ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว 163 เหตุใดเทพแห่งท้องทะเลถึงอยู่ที่นี่ (1)

Now you are reading ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว Chapter 163 เหตุใดเทพแห่งท้องทะเลถึงอยู่ที่นี่ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 163 เหตุใดเทพแห่งท้องทะเลถึงอยู่ที่นี่ (1)
“เจ้าและปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตู นับได้ว่ามีชะตาต้องกัน อย่างน้อยๆ ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูก็รู้จักนามของเจ้า นี่อาจเป็นโอกาสของเจ้าในอนาคต”

นักพรตเต๋าจี้อู๋โหย่วกล่าวเบาๆ ขณะที่ดวงตาฉายแววอิจฉาออกมาเล็กน้อย

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก…

กลายเป็นว่าเขากำลังพูดถึงรูปปั้นดินเหนียวครองคู่และโอสถวิญญาณหยางหกแปรเปลี่ยน

หลี่ฉางโซ่วยังคงเงียบงันและก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม

ความจริงแล้ว ไม่เพียงแต่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูจะรู้จักนามของหลี่ฉางโซ่วเท่านั้น แต่ยังผลักภาระยิ่งใหญ่มหาศาลมาวางไว้บนบ่าของเขาอีกด้วย และจากนั้น…

ก็ไร้ข่าวคราวใดๆ จากเขาอีกต่อไป…

นักพรตเต๋าจี้อู๋โหย่วถอนหายใจอีกครั้งและกล่าวว่า “ฉางโซ่ว ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่คือ ผู้ทรงพลังไร้ผู้เปรียบปานได้ แม้ข้าจะเป็นเจ้าสำนักตู้เซียน ผลเต๋าอายุยืนและฐานพลังปราณของข้าก็ช่วยให้ข้าไม่อาจถูกทำลายได้ด้วยภัยพิบัติขนาดเล็กเท่านั้น แต่ข้ายังอ่อนด้อยกว่าผู้ทรงพลังแข็งแกร่งเช่นนั้นหลายพันเท่า เซียนจินก็เป็นเพียงเท่านี้ *แค่กๆ*!”

หลี่ฉางโซ่วรีบถามอย่างเป็นห่วงว่า “ท่านเจ้าสำนัก ท่านยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บหรือขอรับ?”

“ไม่เป็นไร แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ข้าจะฟื้นตัวได้เองภายในอีกไม่กี่ร้อยปี” นักพรตเต๋าจี้อู๋โหย่วโบกมือและถอนหายใจ “เจ้าอยู่ที่นี่เถิด ข้าจะไปดูรอบๆ เฮ้อ ข้าไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น หลายปีมานี้ สำนักบำเพ็ญเต๋าหยินมีหลายสำนักที่ไม่อาจควบคุมการมีคู่บำเพ็ญเต๋าได้”

หลี่ฉางโซวถึงกับเงียบงันทันที

ท่านไม่เคยสงสัยและรู้สึกว่ามีกลิ่นทะแม่งๆ ในเรื่องนี้บ้างเลยหรือ?

เมื่อมองไปทางด้านหลังของท่านเจ้าสำนักที่จากไปแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

จะเกิดอันใดขึ้น หากปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพประสงค์ให้ข้าคิดหาวิธีหยุดความขัดแย้งระหว่างสองสำนักบำเพ็ญเต๋าที่เหลือ เจ้าสำนักย่อมจะเป็นตัวเลือกที่ดี… ที่จะพูดออกมาแทนข้า!

จิ่วอูและจิ่วจิ่วก็อยู่บนเรือสมบัติเช่นกัน แต่เหล่าผู้ดูแลระดับบริหารและเซียนเสิ่นซึ่งมากับพวกเขาต้องคอยเฝ้าระวังและสังเกตการณ์ทุกพื้นที่ในเรือสมบัติ จึงไม่ได้ก้าวออกมาทักทายหลี่ฉางโซ่ว

นอกจากอาจารย์ลุงจิ่วอูแล้ว ยังมีผู้ดูแลระดับบริหารจากยอดเขาตันติ่ง หลิวเฟยเซียน…

ต่อจากนี้ หากเขาต้องการให้เจ้าสำนัก พูดแทนเขาในภายหลังจริงๆ หลี่ฉางโซ่วจะแจ้งให้ท่านอาจารย์ลุงจิ่วอูรับรู้และขอให้เขาช่วยจัดการกับหลิวเฟยเซียน จากนั้นเขาก็จะให้หลิวเฟยเซียนไปขอคำแนะนำจากเจ้าสำนัก

เปรียบวงแหวนเป็นดั่งด่านปราการป้องกัน[1] ตราบเท่าที่หลี่ฉางโซ่วมั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหา ยิ่งเขามีปราการป้องกันมากชั้นเท่าใด เขาก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น

หากเขาไม่ทำเช่นนี้ เขาจะต้องก้าวออกไปโน้มน้าวใจเขาด้วยเหตุผลหรือไม่?

ในการประชุมขนาดใหญ่เช่นนี้ แม้แต่เหล่าเซียนเทียนธรรมดาก็ยังไม่มีโอกาสได้เอ่ยวาจา

หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างสองสำนักในขณะที่อยู่ดีๆ ก็มีศิษย์น้อยไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งก้าวออกมากล่าววาจาอวดดี โจมตีทั้งสามสำนัก ซึ่งดำรงอยู่ในสามอาณาจักรมาตั้งแต่ยุคโบราณ… มันคงเป็นเรื่องน่าขบขันยิ่งที่จะสามารถจัดการได้ด้วยเพียงเจ้าเด็กทะลึ่งหยาบคายไร้ยางอายผู้หนึ่งเท่านั้น!

เขาคิดว่าก่อนจะจบประโยคทั้งหมด เหล่าปรมาจารย์อาวุโสผู้เหี้ยมโหดอารมณ์ร้ายจากทั้งสามสำนักจะตบเขา และหลังจากตบเขาจนตาย ก็จะก่นด่าสาปแช่งว่า

“เจ้าศิษย์น้อยช่างดื้อด้านอะไรเช่นนี้!”

ดังนั้น เขาย่อมไม่อาจปรากฏตัวขึ้นโดยตรง

ทั้งยังไม่อาจจัดการกับเรื่องนี้อย่างรุนแรงได้

หลี่ฉางโซ่วจึงทำได้เพียงสัญญาว่าหากสองปรมาจารย์จากทั้งสองสำนักต่อสู้กันจริงๆ เขาจะเตือนศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินก่อนจะวิ่งหนีและตะโกนเรียกชื่อปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูดังๆ ในใจ

หลังจากที่เรือสมบัติลำนี้เข้าสู่ดินแดนเทวะมัชฌิมาแล้ว มันก็บินสูงขึ้นอีกเล็กน้อยและวางสัญลักษณ์ของสำนักตู้เซียนบนหัวเรือ จากนั้นเจ้าสำนักก็แผ่ลมปราณเซียนออกมา

ถึงกระนั้น เมื่อต้องเผชิญกับภูเขาและทะเลสาบที่ถูกล้อมรอบด้วยค่ายกลขนาดใหญ่อย่างเห็นได้ชัด เรือสมบัติของสำนักตู้เซียนก็จะต้องเบี่ยงอ้อมออกไปก่อน

สำนักตู้เซียนค่อนข้างเป็นที่รู้จักในดินแดนเทวะบูรพา แต่เมื่อมาถึงดินแดนเทวะมัชฌิมา ซึ่งเป็นดั่งที่อยู่ของหมู่มังกรที่มีเหล่าปรมาจารย์น่าเกรงขามและน่าทึ่งอย่างยิ่ง สำนักตู้เซียนจึงเป็นเพียงสำนักเซียนชั้นกลางเท่านั้น ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มชั้นกลางระดับล่างในหมู่สำนักเซียนภายใต้สามสำนักใหญ่

นั่นคือเป็นเพียงผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งเล็กน้อยและมีภาพลักษณ์ของศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน

เรือสมบัติยังคงขับเคลื่อนต่อไปโดยล่องลอยไปทางทิศตะวันตกตามเส้นทางเมฆ และทำให้หลี่ฉางโซ่วซึ่งมาที่ดินแดนเทวะมัชฌิมาเป็นครั้งแรก ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว

มันเคลื่อนผ่านเมฆ ข้ามขอบฟ้าไปพร้อมกับจันทราและดวงดารา

แม่น้ำฮั่นเต็มไปด้วยควันพวยพุ่งและสายน้ำเชี่ยวกราก

ควรกล่าวถึง… ความจริงที่ว่า ในวันนั้น เจ้าสำนัก ได้ตัดสินใจยอมสละห้องชุดของเขาเพื่อให้ศิษย์เยาว์สองคนได้จัดการกับเรื่องเร่งด่วน และข่าวชิ้นนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งสำนักตู้เซียน

โชคดีที่ในวันนั้นไม่มีเรื่องน่าขบขันอื่นใด และเรือสมบัติก็ไม่ได้สั่นคลอนมากมาย

หลังจากได้รับยาแก้พิษแล้ว หวางฉีและหลิวเหยียนเอ๋อร์ก็ซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งด้วยอับอายยิ่งนักจนไม่กล้าพบพานผู้ใด

หลังจากบินขึ้นไปในอากาศเป็นเวลายี่สิบเอ็ดวัน ในที่สุด เรือสมบัติของสำนักตู้เซียนก็แล่นไปถึงจุดหมายในบริเวณที่อยู่ห่างจากสำนักจินกงเป็นระยะทางสามหมื่นลี้ในขณะที่เส้นทางเมฆบนท้องฟ้าค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้น และยังมีบางอย่างแปลกๆ…

มีวิหคยักษ์ที่มีปีกกางออกกว้างนับพันจั้งบินข้ามไปบนท้องฟ้าอย่างช้าๆ

ยังมีคนที่ใช้ภูเขาทั้งลูกเป็นเรือสมบัติ ภูเขาถูกล้อมรอบด้วยแสงเซียน และทำลายเมฆขาวอย่างต่อเนื่อง …

เมื่อหลี่ฉางโซ่วเห็นเช่นนั้น เขาก็แอบสังเกตอยู่พักหนึ่ง

นั่นคือต้นแบบที่สมบูรณ์ของแผนพเนจรแห่งยอดเขาหยกน้อย!

ในขณะที่พวกเขายังอยู่ห่างจาก ‘สถานที่’ ของการประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋าไปแปดพันลี้ ก็สามารถเห็นผู้คนจำนวนมากบนเส้นทางเมฆแล้ว

แม้จะเหลือเวลาอีกครึ่งปีก่อนการประชุม แต่สำนักเซียนจำนวนมากก็เลือกจะมาที่นี่ก่อนเวลาล่วงหน้าครึ่งปีเพื่อแสดงว่าพวกเขาเห็นความสำคัญของการประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋า

เมื่อเรือสมบัติของสำนักตู้เซียนอยู่ห่างจากสถานที่ไปเพียงพันลี้… พวกเขาก็พบกับการจราจรหนาแน่นบนหมู่เมฆอย่างไม่คาดคิด

หลี่ฉางโซ่วกวาดสัมผัสเซียนรับรู้ออกไปสำรวจสถานที่จัดการประชุมครั้งนี้

มันเป็นแอ่งราบลุ่มทรงกลมที่มีรูปทรงปกติซึ่งดูเหมือนจะถูกโจมตีด้วยพลังเวท

ที่ด้านล่างของแอ่งมีทะเลสาบที่เต็มไปด้วยแสงวิญญาณ และมีเหล่าแท่นดอกบัวสีทองลอยอยู่บนผิวน้ำ

ที่ริมทะเลสาบโดยรอบ มีเบาะรองนั่งสมาธิมากมายวางกระจายอยู่รอบๆ เมื่อมองดูไกลๆ แผนผังวางของเบาะนั่งเหล่านี้โดยรวม ดูคล้ายกับดอกบัวเบ่งบาน…

การประชุมครั้งนี้จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมจากสำนักเซียนต่างๆ และจำนวนผู้เข้าร่วมของแต่ละสำนักเซียนต้องไม่เกินหนึ่งร้อยคน ดังนั้นกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดของสำนักตู้เซียนจึงมีทั้งหมดเก้าสิบเก้าคน

การประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋าจัดขึ้นร่วมกันโดยห้ากลุ่มสำนักเต๋า มีอยู่สองกลุ่มที่อยู่ภายใต้สำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย สองกลุ่มภายใต้สำนักบำเพ็ญเต๋าฉานและอีกหนึ่งกลุ่มภายใต้สำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน

แม้ว่าสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินจะมีเพียงหกสำนักเซียน แต่บริเวณพื้นที่ที่นั่งซึ่งที่จัดสรรไว้ให้สำหรับทั้งหกสำนักเซียนภายใต้สำนักบำเพ็ญเต๋าหยินได้ครอบครองนั้น ก็คิดเป็นหนึ่งในหกของพื้นที่ทั้งหมด

ดังนั้นแม้แต่สำนักตู้เซียนซึ่งไม่แข็งแกร่งพอก็ยังสามารถมีจุดชมวิวทิวทัศน์ที่ดีได้ พวกเขาได้นั่งใกล้กับทะเลสาบวิญญาณมาก

ในขณะนี้ เรือสมบัติของสำนักตู้เซียนยังคงอยู่ห่างออกไปจากสถานที่หลายร้อยลี้ ชั่วขณะนั้นก็มีร่างคนมากกว่าสิบคนกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ก้อนเมฆเพื่อทำการต้อนรับ

………………………………………………………………………..

[1] หมายถึงว่า เพื่อการปกปิดตัวตนของหลี่ฉางโซ่ว เขาจะอาศัยคนอื่นๆ เป็นคนในปราการวงนอกรอบกายเขา ให้คอยกระทำการต่างๆ ออกหน้าแทนเขาไปเรื่อยๆ เหมือนเกราะป้องกันตัว ยิ่งมีมากชั้นเท่าใด หลี่ฉางโซ่วซึ่งอยู่ด้านในสุด ก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *