วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 997 เธอคือคุณหนูรองตระกูลถัง

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 997 เธอคือคุณหนูรองตระกูลถัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถังอี้เฉินออกอาการฮึดฮัดออกมา เธอปิดแล็ปท็อปตรงหน้าก่อนเดินออกจากห้องไปโดยไม่ให้หันมามองหน้าลู่กวงหลี

ลู่กวงหลีมองถังอี้เฉินจากไปอย่างอึ้งๆ ก่อนจะตามเธอไปในจังหวะต่อมาและเอ่ย “เธอจะช่วยน้องสาวของเธอก็เรื่องของเธอสิ แต่อย่าเอาฉันไปเกี่ยวข้อง”

“ข้อแรกเลยนะ ลูกสาวผู้อำนวยการชวนคุณไปค่ายพักแรมด้วยกันแต่คุณก็ไม่ไปเอง นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของฉันเหมือนกัน สอง อาจารย์หมอเป็นคนพูดกับฉันเพราะเธอต้องการรู้จุดยืนของฉัน แล้วฉันก็ไม่คิดว่าการที่ฉันตอบไปอย่างนั้นจะเป็นปัญหาอะไรเลย คุณคิดว่าฉันอยากเอาคุณเข้าเกี่ยวข้องหรือยังไงกัน

ถังอี้เฉินว่าสำทับอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันรู้ว่าคุณเคยชินกับการทำตัวเย็นชาและก็ไม่มีญาติพี่น้องอยู่ที่บ้านมากนัก คุณเลยไม่เข้าใจความเป็นห่วงว่าคนที่รักจะทนทรมานแค่ไหน ฉันจะไม่โทษคุณหรอก”

“ถังอี้เฉิน ลองพูดอย่างนั้นอีกทีสิ!”

“ฉันยินดีจะพูดอีกหลายๆ ครั้งเลยค่ะ ถ้าอยากจะฟังก็ตามสบายเลย” ถังอี้เฉินพูดจบก็ผลักเขาไปด้านข้างก่อนปิดประตูด้านหลังดังลั่น

ลู่กวงหลีดูไม่พอใจนักขณะเดินออกไปเช่นกัน

หลังจากกลับมาถึงบ้านและก้าวเท้าเข้ามาในอาณาเขตของตัวเอง ลู่กวงหลีสัมผัสได้ถึงความสงบในใจ เมื่อนั่งลงครุ่นคิดถึงการกระทำของตัวเอง เขาทำรุนแรงกับถังอี้เฉินเกินไปหรือเปล่า

สิ่งที่เขาทำมันทำให้ขุ่นเคืองใจมากหรืออย่างไร

ด้วยเหตุนี้ลู่กวงหลีจึงโทรหาพี่ชายของตัวเองและเล่าเรื่องของถังอี้เฉินให้ฟัง หลังจากปลายสายได้รู้เรื่องทั้งหมด เขาทำเพียงหัวเราะออกมา “โอ๊ย ได้โปรดเถอะ ถ้าฉันเป็นผู้หญิงที่นายชอบฉันคงเกลียดนายเข้าไส้เลยล่ะ! นายเลิกแกล้งเธอไม่ได้หรือยังไงกัน”

“ฉันเหรอ แกล้งเธอเนี่ยนะ”

“นายบังคับให้เธอทำงานล่วงเวลา เพิ่มภาระงานให้เธอ แล้วยังไปทำให้เธออับอายและถูกข่มขู่อีก คิดว่ายังไงล่ะ”

ลู่กวงหลีเก็บเอามาครุ่นคิด พวกเขาก็เป็นอย่างนั้นกันมาตลอด อีกทั้งถังอี้เฉินยังเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาทำเช่นนี้ด้วย

ผู้หญิงคนอื่นไม่มีสิทธิ์แม้แต่ได้ใกล้ชิดเขาด้วยซ้ำ

“เอาน่า ไอ้น้อง ฉันจะสอนอะไรบางอย่างให้นายเอง”

ถังอี้เฉินโกรธเต็มทีเธอถึงได้ตอบโต้กลับไปรุนแรงขนาดนั้น อย่างไรเสียคงไม่มีใครชอบโดนแกล้งเหมือนอย่างที่ลู่กวงหลีทำกับเธอ เธอจึงไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว

ในเมื่อลู่กวงหลีรังเกียจที่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับเธอนัก เธอก็จะเลิกไปขอร้องอาจารย์หมอ…

หลังจากถังหนิงรู้เรื่องนี้เข้า เธอไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด คุณหนูรองตระกูลถังผู้เก่งกาจโดนกดขี่ข่มเหงถึงเพียงนี้เลยหรือ

เมื่อเธอเห็นหน้าถังอี้เฉินจึงเอ่ยกับอีกฝ่าย “มีเหตุผลจำเป็นที่อาจารย์หมอต้องเป็นคนผ่าตัดให้ฉันด้วยเหรอ”

ถังอี้เฉินอึ้งไปเล็กน้อยอย่างนึกไม่ถึงว่าถังหนิงจะได้ยินเรื่องของเธอเร็วขนาดนี้จึงบอกกลับ “เธอเป็นคนที่เชี่ยวชาญในด้านนี้คนหนึ่งเลยล่ะ…”

“พูดอีกอย่างคือหมอคนอื่นส่วนใหญ่ก็สามารถผ่าคลอดให้ฉันได้ใช่ไหมล่ะ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้เธอช่วยหรอก…” ถังหนิงว่ากับถังอี้เฉิน “ต่อให้เธอจะต้องขอให้เธอช่วยจริง เธอก็เป็นถึงคุณหนูรองตระกูลถังนะ ตามฐานะของเธอแล้ว เธอไม่ใช่คนที่ใครจะมากดขี่ข่มเหงได้ เธอไม่รู้หรือไง”

“ฉันไม่ชอบพูดถึงตัวตนของฉันในโรงพยาบาลน่ะ…”

“ต่อให้เธอไม่ชอบมัน มันก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี” ถังหนิงตอบ “เธอไม่ต้องใช้มันรังแกคนอื่นก็ได้ แต่จะปล่อยให้คนอื่นมารังแกเธอไม่ได้เหมือนกัน”

“ฉันว่าเธอคงจะทนดูฉันทำตัวขี้ขลาดแบบนี้ไม่ได้สินะ”

ถังหนิงพยักหน้ารับ

“ฉันบอกเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ แล้วว่าฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของอาจารย์ หมอคนเดิมก็สามารถทำคลอดได้เหมือนกัน เธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอก…”

อย่างไรก็ตามท่าทีของถังหนิงได้ทำให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนึกสนใจขึ้นมา ยิ่งเมื่อเขาได้ยินว่าลูกสาวของตัวเองพยายามใช้ป้าตัวเองเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัว เขายิ่งโกรธจนถึงขั้นตบหน้าเธอทันที

“นี่แกยอมลดตัวเพื่อผู้ชายคนเดียวขนาดนี้เลยเหรอ

“แกได้ไปขอให้ป้าข่มขู่ถังอี้เฉินจริงๆ เหรอ

คิดว่าคนตระกูลถังรังแกได้ง่ายๆ หรือยังไงกัน…

“อีกอย่างแกไม่รู้เหรอว่าคนที่รับการผ่าตัดคือถังหนิง ถ้ายังทำอะไรไม่คิดแบบนี้ก็ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”

หลังจากถูกตบและต่อว่า ลูกสาวผู้อำนวยการโกรธอย่างเห็นได้ชัด หากแต่ใครใช้ให้เธอไปกัดสิ่งที่เธอไม่อาจเคี้ยวได้กันล่ะ

ดังนั้นในเช้าวันถัดมา อาจารย์หมอจึงได้มาปรากฏตัวที่ห้องคนไข้ของถังหนิงด้วยตัวเองเพื่อกล่าวขอโทษ “คุณถัง ฉันไม่ได้พูดกับอี้เฉินด้วยเจตนาแอบแฝงเลยนะคะ ฉันแค่..”

“ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้วล่ะค่ะ อาจารย์หมอ พี่สาวของฉันซื่อบื้อที่ฝ่าฝืนกฎของโรงพยาบาล ฉันต้องขอโทษแทนเธอด้วยแล้วกันนะคะ! ”

ดูผ่านๆ ดูเหมือนถังหนิงจะโทษว่าเป็นความผิดของพี่สาวตัวเอง แต่คนฉลาดคงรู้ได้ว่าจริงๆ แล้วถัง หนิงกำลังล้อเลียนอาจารย์หมอที่ฝ่าฝืนกฎของโรงพยาบาลด้วยการพยายามข่มขู่ถังอี้เฉิน

“ในเมื่อทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันจะเป็นคนที่ดูแลการผ่าตัดของคุณต่อไปนะคะ…”

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันเชื่อมั่นในหมอที่ดูแลฉันอยู่ ไม่อยากจะรบกวนอาจารย์หมอหรอกค่ะ” ถังหนิงสวนกลับอย่างเย็นชา

เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้คำตอบที่ดีนักจากถังหนิง เธอได้แค่ส่งยิ้มให้และเดินจากไป ในขณะเดียวกันถังหนิงได้แสดงอำนาจเพื่อทำให้ทุกคนในโรงพยาบาลเห็นว่าอย่ามาลองดีกับคนตระกูลถัง

ทว่าในระหว่างนี้ถังอี้เฉินกำลังทำอะไรอยู่กันล่ะ เธอได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชที่รู้จักครั้งที่ยังเรียนแพทย์อยู่ หมอคนนี้เป็นคนจริงใจและไม่มีเล่ห์เหลี่ยม อย่างไรก็ตามเธอได้เปิดโรงพยาบาลของตัวเองและสิ่งอำนวยความสะดวกก็ไม่ได้ดีเท่าโรงพยาบาลทหาร

ถังอี้เฉินหันไปถามถังหนิง “เธอยอมย้ายไปที่นั่นหรือเปล่าล่ะ ฉันอยากทำทุกวิถีทางเพื่อให้มั่นใจว่าหลานฉันจะคลอดออกมาอย่างปลอดภัย”

“ในเมื่อเธอไว้ใจก็ไม่มีอะไรให้ฉันต้องกังวลหรอก” ถังหนิงตอบ

“ถ้างั้นทุกอย่างก็ง่ายขึ้นเยอะแล้วล่ะ ฉันเตรียมเอกสารลาออกไว้แล้ว ฉันว่าจะย้ายไปประจำที่นั่นน่ะ…” ถังหนิงอี้เฉินเผย “ฉันยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นแต่ก็ไม่เด็กแล้ว ฉันจะอยู่ทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรอย่างนี้ต่อไปไม่ได้หรอก”

ถังหนิงไม่เข้าใจว่าถังอี้เฉินหมายถึงอะไรเสียทีเดียว ทว่าเธอดูออกว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะปลดปล่อยบางอย่าง

หรือบางทีอาจเป็นบางคน!

ถังอี้เฉินไปยื่นเอกสารลาออกกับผู้อำนวยการหลังจากนั้นไม่นาน หากแค่เธอกลับได้ยินเสียงลูกสาวของเขาโวยวายกับพ่อของเจ้าตัว

“พ่อคะ พ่อก็ตบหนูแล้วก็ไม่ควรจะมาโมโหอะไรหนูอีกแล้วไม่ใช่เหรอคะ อีกอย่างป้าก็ไปขอโทษถังหนิงแล้วด้วย มันไม่ใช่ความผิดของเธอที่ถังหนิงไม่สำนึกเลยนะคะ แล้วโรงพยาบาลก็ทุ่มเทกับการฝึกฝนถังอี้เฉินไปมาก จะผิดอะไรที่จะให้หนูมีโอกาสสักครั้งบ้างล่ะคะ”

เลขาผู้อำนวยการได้ยินบทสนทนาทั้งหมดขณะที่มองหน้าถังอี้เฉินอย่างประหม่า

ถังหนิงอี้เฉินส่งยิ้มให้และส่ายหน้าก่อนเคาะประตูห้องทำงานที่แง้มไว้อยู่ “ขออนุญาตเข้าไปนะคะ”

“โอ้ อี้เฉิน เข้ามาสิ”

เมื่อได้รับอนุญาต เธอเดินเข้ามาด้านในก่อนวางเอกสารลาออกลงบนโต๊ะของผู้อำนวยการ

“นี่คือ…”

“ฉันคิดว่าตัวเองคงไม่เหมาะที่จะอยู่ที่โรงพยาบาลทหารต่อไปแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับการดูแลและเป็นห่วงที่มีให้มาตลอดนะคะ”

“อี้เฉิน เป็นเพราะเรื่องที่ถูกเข้าใจผิดก่อนหน้านี้เหรอ” เขาพลันถามขึ้น “เธอเห็นว่าฉันเป็นคนที่แยกแยะถูกผิดไม่ได้เหรอ เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยเข้าข้างลูกสาวของตัวเอง”

ได้ยินดังนั้น ถังอี้เฉินก็เงยหน้าขึ้นมองลูกสาวของเขา ก่อนว่าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเหยียด “ผู้อำนวยการคะ ฉันไม่ได้เป็นแค่หมอนะคะ ฉันยังเป็นคุณหนูรองตระกูลถังอีกด้วย ถ้าคนมีคนในครอบครัวของฉันต้องการความช่วยเหลือฉันจะทำทุกทางเพื่อเขาให้ถึงที่สุดค่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 997 เธอคือคุณหนูรองตระกูลถัง

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 997 เธอคือคุณหนูรองตระกูลถัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถังอี้เฉินออกอาการฮึดฮัดออกมา เธอปิดแล็ปท็อปตรงหน้าก่อนเดินออกจากห้องไปโดยไม่ให้หันมามองหน้าลู่กวงหลี

ลู่กวงหลีมองถังอี้เฉินจากไปอย่างอึ้งๆ ก่อนจะตามเธอไปในจังหวะต่อมาและเอ่ย “เธอจะช่วยน้องสาวของเธอก็เรื่องของเธอสิ แต่อย่าเอาฉันไปเกี่ยวข้อง”

“ข้อแรกเลยนะ ลูกสาวผู้อำนวยการชวนคุณไปค่ายพักแรมด้วยกันแต่คุณก็ไม่ไปเอง นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของฉันเหมือนกัน สอง อาจารย์หมอเป็นคนพูดกับฉันเพราะเธอต้องการรู้จุดยืนของฉัน แล้วฉันก็ไม่คิดว่าการที่ฉันตอบไปอย่างนั้นจะเป็นปัญหาอะไรเลย คุณคิดว่าฉันอยากเอาคุณเข้าเกี่ยวข้องหรือยังไงกัน

ถังอี้เฉินว่าสำทับอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันรู้ว่าคุณเคยชินกับการทำตัวเย็นชาและก็ไม่มีญาติพี่น้องอยู่ที่บ้านมากนัก คุณเลยไม่เข้าใจความเป็นห่วงว่าคนที่รักจะทนทรมานแค่ไหน ฉันจะไม่โทษคุณหรอก”

“ถังอี้เฉิน ลองพูดอย่างนั้นอีกทีสิ!”

“ฉันยินดีจะพูดอีกหลายๆ ครั้งเลยค่ะ ถ้าอยากจะฟังก็ตามสบายเลย” ถังอี้เฉินพูดจบก็ผลักเขาไปด้านข้างก่อนปิดประตูด้านหลังดังลั่น

ลู่กวงหลีดูไม่พอใจนักขณะเดินออกไปเช่นกัน

หลังจากกลับมาถึงบ้านและก้าวเท้าเข้ามาในอาณาเขตของตัวเอง ลู่กวงหลีสัมผัสได้ถึงความสงบในใจ เมื่อนั่งลงครุ่นคิดถึงการกระทำของตัวเอง เขาทำรุนแรงกับถังอี้เฉินเกินไปหรือเปล่า

สิ่งที่เขาทำมันทำให้ขุ่นเคืองใจมากหรืออย่างไร

ด้วยเหตุนี้ลู่กวงหลีจึงโทรหาพี่ชายของตัวเองและเล่าเรื่องของถังอี้เฉินให้ฟัง หลังจากปลายสายได้รู้เรื่องทั้งหมด เขาทำเพียงหัวเราะออกมา “โอ๊ย ได้โปรดเถอะ ถ้าฉันเป็นผู้หญิงที่นายชอบฉันคงเกลียดนายเข้าไส้เลยล่ะ! นายเลิกแกล้งเธอไม่ได้หรือยังไงกัน”

“ฉันเหรอ แกล้งเธอเนี่ยนะ”

“นายบังคับให้เธอทำงานล่วงเวลา เพิ่มภาระงานให้เธอ แล้วยังไปทำให้เธออับอายและถูกข่มขู่อีก คิดว่ายังไงล่ะ”

ลู่กวงหลีเก็บเอามาครุ่นคิด พวกเขาก็เป็นอย่างนั้นกันมาตลอด อีกทั้งถังอี้เฉินยังเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาทำเช่นนี้ด้วย

ผู้หญิงคนอื่นไม่มีสิทธิ์แม้แต่ได้ใกล้ชิดเขาด้วยซ้ำ

“เอาน่า ไอ้น้อง ฉันจะสอนอะไรบางอย่างให้นายเอง”

ถังอี้เฉินโกรธเต็มทีเธอถึงได้ตอบโต้กลับไปรุนแรงขนาดนั้น อย่างไรเสียคงไม่มีใครชอบโดนแกล้งเหมือนอย่างที่ลู่กวงหลีทำกับเธอ เธอจึงไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว

ในเมื่อลู่กวงหลีรังเกียจที่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับเธอนัก เธอก็จะเลิกไปขอร้องอาจารย์หมอ…

หลังจากถังหนิงรู้เรื่องนี้เข้า เธอไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด คุณหนูรองตระกูลถังผู้เก่งกาจโดนกดขี่ข่มเหงถึงเพียงนี้เลยหรือ

เมื่อเธอเห็นหน้าถังอี้เฉินจึงเอ่ยกับอีกฝ่าย “มีเหตุผลจำเป็นที่อาจารย์หมอต้องเป็นคนผ่าตัดให้ฉันด้วยเหรอ”

ถังอี้เฉินอึ้งไปเล็กน้อยอย่างนึกไม่ถึงว่าถังหนิงจะได้ยินเรื่องของเธอเร็วขนาดนี้จึงบอกกลับ “เธอเป็นคนที่เชี่ยวชาญในด้านนี้คนหนึ่งเลยล่ะ…”

“พูดอีกอย่างคือหมอคนอื่นส่วนใหญ่ก็สามารถผ่าคลอดให้ฉันได้ใช่ไหมล่ะ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้เธอช่วยหรอก…” ถังหนิงว่ากับถังอี้เฉิน “ต่อให้เธอจะต้องขอให้เธอช่วยจริง เธอก็เป็นถึงคุณหนูรองตระกูลถังนะ ตามฐานะของเธอแล้ว เธอไม่ใช่คนที่ใครจะมากดขี่ข่มเหงได้ เธอไม่รู้หรือไง”

“ฉันไม่ชอบพูดถึงตัวตนของฉันในโรงพยาบาลน่ะ…”

“ต่อให้เธอไม่ชอบมัน มันก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี” ถังหนิงตอบ “เธอไม่ต้องใช้มันรังแกคนอื่นก็ได้ แต่จะปล่อยให้คนอื่นมารังแกเธอไม่ได้เหมือนกัน”

“ฉันว่าเธอคงจะทนดูฉันทำตัวขี้ขลาดแบบนี้ไม่ได้สินะ”

ถังหนิงพยักหน้ารับ

“ฉันบอกเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ แล้วว่าฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของอาจารย์ หมอคนเดิมก็สามารถทำคลอดได้เหมือนกัน เธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอก…”

อย่างไรก็ตามท่าทีของถังหนิงได้ทำให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนึกสนใจขึ้นมา ยิ่งเมื่อเขาได้ยินว่าลูกสาวของตัวเองพยายามใช้ป้าตัวเองเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัว เขายิ่งโกรธจนถึงขั้นตบหน้าเธอทันที

“นี่แกยอมลดตัวเพื่อผู้ชายคนเดียวขนาดนี้เลยเหรอ

“แกได้ไปขอให้ป้าข่มขู่ถังอี้เฉินจริงๆ เหรอ

คิดว่าคนตระกูลถังรังแกได้ง่ายๆ หรือยังไงกัน…

“อีกอย่างแกไม่รู้เหรอว่าคนที่รับการผ่าตัดคือถังหนิง ถ้ายังทำอะไรไม่คิดแบบนี้ก็ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”

หลังจากถูกตบและต่อว่า ลูกสาวผู้อำนวยการโกรธอย่างเห็นได้ชัด หากแต่ใครใช้ให้เธอไปกัดสิ่งที่เธอไม่อาจเคี้ยวได้กันล่ะ

ดังนั้นในเช้าวันถัดมา อาจารย์หมอจึงได้มาปรากฏตัวที่ห้องคนไข้ของถังหนิงด้วยตัวเองเพื่อกล่าวขอโทษ “คุณถัง ฉันไม่ได้พูดกับอี้เฉินด้วยเจตนาแอบแฝงเลยนะคะ ฉันแค่..”

“ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้วล่ะค่ะ อาจารย์หมอ พี่สาวของฉันซื่อบื้อที่ฝ่าฝืนกฎของโรงพยาบาล ฉันต้องขอโทษแทนเธอด้วยแล้วกันนะคะ! ”

ดูผ่านๆ ดูเหมือนถังหนิงจะโทษว่าเป็นความผิดของพี่สาวตัวเอง แต่คนฉลาดคงรู้ได้ว่าจริงๆ แล้วถัง หนิงกำลังล้อเลียนอาจารย์หมอที่ฝ่าฝืนกฎของโรงพยาบาลด้วยการพยายามข่มขู่ถังอี้เฉิน

“ในเมื่อทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันจะเป็นคนที่ดูแลการผ่าตัดของคุณต่อไปนะคะ…”

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันเชื่อมั่นในหมอที่ดูแลฉันอยู่ ไม่อยากจะรบกวนอาจารย์หมอหรอกค่ะ” ถังหนิงสวนกลับอย่างเย็นชา

เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้คำตอบที่ดีนักจากถังหนิง เธอได้แค่ส่งยิ้มให้และเดินจากไป ในขณะเดียวกันถังหนิงได้แสดงอำนาจเพื่อทำให้ทุกคนในโรงพยาบาลเห็นว่าอย่ามาลองดีกับคนตระกูลถัง

ทว่าในระหว่างนี้ถังอี้เฉินกำลังทำอะไรอยู่กันล่ะ เธอได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชที่รู้จักครั้งที่ยังเรียนแพทย์อยู่ หมอคนนี้เป็นคนจริงใจและไม่มีเล่ห์เหลี่ยม อย่างไรก็ตามเธอได้เปิดโรงพยาบาลของตัวเองและสิ่งอำนวยความสะดวกก็ไม่ได้ดีเท่าโรงพยาบาลทหาร

ถังอี้เฉินหันไปถามถังหนิง “เธอยอมย้ายไปที่นั่นหรือเปล่าล่ะ ฉันอยากทำทุกวิถีทางเพื่อให้มั่นใจว่าหลานฉันจะคลอดออกมาอย่างปลอดภัย”

“ในเมื่อเธอไว้ใจก็ไม่มีอะไรให้ฉันต้องกังวลหรอก” ถังหนิงตอบ

“ถ้างั้นทุกอย่างก็ง่ายขึ้นเยอะแล้วล่ะ ฉันเตรียมเอกสารลาออกไว้แล้ว ฉันว่าจะย้ายไปประจำที่นั่นน่ะ…” ถังหนิงอี้เฉินเผย “ฉันยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นแต่ก็ไม่เด็กแล้ว ฉันจะอยู่ทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรอย่างนี้ต่อไปไม่ได้หรอก”

ถังหนิงไม่เข้าใจว่าถังอี้เฉินหมายถึงอะไรเสียทีเดียว ทว่าเธอดูออกว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะปลดปล่อยบางอย่าง

หรือบางทีอาจเป็นบางคน!

ถังอี้เฉินไปยื่นเอกสารลาออกกับผู้อำนวยการหลังจากนั้นไม่นาน หากแค่เธอกลับได้ยินเสียงลูกสาวของเขาโวยวายกับพ่อของเจ้าตัว

“พ่อคะ พ่อก็ตบหนูแล้วก็ไม่ควรจะมาโมโหอะไรหนูอีกแล้วไม่ใช่เหรอคะ อีกอย่างป้าก็ไปขอโทษถังหนิงแล้วด้วย มันไม่ใช่ความผิดของเธอที่ถังหนิงไม่สำนึกเลยนะคะ แล้วโรงพยาบาลก็ทุ่มเทกับการฝึกฝนถังอี้เฉินไปมาก จะผิดอะไรที่จะให้หนูมีโอกาสสักครั้งบ้างล่ะคะ”

เลขาผู้อำนวยการได้ยินบทสนทนาทั้งหมดขณะที่มองหน้าถังอี้เฉินอย่างประหม่า

ถังหนิงอี้เฉินส่งยิ้มให้และส่ายหน้าก่อนเคาะประตูห้องทำงานที่แง้มไว้อยู่ “ขออนุญาตเข้าไปนะคะ”

“โอ้ อี้เฉิน เข้ามาสิ”

เมื่อได้รับอนุญาต เธอเดินเข้ามาด้านในก่อนวางเอกสารลาออกลงบนโต๊ะของผู้อำนวยการ

“นี่คือ…”

“ฉันคิดว่าตัวเองคงไม่เหมาะที่จะอยู่ที่โรงพยาบาลทหารต่อไปแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับการดูแลและเป็นห่วงที่มีให้มาตลอดนะคะ”

“อี้เฉิน เป็นเพราะเรื่องที่ถูกเข้าใจผิดก่อนหน้านี้เหรอ” เขาพลันถามขึ้น “เธอเห็นว่าฉันเป็นคนที่แยกแยะถูกผิดไม่ได้เหรอ เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยเข้าข้างลูกสาวของตัวเอง”

ได้ยินดังนั้น ถังอี้เฉินก็เงยหน้าขึ้นมองลูกสาวของเขา ก่อนว่าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเหยียด “ผู้อำนวยการคะ ฉันไม่ได้เป็นแค่หมอนะคะ ฉันยังเป็นคุณหนูรองตระกูลถังอีกด้วย ถ้าคนมีคนในครอบครัวของฉันต้องการความช่วยเหลือฉันจะทำทุกทางเพื่อเขาให้ถึงที่สุดค่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+