วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 969 ถังหนิง คุณนี่มันเลือดเย็นจริงๆ

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 969 ถังหนิง คุณนี่มันเลือดเย็นจริงๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เพื่อแก้แค้นแล้ว คุณถึงกับยอมทิ้งภรรยากับลูกสาวของตัวเองเลยสินะ ประธานฟ่าน คุณนี่มันโหดเ**้ยมจริงๆ …” ถังหนิงเย้ย

 

 

“ผมก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าคุณจะปกป้องหลินเฉี่ยนยังไง!”

 

 

ประธานฟ่านดูภาคภูมิใจราวกับเขาคว้าชัยชนะมาได้แล้ว หากแต่ถังหนิงไม่ได้หัวเสีย เธอกลับตอบเสียงเรียบ “อย่าประเมินความสามารถตัวเองสูงและดูถูกฝีมือคนอื่นไปนักเลยค่ะ คุณคิดว่าฉันจะไม่มีทางสู้คุณได้จริงเหรอคะ”

 

 

“และคุณจะทำอะไรได้ล่ะครับ คุณก็ได้แต่พูดอยู่อย่างนี้นี่”

 

 

ถังหนิงหัวเราะก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ภรรยาประธานฟ่าน

 

 

ทีแรกเธอลังเลใจ แต่หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เธอก็รวบรวมความกล้าพูดออกมาในที่สุด “ฉันไม่คิดว่าคุณจะเห็นชีวิตของฉันกับลูกเป็นผักปลาแบบนี้เลยนะคะ”

 

 

เมื่อเขาได้ยินเสียงภรรยาตัวเองก็ออกอาการไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้รู้จักกันเสียหน่อย ผมจะปล่อยให้คนอื่นมาจี้จุดอ่อนของผมไม่ได้ ผมมีจุดอ่อนไม่ได้ นับตั้งแต่วันที่คุณแต่งงานกับผม คุณเองก็รู้เรื่องนี้ดี อีกอย่างคุณเองก็ไม่ใช่ภรรยาคนเดียวของผมและผมก็ไม่ได้มีลูกสาวคนเดียวด้วย…”

 

 

“พอได้แล้ว…” ภรรยาประธานฟ่านตวาดลั่น “เดิมทีคุณพยายามตามตื๊อฉันไม่เลิกเพราะชาติตระกูลของฉัน ตอนนี้คุณร่ำรวยและประสบความสำเร็จแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณตอบแทนฉันอย่างนั้นเหรอคะ

 

 

“อย่างที่คุณคิดแหละค่ะ ถังหนิงไม่ได้ทำอะไรฉัน เพราะเธอไม่เหมือนคุณ”

 

 

“ฮึ่ม…ว่าแล้วเชียว…” พูดจบประธานฟ่านก็พยายามวางสาย ทว่าภรรยาของเขาพลันว่าบางอย่างที่ไม่คาดฝันจนทำให้ใจของเขาสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัว

 

 

“ลูกสาวของคุณกับฉันจะกลับอเมริกา แต่ก่อนจะกลับไป ฉันจะยื่นหลักฐานที่คุณทำผิดกฎหมายทั้งหมดตลอดหลายปีมานี้ให้กับทางตำรวจ”

 

 

ประธานฟ่านถึงกับชะงักอย่างทำอะไรไม่ถูก หากแต่หลังจากตั้งสติได้เขาก็หัวเราะออกมา “คุณจะไปมีหลักฐานได้ยังไง ผมไม่เคยทำให้คุณรู้สักหน่อย…”

 

 

“ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน งั้นฉันถามหน่อยค่ะว่าผู้ช่วยคนสุดของคุณตายได้ยังไง”

 

 

เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็นิ่งค้างไปด้วยความหวาดกลัว

 

 

“คุณคิดเหรอคะว่าตลอดหลายปีมานี้ ฉันจะไม่ได้เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ คุณมันคนสารเลวและฉันจะทำให้คุณต้องเสียใจไปจนตาย”

 

 

เธอพูดจบก็ส่งโทรศัพท์คืนให้ถังหนิง

 

 

ถังหนิงเอ่ยถามประธานฟ่านพร้อมโทรศัพท์ในมือ “คุณคิดว่ายังไงล่ะคะ ตอนนี้จะบอกฉันได้หรือยังว่าหลินเฉี่ยนอยู่ที่ไหน”

 

 

ปลายสายโกรธเกรี้ยวจนแทบคว่ำโต๊ะตรงหน้าทันที “ถังหนิงถ้าคุณกล้าทำอะไรไปมากกว่านี้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณรอดไปแน่”

 

 

“ฉันไม่สนใจเรื่องเลวทรามที่คุณเคยทำในอดีตหรอกนะคะ ฉันแค่อยากรู้ว่าหลินเฉี่ยนอยู่ไหนแค่นั้น ส่วนภรรยาและลูกสาวของคุณ ฉันจะช่วยส่งพวกเขากลับอเมริกาให้แล้วกันนะคะ”

 

 

“นังนั่นคงเข้าไปในช่องเขาแล้วล่ะ คุณก็ไปตามหามันเองแล้วกัน” ประธานฟ่านว่าขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “ถังหนิง…คุณนี่มันเลือดเย็นจริงๆ”

 

 

สิ้นคำประธานฟ่านก็กดวางสาย

 

 

ถังหนิงวางโทรศัพท์ลงแล้วหันไปมองหน้าภรรยาและลูกสาวของเขา “คุณมั่นใจว่าจะไม่เป็นไรถ้าฉันส่งคุณไปอเมริกาเหรอคะ”

 

 

“ทันทีที่ฉันเหยียบอเมริกา ฉันก็จะอยู่ในความคุ้มครองของครอบครัวของฉันค่ะ แล้วเขาก็คงทำร้ายฉันไม่ได้อีก เขาคงไม่มีอารมณ์มาก่อเรื่องให้คุณเหมือนกันเพราะต่อไปนี้เขาต้องสนใจกับการหาทางจัดการกับฉันน่ะค่ะ”

 

 

“โอเคค่ะ” ถังหนิงมองแม่ลูกขณะที่นึกถึงเรื่องร้ายกาจที่ประธานฟ่านเคยทำ บางทีทุกอย่างอาจเพียงพอที่จะส่งเขาไปยังขุมนรกลึกได้

 

 

เขาคิดว่าตัวเองยังจะมีปัญญามาสร้างปัญหาได้จริงหรือ

 

 

จากคำพูดของประธานฟ่าน ถังหนิงคาดเดาได้ว่าเขาคงล่อลวงเธอไปยังจุดที่อันตรายแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเธอจริงๆ ถึงกระนั้นแค่พาผู้หญิงท้องไปในที่ที่อันตรายขนาดนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้แล้ว

 

 

ถังหนิงจึงต่อสายหาลู่เช่อทันที ครั้งนี้อีกฝ่ายพอจะรู้เส้นทางที่หลินเฉี่ยนมุ่งหน้าไปหลังจากตามหามาทั้งคืน อย่างไรก็ตาม คนท้องถิ่นบอกเขาเป็นเสียงเดียวกันว่าแทบไม่มีคนที่รอดออกมาจากช่องเขาได้ และไม่ค่อยมีคนเข้าไปที่นั่นเพราะอันตรายไม่น้อย

 

 

ลู่เช่อติดต่อตำรวจท้องที่และเริ่มการค้นหาด้วยความหวังว่าพวกเขาจะไม่สายเกินไป

 

 

 

 

ในขณะที่หลินเฉี่ยนกับหนิงเซียงออกเดินไปด้วยกัน หนิงเซียงยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

 

“คุณหลิน ไม่ใช่ว่าฉันอยากมองโลกในแง่ร้ายหรอกนะคะ แต่มีบางอย่างที่ฉันอยากบอกคุณสักหน่อยน่ะค่ะ”

 

 

หลินเฉี่ยนมองหนิงเซียงและพยักหน้าให้ “มีอะไรก็บอกฉันมาได้เลยค่ะ”

 

 

“ผู้ชายสองพี่น้องเมื่อคืนอ้างว่าตัวเองเป็นชาวไร่ แต่ฉันไม่ได้กลิ่นแกะจากตัวพวกเขาเลย อีกอย่างผิวพรรณของพวกเขาก็เนียนนุ่มเกินกว่าจะเป็นชาวไร่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นพี่คนโตยังอ้างว่าเขาเจอนายทหารวิ่งลึกเข้าไปในช่องเขา แต่มันไม่มีเหตุผลเลยที่คนที่กำลังเอาตัวรอดจะวิ่งเข้าไปในป่า คนทั่วไปอาจจะไปผิดทาง แต่เขาเป็นทหารแล้วยังเป็นทหารอากาศด้วย น่าจะรู้ทิศทางเป็นอย่างดีและคุ้นเคยกับสภาพภูมิศาสตร์แถบนี้นะคะ”

 

 

“คุณกำลังจะบอกว่าพวกเขามีเจตนาแอบแฝงเหรอคะ” หลินเฉี่ยนแปลคำพูดของอีกฝ่าย “จริงๆ แล้วฉันเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันหลังจากนอนคิดมาทั้งคืน แต่ฉันก็ยังอยากจะเชื่อว่ายังมีความหวังรอฉันอยู่ ฉันอยากจะดูว่าสองพี่น้องจะตามเรามาไหม แล้วก็ต้องการหลอกตัวเองเหมือนกันน่ะค่ะ”

 

 

“อย่างน้อยเราก็ยังหยุดทันนะคะ”

 

 

“อย่างนั้นกลับกันเถอะค่ะ”

 

 

“หือ” หนิงเซียงคิดว่าเธอได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า

 

 

“คุณได้ยินถูกแล้วค่ะ ฉันบอกให้เรากลับกันเถอะ สามีฉันเป็นคนดีที่ยินดีสละชีวิตของเขาเพื่อประเทศชาติ ถ้าฉันยังดื้อแพ่งจะไปต่อ จนเกิดทำให้คุณบาดเจ็บขึ้นมา เขาคงจะไม่ดีใจที่เห็นอย่างนั้น ต่อให้ฉันตามหาเขาเจอเขาก็คงไม่ให้อภัยฉันหรอกค่ะ

 

 

“อีกอย่างถูกของคุณค่ะ เขาไม่ใช่คนที่จะบุกเข้าไปลึกในช่องเขา เรากลับไปตามหาเบาะแสอื่นกันเถอะค่ะ”

 

 

“ดูเหมือนคุณจะยังมีสติอยู่นะคะเนี่ย” หนิงเซียงหัวเราะ “ฉันคิดว่า…”

 

 

“ฉันจะไม่หยุดตามหาหรอกนะคะเพราะฉันยังรู้สึกว่าเขายังมีชีวิตอยู่”

 

 

“ถ้าอย่างนั้น คุณคิดจะทำยังไงกับพี่น้องสองคนนั้นล่ะ”

 

 

“กลับไปที่หมู่บ้านก่อนแล้วเราค่อยวางแผนกันเถอะค่ะ” หลินเฉี่ยนตอบ

 

 

“โอเคค่ะ…”

 

 

ชายสองพี่น้องคิดว่าตัวเองทำสำเร็จแล้ว จึงรีบรายงานผลกับประธานฟ่าน อย่างไรก็ตามพวกเขากลับไม่ได้รางวัลจากอีกฝ่ายแต่อย่างใด ด้วยเจ้าตัวกำลังเคร่งเครียดกับการรั้งให้ภรรยาและลูกสาวของตัวเองอยู่ที่ปักกิ่งต่อ

 

 

เมื่อนึกอะไรไม่ออก ประธานฟ่านจึงตัดสินใจโทรหาปู่ของเขาในท้ายที่สุด ปลายสายได้แต่ตวาดกลับมาหลังได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น “ไอ้โง่! แกสูญเสียครั้งใหญ่เพราะเอาแต่สนใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้วดูสิว่าครั้งนี้แกจะถอยออกมายังไง!”

 

 

“ปู่ครับ! ปู่ต้องช่วยผมนะ! ไม่อย่างนั้นผมแย่แน่!”

 

 

“แกจะไปต่อกรกับอำนาจของตระกูลโม่กับตระกูลถังในปักกิ่งได้ยังไงกัน ถ้าแกยังทำเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่โต แกนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายทุกข์ทรมานในท้ายที่สุด พอได้แล้ว!”

 

 

“แต่ผมไม่แน่ใจว่าถังหนิงรู้อะไรบ้าง ผมสงสัยว่าถ้า…”

 

 

“ไอ้เวรนี่! อย่าแม้แต่คิดเรื่องนี้เชียว ไม่รู้เหรอว่าถังหนิงมีอำนวจในปักกิ่งขนาดไหน กล้าดียังไงไปแหย็มกับเธอ ถ้าแค่เรื่องเล็กๆ ก็อาจจะไม่เป็นไร แต่อย่าทำเรื่องให้ใหญ่โตไปมากกว่านี้! ไม่อย่างนั้นโม่ถิงได้ถลกหนังแกทั้งเป็นแน่

 

 

“ปล่อยให้เรื่องในวงการบันเทิงจบแค่ในวงการบันเทิงซะ อย่าให้มันลุกลามไปที่อื่นที่ควบคุมไม่ได้ อีกอย่างอย่าให้ตำรวจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเด็ดขาด แกคิดว่าตัวเองจะรอดไปได้สักที่น้ำกัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 969 ถังหนิง คุณนี่มันเลือดเย็นจริงๆ

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 969 ถังหนิง คุณนี่มันเลือดเย็นจริงๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เพื่อแก้แค้นแล้ว คุณถึงกับยอมทิ้งภรรยากับลูกสาวของตัวเองเลยสินะ ประธานฟ่าน คุณนี่มันโหดเ**้ยมจริงๆ …” ถังหนิงเย้ย

 

 

“ผมก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าคุณจะปกป้องหลินเฉี่ยนยังไง!”

 

 

ประธานฟ่านดูภาคภูมิใจราวกับเขาคว้าชัยชนะมาได้แล้ว หากแต่ถังหนิงไม่ได้หัวเสีย เธอกลับตอบเสียงเรียบ “อย่าประเมินความสามารถตัวเองสูงและดูถูกฝีมือคนอื่นไปนักเลยค่ะ คุณคิดว่าฉันจะไม่มีทางสู้คุณได้จริงเหรอคะ”

 

 

“และคุณจะทำอะไรได้ล่ะครับ คุณก็ได้แต่พูดอยู่อย่างนี้นี่”

 

 

ถังหนิงหัวเราะก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ภรรยาประธานฟ่าน

 

 

ทีแรกเธอลังเลใจ แต่หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เธอก็รวบรวมความกล้าพูดออกมาในที่สุด “ฉันไม่คิดว่าคุณจะเห็นชีวิตของฉันกับลูกเป็นผักปลาแบบนี้เลยนะคะ”

 

 

เมื่อเขาได้ยินเสียงภรรยาตัวเองก็ออกอาการไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้รู้จักกันเสียหน่อย ผมจะปล่อยให้คนอื่นมาจี้จุดอ่อนของผมไม่ได้ ผมมีจุดอ่อนไม่ได้ นับตั้งแต่วันที่คุณแต่งงานกับผม คุณเองก็รู้เรื่องนี้ดี อีกอย่างคุณเองก็ไม่ใช่ภรรยาคนเดียวของผมและผมก็ไม่ได้มีลูกสาวคนเดียวด้วย…”

 

 

“พอได้แล้ว…” ภรรยาประธานฟ่านตวาดลั่น “เดิมทีคุณพยายามตามตื๊อฉันไม่เลิกเพราะชาติตระกูลของฉัน ตอนนี้คุณร่ำรวยและประสบความสำเร็จแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณตอบแทนฉันอย่างนั้นเหรอคะ

 

 

“อย่างที่คุณคิดแหละค่ะ ถังหนิงไม่ได้ทำอะไรฉัน เพราะเธอไม่เหมือนคุณ”

 

 

“ฮึ่ม…ว่าแล้วเชียว…” พูดจบประธานฟ่านก็พยายามวางสาย ทว่าภรรยาของเขาพลันว่าบางอย่างที่ไม่คาดฝันจนทำให้ใจของเขาสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัว

 

 

“ลูกสาวของคุณกับฉันจะกลับอเมริกา แต่ก่อนจะกลับไป ฉันจะยื่นหลักฐานที่คุณทำผิดกฎหมายทั้งหมดตลอดหลายปีมานี้ให้กับทางตำรวจ”

 

 

ประธานฟ่านถึงกับชะงักอย่างทำอะไรไม่ถูก หากแต่หลังจากตั้งสติได้เขาก็หัวเราะออกมา “คุณจะไปมีหลักฐานได้ยังไง ผมไม่เคยทำให้คุณรู้สักหน่อย…”

 

 

“ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน งั้นฉันถามหน่อยค่ะว่าผู้ช่วยคนสุดของคุณตายได้ยังไง”

 

 

เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็นิ่งค้างไปด้วยความหวาดกลัว

 

 

“คุณคิดเหรอคะว่าตลอดหลายปีมานี้ ฉันจะไม่ได้เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ คุณมันคนสารเลวและฉันจะทำให้คุณต้องเสียใจไปจนตาย”

 

 

เธอพูดจบก็ส่งโทรศัพท์คืนให้ถังหนิง

 

 

ถังหนิงเอ่ยถามประธานฟ่านพร้อมโทรศัพท์ในมือ “คุณคิดว่ายังไงล่ะคะ ตอนนี้จะบอกฉันได้หรือยังว่าหลินเฉี่ยนอยู่ที่ไหน”

 

 

ปลายสายโกรธเกรี้ยวจนแทบคว่ำโต๊ะตรงหน้าทันที “ถังหนิงถ้าคุณกล้าทำอะไรไปมากกว่านี้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณรอดไปแน่”

 

 

“ฉันไม่สนใจเรื่องเลวทรามที่คุณเคยทำในอดีตหรอกนะคะ ฉันแค่อยากรู้ว่าหลินเฉี่ยนอยู่ไหนแค่นั้น ส่วนภรรยาและลูกสาวของคุณ ฉันจะช่วยส่งพวกเขากลับอเมริกาให้แล้วกันนะคะ”

 

 

“นังนั่นคงเข้าไปในช่องเขาแล้วล่ะ คุณก็ไปตามหามันเองแล้วกัน” ประธานฟ่านว่าขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “ถังหนิง…คุณนี่มันเลือดเย็นจริงๆ”

 

 

สิ้นคำประธานฟ่านก็กดวางสาย

 

 

ถังหนิงวางโทรศัพท์ลงแล้วหันไปมองหน้าภรรยาและลูกสาวของเขา “คุณมั่นใจว่าจะไม่เป็นไรถ้าฉันส่งคุณไปอเมริกาเหรอคะ”

 

 

“ทันทีที่ฉันเหยียบอเมริกา ฉันก็จะอยู่ในความคุ้มครองของครอบครัวของฉันค่ะ แล้วเขาก็คงทำร้ายฉันไม่ได้อีก เขาคงไม่มีอารมณ์มาก่อเรื่องให้คุณเหมือนกันเพราะต่อไปนี้เขาต้องสนใจกับการหาทางจัดการกับฉันน่ะค่ะ”

 

 

“โอเคค่ะ” ถังหนิงมองแม่ลูกขณะที่นึกถึงเรื่องร้ายกาจที่ประธานฟ่านเคยทำ บางทีทุกอย่างอาจเพียงพอที่จะส่งเขาไปยังขุมนรกลึกได้

 

 

เขาคิดว่าตัวเองยังจะมีปัญญามาสร้างปัญหาได้จริงหรือ

 

 

จากคำพูดของประธานฟ่าน ถังหนิงคาดเดาได้ว่าเขาคงล่อลวงเธอไปยังจุดที่อันตรายแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเธอจริงๆ ถึงกระนั้นแค่พาผู้หญิงท้องไปในที่ที่อันตรายขนาดนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้แล้ว

 

 

ถังหนิงจึงต่อสายหาลู่เช่อทันที ครั้งนี้อีกฝ่ายพอจะรู้เส้นทางที่หลินเฉี่ยนมุ่งหน้าไปหลังจากตามหามาทั้งคืน อย่างไรก็ตาม คนท้องถิ่นบอกเขาเป็นเสียงเดียวกันว่าแทบไม่มีคนที่รอดออกมาจากช่องเขาได้ และไม่ค่อยมีคนเข้าไปที่นั่นเพราะอันตรายไม่น้อย

 

 

ลู่เช่อติดต่อตำรวจท้องที่และเริ่มการค้นหาด้วยความหวังว่าพวกเขาจะไม่สายเกินไป

 

 

 

 

ในขณะที่หลินเฉี่ยนกับหนิงเซียงออกเดินไปด้วยกัน หนิงเซียงยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

 

“คุณหลิน ไม่ใช่ว่าฉันอยากมองโลกในแง่ร้ายหรอกนะคะ แต่มีบางอย่างที่ฉันอยากบอกคุณสักหน่อยน่ะค่ะ”

 

 

หลินเฉี่ยนมองหนิงเซียงและพยักหน้าให้ “มีอะไรก็บอกฉันมาได้เลยค่ะ”

 

 

“ผู้ชายสองพี่น้องเมื่อคืนอ้างว่าตัวเองเป็นชาวไร่ แต่ฉันไม่ได้กลิ่นแกะจากตัวพวกเขาเลย อีกอย่างผิวพรรณของพวกเขาก็เนียนนุ่มเกินกว่าจะเป็นชาวไร่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นพี่คนโตยังอ้างว่าเขาเจอนายทหารวิ่งลึกเข้าไปในช่องเขา แต่มันไม่มีเหตุผลเลยที่คนที่กำลังเอาตัวรอดจะวิ่งเข้าไปในป่า คนทั่วไปอาจจะไปผิดทาง แต่เขาเป็นทหารแล้วยังเป็นทหารอากาศด้วย น่าจะรู้ทิศทางเป็นอย่างดีและคุ้นเคยกับสภาพภูมิศาสตร์แถบนี้นะคะ”

 

 

“คุณกำลังจะบอกว่าพวกเขามีเจตนาแอบแฝงเหรอคะ” หลินเฉี่ยนแปลคำพูดของอีกฝ่าย “จริงๆ แล้วฉันเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันหลังจากนอนคิดมาทั้งคืน แต่ฉันก็ยังอยากจะเชื่อว่ายังมีความหวังรอฉันอยู่ ฉันอยากจะดูว่าสองพี่น้องจะตามเรามาไหม แล้วก็ต้องการหลอกตัวเองเหมือนกันน่ะค่ะ”

 

 

“อย่างน้อยเราก็ยังหยุดทันนะคะ”

 

 

“อย่างนั้นกลับกันเถอะค่ะ”

 

 

“หือ” หนิงเซียงคิดว่าเธอได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า

 

 

“คุณได้ยินถูกแล้วค่ะ ฉันบอกให้เรากลับกันเถอะ สามีฉันเป็นคนดีที่ยินดีสละชีวิตของเขาเพื่อประเทศชาติ ถ้าฉันยังดื้อแพ่งจะไปต่อ จนเกิดทำให้คุณบาดเจ็บขึ้นมา เขาคงจะไม่ดีใจที่เห็นอย่างนั้น ต่อให้ฉันตามหาเขาเจอเขาก็คงไม่ให้อภัยฉันหรอกค่ะ

 

 

“อีกอย่างถูกของคุณค่ะ เขาไม่ใช่คนที่จะบุกเข้าไปลึกในช่องเขา เรากลับไปตามหาเบาะแสอื่นกันเถอะค่ะ”

 

 

“ดูเหมือนคุณจะยังมีสติอยู่นะคะเนี่ย” หนิงเซียงหัวเราะ “ฉันคิดว่า…”

 

 

“ฉันจะไม่หยุดตามหาหรอกนะคะเพราะฉันยังรู้สึกว่าเขายังมีชีวิตอยู่”

 

 

“ถ้าอย่างนั้น คุณคิดจะทำยังไงกับพี่น้องสองคนนั้นล่ะ”

 

 

“กลับไปที่หมู่บ้านก่อนแล้วเราค่อยวางแผนกันเถอะค่ะ” หลินเฉี่ยนตอบ

 

 

“โอเคค่ะ…”

 

 

ชายสองพี่น้องคิดว่าตัวเองทำสำเร็จแล้ว จึงรีบรายงานผลกับประธานฟ่าน อย่างไรก็ตามพวกเขากลับไม่ได้รางวัลจากอีกฝ่ายแต่อย่างใด ด้วยเจ้าตัวกำลังเคร่งเครียดกับการรั้งให้ภรรยาและลูกสาวของตัวเองอยู่ที่ปักกิ่งต่อ

 

 

เมื่อนึกอะไรไม่ออก ประธานฟ่านจึงตัดสินใจโทรหาปู่ของเขาในท้ายที่สุด ปลายสายได้แต่ตวาดกลับมาหลังได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น “ไอ้โง่! แกสูญเสียครั้งใหญ่เพราะเอาแต่สนใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้วดูสิว่าครั้งนี้แกจะถอยออกมายังไง!”

 

 

“ปู่ครับ! ปู่ต้องช่วยผมนะ! ไม่อย่างนั้นผมแย่แน่!”

 

 

“แกจะไปต่อกรกับอำนาจของตระกูลโม่กับตระกูลถังในปักกิ่งได้ยังไงกัน ถ้าแกยังทำเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่โต แกนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายทุกข์ทรมานในท้ายที่สุด พอได้แล้ว!”

 

 

“แต่ผมไม่แน่ใจว่าถังหนิงรู้อะไรบ้าง ผมสงสัยว่าถ้า…”

 

 

“ไอ้เวรนี่! อย่าแม้แต่คิดเรื่องนี้เชียว ไม่รู้เหรอว่าถังหนิงมีอำนวจในปักกิ่งขนาดไหน กล้าดียังไงไปแหย็มกับเธอ ถ้าแค่เรื่องเล็กๆ ก็อาจจะไม่เป็นไร แต่อย่าทำเรื่องให้ใหญ่โตไปมากกว่านี้! ไม่อย่างนั้นโม่ถิงได้ถลกหนังแกทั้งเป็นแน่

 

 

“ปล่อยให้เรื่องในวงการบันเทิงจบแค่ในวงการบันเทิงซะ อย่าให้มันลุกลามไปที่อื่นที่ควบคุมไม่ได้ อีกอย่างอย่าให้ตำรวจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเด็ดขาด แกคิดว่าตัวเองจะรอดไปได้สักที่น้ำกัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+