สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! 66.3 เห็นหมดแล้ว (ยอดเยี่ยม) (3)
“เอ้อ”
เมื่อเป็นสาวน้อยแสนบริสุทธิ์ เล่อเหยาเหยาที่เจอสถานการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรกจึงต้องยกมือขึ้นปิดเป็นแน่
อันที่จริงก่อนนี้บิดาเคยสอนว่า เมื่อเห็นสะโพกของผู้ชายจะเป็นตากุ้งยิง!
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอไม่เห็นเพียงสะโพก แต่ร่างกายท่อนบนล่างของเขาล้วนเห็นอย่างชัดเจน
สวรรค์ เธอต้องเป็นตากุ้งยิงนานแน่นอน!
เล่อเหยาเหยาอุทานในใจ แต่เธอตอนนี้เรื่องที่เธอสามารถทำได้ไม่ใช่ปกปิด
เพราะตอนนี้เธอเป็นขันที!
ดังนั้นแม้ในใจจะคับแค้นและอับอายเพียงใด แต่เธอต้องพิชิตอุปสรรคในใจให้ได้ เป็นขันทีที่ทำในเรื่องที่ควรทำ
นั่นคือปรนนิบัติเจ้านายของตนให้ดี!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สายตาเล่อเหยาเหยามองยังชายหนุ่มจึงเป็นประกาย สีหน้าที่เคยตกตะลึงถูกแทนที่ด้วยความร้อนแรง
ไม่รู้ว่าเวลานี้เธออับอายและตื่นเต้นมากกว่ากัน หรือตั้งตารอคอย…(เล่อเหยาเหยาหลอกลวง พูดเช่นนี้แสดงว่าเขาไม่เข้าใจสาววัยทอง!? เพราะเหตุใดทำสายตารอคอยเช่นนี้ออกมาต่อหน้าผู้ชาย!? น่าโมโห! เสี่ยวจุย โอ๊ย…ความหลอกลวงถูกตบไปแล้ว)
ดังนั้นสุดท้ายเล่อเหยาเหยาถึงลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นยื่นมือสั่นเทาสองข้างออกไป พยายามอย่างหนักที่จะไม่มองขาของชายหนุ่มนั้น และขยับไปที่ด้านหน้าขาของชายหนุ่ม
เห็นเพียงขาทั้งสองข้างของชายหนุ่มเรียวยาวอย่างยิ่ง ตรงกลางที่เลือนลางดูคล้ายทรงพลังอย่างไร้ขีดจำกัด
สีผิวน้ำตาลดูแข็งแรง ยังมีขนหน้าแข้งที่หงิกงอบนขา
ชายงามคือชายงาม แม้กระทั่งขาล้วน น่าสัมผัสเช่นนี้
ขณะที่เล่อเหยาเหยาทอดถอนใจ มือทั้งสองข้างนวดอยู่บนขาของชายหนุ่ม
แม้จะพูดว่าก่อนหน้านี้บ้านของพวกเขาจะรำ่รวยชั่วข้ามคืน มีเงินทองมากมาย แต่บิดาเธอกลับชอบให้เธอช่วยนวด
เธอรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่บิดาอยากทำเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของบิดาและลูกสาว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไร เริ่มช่วยบิดานวดทันที
ดังคำพังเพยที่ว่าความชำนาญเกิดจากการปฏิบัติ ฝีมือการนวดของเธอเกิดจากการฝึกฝนเช่นนี้! ทุกครั้งบิดาเธอล้วนยกมือให้กับฝีมือการนวดที่ยอดเยี่ยมของเธอ กระทั่งเอ่ยพูดว่าขาดหมอนวดที่เชี่ยวชาญในร้านสปาฝีมือสู้เธอไม่ได้
ดังนั้นเล่อเหยาเหยาจึงมั่นใจในฝีมือการนวดอันยอดเยี่ยมของตนอย่างมาก
เธอจึงเริ่มลงมือนวดพลางแอบมองสีหน้าของพญายม เพื่อดูว่าน้ำหนักการนวดถูกใจพญายมหรือไม่
เห็นชัดว่าพญายมรู้สึกไม่เลวเลย
เพราะเล่อเหยาเหยาสังเกตได้ว่า พญายมที่สีหน้าราวน้ำแข็งพันปี ค่อยๆ มีความอบอุ่นเพิ่มมากขึ้น
กระทั่งคิ้วที่ปกติขมวดอยู่ทุกเวลา เวลานี้ทั้งหมดกลับคลายออก
เมื่อเห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาจึงสุขใจอย่างยิ่ง
อันที่จริงเวลานี้เธอเป็นขันทีข้างกายพญายม ทั้งยังต้องปรนนิบัติรับใช้เขาหนึ่งเดือน นั่นจึงหมายความว่าศีรษะเธอพร้อมจะหลุดได้ทุกเวลา หากวันใดทำให้พญายมไม่พอใจ ชีวิตเธอรักษาไว้ไม่ได้แน่
แต่ถ้าเธอทำได้ดี ปรนิบัติรับใช้พญายมอย่างดี วันหน้าหากเธอทำผิดอะไรขึ้นมา พญายมอาจจะไม่สังหารเธอ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้!
ในใจเล่อเหยาเหยาเต้นตึกตักราวดีดลุกคิด นอกจากนี้น้ำหนักบนมือดูจริงจังหนือหน้าที่ เพราะเพื่อชีวิตเล็กๆ ของตน เธอจึงนวดให้เขาอย่างสุดฝีมือ
แม้บิดาเธอ ยังไม่เคยได้รับการนวดที่จริงจังเช่นนี้มาก่อน!
ทว่าขณะที่เล่อเหยาเหยากำลังจะหมุนตัวไปทุ่มเทเอาใจปรนนิบัติพญายม กลับไม่รู้สึกตัวเลยว่าพญายมที่นอนหลับตาพักผ่อนอยู่บนพื้น ได้หรี่ดวงตาแคบยาวคู่นั้นขึ้นเล็กน้อย มองยังคนร่างเล็กที่นั่งอยู่บริเวณขาของตนอยู่เงียบๆ
ไม่รู้ว่าเพราะไอน้ำหรือสิ่งใด
จึงเห็นเพียงขันทีน้อยที่นั่งอยู่ด้านข้างขาตน แก้มสองข้างที่เดิมทีขาวนวลอมชมพู ค่อยๆ แดงก่ำขึ้นมา
ทำให้เธอดูราวลูกท้อที่เพิ่งสุกงอม ช่างดึงดูดผู้คนยิ่งนัก!
ชุดขันทีสีน้ำเงินเข้มเมื่อสวมอยู่บนตัวเขากลับดูหลวมโพก ไม่รู้เพราะร่างกายของขันทีน้อยด้านข้างที่เล็กเกินไปหรือเพราะอันใด ชายหนุ่มเห็นแล้วอดขมวดคิ้วงามเล็กน้อยไม่ได้
เพียงคิดว่าขันทีน้อยตรงหน้านี้ตัวเล็กเกินไปจริงๆ ต้องได้รับการบำรุง
มิฉะนั้นต่อไปคนอื่นเห็นเข้า จะคิดว่าเขานั้นโหดร้ายกับบ่าวรับใช้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋ไม่เอะใจเลยว่าตนคล้ายใส่ใจขันทีน้อยมากเกินไปแล้ว
นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยมีมาก่อน
เขาเวลานี้ คิดเพียงว่าสบายอย่างมาก สบาย…มากจริงๆ!
เมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่อ่อนนุ่มเหมาะสมบนขา เหลิ่งจวิ้นอวี๋รู้สึกสบายจนแทบอุทานออกมา พร้อมทั้งรู้สึกแปลกใจกับขันทีน้อยที่อยู่ข้างกายตน
อันที่จริงมือคู่นั้นเห็นชัดเจนว่ามีขนาดเล็กมาก คล้ายออกแรงจับมากเกินไปจะหักทันที แต่พลังนั้นกลับราวฟ้าประทาน
ไม่เพียงเท่านี้ สิ่งที่ทำให้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋ประหลาดใจที่สุดคือมือเล็กที่อ่อนนุ่มคู่นั้น บ่าวรับใช้มีมือเช่นนั้นจริงหรือ!?
แม้เขาจะเกิดมามีชีวิตหรูหรา แต่ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว
คล้ายครั้งแรกที่ถูกอาจารย์นำตัวไป จากนั้นอาศัยอยู่บนเขาเทียนซาน ขณะนั้นไม่ว่าซักเสื้อผ้าทำอาหาร ซ่อมแซมเสื้อผ้าหอบน้ำพวกนี้ ล้วนเป็นเขาคนเดียวที่ทำ ดังนั้นฝ่ามือที่ละเอียดเกลี้ยงเกลา เมื่อทำงานหนักพวกนั้นจึงค่อยๆ เกิดรังไหมขึ้น
ต่อมายังฝึกวิทยายุทธ ถือดาบกวัดแกว่งกระบี่ ฯลฯ กลางฝ่ามือของเขาที่เสียดสีกับผิวหนังของตน จนรู้สึกหยาบกระด้างยิ่งนัก
แต่นี้ถือเป็นเรื่องปกติ!
ทว่าเพราะเหตุใดขันทีน้อยผู้นี้ ฝ่ามือของเขากลับอ่อนนุ่มเช่นนี้ เขาไม่ใช่มาจากครอบครัวที่ยากจนหรือ!? ตามหลักการแล้วเรื่องนี้ถือว่าผิดปกติ
เหลิ่งจวิ้นอวี๋เป็นคนมีความคิดที่ละเอียดรอบคอบ แม้จะเพลิดเพลินจากการนวดของเล่อเหยาเหยา กลับไม่ลืมที่จะไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างละเอียด
อาจเพราะสายตาเขามีความสงสัยรุนแรงขึ้นทุกขณะ เล่อเหยาเหยาที่ทุ่มเทความคิดทั้งหมดไปที่ขาของเขาจึงรู้สึกตัวขึ้น
พร้อมรับรู้ได้ถึงสายตาที่แฝงความสงสัยของพญายม ราวกับพบเจออะไรบางอย่าง ทำให้เล่อเหยาเหยาพลันตกใจ จนใจเต้นระรัว
ในใจหวาดกลัวเล็กน้อย จนเผลอลงน้ำหนักในมือมากขึ้น
สวรรค์!
เพราะเหตุใดพญายมจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนี้!?
หรือว่าเขาจะสังเกตถึงอะไรบางอย่าง!?
แต่เธอคล้ายไม่ได้เผยพิรุธอะไรออกมา!?
หรือเขาจะมีดวงตาที่มองทะลุได้ จึงเห็นว่าเธอมีสถานะเป็นผู้หญิง!?
หากเป็นเช่นนี้ จากที่เสี่ยวมู่จื่อเคยพูดถึงระดับความเกลียดชังของพญายมที่มีต่อผู้หญิง ถ้าพญายมรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงอาจคิดว่า เธอคลั่งหนุ่มรูปงามหรือมีจุดประสงค์ไม่ดีบางอย่างถึงเข้ามาใกล้ชิดเขา!?
เมื่อถึงตอนนั้น หากเขาโมโหขึ้นมาจะทำเช่นไร!?
น่าจะรู้ดีว่าเมื่อพยายมโมโห ผลลัทธ์ที่ตามต้องหนักหนาเป็นแน่!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เล่อเหยาเหยาอกสั่นขวัญแขวน และเปลี่ยนจากการช่วยนวดให้พญายม เป็นบีบเนื้อบนขาของเขาแน่นโดยไม่รู้ตัวในที่สุด
Comments