ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้วบทที่ 814 ภาพกระบี่สังหารเซียน (4)

Now you are reading ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว Chapter บทที่ 814 ภาพกระบี่สังหารเซียน (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 814 ภาพกระบี่สังหารเซียน (4)

เวลานี้ กระบี่สังหารเซียนทั้งสี่เล่มได้เผยอิทธิฤทธิ์โดดเด่นเป็นพิเศษยิ่ง

ไม่เพียงแต่ภาพจะคมชัดมากเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนเป็นมุมที่แตกต่างกันได้สี่มุม

นอกจากนี้ มันก็สามารถปรับค่าให้ใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับได้ และยังสามารถจำลองน้ำเสียงและกลิ่นอายของผู้ที่พูดในภาพได้ใหม่อย่างแม่นยำอีกด้วย

มันทำให้ผู้ชมรู้สึกราวกับว่า พวกเขาได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน

และควรค่าแล้วที่มันได้รับการเรียกขานว่า เป็นสมบัติเซียนเทียนขั้นสูงสุดอย่างแท้จริง!

ในจอภาพนั้น มีชายหญิงกำลังประสานนิ้วมือเข้าด้วยกัน และมีเสียงดังออกมา

เสียงนั้นดังว่า “ข้ามั่นคงยิ่ง”

เหล่าผู้เป็นเซียนที่กำลังนั่งอยู่บนขั้นบันไดต่างมีสีหน้าท่าทีที่แตกต่างกัน

พวกเขาเพิ่งมาถึงเมื่อท่านอาจารย์ใหญ่ของพวกเขาได้เผยท่าทางชี้ชวนให้พวกเขามองไปที่กระจกเมฆนั้น…

ในขณะนั้น เซียนสตรีสองสามคนต่างก็เต็มไปด้วยอารมณ์ขณะที่เซียนบุรุษสองสามคนดูพึงพอใจ

มีเพียงสิ่งมีชีวิตหนึ่งหรือสองรายเท่านั้นที่ถือยันต์หยกเพื่อบันทึกบทเรียนการสอนภาคปฏิบัติของท่านอาจารย์ใหญ่ทางอารมณ์แห่งสามสำนักบำเพ็ญเต๋า

“เฮ้อ” นักพรตเต๋าหนุ่มที่นั่งอยู่บนที่นั่งสูงสุดหยิบองุ่นสีทองอ่อน แล้วยัดมันเข้าไปในปากของเขา

จากนั้น เขาก็กล่าวว่า “หากเจ้ามีความสามารถสักสามในสิบส่วนของเสี่ยวฉางเกิงในการพัฒนาความสัมพันธ์…

เขารู้เพียงวิธีการฝึกบำเพ็ญและฝึกบำเพ็ญตลอดทั้งวัน

เวลานี้ ในบรรดาสามสำนักบำเพ็ญเต๋านั้น โดยทั่วไปแล้ว ความแข็งแกร่งของศิษย์ในสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยของเรานั้นสูงกว่าของสำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน!

หากภัยพิบัติแห่งความเจริญรุ่งเรืองและความเสื่อมถอยของสำนักบำเพ็ญเต๋าไม่อาจพบได้ที่เหนือหัวของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยของเรา แล้วเราจะหาผู้ใดได้บ้าง? ”

นักพรตเต๋าตั๋วเปา จ้าวกงหมิง เทพธิดาจินหลิง เซียนใหญ่อู้หยุน และบรรดาเซียนมากกว่าสิบคนต่างก็ก้มศีรษะลงอย่างเห็นด้วย

เทพธิดากุ่ยหลิงกล่าวเบาๆ ว่า “ท่านอาจารย์ ตอนนั้นท่านรับศิษย์มากเกินไป และเราก็ไม่แม้แต่จะกล้ารับศิษย์ด้วยซ้ำ…”

“นั่นไม่สำคัญ” นักพรตเต๋าหนุ่มโบกมือ

จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ผู้ใดจะเป็นผู้วิเคราะห์เรื่องนี้? และวิเคราะห์ดูว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการอำลาอาลัยอาวรณ์เหนือเมฆนี้?”

พวกเขาทุกคนต่างใคร่ครวญกันอยู่พักหนึ่ง จากนั้น ตั๋วเปาก็ยิ้มและกล่าวว่า “ศิษย์จะฟังคำสั่งสอนของท่านอาจารย์”

“ดูสิ เมื่อครู่นี้ ฉางเกิงได้ให้สัญญากับอวิ๋นเซียวแล้วหรือไม่?

เมื่อคิดให้รอบคอบแล้ว เขาก็ไม่ได้ให้อะไรกับนางเลยจริงๆ

คำพูดทั้งหมดของเขามาพร้อมกับหลักฐาน

นั่นคือ เขาต้องการรอให้พวกเขาสร้างผลเต๋าแห่งการแต่งงานกัน

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งให้เข้าใจง่ายๆ ในตอนนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเขายังไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันเพียงนั้น

ทว่าไฉนอวิ๋นเซียวถึงรู้สึกสะเทือนใจซาบซึ้งได้ขนาดนี้?

เป็นเพราะศิษย์ที่มีสติปัญญาล้ำเลิศอย่างอวิ๋นเซียวไม่อาจใช้ถ้อยคำไพเราะหวานหูได้ ไม่เช่นนั้น อวิ๋นเซียวย่อมแยกแยะและรู้ถึงความแตกต่างได้ในทันที

มีเพียงการนำความคิดที่จริงใจที่สุดในใจของเขาออกมา และเผยให้อวิ๋นเซียวได้เห็นเท่านั้น จึงจะสามารถขจัดความกังวลใจของอวิ๋นเซียวได้

ตัวอย่างเช่น กงหมิง เจ้าออกไปเดินเล่นกับจินกวง เจ้าก็เพียงแค่ดูทิวทัศน์ทุกวันเท่านั้น

เจ้าเพียงไม่รู้ว่าจะมองหาความรู้สึกและพูดคุยเรื่องความรักอย่างไร? ”

จ้าวกงหมิงพลันถอนหายใจกล่าวว่า “เฮ้อ ท่านอาจารย์สั่งสอนได้ถูกต้องแล้ว

ท่านอาจารย์ ท่านเรียกพวกเรามาที่นี่เพื่อดูน้องรองของข้ากล่าวคำอำลากับฉางเกิงหรือขอรับ?

ท่านอาจารย์ พวกเขาทำอันใดกันมาก่อนหน้านี้หรือขอรับ?”

“พวกเขาดื่มสุรา พูดคุยกัน และพร่ำพลอดความรักกัน อืม เหอะ เรามาพูดเรื่องสำคัญกันดีกว่า”

นักพรตเต๋าหนุ่มวางท่า และกล่าวอย่างสงบว่า “เต๋าใหญ่ไม่เพิ่ม สวรรค์และปฐพีก็ไม่อยู่ยืนยาว

เมื่อไม่นานมานี้ ความลับแห่งสวรรค์ตกอยู่ในโกลาหล เกรงว่า บางที ภัยพิบัติครั้งใหญ่หลวงน่าจะอยู่ไม่ไกล

และภายในเวลาเพียงหนึ่งพันหรือสองพันปี ทุกคนก็น่าจะสัมผัสถึงมันได้เช่นกัน

บัดนี้ ความแข็งแกร่งของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยของเรา ไม่อาจเพิ่มขึ้นได้อีกต่อไปแล้ว

พวกเจ้าทุกคนควรคิดหาวิธีที่จะส่งเสริมผลักดันการแต่งงาน และให้ทุกคนคิดถึงเรื่องการฝึกบำเพ็ญน้อยลง

หากพวกเจ้าสับสนไม่เข้าใจ ก็ให้เตรียมของขวัญแล้วไปขอคำชี้แนะจากฉางเกิง

เมื่อเร็วๆ นี้ ข้าเพิ่งได้ไปดูว่าข้าจะสามารถหาสมบัติบางอย่างที่ทะเลโกลาหลเพื่อระงับโชคการสอนได้หรือไม่ …

กงหมิง? ส่งภาพวาดไปให้ฉางเกิงหลังจากนี้ และบอกเขาว่าเป็นอาจารย์ทำด้วยตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจให้เขามีชีวิตชีวามากขึ้น”

กล่าวจบ นักพรตเต๋าหนุ่มก็กวาดแขนเสื้อแล้วหายตัวไปในทันที

มันราวกับว่าเขาได้ลบล้างการดำรงอยู่ของเขาในภาพออกไปโดยตรงอย่างไม่เหลือร่องรอยใดๆ เลยแม้แต่น้อย

ทว่าขณะที่จ้าวกงหมิงกำลังจะยอมรับคำสั่ง เขาก็ตกใจอีกครั้งด้วยนึกถึงบางอย่างขึ้นได้

จากนั้น เขาก็รีบกล่าวว่า “แต่ท่านอาจารย์ ท่านยังไม่ได้วาดภาพให้ศิษย์ของท่านเลยขอรับ!”

บัดนั้นก็มีเสียงแค่นดังออกมาเบาๆ ดังมาจากความว่างเปล่าด้านนอกห้องโถง

“ก็แค่ไปหาผืนผ้าใบอะไรมาก็ได้ แล้วปิดผนึกด้วยกระบี่สังหารเซียนทั้งสี่เล่ม อย่าลืมเก็บพลังปราณดั้งเดิมบางส่วนของกระบี่สังหารเซียนใส่เอาไว้ให้เขาด้วย”

ในขณะนั้น ศิษย์คนโตแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยและบรรดาเซียนที่ติดตามมาเข้าร่วมในที่นี้ด้วยกัน ต่างก็มองหน้ากันและกันด้วยความสับสน

กระบี่สังหารเซียนทั้งสี่เล่มนั้น สั่นเล็กน้อย และลอยขึ้นไปอยู่กลางอากาศด้วยตัวมันเองทันที และรอให้จ้าวกงหมิงหยิบผืนผ้าใบมาห่อ พันรอบพวกมัน

ดังนั้น ในอีกครึ่งวันต่อมา…

ในห้องโถงด้านหลังของวิหารเทพทะเล

หลี่ฉางโซ่วมองไปยังกรอบภาพสมบัติที่อยู่ตรงหน้าเขา

บัดนี้หน้าผากถูกปกคลุมไปด้วยเส้นสายสีดำและถึงกับพูดไม่ออก

ท่านปรมาจารย์ทงเทียนหมายความอันใดกัน?

หลี่ฉางโซ่วมองไปที่กระบี่สังหารเซียนทั้งสี่เล่มอย่างระมัดระวัง และทันใดนั้น เขาก็รู้สึกหนาวเหน็บเยียบเย็นที่ลำคอ เส้นขนทั่วร่างของเขาพลันลุกตั้งชันสั่นยะเยือกไปทั่วทั้งร่าง

………………………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด