกับฉันควรนับว่าเป็นเรื่องส่วนตัวนะคะ
“ปัญหาของเราเริ่มต้นจากการที่พี่เขยของผู้อำนวยการหลินเริ่มสนใจในตัวศิลปินของจู้ซิงมีเดีย ลัวเซิง เขาจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลัวเซิงรับแสดงละครไอพีของเขา อย่างที่ทุกคนทราบกันค่ะว่าพี่เขยของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของช่องโทรทัศน์และกำลังต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ ลัวเซิงจึงปฏิเสธละครเรื่องนี้ไปในท้ายที่สุดค่ะ
“ฉันเลยตกเป็นฝ่ายที่มีเรื่องกับประธานฟ่าน ระหว่างที่เราพูดคุยกัน เขายังบอกฉันอีกว่าน้องเขยของเขาเป็นผู้ถือหุ้นของไห่รุ่ย และบอกให้ฉันระวังตัวกับการตัดสินใจของตัวเอง แต่ว่าอะไรผิดก็ว่าไปตามผิดค่ะ ฉันจะไม่ทำเรื่องผิดศีลธรรมเพียงเพื่อเลี่ยงการมีปัญหากับใครบางคนหรอกนะคะ
“ฉันคิดว่านี่คงเป็นเหตุผลที่ผู้อำนวยการหลินตามรังควานฉันอยู่อย่างนี้ ใครบางคนคงต้องอยู่เบื้องหลังความคิดของเขาอย่างแน่นอนค่ะ”
“ฮึ่ม ตอนนี้เรากำลังพูดถึงเรื่องที่จู้ซิงมีเดียจะถูกปิดหรือเปล่าอยู่นะครับ” ผู้อำนวยการหลินพยายามเบี่ยงเบนประเด็น “ทำไมคุณถึงยกเอาเรื่องส่วนตัวมาพูดกันล่ะครับ”
“เพราะคงไม่เกิดประเด็นในวันนี้ขึ้นถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องส่วนตัวยังไงล่ะคะ” ถังหนิงตอกกลับ “แค่เพราะคุณไม่พอใจฉันเลยพยายามกดขี่ข่มเหงจู้ซิงมีเดีย ว่าแต่คุณมีสิทธิ์อะไรทำอย่างนั้นล่ะคะ
“อย่าลืมว่าทุกคนที่นี่อนุมัติให้ตั้งจู้ซิงมีเดียขึ้นมานะคะ จู้ซิงมีเดียอยู่ในขอบเขตของตัวเองและทำสิ่งที่สมควรเท่านั้น ทำไมคุณต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตด้วยคะ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเรื่องส่วนตัว คุณจะมีเหตุผลอะไรอีก”
“ขอผมย้ำอีกครั้งครับว่าตอนนี้เรากำลังพูดถึงเรื่องที่จู้ซิงมีเดียจะถูกปิดหรือเปล่าต่างหากครับ”
“ถ้าประธานโม่บอกกับฉันว่าจู้ซิงมีเดียไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว ฉันเองก็ยินดีที่จะละทิ้งตำแหน่งประธานของจู้ซิงมีเดียค่ะ…” ถังหนิงตอบกลับ
“ผมบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะให้ผู้ถือหุ้นทุกคนเป็นคนตัดสินใจ หากคนส่วนใหญ่เห็นว่าจู้ซิงมีเดียควรปิดตัวลง เราก็จะทำตามนั้นครับ ผมพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว” โม่ถิงว่า “แต่หลังจากที่เราจัดการเรื่องของจู้ซิงมีเดียเสร็จ เราก็จะหารือเรื่องของผู้อำนวยการหลินเช่นกันครับ”
ถังหนิงมองโม่ถิงอย่างหวั่นใจ แต่เขากลับโอบไหล่เธอไว้และส่งสัญญาณคล้ายบอกเธอว่าไม่ต้องกังวล
“ประธานโม่ครับ แต่ผมเป็นคนที่อยู่ไห่รุ่ยมานานแล้วนะครับ”
“ในเมื่อคุณไม่เคารพการตัดสินใจของผม มันก็ไม่สำคัญว่าคุณจะอยู่ที่นี่มานานหรือไม่ ถึงเวลาที่พวกคุณจะลงมติแล้วครับ เขียนคำตอบของคุณลงในกระดาษแล้วส่งมาครับ”
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของโม่ถิง ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ก็รับรู้ว่าพวกเขาต้องได้บทสรุปในวันนี้
“ผู้อำนวยการหลินครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะวิพากษ์วิจารณ์คุณนะครับ แต่คุณคิดจริงๆ เหรอว่ามันคุ้มค่าที่จะทำลายความสัมพันธ์ของคุณกับประธานโม่เพื่อพี่เขยของคุณน่ะ”
“จริงครับ จู้ซิงมีเดียไม่ได้ส่งผลกระทบกับเราสักหน่อย ทำไมคุณต้องตามรังควานและไม่ปล่อยพวกเขาไปด้วยล่ะ”
“ประธานโม่ให้โอกาสสุดท้ายกับคุณแล้วนะคะ คุณควรรับมันเอาไว้นะ หรือคุณอยากจะถูกปลดออกจากกรรมการบริหารจริงๆ ล่ะคะ”
ท่ามกลางความกดดันจากทุกคน ผู้อำนวยการหลินเริ่มรู้สึกตัว
อันที่จริงเขาเสียใจตั้งแต่ที่โม่ถิงเริ่มมีท่าทีจริงจังแล้ว น่าเสียดายที่เขามาไกลเกินไปเสียแล้ว
ด้วยเขามาถึงจุดนี้จึงไม่มีหนทางให้ถอยกลับอีกต่อไป
อย่างน้อยถังหนิงและจู้ซิงมีเดียก็กำลังจะล่มจมไปพร้อมกับเขา
“รีบลงคะแนนเสียงได้แล้วครับ”
ไม่นานลู่เช่อก็หยิบกล่องขึ้นมาก่อนที่ผู้ถือหุ้นจะหย่อนกระดาษลงด้านใน
จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะเปิดเผยผลการลงคะแนน
“เราจะเริ่มประกาศผลของโชคชะตาของผู้อำนวยการหลินในกรรมการบริหารก่อนนะครับ นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องยอมรับ”
หลังได้ยินคำสั่งของโม่ถิง ลู่เช่อก็พยักหน้าและเริ่มประกาศผล
ผู้อำนวยการหลินไม่เชื่อว่าผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ จะไม่นึกถึงมิตรภาพตลอดหลายปีของพวกเขา
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รับรู้ว่าโม่ถิงกำลังบอกใบ้ให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันไว้
“ท่านประธานครับ ผลอยู่ในมือผมแล้ว คะแนนเสียงมากกว่าครึ่งเห็นชอบให้ปลดผู้อำนวยการหลินออกจากกรรมการบริหารครับ…”
เมื่อเจ้าของชื่อได้ยินดังนั้น ก็มือสั่นระริก เขานึกไม่ถึงกับผลลัพธ์เช่นนี้
อันที่จริงมีหลายคนที่กำลังรอเฉดหัวเขาออกจากกรรมการบริหาร
หากแต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ เขากำลังนั่งรอให้จู้ซิงมีเดียตกตามเขาไป
ช่างน่าเสียดาย…
…ที่เมื่อลู่เช่อประกาศผลต่อไป ผู้อำนวยการหลินก็แทบเสียสติ
“คะแนนเสียงเห็นชอบกับการปิดตัวของจู้ซิงมีเดียมีเพียงสามสิบเปอร์เซ็นต์จากคะแนนเสียงทั้งหมด ดังนั้นข้อเสนอนี้จึงเป็นโมฆะไปครับ”
“คุณขี้โกง!” ผู้อำนวยการหลินร้องโวยวาย “โม่ถิง คุณขุดหลุมพรางให้ผมตกลงไป”
โม่ถิงมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา “ถังหนิงทำตามที่ระบุในสัญญา ไม่เคยร้องขอให้เกิดการลงคะแนนขึ้นเลย ผมไว้หน้าคุณพอแล้วนะครับ…”
“เพื่อผู้หญิงคนเดียว คุณถึงกับเบียดเบียนผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น”
“ผมบอกคุณก่อนหน้านี้แล้วไงครับว่าการทำร้ายภรรยาของผมต่อหน้าคนอื่นก็เหมือนการเหยียบย่ำหัวใจผมทางอ้อม” โม่ถิงตอบเสียงเรียบ “นับจากวันนี้ไป คุณถูกปลดจากกรรมการบริหารและเป็นเพียงแต่ผู้ถือหุ้นธรรมดาแล้วครับ
“นี่คือสิ่งที่ผมจะพูดทั้งหมดในวันนี้ครับ ถ้าคุณรักพี่เขยของคุณมากนัก นับจากนี้ไปผมก็จะทำให้เขาเดือดร้อนเป็นพิเศษ ผมละอยากจะเห็นตอนที่ประธานฟ่านถูกดำเนินคดีกับเรื่องผิดกฎหมายทั้งหมดที่เขาเกี่ยวข้องด้วย ผมคำนวณไว้แล้วว่าเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกไปกี่ปี!
“คุณกล้าดียังไงมาวัดกับผม” ชะตากรรมของคุณยังไม่มาถึงหรอก…
แน่นอนว่าโม่ถิงไม่ได้เอ่ยประโยคครึ่งหลังที่เขาคิดในใจ ทว่าผู้อำนวยการหลินและประธานฟ่านต้องค่อยๆ ถูกเหยียบย่ำ
ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ คงจะไม่คิดลองดีกับอำนาจของโม่ถิงเพียงเพราะพวกเขาอยู่ในไห่รุ่ยมานาน สิ่งที่พวกเขาสนใจก็คือผลประโยชน์ของตัวเองและรู้ดีว่ามีเพียงโม่ถิงที่สามารถมอบกำไรก้อนโตที่สุดให้พวกเขาได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะเสียผู้อำนวยการไปสักคน
ความจริงแล้วผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ดูออกว่าผู้อำนวยการหลินสร้างปัญหาขึ้นมาเพราะเรื่องส่วนตัว โดยที่ไม่รู้ว่าโม่ถิงคงจะไม่หลงเชื่อ
ทุกคนรู้ว่าโม่ถิงรักภรรยาของเขา แต่ผู้อำนวยการหลินยังเพ้อฝันว่าจะเอาชนะคนรักของเขาได้อีก
สมควรกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาแล้ว!
“การประชุมวันนี้สิ้นสุดลงแล้วครับ เลิกประชุมได้”
พูดจบโม่ถิงก็ประคองถังหนิงออกไปจากห้องประชุม
เขาไม่สนใจแววตาเกลียดชังของผู้อำนวยการหลิน อย่างไรเสียก็มีคนมากมายที่เกลียดเขาอยู่แล้ว เขาจะไม่มีทางเสียสละผลประโยชน์ของถังหนิงเพียงเพราะศัตรูที่รับมือได้ยาก โม่ถิงเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของผู้ชายที่ปกป้องผู้หญิง ความจริงแล้วเขาจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิตด้วยซ้ำ
“คุณปกป้องฉันอย่างนี้จะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอคะ”
Comments