ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้วบทที่ 838 ปีศาจนอกอาณาเขตสวรรค์ (3)
บทที่ 838 ปีศาจนอกอาณาเขตสวรรค์ (3)
‘ข้ายังไม่อาจใจเร็วเร่งร้อนได้ ข้าต้องค่อยๆ วางแผนช้าๆ’
หลิงเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่ง และนางก็กำหมัดเล็กๆ ของนางแล้วโบกมือเบาๆ
ตรวจสอบต่อไป!
ไม่ว่าในท้ายที่สุด ข้าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม ตราบใดที่ข้าเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ตามความสามารถของข้า ข้าก็จะไม่ต้องเสียใจหากข้าล้มเหลว
เพื่อให้ท่านอาจารย์มีอายุยืนยาวนับหมื่นๆ ปี ข้าจะต้องทำ!
เพื่อศิษย์พี่ของข้ามั่นใจ และไม่ห่วงข้า ข้าจะต้องช่วยศิษย์พี่แบ่งเบาความกดดันบางส่วนให้เร็วที่สุด!
เซียนใหญ่เจิ้นหยวนมีศิษย์หญิงบ้างหรือไม่?
หลิงเอ๋อร์กะพริบตาและ เดินไปที่ขอบหน้าต่าง นางเปิดรอยแยก แล้วมองออกไปที่เมืองภายนอกหน้าต่าง
เวลานี้ นางอยู่ไม่ไกลจากภูเขาว่านโซ่วมากนัก
ที่ข้างสระน้ำบนยอดเขาเฮยฉือ ไป๋เจ๋อได้เปลี่ยนร่างเป็นร่างที่แท้จริงของเขา และมีขนนกยาวบนหัวของเขาชี้ไปที่ภาพในสระ ซึ่งสัมผัสได้ว่า หลิงเอ๋อร์จะโชคดีหรือโชคร้าย
ในไม่ช้า ไป๋เจ๋อก็กลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง และกล่าวกับหลี่ฉางโซ่วที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาว่า
“เทพวารีอย่าได้กังวลไป หลิงเอ๋อร์หาได้ตกอยู่ในภัยพิบัติไม่ และมันก็เหมือนกับสิ่งที่ทำนายไว้ทุกอย่าง”
หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าช้าๆ และกล่าวยิ้มๆ ว่า “ขอบคุณท่านไป๋ที่ดูแลให้”
“เฮ้ เพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” จากนั้นไป๋เจ๋อก็ผายมือทำท่าเชื้อเชิญ และนั่งพูดคุยเกี่ยวกับดินแดนเทวะทักษิณกับหลี่ฉางโซ่ว
หลี่ฉางโซ่วก็ยังได้เรียนรู้จากไป๋เจ๋อเช่นกัน ซึ่งเทียบเท่ากับการขอให้ไป๋เจ๋อ ‘เตรียมบทเรียน’ ให้เขา เพื่อเตรียมเนื้อหาในการเริ่มเปิดเรียนอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้
พวกเขาทั้งสองคุยกันสักพัก และไป๋เจ๋อก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “เทพวารีรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้เป็นพระอาจารย์ขององค์เง็กเซียนและองค์ราชินี?”
“ท่านอย่าใช้คำพูดเช่นนั้นเลย” หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้าเพียงทำงานปกป้องให้ร่างจำแลงแห่งภัยพิบัติขององค์เง็กเซียนและองค์ราชินี
และข้าก็ไม่ใช่พระอาจารย์ขององค์เง็กเซียนและองค์ราชินีอย่างแน่นอน!”
“ใช่ ใช่” ไป๋เจ๋อหรี่ตาลงแล้วยิ้ม “สิ่งที่เทพวารีกำลังพูดถึงก็คือ รู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นผู้พิทักษ์องค์เง็กเซียนและองค์ราชินี?”
หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ข้าเหนื่อยใจ แต่ข้าก็ไม่กล้าสอนอะไรส่งเดช สิ่งที่ข้าพูดจะถูกองค์เง็กเซียนและองค์ราชินีจดจำเอาไว้ และง่ายที่จะทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่อาจรู้
ข้าจะทำค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้นตอน เพื่อส่งเสริมการแต่งงานระหว่างคนสองคนนี้เป็นหลัก
ตอนนี้ข้าก็ยังคิดอยู่เลย รอไว้เมื่อฝ่าพระบาทเสด็จกลับสู่ศาลสวรรค์ แล้วข้าจะอธิบายให้ฝ่าบาททรงรู้ได้อย่างไรว่าเหตุใดการอภิเษกของฝ่าบาทในชาตินี้ยังคงเป็นองค์ราชินี?”
“มันไม่ง่ายเลยจริงๆ เทพวารี ท่าน…”
ไป๋เจ๋อหยุดพูดกะทันหัน พลางขมวดคิ้วและมองไปที่หลี่ฉางโซ่ว
แม้เขาจะมองไม่เห็นก็ตาม แม้สัมผัสเซียนรับรู้จะไม่อาจรับรู้ได้ แต่ในเวลานี้ ก็ดูเหมือนว่า หลี่ฉางโซ่วจะถูกห่อหุ้มด้วยอักขระเต๋าที่ตกลงมาจากฟากฟ้า
เมื่อสัมผัสได้ถึงอักขระเต๋าอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก็ดูเหมือนว่าไป๋เจ๋อจะหลุดเข้าไปสู่แดนโกลาหลและไร้ขอบเขต และร่างของเขาก็เป็นดั่งเม็ดทราย แล้วเขาก็รู้สึกว่าโลกนี้มีความจริงมากมายนับไม่ถ้วนและความลึกลับอันไร้ที่สิ้นสุด
อักขระเต๋าจอมปราชญ์!
ดวงตาของไป๋เจ๋อฉายรอยแห่งความสงบสุขเล็กน้อย เขารู้ว่านี่ต้องเป็นจอมปราชญ์ไท่ชิงที่คุยกับหลี่ฉางโซ่ว และเขาก็ไม่อาจอิจฉาได้ เขาทำได้เพียงคิดตามเทพวารีไปและใช้ชีวิตของเขาเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่ฉางโซ่วก็ลืมตาขึ้นมา และหายใจออกมาช้าๆ
“ท่านไป๋ ท่านรู้หรือไม่ว่าปีศาจนอกอาณาเขตมีความสามารถอะไรบ้าง?”
“หือ?” ไป๋เจ๋ออดจะตกใจไม่ได้
ในขณะนี้ มีจักรวาลโกลาหลเกิดขึ้นบนยอดเขาหยกน้อยเล็กน้อย และอักขระเต๋าของสมบัติเซียนเทียนทั้งสองก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋เจ๋อกล่าวทันทีว่า “ปีศาจนอกอาณาเขตไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในโลกบรรพกาล ส่วนใหญ่มาตามหลังเทพอสูรเซียนเทียนก่อนการสร้างโลก
พวกเขามีความหลากหลาย ที่มีต่อโลกก่อนประวัติศาสตร์และสิ่งมีชีวิตในโลกก่อนประวัติศาสตร์เขาเป็นคนทรยศและโหดร้ายและรู้เพียงการทำลายล้างโดยตั้งใจที่จะทำให้โลกก่อนประวัติศาสตร์กลับคืนสู่ความสับสนวุ่นวาย
พวกมันมีความเปลี่ยนแปลงมากมาย พวกมันฉลาดแกมโกงและโหดร้ายต่อโลกบรรพกาลและสิ่งมีชีวิต และพวกมันก็รู้เพียงวิธีทำลายล้างเท่านั้นโดยตั้งใจจะทำให้โลกบรรพกาลกลับคืนสู่โกลาหล
นับตั้งแต่เริ่มกำเนิดของโลก ก็มีการต่อสู้เกิดขึ้นในระหว่างสิ่งมีชีวิตบรรพกาลและปีศาจนอกอาณาเขตในโลกบรรพกาล แต่ปีศาจนอกอาณาเขตงนั้นมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีในคราวเดียว
“เทพวารี ว่าแต่สงครามในเมืองเสวียนตูนั้นตึงเครียดหรือไม่? ท่านจำเป็นต้องให้เราไปช่วยเหลือด้วยหรือไม่? ”
“ศิษย์พี่ใหญ่อยู่ในเมืองเสวียนตู เขาจัดการรับมือได้” หลี่ฉางโซ่วกล่าวและแบมือซ้ายของเขา ทันใดนั้นเมฆหมอกก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น แล้วมีภาพพร่ามัวปรากฏขึ้นอยู่ภายในนั้น…
เมืองโบราณแห่งหนึ่งลอยอยู่ในความว่างเปล่า และล้อมรอบไปด้วยหมอกหนาสีเทา
ในขณะนั้น มีเงาดำมากมายนับไม่ถ้วนกำลังพุ่งออกมาจากหมอก พวกมันไร้ขีดจำกัดและไม่กลัวความตายในขณะที่รีบพุ่งตัว มุ่งหน้าตรงไปที่ชานเมืองโบราณแห่งนี้
ทั่วทุกแห่งในเมืองโบราณล้วนเปล่งแสงเจิดจ้า และมีค่ายกลใหญ่อยู่มากมายนับไม่ถ้วนที่กำลังเปิดดำเนินการอยู่ และมีเงาดำที่มีรูปร่างไม่อาจมองเห็นได้ชัดเจนเป็นกำแพงแสงที่กระทบกับค่ายกลใหญ่เหล่านี้
ในใจกลางเมืองโบราณนั้น มีกระแสวังวนหลากสีสัน ซึ่งนั่นคือทางเข้าสู่โลกบรรพกาล
ภายในค่ายกลนั้น จะสามารถมองเห็นร่างที่กำลังบินไปรอบๆ พวกมันกำลังซ่อมแซมช่องโหว่ในค่ายกลนั้นอย่างต่อเนื่อง และซัดลำแสงเจิดจ้าออกมา พุ่งตรงไปยังโลกภายนอก
สถานการณ์สงครามทั่วไปมีเสถียรภาพ
จู่ๆ หมู่เมฆสีเทารอบนอกก็สั่นสะเทือน และสัตว์ขนาดยักษ์สีดำที่ไม่รู้จักก็บินออกมาจากทะเลโกลาหลและพุ่งตรงเข้าสู่ค่ายกล ฉีกแยกช่องว่างด้านซ้ายของเมือง
ทันใดนั้น เงาดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็รุมเข้ามาจากช่องว่าง
เมืองโบราณปะทุไปด้วยกระแสแสงในขณะที่ทหารอีกกลุ่มหนึ่งก็บินออกมาจากเมืองและกวาดล้างเงาดำส่วนใหญ่เหล่านั้นออกไปโดยตรง
แต่ในการสู้รบที่โกลาหลนั้น ก็ยังคงมีเงาดำหลายสิบมารวมตัวกัน แล้วรีบพุ่งเข้าเข้าไปในกระแสวังวนหลากสีสันนั้น
มีสายฟ้าฟาด และฟ้าแลบแปลบปลาบอยู่ภายในกระแสวังวนนั้น!
เมื่อเงาดำจำนวนมากพุ่งเข้าสู่รอยแยกในค่ายกล และเสี้ยวพลังปราณสีขาวและสีดำสองสายก็ปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆ และหลอมละลายเงาสีดำตรงหน้ารอยแยกในค่ายกล…
ในทันใดนั้นแผนภาพไท่จี๋ที่เป็นสมบัติเซียนเทียนก็ได้ปรากฏขึ้น และครอบคลุมเมืองโบราณอย่างสมบูรณ์!
ระหว่างพลังแห่งหยินและหยาง สัตว์ร้ายยักษ์สีดำสนิทที่ไม่รู้จักเหล่านั้นก็ระเบิดออกทันที…
บัดนั้นร่างของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ยืนอยู่อย่างภาคภูมิใจที่ด้านหน้าเมือง และร่างต่างๆ ในเมืองก็ล้วนโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด
เพียงขณะที่มีคนกำลังจะหันหลังกลับและไล่ตามเงาดำที่หลบหนีไปก่อนหน้านี้ ก็มีหนวดสัมผัสหลากสีสันสดใสโผล่ออกมาจากท่ามกลางพลังลมปราณสีเทาทั่วทุกทิศทาง…
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่หันกลับมาแล้วกล่าว
“ไม่ต้องไล่ล่าพวกมัน จะมีคนจัดการดูแลพวกมันและซ่อมแซมค่ายกลอย่างรวดเร็วเอง ได้เวลาเผชิญคู่ต่อสู้ที่หนักหนาสาหัสแล้ว”
ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไปทันที
เงาดำมาจากความว่างเปล่า และปะทะเข้ากับโลกเล็กๆ และแคบ แล้วตามมาด้วยสายฟ้าเทพสวรรค์ม่วง!
ดูเหมือนว่า สายฟ้าเทพสวรรค์นี้จะสามารถทำลายล้างโลกใบเล็กๆ นี้ให้เป็นชิ้นๆ ได้ทันที
แต่สายฟ้านั้นก็สั่นเล็กน้อยและกลายเป็นม่านสายฟ้าวิจิตรตระการตาที่เข้าห่อหุ้มโลกใบเล็กนี้เอาไว้ราวกับกรงขัง
………………………………………………………………..
Comments