สลับชะตา ชายามือสังหาร 341 ลูกปัดกาลมิติและค่ายกลนำส่ง
เฝิงตงดูเป็นคนซื่อตรง เมื่อได้ยินคำบ่นว่าของซือหม่าโยวเย่ว์แล้วจึงอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้ ท่านเจ้าหุบเขารองทำให้คนเกรงกลัวมากกว่าท่านเจ้าหุบเขาใหญ่ แต่เจ้าหุบเขาน้อยผู้นี้กลับกล้าพูดถึงเขาเช่นนี้ได้
แต่ได้ยินมาว่าดูเหมือนท่านเจ้าหุบเขารองจะรักใคร่ศิษย์คนเล็กผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง ดูจากสิ่งต่างๆ ที่เขาทำให้เธอหลังจากกลับไปก็รู้แล้ว
“ท่านอาเฝิง ท่านอาจารย์ยังมีคำอธิบายอื่นใดอีกหรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
เฝิงตงตกใจกับคำเรียกหาว่าท่านอาเฝิงของเธอจนสะดุ้งคราหนึ่ง ตนเป็นมารเฒ่าอายุหลายร้อยปีเชียวนะ แต่กลับถูกคนเรียกว่าท่านอาเสียอย่างนั้น
“ท่านเจ้าหุบเขารองบอกว่าให้ข้าส่งท่านไปยังจุดที่โลกย่อส่วนปรากฏขึ้น” เฝิงตงเอ่ยตอบ
“ข้าไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้นหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“ท่านเจ้าหุบเขารองมิได้บอก แต่ตอนที่ข้าจากมา ท่านเจ้าหุบเขาใหญ่ได้บอกกับข้าเอาไว้ว่าห้วงมิติที่เข็มทิศนี้เปิดได้ไม่ใหญ่นัก ทั้งยังไม่ค่อยเสถียรสักเท่าไร การส่งท่านไปเพียงคนเดียวก็ลำบากพอสมควรแล้ว ถ้าหากยังมีคนไปด้วยอีก เกรงว่าจะต้านรับไม่ไหวน่ะสิ” เฝิงตงพูด
“อ้อ… ก็หมายความว่าตอนเข้าไป มีคนได้เพียงคนเดียวเท่านั้นใช่หรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
เฝิงตงพยักหน้า
“พวกเราจะไปกันเมื่อใดหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“ตอนนี้เลยจะดีที่สุด” เฝิงตงพูด “ท่านเจ้าหุบเขาใหญ่บอกว่าโลกย่อส่วนลายสมุทรจะปรากฏขึ้นในอีกสองวันนี้แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด พวกเราไปถึงที่นั่นให้เร็วที่สุดจะดีกว่านะ”
“อ้อ… ท่านอาเฝิง ท่านกินผลไม้รอข้าอยู่ที่นี่ก่อนนะ ข้าไปเพียงครู่เดียวก็กลับมาแล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดจบแล้วหยิบผลไม้ทิพย์จานหนึ่งออกมา หลังจากนั้นจึงรีบวิ่งออกไป
เฝิงตงไม่รู้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์จะไปทำอะไร จึงได้แต่รอเธออยู่ในเรือน เมื่อเห็นผลไม้ทิพย์ที่เธอวางเอาไว้บนโต๊ะแล้วดวงตาก็ฉายแววประหลาดใจ
มีผลไม้ทิพย์อันยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้อยู่ในสถานที่อย่างดินแดนอี้หลินด้วยหรือ
“เจ้าหุบเขาน้อยผู้นี้มิได้วางท่าแต่อย่างใด ดีกว่าบรรดาคุณชายคุณหนูหุบเขาในเหล่านั้นไม่น้อยเลย นิสัยใจคอก็ไม่เลว มิน่าเล่าท่านเจ้าหุบเขารองกับคุณชายอูถึงได้ชอบพอเขากันหมด”
เขาหยิบผลไม้ทิพย์ผลหนึ่งขึ้นมาพินิจดู ด้านบนยังมีน้ำเกาะอยู่ ดูเหมือนเพิ่งจะล้างมาหมาดๆ จึงลอบชื่นชมความใส่ใจของซือหม่าโยวเย่ว์อยู่ในใจ
ซือหม่าโยวเย่ว์ออกไปครึ่งวันก็กลับมา หลังจากนั้นจึงพูดกับเฝิงตงว่า “ท่านอาเฝิง ข้าเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราไปกันเถิด”
เฝิงตงพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “ดี”
พอพูดจบเขาจึงหยิบลูกปัดจิ๋วลูกหนึ่งออกมา ลูกปัดจิ๋วนั้นเปล่งประกายสว่าง อุโมงค์ทางเดินแห่งหนึ่งเปิดออกในอาณาบริเวณที่ส่องประกาย จากนั้นลูกปัดจิ๋วก็กลายเป็นผุยผง
“เจ้าหุบเขาน้อย พวกเราไปกันเถิด” พอพูดจบเขาก็ดึงมือซือหม่าโยวเย่ว์แล้วพาเธอเข้าไปในอุโมงค์ทางเดินนั้น
ภายในอุโมงค์ทางเดินมีลมหนาวเหน็บพัดกระโชกแรง พัดบาดจนเธอเจ็บใบหน้า ดวงตาปิดลงอย่างมิอาจควบคุมได้
เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง พวกเขาก็เหยียบย่างลงบนแผ่นดินแล้ว
“ภูเขาหิมะหรือ ที่นี่คือที่ไหนกันน่ะ” ซือหม่าโยวเย่ว์มองดูภูเขาหิมะที่ขาวโพลนไปหมดแล้วถามขึ้น
“ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน” เฝิงตงส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “ท่านเจ้าหุบเขารองบอกว่าเพียงแค่กระตุ้นลูกปัดจิ๋วลูกนั้นก็จะมายังสถานที่แห่งนี้ได้แล้ว”
“ที่นี่ก็คือบริเวณที่โลกย่อส่วนลายสมุทรจะปรากฏขึ้นอย่างนั้นหรือ”
“น่าจะใช่นะ” เฝิงตงพูด “ตอนนี้โลกย่อส่วนยังไม่เปิด พวกเรารอกันอยู่ที่นี่ก่อนเถิด”
“ได้” พวกซือหม่าโยวเย่ว์กางกระโจมกันในบริเวณหนึ่งที่ค่อนข้างสงบ หลังจากกวาดเกล็ดหิมะออกไปด้านนอกแล้วทั้งสองคนจึงกินเนื้อย่างดื่มสุรากันอยู่ภายในกระโจม
“ท่านอาเฝิง ลูกปัดจิ๋วสีขาวของท่านก่อนหน้านี้คือสิ่งใดหรือ ทำไมจึงตัดผ่านห้วงอากาศ สร้างอุโมงค์ทางเดินออกมาได้ด้วย” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
เฝิงตงกำลังดื่มสุราอยู่ เมื่อเห็นท่าทางอยากรู้อยากเห็นของเธอจึงยิ้มแล้วเอ่ยว่า “นั่นคือลูกปัดกาลมิติที่มีเฉพาะในโลกเบื้องบนเท่านั้น ก่อนจะกระตุ้นลูกปัด ก็ต้องสลักพิกัดมิติเอาไว้ให้ดี หลังจากกระตุ้นแล้วจึงจะสร้างอุโมงค์ทางเดินไปยังพิกัดนั้นขึ้นมาได้”
“เช่นนั้นก็คล้ายๆ กันกับค่ายกลนำส่งเลยน่ะสิ” ซือหม่าโยวเย่ว์ครุ่นคิดแล้วเอ่ยขึ้น
“การใช้งานใกล้เคียงกัน แต่ลูกปัดกาลมิติสะดวกกว่า มิได้ซับซ้อนเหมือนค่ายกลนำส่ง” เฝิงตงพูด “โดยทั่วไปแล้วมีเพียงปรมาจารย์ค่ายกลเท่านั้นที่สร้างค่ายกลนำส่งได้ แต่ของอย่างลูกปัดกาลมิตินี้แม้แต่คนที่ไม่รู้เรื่องค่ายกลก็ใช้ได้ แต่มีเพียงผู้ที่สร้างอุโมงค์ทางเดินไม่ได้อย่างพวกเราเท่านั้นจึงจะใช้ของสิ่งนี้ได้ อย่างพวกเจ้าหุบเขานั้นล้วนใช้พลังยุทธ์ของตนเองสร้างอุโมงค์ทางเดินกันทั้งสิ้น”
“แล้วท่านพอจะมีลูกปัดเช่นนี้อยู่อีกหรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์มองเขาพลางยิ้มตาหยี
เฝิงตงถูกเธอมองเสียจนเคอะเขินอยู่บ้าง เขาส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “ไม่มีหรอก ลูกปัดกาลมิตินี้เป็นสิ่งที่ท่านเจ้าหุบเขารองเพิ่งให้ข้ามาก่อนออกเดินทางน่ะ”
“อ้อ” ซือหม่าโยวเย่ว์ผิดหวังอยู่บ้าง แต่เพียงไม่นานก็สลัดความผิดหวังเล็กน้อยนี้ทิ้งไปได้ เธอยกไหสุราขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “ท่านอาเฝิง มา พวกเราดื่มสุรากันดีกว่านะ”
“ฮ่าๆ ดี!” ถึงแม้ว่าเฝิงตงจะทึ่มทื่ออยู่บ้าง แต่ยังมีนิสัยใจกล้า พอได้ดื่มสุราแล้วก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
พอดื่มกินจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ซือหม่าโยวเย่ว์จึงเก็บข้าวของกลับเข้าไปภายในเจดีย์วิญญาณหลังจากนั้นจึงสนทนากับเฝิงตงไปเรื่อยเปื่อย ฟังเขาเล่าเรื่องโลกเบื้องบน
เมื่อได้ฟังเขาเล่าเรื่องหุบเขามารเทพแล้วเธอจึงเข้าใจสถานะของหุบเขามารเทพที่โลกเบื้องบนมากขึ้นอีกขั้น ทำให้มีความอยากรู้อยากเห็นต่อหุบเขามารเทพที่ยังไม่เคยเห็นมากยิ่งขึ้นไปอีก
พวกเขารอคอยอยู่ที่ภูเขาหิมะสามวัน จึงมีระลอกความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นที่กลางอากาศ เฝิงตงที่นั่งบำเพ็ญอยู่บนก้อนหินใหญ่ลืมตาแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะเอ่ยว่า “ถึงเวลาแล้ว”
ซือหม่าโยวเย่ว์มิได้รู้สึกถึงความผิดปกติแต่อย่างใด แต่เมื่อเห็นเฝิงตงลุกขึ้นยืน เธอจึงลุกขึ้นยืนด้วย
“เจ้าหุบเขาน้อย อีกประเดี๋ยวข้าจะใช้เข็มทิศเปิดโลกย่อส่วนลายสมุทร พอข้าบอกให้ท่านเข้าไปได้แล้วจึงจะเข้าไปได้นะขอรับ” เฝิงตงพูด
“ได้เลยท่านอาเฝิง” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้า
“โลกย่อส่วนลายสมุทรนี้อยู่ได้นานที่สุดเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น หลังจากครบปีแล้วมันจะมลายหายไปอยู่ในห้วงมิติอันไร้ที่สิ้นสุดอีกครั้ง ถ้าหากไม่ออกมาภายในเวลานั้น ก็อาจจะติดอยู่ภายในนั้นตลอดชีวิต” เฝิงตงพูด “ดังนั้นเจ้าหุบเขาน้อยต้องคำนวณระยะเวลาให้ดีนะขอรับ”
“อื้มๆ”
“นอกจากนี้คนจากดินแดนอื่นก็อาจเข้าไปได้ด้วยเช่นกัน หรือแม้กระทั่งคนวัยเยาว์จากโลกเบื้องบนที่ตรงตามเงื่อนไขก็อาจเข้าไปได้เป็นจำนวนไม่น้อย พวกเขาบางคนนั้นไม่เหมาะจะข้องเกี่ยวด้วย ก่อนหน้านี้บางทีก็เกิดการช่วงชิงกันขึ้นในโลกย่อส่วนอื่นๆ ถ้าหากท่านพบเข้า หลีกเลี่ยงได้ก็จงหลีกเลี่ยงเสีย ท่านตัวคนเดียวอย่าปะทะกับคนที่อยู่เป็นกลุ่มก้อนเลย” เฝิงตงกำชับ
ซือหม่าโยวเย่ว์มองผู้ที่ตักเตือนตนราวกับผู้อาวุโสแล้วรับคำด้วยรอยยิ้ม
“ท่านอาเฝิง ท่านวางใจเถิด ข้าต้องไม่เป็นอะไรแน่ อื้ม ข้าจะออกมาให้ตรงเวลาด้วย” เธอสัญญา
“หลังจากท่านเข้าไปแล้ว ข้าก็จะกลับไปยังดินแดนโบราณ หวังว่าท่านจะขึ้นไปได้โดยเร็วนะ” เฝิงตงพูด จากนั้นก็นึกถึงพลังยุทธ์ของเธอขึ้นมาได้ จึงเอ่ยว่า “ข้าเชื่อว่าท่านใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็ขึ้นมาได้แล้วล่ะ ข้าจะรอท่านอยู่ข้างบนนะ”
“ได้เลย พอข้าขึ้นไปแล้วจะต้องเชิญท่านอาเฝิงมากินดื่มด้วยกันอีกครั้งอย่างแน่นอน!” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดด้วยรอยยิ้ม
เฝิงตงแย้มยิ้ม เขาชอบพอเจ้าหุบเขาน้อยผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง
เมื่อระลอกคลื่นกลางอากาศแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เฝิงตงจึงให้ซือหม่าโยวเย่ว์หยิบเข็มทิศอันนั้นออกมาแล้วเอ่ยว่า “ข้าจะเปิดอุโมงค์ทางเดินให้ท่านเดี๋ยวนี้แหละ จากตรงนี้เข้าไปมีสิ่งกีดขวางอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ข้ามาเปิดทางให้ท่าน พอถึงตอนที่ท่านออกมาจากข้างใน ท่านหมุนเข็มทิศด้วยตนเองก็ใช้ได้แล้ว”
เขาพูดพลางใส่พลังวิญญาณเข้าไปในเข็มทิศ ทันใดนั้นเข็มทิศก็เปล่งรัศมีเป็นวงกว้างแล้วลอยเข้าสู่อากาศ หลังจากนั้นอุโมงค์ทางเดินเส้นหนึ่งจึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาโดยมีเข็มทิศนั้นเป็นศูนย์กลาง…
……………………………….
Comments