สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 10 294 เชื้อเชิญให้ทรยศ

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 10 294 เชื้อเชิญให้ทรยศ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อไม่มีหมูน้อยกลไกนำทาง เยี่ยโยวเหยา มู่หรงฉี และจอมวายร้ายไป๋เฉ่า ทั้งสามคนก็เหมือนคนไร้ทิศทาง

จอมวายร้ายไป๋เฉ่ายังพยายามคิดหาวิธีตามหมูน้อยกลไกกลับมา มู่หรงฉีกับเยี่ยโยวเหยาไปสำรวจที่หุบเขาอีกครั้งเพื่อตรวจดูว่าพบอันใดบ้าง

“อู๊ด! ” ทันใดนั้นจอมวายร้ายไป๋เฉ่าก็ลืมตาทั้งคู่ขึ้น

มู่หรงฉีกับเยี่ยโยวเหยาหันหน้ามาพร้อมกัน

“จอมวายร้าย เป็นเช่นไร? ” มู่หรงฉีถาม

เมื่อจอมวายร้ายไป๋เฉ่าเห็นแววตาสงสัยของเยี่ยโยวเหยา จึงจงใจวางท่าไม่พูดเพื่อให้อีกฝ่ายกังวลใจ เขาแบมือออก หมูน้อยกลไกที่ไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใดพลันตกลงบนมือของเขา

“หึๆ กลับมาแล้ว เจ้าตัวน้อย ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบตาย! แต่เห็นแก่ที่เจ้านำข่าวของแม่นางพิษน้อยมาให้ข้า ครั้งนี้เจ้านายจะละเว้นเจ้าสักครั้ง ให้ข้าฟังดูสิ แม่นางพิษน้อยให้เจ้านำข่าวอันใดมาให้ข้ากัน? ”

จอมวายร้ายไป๋เฉ่าพูดพลางกดลงไปที่ส่วนใต้สะดือของหมูน้อย

ทันใดนั้น ท้องของหมูน้อยกลไกก็มีม้วนกระดาษยื่นออกมา ม้วนกระดาษนั้นปรากฏเป็นภาพของซูจิ่นซีและซูอวี้

“เจอแล้ว เจอแล้ว เจ้าตัวน้อยหาแม่นางพิษน้อยพบแล้ว” จอมวายร้ายไป๋เฉ่าพูดอย่างตื่นเต้น

ทว่าหลังจากสิ้นเสียงคำพูดของจอมวายร้ายไป๋เฉ่า หมูน้อยกลไกก็ถูกเยี่ยโยวเหยาแย่งไปอย่างรวดเร็ว

จอมวายร้ายไป๋เฉ่ากระทืบเท้าอย่างโกรธเคือง “เยี่ยโยวเหยา สิ่งนั้นเป็นของข้า เจ้าทำเกินไปแล้ว”

มู่หรงฉีรีบเข้ามาขวางจอมวายร้ายไป๋เฉ่าไว้ “แยกแยะความสำคัญหน่อย”

จอมวายร้ายไป๋เฉ่าทำได้เพียงอดกลั้นความโกรธ

เมื่อดูภาพบันทึกของซูจิ่นซีเรียบร้อยแล้ว เยี่ยโยวเหยาก็โยนหมูน้อยกลไกให้จอมวายร้ายไป๋เฉ่า จากนั้นก็กวาดสายตามองดูหุบเขา

แม้ตำแหน่งในตอนนี้ของพวกเขาจะเป็นลำธารบนภูเขา ทว่าไม่เหมือนกับภูเขาสูงตระหง่านในภาพ

นอกจากนั้น ซูจิ่นซีบอกว่าได้ยินเสียงน้ำ แม้ด้านข้างของพวกเขาจะเป็นลำธาร ทว่าสายน้ำสงบนิ่งมาก หากห้องศิลาที่ขังซูจิ่นซีไว้อยู่ใกล้แม่น้ำสายนี้ นางคงไม่ได้ยินเสียงน้ำเป็นแน่

หลังจากที่มู่หรงฉีดูภาพบันทึกเรียบร้อยแล้ว ก็ค้นพบถึงจุดนี้เช่นกัน

“จอมวายร้าย ก่อนหน้านี้ที่พวกเราหาหมูน้อยกลไกไม่พบ เป็นเพราะมันดำดิ่งลงไปในน้ำใช่หรือไม่? ”

“แน่นอนอยู่แล้ว เจ้าไม่เห็นว่าข้ากำลังยุ่งอยู่หรือ? ”

จอมวายร้ายไป๋เฉ่าพูดพลางเช็ดน้ำบนตัวของหมูน้อยกลไกอย่างทะนุถนอม

ขณะเดียวกันเยี่ยโยวเหยาและมู่หรงฉีก็ราวกับคิดอันใดได้ ไม่ทันรอให้มู่หรงฉีเคลื่อนไหว เยี่ยโยวเหยาก็กระโดดลงไปในน้ำแล้ว

“บัดซบ! รีบกระโดดลงไปตายหรืออย่างไร! ”

ตอนที่เยี่ยโยวเหยากระโดดลงไปในน้ำ น้ำได้สาดโดนตัวจอมวายร้ายไป๋เฉ่า เขาจึงสบถด่าเสียงต่ำ

“จอมวายร้าย ให้หมูน้อยกลไกนำทางไป”

จอมวายร้ายไป๋เฉ่าคิดอันใดได้เช่นกัน ใบหน้าที่แสดงความโง่เขลา เปลี่ยนเป็นท่าทางเคร่งขรึมจริงจัง เขามองไปยังหมูน้อยกลไกและพูดไม่กี่คำ เมื่อแบมือออก หมูน้อยกลไกก็ขยับปีกบินขึ้นไปข้างหน้า ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เยี่ยโยวเหยากระโดดลงไปในแม่น้ำ

มู่หรงฉีและจอมวายร้ายไป๋เฉ่าสบตากัน และรีบกระโดดตามไปทันที

หลังจากปล่อยหมูน้อยกลไกไปแล้ว ซูจิ่นซีก็ขอเมล็ดแตงจากองครักษ์พิษอีกจานหนึ่ง และนั่งข้างโต๊ะแทะเมล็ดแตงอย่างสบายอารมณ์

มองดูเผินๆ จะเห็นว่าซูจิ่นซีกำลังแทะเมล็ดแตง ทว่าความจริงแล้ว นี่เป็นวิธีปิดบังอำพราง ตอนนี้นางกำลังศึกษาอาคมกำไลปี่อั้น

ซูจิ่นซีได้กลีบดอกที่สามของอาคมกำไลปี่อั้นมาระยะหนึ่งแล้ว ทว่ายังไม่เห็นอาคมกำไลปี่อั้นเพิ่มระดับอันใดเลย หากมีวิธีใดสามารถทำให้อาคมกำไลปี่อั้นเพิ่มระดับได้ นางก็จะร่วมมือกับจอมวายร้ายไป๋เฉ่าที่อยู่ด้านนอก ให้เข้ามาช่วยตนออกไป

บาดแผลที่สองมือและสองเท้าของซูอวี้ได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว เขานอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนอีกด้านหนึ่ง

ทันใดนั้นก็มีเสียงเปิดประตูหินดังขึ้น กูสือซานที่กำลังเดือดดาลเดินตรงเข้ามาด้านหน้าซูจิ่นซี เขาบีบคอซูจิ่นซีแล้วพูดว่า “ซูจิ่นซี เจ้าอย่าคิดเล่นกลอุบายกับราชครูอย่างข้าอีก ข้าหลงกลเจ้าสองคราแล้ว หากวันนี้เจ้ายังถอนพิษในร่างของข้าไม่ได้ ข้ารับรองว่าจะส่งน้องชายเจ้าไปพบกับยมบาลก่อนแน่นอน”

เมื่อสิ้นเสียงคำพูดของกูสือซาน องครักษ์พิษนายหนึ่งก็เดินไปที่ข้างเตียงศิลาและดึงซูอวี้ขึ้นมา ก่อนจะเอายาเม็ดหนึ่งให้ซูอวี้กิน

ระบบถอนพิษรีบส่งเสียงเตือน และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว

ทว่าหลังจากวิเคราะห์อยู่พักใหญ่ จนเกินเวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยทั่วไป ระบบถอนพิษก็ยังไม่แสดงผลออกมา

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่น “กูสือซาน เจ้าให้น้องชายข้ากินสิ่งใด? ”

ใบหน้าของกูสือซานเผยให้เห็นรอยยิ้มชั่วร้าย เขายกมือขึ้น ทันใดนั้น หมอพิษร่างใหญ่คนหนึ่งก็เดินเข้ามา เขาถือน้ำยาสีม่วงถ้วยหนึ่งเดินไปด้านหน้าซูอวี้ ก่อนจะบีบกรามของซูอวี้และกรอกน้ำยาสีม่วงลงไป

จากนั้นหมอพิษก็เป่าขลุ่ยสั้นเลาหนึ่งที่นำออกมาจากเอว

เมื่อเสียงขลุ่ยสั้นดังขึ้น ซูอวี้ก็ยกมือกุมท้อง กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขานอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียง เพียงชั่วพริบตา บนหน้าผากก็ปรากฏเส้นเลือดสีเขียวปูดโปน เหงื่อเม็ดใหญ่เท่าเม็ดถั่วหล่นลงมาทีละหยด

พิษเผ่าเหมียว!

ซูจิ่นซีมองออกแล้วว่าเป็นพิษเผ่าเหมียว แต่น่าผิดหวังที่ระบบถอนพิษยังวิเคราะห์ข้อมูลไม่ได้

กูสือซานมีความสุขและพึงพอใจมากที่ได้เห็นซูจิ่นซีมีท่าทางสับสน

เขาบีบคางซูจิ่นซีแล้วพูดว่า “เป็นเช่นไร? พระชายาโยวอ๋อง เจ้าเต็มใจถอนพิษให้ราชครูอย่างข้าแล้วหรือยัง? ”

ซูจิ่นซีกัดริมฝีปากนิ่ง ไม่ได้พูดอันใด

กูสือซานพูดอย่างมีเลศนัยว่า “แคว้นจงหนิงของพวกเจ้ามียาพิษที่หมอพิษแห่งแคว้นไหวเจียงเราไม่สามารถถอนได้ ทั้งยังมียาที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างไรก็ตาม แคว้นไหวเจียงของพวกเราก็มีพิษเผ่าเหมียวและยาพิษที่หมอในแคว้นจงหนิงของพวกเจ้าไม่รู้จักเช่นกัน นี่เป็นเรื่องปกติ หากต้องการช่วยชีวิตน้องชายเจ้า ก็ย่อมได้ แต่ตอนนี้เงื่อนไขของข้าได้เปลี่ยนไปแล้ว นอกจากเจ้าจะช่วยข้าถอนพิษ แคว้นไหวเจียงของพวกเรายังขอเชื้อเชิญพระชายาโยวอ๋อง ผู้เป็นอัจฉริยะสูงส่งในด้านพิษให้เข้าร่วมทีมหมอพิษแห่งแคว้นไหวเจียงด้วยความจริงใจ เมื่อพระชายาโยวอ๋องไปถึงแคว้นไหวเจียง ถึงเวลานั้นข้าจะถวายฎีกาแสดงความจงรักภักดีต่อฝ่าบาทแห่งแคว้นไหวเจียง ทั้งยังจะถอนพิษให้น้องชายเจ้าด้วยตนเอง พระชายาโยวอ๋อง ท่านคิดว่าอย่างไร? ลองตรึกตรองดูเถิด! ”

ครั้งนี้กูสือซานจะให้ซูจิ่นซีทรยศเยี่ยโยวเหยา เข้าร่วมกับแคว้นไหวเจียง

ที่แคว้นจงหนิง หน้าที่ดูแลสืบข่าวสายลับของแคว้นไหวเจียงมีเยี่ยโยวเหยารับผิดชอบมาโดยตลอด อีกทั้งตอนนี้ในแคว้นจงหนิง เยี่ยโยวเหยายังมีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุด เขากุมอำนาจทั้งราชสำนักและควบคุมอำนาจในแคว้นจงหนิงไว้ทั้งหมด หากแม้แต่ซูจิ่นซีที่เป็นพระชายาโยวอ๋องยังทรยศต่อแคว้นจงหนิงไปเข้าร่วมกับแคว้นไหวเจียง เรื่องนี้สำหรับเยี่ยโยวเหยาแล้ว นับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่เลยทีเดียว

ซูจิ่นซียังคงกัดริมฝีปากแน่นไม่พูดอันใด ซูอวี้นอนเจ็บปวดอยู่บนเตียงศิลาด้วยใบหน้าขาวซีด เหงื่อเปียกชุ่มทั่วตัวราวกับไปนอนแช่น้ำมา ทำให้เสื้อผ้าของเขาเปียกไปด้วย

ซูจิ่นซีมองแล้วทนไม่ไหวจริงๆ

“พระชายาโยวอ๋อง? ว่าอย่างไร? ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด! ”

แท้จริงแล้ว ไม่ใช่เพราะซูจิ่นซีถูกกูสือซานข่มขู่จนหวาดกลัว และไม่ใช่เพราะกลัวจนไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่เป็นเพราะนางได้ยินเสียงหมูน้อยกลไกของจอมวายร้ายไป๋เฉ่ากำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ใกล้ห้องศิลาเข้ามาทุกที

ซูจิ่นซีไม่รู้ว่าหมูน้อยกลไกใช้วิธีใดตามหานางจนพบ แต่นางมั่นใจได้ว่า หมูน้อยกลไกไม่ได้ฉลาดเฉลียวไปเสียทุกอย่างเหมือนมนุษย์ เมื่อรู้ว่ากูสือซานอยู่ที่นี่เช่นกัน มันจะบินอ้อมผ่านไปหรือหยุดนิ่ง

เป้าหมายของมันชัดเจนมาก ก็คือนาง

เมื่อหมูน้อยกลไกเข้ามา มันต้องถูกกูสือซานพบเข้าแน่นอน ดังนั้นเรื่องที่จอมวายร้ายไป๋เฉ่าช่วยเหลือนางจะกลายเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น

นางควรทำอย่างไร?

ควรป้องกันอย่างไร?

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *