สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 11 324 เพื่อคนผู้เดียวเท่านั้น

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 11 324 เพื่อคนผู้เดียวเท่านั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทุกคนต่างตกตะลึง ดวงตาของหลานเสวียนหมิงปรากฏความประหลาดใจเล็กน้อย เขารีบค้อมกายลงพูดว่า “ท่านอ๋อง กระหม่อมไม่กล้า กระหม่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้น ท่านอ๋องโปรดตรึกตรองด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

ทันใดนั้น เยี่ยโยวเหยาก็มองไปที่ซูจิ่นซีและพูดว่า “ในเมื่อหลานเสวียนหมิงเดิมพันกับพระชายาที่รัก จากการเดิมพันก่อนหน้านี้ หลานเสวียนหมิงพ่ายแพ้ให้กับพระชายา มิสู้ให้พระชายาที่รักเป็นผู้ตัดสินว่าควรจัดการอย่างไร? ”

เยี่ยโยวเหยาหมายความว่าอย่างไร?

ซูจิ่นซียืนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้รีบตอบตกลง

หลานเสวียนหมิงและเหล่าขุนศึกสกุลหลานต่างประหลาดใจเล็กน้อย ท่านอ๋องใช้วิธีนี้เพื่อบอกพวกเขาว่า แม้ผลงานและความทุ่มเทของสกุลหลานจะยิ่งใหญ่เพียงไร ทว่าเขาไม่มีทางยอมให้อำนาจของสกุลหลานอยู่เหนืออำนาจของผู้ปกครองแว่นแคว้นอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังบอกพวกเขาว่า ซูจิ่นซี สตรีในใจของเขานางนี้ มีความสำคัญต่างจากผู้อื่นยิ่งนัก

ซูจิ่นซีครุ่นคิดอย่างรอบคอบครู่หนึ่ง การแสดงออกบนใบหน้าไม่สามารถบอกความคิดภายในใจของนางได้ “การเดิมพันครั้งนี้ของหม่อมฉันกับแม่ทัพหลาน เดิมทีเชิญท่านอ๋องมาเป็นสักขีพยาน แม้แม่ทัพหลานจะพ่ายแพ้ อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนของท่านอ๋อง ท่านอ๋องได้โปรดตัดสินอย่างยุติธรรมที่สุด อย่าได้เข้าข้างพวกพ้องเพคะ! ”

คิดไม่ถึงว่าซูจิ่นซีจะโยนเผือกร้อนกลับไปให้เยี่ยโยวเหยา

แววตาเย็นชาของเยี่ยโยวเหยาหรี่มองซูจิ่นซี ทว่าซูจิ่นซีไม่ได้มองเขา นางหันหน้าไปทางอื่นราวกับไม่ได้ตั้งใจ

“องครักษ์! ลากตัวหลานเสวียนหมิงไปประหาร! ”

ประหาร?

ประหารหลานเสวียนหมิงหรือ?

หลานเสวียนหมิงกับเหล่าขุนศึกสกุลหลานที่คุกเข่าอยู่บนพื้นต่างตกตะลึง

“ท่านอ๋อง ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ! แม่ทัพใหญ่จงรักภักดีต่อท่านอ๋องมาค่อนชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น เผ่าวิหคยังจงรักภักดีต่อท่าน เหตุใดท่านอ๋องจึงสังหารท่านแม่ทัพใหญ่เพียงเพราะคำพูดล้อเล่นประโยคเดียวของสตรีผู้หนึ่ง? ”

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง! หากเป็นเพราะคำพูดประโยคเดียวของพระชายา จึงทำให้ท่านอ๋องรับสั่งประหารท่านแม่ทัพใหญ่ เช่นนั้นความเคารพยำเกรงของท่านอ๋องในกองทัพเผ่าวิหคอยู่ที่ใด? ”

“ท่านอ๋อง หากเป็นเพราะคำพูดประโยคเดียวของพระชายา จึงทำให้พระองค์รับสั่งประหารท่านแม่ทัพใหญ่ กระหม่อมกับคนอื่นๆ ไม่มีทางยอมรับ! ”

“ใช่ ไม่ยอมรับ! ”

“ไม่ยอมรับ! ”

……

ทุกคนต่างพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

ดวงตาเยี่ยโยวเหยาทวีความน่ากลัวมากยิ่งขึ้น เขากวาดสายตามองทุกคน “หืม? ความหมายของพวกเจ้าคือ… ขุนศึกเผ่าวิหครู้จักเพียงแม่ทัพใหญ่หลาน ทว่าไม่รู้จักข้าใช่หรือไม่? หากไม่มีหลานเสวียนหมิงแล้ว กองทัพทั้งสามของเผ่าวิหคจะไม่ฟังคำสั่งของข้าแล้วใช่หรือไม่? ”

ทุกคนต่างเงียบสนิท

หลานเสวียนหมิงพลันใบหน้าซีดขาว พูดว่า “ท่านอ๋อง พวกเขา… พวกเขาไม่ได้หมายความเช่นนั้นแน่นอน เผ่าวิหคมีความภักดีต่อชาติบ้านเมืองอย่างไม่มีข้อสงสัยกระหม่อม หลานเสวียนหมิงร่วมเป็นร่วมตายกับท่านอ๋อง ยิ่งไม่มีข้อเรียกร้อง ผู้ที่ถือขนนกศักดิ์สิทธิ์ย่อมครอบครองเผ่าวิหค ท่านอ๋อง เวลานี้ขนนกศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือของท่าน กระหม่อมไม่กล้าควบคุมกองทหารอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ! ”

ในที่สุดซูจิ่นซีก็เข้าใจแล้วว่า เยี่ยโยวเหยาใช้โอกาสนี้เพื่อปรามสกุลหลาน ปรามเผ่าวิหค!

ทว่าเหตุใดจึงดึงนางเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย? ทั้งยังเลือกช่วงเวลานี้อีก

ทันใดนั้น ซูจิ่นซีก็รู้สึกเหมือนตกหลุมพรางเยี่ยโยวเหยา

แม้หลานเสวียนหมิงจะพยายามแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของตนเอง ทว่าเหล่าขุนศึกสกุลหลานกลับไม่พูดอันใด

เยี่ยโยวเหยาแสดงสีหน้าเย็นชา รอให้พวกเขาเอ่ยปาก

“หืม? ”

เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้ว กวาดสายตาเย็นชามองทุกคน

“ท่านอ๋อง! ” หนึ่งในนั้นรีบทำความเคารพเยี่ยโยวเหยา แล้วพูดว่า “กระหม่อมกับคนอื่นๆ สาบานว่าจะติดตามแม่ทัพใหญ่และภักดีต่อท่านอ๋อง ความภักดีต่อท่านอ๋องย่อมไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าพวกเราไม่อาจละทิ้งมิตรภาพของท่านแม่ทัพใหญ่ได้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”

“กระหม่อมและคนอื่นๆ จะปฏิบัติตามคำสั่งของแม่ทัพใหญ่เท่านั้น และสาบานจะติดตามท่านอ๋องไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”

“ใช่ กระหม่อมและคนอื่นๆ จะปฏิบัติตามคำสั่งของแม่ทัพใหญ่เท่านั้น และสาบานจะติดตามท่านอ๋องไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”

“กระหม่อมและคนอื่นๆ จะปฏิบัติตามคำสั่งของแม่ทัพใหญ่เท่านั้น และสาบานจะติดตามท่านอ๋องไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”

……

“ดี! ปฏิบัติตามคำสั่งของแม่ทัพใหญ่เท่านั้น หลานเสวียนหมิง! ”

แม้ใบหน้าของเยี่ยโยวเหยายังคงเย็นชา น้ำเสียงยังคงเยือกเย็นน่าเกรงขาม ทว่าไม่ทราบเพราะเหตุใด จึงทำให้ทุกคนเงียบเสียงลง พากันหุบปากและก้มศีรษะโดยไม่กล้าพูดอันใดอีก

เพราะทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงความเดือดดาลอย่างรุนแรงในน้ำเสียงเย็นชาของเยี่ยโยวเหยา

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางผู้คนยังมีคนที่ตาไร้แวว ผู้ที่ตกใจจนมองไม่เห็นอารมณ์เดือดดาลสุดขีดของเยี่ยโยวเหยา

“ในเมื่อท่านอ๋องทำเพื่อสตรีนางนี้ จนตัดสินใจสังหารท่านแม่ทัพใหญ่ เช่นนั้นกระหม่อมจะสังหารสตรีนางนี้เสีย แม้ท่านอ๋องจะสังหารกระหม่อม กระหม่อมก็เต็มใจ”

เสียงตะโกนของนายทหารผู้หนึ่งดังขึ้น จากนั้นจึงชักกระบี่ออกมาจากเอว หันไปแทงซูจิ่นซี

แม้แววตาของซูจิ่นซีจะปรากฏความตกตะลึง ทว่านางไม่แสดงความตกใจและหวาดกลัวแม้แต่น้อย แทบจะในเวลาเดียวกันที่ปลายกระบี่ของคนผู้นั้นแทงเข้ามา จู่ๆ ซูจิ่นซีก็พลิกข้อมือ และสาดผงพิษออกไปหนึ่งกำมือ

และในเวลาเดียวกันนั้น ร่างในชุดสีดำพลันโบกสะบัด เยี่ยโยวเหยาพุ่งออกไปด้านหน้าคนผู้นั้นดุจสายลม มือที่คมกริบราวกับกระบี่ซัดไปที่มือของคนผู้นั้น จนเกิดเสียงกระดูกหักดัง ‘กร๊อบ’

ข้อมือของคนผู้นั้นถูกเยี่ยโยวเหยาบีบจนขาดออกจากกัน

“บั่นคอมันเสีย! ”

เยี่ยโยวเหยากระชากเสียงเย็นชา เมื่อสิ้นเสียง องครักษ์เงาในชุดดำหลายคนก็เหาะลงมาราวกับผีเสื้อ มายืนอยู่ด้านหน้าของคนผู้นั้น คนผู้นั้นยังไม่ทันได้สติจากความตกตะลึงและความเจ็บปวดของข้อมือที่แตกหัก ศีรษะของเขาก็ถูกกระบี่คมกริบขององครักษ์เงาบั่นคออย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า

ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเป็นขุนศึกที่ออกรบในสนามรบมานานหลายปี ทว่ายังอดหวาดกลัวไม่ได้

โยวอ๋องยังคงเป็นโยวอ๋อง เยือกเย็นสูงส่งน่าเกรงขาม ไม่อาจล่วงเกิน

นายท่านยังคงเป็นนายท่าน ใต้บุตรแห่งสวรรค์ ทว่าอยู่เหนือผู้คนนับหมื่น นายท่านไม่ยอมให้ผู้ใดทรยศ

หลานเสวียนหมิงตกใจเป็นอย่างมาก เขาพอเข้าใจถึงเจตนาของโยวอ๋องในวันนี้แล้ว

แม้เขาจะมีความจงรักภักดี สกุลหลานมีความจงรักภักดี ทว่าเขาเป็นผู้บังคับบัญชา ยังมีเรื่องราวอีกมากที่ไม่อาจควบคุมได้

เขามีความจงรักภักดีไม่เปลี่ยนแปลง แต่ไม่แน่ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจะเป็นเหมือนเขา เขาไม่มีทางหักหลังนายท่านแน่นอน แต่ไม่แน่ว่าผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาจะเป็นเหมือนกัน

หลังจากครุ่นคิดจนเข้าใจแล้ว แววตาของหลานเสวียนหมิงพลันเปล่งประกายแจ่มแจ้ง เขาหันไปทางเยี่ยโยวเหยาและค่อยๆ คุกเข่าลง

“ท่านอ๋อง เรื่องของภรรยาและบุตรสาว เป็นกระหม่อมที่ดูแลไม่ดี ดูแลครอบครัวอย่างหละหลวม ไม่ว่าผลการไต่สวนของวิหารวิญญาณจะเช่นไร ท่านอ๋องได้โปรดจัดการตามกฎโดยไม่ละเว้น ส่วนการเดิมพันของกระหม่อมกับพระชายา เป็นกระหม่อมเองที่พ่ายแพ้ กระหม่อม… กระหม่อมยินดีทำตามข้อตกลง ทว่าการใหญ่ของท่านอ๋องยังไม่สำเร็จ กระหม่อมยังไม่อาจตายได้จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”

หลานเสวียนหมิงพูดพลางหยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งออกมาจากเอว ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง ‘ฉึก’ เขาตัดนิ้วก้อยมือซ้ายของตน

กระดูกสีขาวปรากฏให้เห็นเด่นชัด เลือดไหลนองไปทั่วพื้น

นอกจากเยี่ยโยวเหยากับซูจิ่นซีแล้ว ทุกคนต่างตกตะลึงอ้าปากค้างทันที

“พระชายา กระหม่อมขอใช้สิ่งนี้เป็นหลักประกัน ทั้งเป็นการตักเตือนว่าหลานเสวียนหมิงติดค้างพระชายาหนึ่งชีวิต หากวันใดที่ท่านอ๋องทำการใหญ่สำเร็จ กระหม่อมจะขอถอดเสื้อเกราะและกระบี่ ยืนต่อหน้าพระชายาและมอบชีวิตให้ท่าน”

“ท่านแม่ทัพใหญ่… ”

ใบหน้าของเหล่าขุนศึกสกุลหลานที่ยืนอยู่ด้านหลังหลานเสวียนหมิงต่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด พวกเขาต้องการพูดอันใดบางอย่าง ทว่าไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไร

“หุบปาก! ” หลานเสวียนหมิงกระชากเสียงเย็นชา “ท่านอ๋องเป็นผู้ปกครองสกุลหลานและเผ่าวิหค หากไม่มีท่านอ๋อง ก็ไม่มีชาติบ้านเมือง เช่นนั้นเผ่าวิหคและสกุลหลานจะยังมีที่ยืนอยู่หรือ? จากนี้ไป หากผู้ใดยังกล้าเอ่ยวาจาไร้คุณธรรม คนผู้นั้นถือเป็นผู้ทรยศ”

ทุกคนต่างก้มศีรษะ ปิดปากสนิท

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *