วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 993 ความตายยังดีเสียกว่าการอยู่อย่างทรมาน

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 993 ความตายยังดีเสียกว่าการอยู่อย่างทรมาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นอกจากพี่ชาย ซย่าหันโม่ไม่มีญาติที่ไหนอีก งานศพของเธอจึงจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย

ฝนตกลงมาพรำๆ ในวันงานศพของเธอ ถังหนิงและคนของจู้ซิงมีเดียมาถึงในชุดดำพร้อมกับร่มสีดำในมือ ทั้งยังมีแฟนๆ กลุ่มใหญ่ที่มาร่วมงาน

แฟนๆ ของซย่าหันโม่ร้องไห้ออกมาขณะที่ถือหนังสือที่เธอเขียนและใบปิดภาพยนตร์ที่เธอร่วมแสดงเอาไว้ พวกมันทั้งหมดจะถูกฝังลงไปพร้อมๆ กับร่างของเธอ

ถังหนิงบอกซย่าหันโม่ว่าประธานฟ่านกำลังรับกรรมอยู่ในคุกและเธอจะเป็นคนคนดูแลพี่ชายให้แทนด้วยความหวังว่าเธอจะจากไปได้อย่างสงบ

ในจังหวะถัดมา หลงเจี่ยขยับเข้ามาสะกิดแขนถังหนิงก่อนเอ่ยถาม “ดูผู้ชายที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้สิคะ นั่นโจวชิงไม่ใช่เหรอคะ”

ทว่าถังหนิงไม่แม้แต่จะชายตามองเขา ทำเพียงว่าขึ้นเสียงเรียบ “เขายังไม่ตายอีกเหรอ”

“ฉันควรให้ใครไป…”

“ไม่จำเป็นหรอก เขาได้ชดใช้ทุกอย่างที่ทำกับซย่าหันโม่ไปแล้วล่ะ ความตายยังดีซะกว่าการอยู่อย่างทรมาน”

หลงเจี่ยพยักหน้าและทิ้งโจวชิงไว้อย่างโดดเดี่ยว…

บางครั้งความสัมพันธ์ของคนเราก็ยากเกินจะเข้าใจ

โจวชิงใช้ซย่าหันโม่เป็นเครื่องมือ โกหกหลอกลวง และวางแผนทำร้ายตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ หากแต่ในตอนนี้ที่เธอจากไปและนอนอยู่ใต้กองดิน ความบาดหมางทั้งหมดกลับจางหายไปกับสายลม

โจวชิงถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตอีกครึ่งที่เหลือไปกับการชดใช้ความผิดของตัวเอง

ทว่าซย่าหันโม่ไม่ได้ต้องการให้จู้ซิงมีเดียไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้สารเลวนั่นจริงหรือ

หลังจากงานศพเสร็จสิ้นลง หลงเจี่ยก็ขึ้นบริหารจู้ซิงมีเดียอย่างเป็นทางการ หากแต่เมื่อไม่มีถังหนิงแล้ว เธอจะสามารถปั้นว่าที่ดวงดาวอย่างซิงหลานและลัวเซิงได้จริงหรือ

อีกทั้งปัญหาระหว่างหลงเจี่ยกับตระกูลลู่ยังคงดำเนินต่อไป การที่แม่ของลู่เช่อกำลังเก็บ ลูกชาย ไว้ให้เขาเป็นเรื่องที่ไม่อาจลืมได้ลง เด็กคนนั้นคลอดออกมาหรือยัง เรื่องนี้จะถูกเปิดเผยในไม่ช้าก็เร็ว

โชคดีที่หลงเจี่ยได้พบเจอกับเรื่องอย่างนี้ในวงการมาโชกโชนและมีคนรู้จักเยอะ หากเธอต้องการจะทำ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

“คุณจะกลับไปเตรียมคลอดที่โรงพยาบาลเหรอคะ”

ถังหนิงพยักหน้ารับ “ทีแรกถังอี้เฉินไม่อนุญาตให้ฉันออกมาข้างนอกด้วยซ้ำ แต่ฉันขอเวลากับโม่ถิงไว้ แล้วถังอี้เฉินก็ขัดโม่ถิงไม่ได้น่ะ”

“ฉันจะบอกคุณให้นะคะว่าการได้เจอโม่ถิงเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของคุณแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะไปเยี่ยมบ่อยๆ ค่ะ”

ถังหนิงระบายยิ้มก่อนจะก้าวขึ้นแบล็กแฟนธอม ก่อนโม่ถิงจะพาเธอส่งตรงไปที่โรงพยาบาลทหาร

“ในที่สุดเธอก็กลับมาสักที” ถังอี้เฉินโล่งใจเมื่อเห็นหน้าถังหนิง “ถึงฉันจะสัญญาไว้แล้วว่าสามารถช่วยรักษาลูกของเธอให้ปลอดภัยได้จนถึงกำหนดคลอด แต่ฉันก็ทนกับสถานการณ์คับขันแบบนี้ไม่ไหวหรอกนะ”

“ต่อไปนี้ฉันจะเชื่อฟังเธอแล้ว” ถังหนิงยอมแพ้

“รีบไปที่ห้องคนไข้สุดหรูของเธอได้แล้ว”

เมื่อก่อนตอนที่ถังเซวียนยังอยู่ ถังหนิงอี้เฉินมักอ้างว่างานยุ่งอยู่ที่โรงพยาบาลและไม่กลับบ้านบ่อยครั้งเธอยังทำเฉยกับเรื่องของถังเซวียนและไม่เคยพูดถึงเกินกว่าที่จำเป็น ถังหนิงและถังอี้เฉินจึงไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก ทว่าในตอนนี้พวกเธอติดต่อกัน ถังหนิงจึงได้รู้ว่าถังอี้เฉินเป็นผู้หญิงที่น่าหลงใหลคนหนึ่ง

ถังหนิงมองออกว่าถังอี้เฉินชอบลู่กวงหลี ว่าแต่เขาคิดอย่างไรกันล่ะ

ภายในห้องคนไข้ ถังหนิงนอนบนเตียงขณะเอ่ยถามถังอี้เฉินที่กำลังง่วนอยู่ “ถึงเวลาที่เธอต้องคิดเรื่องแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ นี่ฉันจะคลอดลูกคนที่สามแล้วนะ”

ถังอี้เฉินชะงักไปด้วยความตกใจพร้อมหันมามองหน้าถังหนิง “อยู่ข้างนอกเธออาจจะทำอะไรตามใจได้นะ แต่ถ้าอยู่ในโรงพยาบาลเธอต้องทำตามที่ฉันบอก ดังนั้นก็เลิกพยายามเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันได้แล้ว”

“การไล่ตามลู่กวงหลีไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมล่ะ…

“เธอเชื่อไหมว่าฉันรู้ว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่” ถังหนิงอี้เฉินชูบันทึกการรักษาในมือของตัวเองขึ้นมา “ฉันเป็นแค่คนธรรมดาที่ทำงานให้เขา ผู้หญิงส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลก็ชอบเขากันทั้งนั้นแหละ อย่างมากฉันก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น”

“ของอย่างนี้ก็เป็นบ่อเกิดให้เกิดความใกล้ชิดทั้งนั้นแหละ

“เธอเป็นถึงคุณหนูรองตระกูลถังเลยนะ ทำไมถึงขี้ขลาดอย่างนี้ล่ะ”

“ถ้าเธอกล้านักก็ไม่ต้องมาอยู่ที่นี่สิ” ถังอี้เฉินโมโหฟึดฟัดขณะที่ถือบันทึกการรักษาของถังหนิงเดินออกจากห้องไป

ถังหนิงไหวไหล่พลางส่ายหน้าไปมา ทั้งสองคนรู้สึกพิเศษต่อกันแท้ๆ เชียว

อันที่จริงระหว่างถังอี้เฉินกับลู่กวงหลีนั้นคลุมเครือไม่น้อย ครั้งหนึ่งถังอี้เฉินเคยคิดจริงๆ ว่าเขาชอบเธอ แต่สุดท้ายเธอก็รู้ว่าเขาคิดกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้น

ไม่สิ ว่ากันตามจริงคือเขาปฏิบัติกับเธอในฐานะเพื่อนร่วมงานเท่านั้น

ไม่นานถังอี้เฉินก็กลับมาทำงานตามปกติ ลู่กวงหลีเพิ่งผ่าตัดเสร็จ หลังจากที่เขาเห็นหน้าเธอก็ว่าขึ้นพร้อมสายตาเย็นชา “ยุ่งกับเรื่องของน้องสาวของเธออีกแล้วเหรอ

“อย่าบอกนะว่าเธอลืมว่าเรามีประชุมกันตอนบ่ายสาม”

ถังอี้เฉินชะงักไป เธอลืมไปเสียสนิท

“อย่ามาขอร้องฉันซะให้ยาก ฉันไม่ช่วยเธอหรอกนะ”

พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป ทิ้งให้เธอยืนงุนงงอยู่กลางทางเดิน

ถังอี้เฉินได้แต่คิดว่าหากเรื่องจะแย่ไปมากกว่านี้ เธอก็แค่ถูกต่อว่าเล็กๆ น้อยๆ “ถ้าฉันขอร้องคุณก็อย่ามาเรียกนามสกุลฉันว่าถังเลย! ”

ทว่าเมื่อการประชุมเริ่มขึ้น เธอกลับไม่มีทางเลือกนอกจากมองหน้าลู่กวงหลีขณะที่สะกิดเขายิกๆ อยู่ใต้โต๊ะ

“หัวข้อวันนี้คืออะไรล่ะคะ! ”

“ฉันบอกเธอไปครั้งที่แล้วนะ”

“คุณไม่ได้บอกไว้ค่ะ ถ้าคุณบอกจริง ฉันจะตัดหัวแล้วให้คุณเตะเป็นลูกบอลเลย”

ลู่กวงหลีที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมองหน้าถังอี้เฉิน พอเป็นเรื่องของน้องสาวของเธอก็ทุ่มเทเหลือเกิน แต่พอเป็นเรื่องงานที่เขามอบหมายให้เธอกลับไม่ใส่ใจเสียอย่างนั้น

“ลู่กวงหลี ช่วยฉันหน่อย บอกคำตอบฉันมานะ…”

“จากหมอทุกคนที่อยู่ที่นี่ เธอเป็นคนเดียวที่ขอคำตอบจากฉันนะ” ลู่กวงหลีรีบสวนกลับ

“แล้วคุณจะช่วยฉันหรือเปล่าล่ะ”

เขาพูดกับทุกคนเมื่อเธอเอ่ยถามออกมา “ผมหวังว่าทุกคนจะจริงจังกับการประชุมนะครับ เลิกเล่นโทรศัพท์กันได้แล้ว”

เมื่อเขาว่าเช่นนั้น ทุกสายตาก็จับจ้องไปทางถังอี้เฉิน

คนถูกมองค่อยๆ วางโทรศัพท์ลงก่อนหันไปสบตาลู่กวงหลีด้วยความไม่พอใจ

“ถังอี้เฉิน ดูเหมือนเธอจะเตรียมตัวมาดีนี่ ทำไมเธอไม่บอกเราสักหน่อยล่ะว่าการผ่าตัดคนไข้คนนี้มีปัญหาตรงไหนและต้องแก้ยังไง”

เธอเหลือบมองเขาและลุกขึ้นจากที่นั่ง…

อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้เตรียมตัวมาแต่อย่างใด คำตอบของเธอจึงต้องผิดอยู่แล้ว

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมโดนต่อว่า ความจริงแล้วหลังจากการประชุมจบลงเธอถูกบังคับให้ยืนอยู่ด้านหลังลู่กวงหลี “ฟังเนื้อหาการประชุมครั้งที่แล้วสามสักรอบก่อนที่เธอจะออกไปด้วย”

“ลู่กวงหลี ถ้ามีไหวพริบแค่นี้ คุณจะต้องอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตแน่”

ลู่กวงหลีเอาแต่นิ่งเงียบขณะที่คว้าสมุดของตัวเองออกจากห้องไป ทว่าในจังหวะที่เขาเดินออกไป มุมปากของเขาก็ยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

เป็นเพื่อนร่วมงานก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาจะต้องมีคนรักด้วยล่ะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 993 ความตายยังดีเสียกว่าการอยู่อย่างทรมาน

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 993 ความตายยังดีเสียกว่าการอยู่อย่างทรมาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นอกจากพี่ชาย ซย่าหันโม่ไม่มีญาติที่ไหนอีก งานศพของเธอจึงจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย

ฝนตกลงมาพรำๆ ในวันงานศพของเธอ ถังหนิงและคนของจู้ซิงมีเดียมาถึงในชุดดำพร้อมกับร่มสีดำในมือ ทั้งยังมีแฟนๆ กลุ่มใหญ่ที่มาร่วมงาน

แฟนๆ ของซย่าหันโม่ร้องไห้ออกมาขณะที่ถือหนังสือที่เธอเขียนและใบปิดภาพยนตร์ที่เธอร่วมแสดงเอาไว้ พวกมันทั้งหมดจะถูกฝังลงไปพร้อมๆ กับร่างของเธอ

ถังหนิงบอกซย่าหันโม่ว่าประธานฟ่านกำลังรับกรรมอยู่ในคุกและเธอจะเป็นคนคนดูแลพี่ชายให้แทนด้วยความหวังว่าเธอจะจากไปได้อย่างสงบ

ในจังหวะถัดมา หลงเจี่ยขยับเข้ามาสะกิดแขนถังหนิงก่อนเอ่ยถาม “ดูผู้ชายที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้สิคะ นั่นโจวชิงไม่ใช่เหรอคะ”

ทว่าถังหนิงไม่แม้แต่จะชายตามองเขา ทำเพียงว่าขึ้นเสียงเรียบ “เขายังไม่ตายอีกเหรอ”

“ฉันควรให้ใครไป…”

“ไม่จำเป็นหรอก เขาได้ชดใช้ทุกอย่างที่ทำกับซย่าหันโม่ไปแล้วล่ะ ความตายยังดีซะกว่าการอยู่อย่างทรมาน”

หลงเจี่ยพยักหน้าและทิ้งโจวชิงไว้อย่างโดดเดี่ยว…

บางครั้งความสัมพันธ์ของคนเราก็ยากเกินจะเข้าใจ

โจวชิงใช้ซย่าหันโม่เป็นเครื่องมือ โกหกหลอกลวง และวางแผนทำร้ายตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ หากแต่ในตอนนี้ที่เธอจากไปและนอนอยู่ใต้กองดิน ความบาดหมางทั้งหมดกลับจางหายไปกับสายลม

โจวชิงถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตอีกครึ่งที่เหลือไปกับการชดใช้ความผิดของตัวเอง

ทว่าซย่าหันโม่ไม่ได้ต้องการให้จู้ซิงมีเดียไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้สารเลวนั่นจริงหรือ

หลังจากงานศพเสร็จสิ้นลง หลงเจี่ยก็ขึ้นบริหารจู้ซิงมีเดียอย่างเป็นทางการ หากแต่เมื่อไม่มีถังหนิงแล้ว เธอจะสามารถปั้นว่าที่ดวงดาวอย่างซิงหลานและลัวเซิงได้จริงหรือ

อีกทั้งปัญหาระหว่างหลงเจี่ยกับตระกูลลู่ยังคงดำเนินต่อไป การที่แม่ของลู่เช่อกำลังเก็บ ลูกชาย ไว้ให้เขาเป็นเรื่องที่ไม่อาจลืมได้ลง เด็กคนนั้นคลอดออกมาหรือยัง เรื่องนี้จะถูกเปิดเผยในไม่ช้าก็เร็ว

โชคดีที่หลงเจี่ยได้พบเจอกับเรื่องอย่างนี้ในวงการมาโชกโชนและมีคนรู้จักเยอะ หากเธอต้องการจะทำ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

“คุณจะกลับไปเตรียมคลอดที่โรงพยาบาลเหรอคะ”

ถังหนิงพยักหน้ารับ “ทีแรกถังอี้เฉินไม่อนุญาตให้ฉันออกมาข้างนอกด้วยซ้ำ แต่ฉันขอเวลากับโม่ถิงไว้ แล้วถังอี้เฉินก็ขัดโม่ถิงไม่ได้น่ะ”

“ฉันจะบอกคุณให้นะคะว่าการได้เจอโม่ถิงเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของคุณแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะไปเยี่ยมบ่อยๆ ค่ะ”

ถังหนิงระบายยิ้มก่อนจะก้าวขึ้นแบล็กแฟนธอม ก่อนโม่ถิงจะพาเธอส่งตรงไปที่โรงพยาบาลทหาร

“ในที่สุดเธอก็กลับมาสักที” ถังอี้เฉินโล่งใจเมื่อเห็นหน้าถังหนิง “ถึงฉันจะสัญญาไว้แล้วว่าสามารถช่วยรักษาลูกของเธอให้ปลอดภัยได้จนถึงกำหนดคลอด แต่ฉันก็ทนกับสถานการณ์คับขันแบบนี้ไม่ไหวหรอกนะ”

“ต่อไปนี้ฉันจะเชื่อฟังเธอแล้ว” ถังหนิงยอมแพ้

“รีบไปที่ห้องคนไข้สุดหรูของเธอได้แล้ว”

เมื่อก่อนตอนที่ถังเซวียนยังอยู่ ถังหนิงอี้เฉินมักอ้างว่างานยุ่งอยู่ที่โรงพยาบาลและไม่กลับบ้านบ่อยครั้งเธอยังทำเฉยกับเรื่องของถังเซวียนและไม่เคยพูดถึงเกินกว่าที่จำเป็น ถังหนิงและถังอี้เฉินจึงไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก ทว่าในตอนนี้พวกเธอติดต่อกัน ถังหนิงจึงได้รู้ว่าถังอี้เฉินเป็นผู้หญิงที่น่าหลงใหลคนหนึ่ง

ถังหนิงมองออกว่าถังอี้เฉินชอบลู่กวงหลี ว่าแต่เขาคิดอย่างไรกันล่ะ

ภายในห้องคนไข้ ถังหนิงนอนบนเตียงขณะเอ่ยถามถังอี้เฉินที่กำลังง่วนอยู่ “ถึงเวลาที่เธอต้องคิดเรื่องแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ นี่ฉันจะคลอดลูกคนที่สามแล้วนะ”

ถังอี้เฉินชะงักไปด้วยความตกใจพร้อมหันมามองหน้าถังหนิง “อยู่ข้างนอกเธออาจจะทำอะไรตามใจได้นะ แต่ถ้าอยู่ในโรงพยาบาลเธอต้องทำตามที่ฉันบอก ดังนั้นก็เลิกพยายามเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันได้แล้ว”

“การไล่ตามลู่กวงหลีไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมล่ะ…

“เธอเชื่อไหมว่าฉันรู้ว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่” ถังหนิงอี้เฉินชูบันทึกการรักษาในมือของตัวเองขึ้นมา “ฉันเป็นแค่คนธรรมดาที่ทำงานให้เขา ผู้หญิงส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลก็ชอบเขากันทั้งนั้นแหละ อย่างมากฉันก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น”

“ของอย่างนี้ก็เป็นบ่อเกิดให้เกิดความใกล้ชิดทั้งนั้นแหละ

“เธอเป็นถึงคุณหนูรองตระกูลถังเลยนะ ทำไมถึงขี้ขลาดอย่างนี้ล่ะ”

“ถ้าเธอกล้านักก็ไม่ต้องมาอยู่ที่นี่สิ” ถังอี้เฉินโมโหฟึดฟัดขณะที่ถือบันทึกการรักษาของถังหนิงเดินออกจากห้องไป

ถังหนิงไหวไหล่พลางส่ายหน้าไปมา ทั้งสองคนรู้สึกพิเศษต่อกันแท้ๆ เชียว

อันที่จริงระหว่างถังอี้เฉินกับลู่กวงหลีนั้นคลุมเครือไม่น้อย ครั้งหนึ่งถังอี้เฉินเคยคิดจริงๆ ว่าเขาชอบเธอ แต่สุดท้ายเธอก็รู้ว่าเขาคิดกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้น

ไม่สิ ว่ากันตามจริงคือเขาปฏิบัติกับเธอในฐานะเพื่อนร่วมงานเท่านั้น

ไม่นานถังอี้เฉินก็กลับมาทำงานตามปกติ ลู่กวงหลีเพิ่งผ่าตัดเสร็จ หลังจากที่เขาเห็นหน้าเธอก็ว่าขึ้นพร้อมสายตาเย็นชา “ยุ่งกับเรื่องของน้องสาวของเธออีกแล้วเหรอ

“อย่าบอกนะว่าเธอลืมว่าเรามีประชุมกันตอนบ่ายสาม”

ถังอี้เฉินชะงักไป เธอลืมไปเสียสนิท

“อย่ามาขอร้องฉันซะให้ยาก ฉันไม่ช่วยเธอหรอกนะ”

พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป ทิ้งให้เธอยืนงุนงงอยู่กลางทางเดิน

ถังอี้เฉินได้แต่คิดว่าหากเรื่องจะแย่ไปมากกว่านี้ เธอก็แค่ถูกต่อว่าเล็กๆ น้อยๆ “ถ้าฉันขอร้องคุณก็อย่ามาเรียกนามสกุลฉันว่าถังเลย! ”

ทว่าเมื่อการประชุมเริ่มขึ้น เธอกลับไม่มีทางเลือกนอกจากมองหน้าลู่กวงหลีขณะที่สะกิดเขายิกๆ อยู่ใต้โต๊ะ

“หัวข้อวันนี้คืออะไรล่ะคะ! ”

“ฉันบอกเธอไปครั้งที่แล้วนะ”

“คุณไม่ได้บอกไว้ค่ะ ถ้าคุณบอกจริง ฉันจะตัดหัวแล้วให้คุณเตะเป็นลูกบอลเลย”

ลู่กวงหลีที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมองหน้าถังอี้เฉิน พอเป็นเรื่องของน้องสาวของเธอก็ทุ่มเทเหลือเกิน แต่พอเป็นเรื่องงานที่เขามอบหมายให้เธอกลับไม่ใส่ใจเสียอย่างนั้น

“ลู่กวงหลี ช่วยฉันหน่อย บอกคำตอบฉันมานะ…”

“จากหมอทุกคนที่อยู่ที่นี่ เธอเป็นคนเดียวที่ขอคำตอบจากฉันนะ” ลู่กวงหลีรีบสวนกลับ

“แล้วคุณจะช่วยฉันหรือเปล่าล่ะ”

เขาพูดกับทุกคนเมื่อเธอเอ่ยถามออกมา “ผมหวังว่าทุกคนจะจริงจังกับการประชุมนะครับ เลิกเล่นโทรศัพท์กันได้แล้ว”

เมื่อเขาว่าเช่นนั้น ทุกสายตาก็จับจ้องไปทางถังอี้เฉิน

คนถูกมองค่อยๆ วางโทรศัพท์ลงก่อนหันไปสบตาลู่กวงหลีด้วยความไม่พอใจ

“ถังอี้เฉิน ดูเหมือนเธอจะเตรียมตัวมาดีนี่ ทำไมเธอไม่บอกเราสักหน่อยล่ะว่าการผ่าตัดคนไข้คนนี้มีปัญหาตรงไหนและต้องแก้ยังไง”

เธอเหลือบมองเขาและลุกขึ้นจากที่นั่ง…

อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้เตรียมตัวมาแต่อย่างใด คำตอบของเธอจึงต้องผิดอยู่แล้ว

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมโดนต่อว่า ความจริงแล้วหลังจากการประชุมจบลงเธอถูกบังคับให้ยืนอยู่ด้านหลังลู่กวงหลี “ฟังเนื้อหาการประชุมครั้งที่แล้วสามสักรอบก่อนที่เธอจะออกไปด้วย”

“ลู่กวงหลี ถ้ามีไหวพริบแค่นี้ คุณจะต้องอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตแน่”

ลู่กวงหลีเอาแต่นิ่งเงียบขณะที่คว้าสมุดของตัวเองออกจากห้องไป ทว่าในจังหวะที่เขาเดินออกไป มุมปากของเขาก็ยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

เป็นเพื่อนร่วมงานก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาจะต้องมีคนรักด้วยล่ะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+