สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 10

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 10 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วอล์มกำลังพยายามอย่างมากที่จะสู้กับนักผจญภัยที่สามารถเร่งความเร็วการเคลื่อนไหวและโจมตีได้ชั่วขณะอยู่
แต่เมื่อเพื่อนของเขาเริ่มได้รับบาดเจ็บทีละคน ชายตรงหน้าก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัดและในที่สุดการตัดสินก็จะมาถึงในไม่ช้า จากนั้นฮาลเบิร์ดของวอล์มก็ได้แทงไปที่ไหล่ของนักผจญภัยที่ชื่ออัล แล้ววอล์มก็ผลักเขาไปที่ต้นไม้ใหญ่

“แกที่ไม่คุ้นเคยกับการฆ่าคน….ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ”

“อ่าาาา อ้าาาา!!”

เขาอาจเป็นคนดีที่มีเพื่อนที่ดีในฐานะมนุษย์เขานั้นน่าชื่นชม และนั่นคือเหตุผลที่วอล์ม รู้สึกเห็นใจเขา เขาไม่เหมาะกับสนามรบ    
แล้วเขาก็ได้พยายามดึงฮาลเบิร์ดออกและส่งเสียงร้องไร้ประโยชน์ออกมา

หลังจากเวลาสั้นๆนั้น วอล์มก็ได้ดึงดาบออกมาและกำลังจะตัดคอของเขาในแนวนอนในครั้งเดียว

ถ้าเขาตายที่เหลือจะง่ายแล้ว

ในขณะนั้นผิวหนังที่ติดกับเกราะของวอล์มสัมผัสได้ถึงลม มันไม่ใช่ลมที่เป็นธรรมชาติ สัญชาตญาณที่ช่วยให้เขารอดมาได้ในสนามรบจนถึงตอนนี้กำลังบอกถึงวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน  แล้วก็ได้มีลูกพายุมาตกมาข้างๆ วอล์มก็รับกระโดดหลบทันที พลังและความหนาแน่นของมันเทียบไม่ได้กับใบมีดลมที่สร้างจากมานา วอล์มได้ถอยกลับ แต่ความเจ็บปวดก็ได้แล่นไปที่แขนขวาของเขา รอยขีดขวนเล็กๆสามารภมองเห็นได้บนเกราะและรอยขีดข่วนจำนวนมากก็ถูกแกะสลักลงบนนิ้วมือและแขนที่ได้สัมผัสและเลือดก็ไหลออกมา

“เวทมนตร์นี่มันอะไรกัน!”

มีคนเก็บไพ่ตายไว้อย่างงั้นเหรอ แม่งเอ้ย

ในขณะที่สบถออกมาในใจ วอล์มก็มองหาผู้ใช้เวทมนตร์และก็ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่วอล์มกำลังจะฆ่า ใบหน้าที่แสดงความกลัวของเธอที่เขาเห็นเมื่อไม่นานมานี้ไม่ได้ปรากฏออกมา ราวกับว่ามันเป็นเรื่องโกหกแล้วเธอก็จ้องมาที่วอล์มด้วยสายตาเฉียบคม

“แกเองเหรอ”

วอล์มพยายามจะปิดระยะเข้าหา แต่นัดต่อไปก็เข้ามาโดยไม่มีหยุด

“อย่ามายุ่งกับฉัน”

วอล์มได้กระโดดไปหลบหลังต้นไม้ แล้วเมื่อต้นไม้โดนการโจมตีมันก็ถูกตัดออก เหล่าทหารที่โดนการโจมตีเลือดของพวกเขาก็ได้กระจายไปทั่วป่า มันเป็นการโจมตีที่มีพลังมหาศารจริงๆ บางทีการยิงจากระยไกลด้วยความเร็วอาจได้ผล ไม่ได้มีแค่ที่วอล์มเท่านั้นแต่ลมยังกระจายไปทั่วป่าแบบสุ่ม

“มันเป็นการโจมตีวงกว้าง กระจายตัว!! อย่ารวมกลุ่ม!!”

ตามคำสั่งของหัวหน้าดูเวย ทหารก็ย้ายไปยังที่ที่เขาสามารถหลบได้ วอล์มก็เหมือนกัน เมื่อลมหยุดลงนักผจญภัยและทหารสองสามคนก็ได้หนีไป นักผจญภัยที่วอล์มแทงติดไว้กับต้นไม้ก็หายไปเช่นกัน

แล้ววอล์มก็หยิบฮาลเบิร์ดที่โชกไปด้วยเลือดขึ้นมาและก็ตระหนักว่าเขาพลาดไปในการฆ่าเขาคนนั้นดูจากปริมาณที่เลือดออกแล้ว

“ด้วยการโจมตีขนาดใหญ่นั่น พวกเขาก็ไม่ถูกฆ่าไปด้วย?”

วิลลาร์ทพูดออกมาเช่นนั้นใขขณะที่ปัดดินและกิ่งไม้ออกจากตัวเขา

“ก็อย่างที่เห็น อีกแค่นิดเดียวฉันก็เกือบฆ่ามันได้แล้วเชียว”

หัวหน้าหน่วยที่กำลังแบกค้อนสงครามไว้บนไหล่ของเขาดูเศร้าใจ

“หัวหน้า แล้วการไล่ล่าล่ะ”

โจเซ่พร้อมกับนัวร์และบาริโต้ก็ได้ปรากฏตัวออกมาจากช่องว่างของต้นไม้

“อ่าใช่ แต่ไม่จำเป็น กองกำลังหลักของศัตรูถูกทำลาย ที่เหลือก็มีแค่นักผจญภัยที่บาดเจ็บและทหารไมยาร์ดที่ไม่มีผู้บัญชาการ ที่เหลือก็เป็นงานของหน่วยอื่น เราไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนั้น”

“รับทราบ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปรวบรวมศัตรูและผู้รอดชีวิตที่ได้รับบาดเจ็บ โอ้ว และก็พวกแกไม่ค่อยได้ช่วยในการต่อสู้ เพราะฉะนั้นไปกันเถอะ”

“น นั่นไม่จริงสักหน่อย!”

บาริโต้ตอบกลับเสียงดัง แต่โจเซ่ก็โผล่มาแล้วปิดปากของเขาไว้ นัวร์ที่ฉลาดและไม่ได้ต่อต้านโดยไม่จำเป็น

วอล์มมองไปที่ป่าในขณะที่ผูกสายห้ามเลือดให้ตัวเอง ส่วนที่เหลือจะเป็นงานของหน่วยอื่นๆ ถ้านักผจญภัยพวกนั้นโชคดีพวกเขาก็จะสามารถหนีไปได้ แล้ววอล์มก็ได้ตรวจดูสภาพนิ้วมือและแขนของเขา ดาบที่ศัตรูใช้นั้นคมและการฟันแต่ละครั้งก็หนักหน่วง 

เหตุผลที่รอดก็คือนักผจญภัยไม่คุ้นเคยกับการฆ่าคนหรือเห็นเพื่อนของพวกเขาถูกฆ่าเช่นกัน
หากนักผจญนั้นคุ้นเคยกับความตายของมนุษย์ล่ะก็ อาจเป็นวอล์มเองที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอัตราย
คำพูดของนักผจญภัยหญิงที่หนีไปได้ก็เข้ามาในความคิดของวอล์มซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ฉันไม่ได้ฆ่าคนอื่นเพราะฉันชอบสักนิด”

โดยไม่ได้พูดให้ใครฟัง วอล์มพึมพำออกมาเช่นนั้น มันอาจฟังดูตลกและน่าขัน ไม่มีใครเชื่อคำพูดนั้นในป่าเต็มไปด้วยศพ ในความเป็นจริงตราบใดที่คุณต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เป็นศัตรูของมนุษยชาติ คุณก็จะไม่ต้องมาลิ้มรสความขัดแย้งของมนุษย์แบบนี้ แต่สำหรับวอล์มที่เป็นทหารของจักรวรรดิ มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

อีก 4 ปี เฮ่อ

――วอล์มจะสามารถเลือกได้ว่าจะปลดประจำการหรือไม่ในอีกสี่ปีข้างหน้า บางคนจะสามารถเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินเดือนและที่ได้จากการปล้นสะดมของพวกเขาจากสงคราม และบางอาจกลับไปที่บ้านเกิดของเขาแล้วซื้อที่ดินและปักหลักที่นั่น หรือบางคนจะยังคงสู้ต่อไปในฐานะทหาร หรือจะไปเป็นนักผจญภัย วอล์มที่หมดหวังกับปัจจุบันไม่เคยคิดถึงอนาคตของเขา

มันจะโอเคเหรอที่คนที่เพิ่งจะฆ่าคนอื่นไปคิดเกี่ยวกับตัวเอง?

――นักผจญภัยที่เศร้าโศกกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตของคนรอบข้างและรู้สึกโกรธพวกเขานั้นดูเป็นมนุษย์มากกว่าในสายตาของวอล์มอย่างไม่ต้องคิด วอล์มรู้ดีว่ายิ่งเขาเก่งขึ้นในฐานะทหารเท่าไรเขาก็ยิ่งมีความเป็นมนุษย์น้อยลงเท่านั้น

เมื่อเวลาปลดประจำการมาถึงเขากังวลว่าเขาจะยังเป็นวอล์มคนเดิมอยู่ไหม

เฮ่ออ!!

หลังจากที่วอล์มถอนหายใจ เขาก็เริ่มเช็ดเลือดออกจากดาบและฮาลเบิร์ดของเขา

ป่าจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

“วิ่ง!ลิเธีย หรือเธออยากจตาย!?”

เฟล็คกำลังอุ้มอัลและเอมี่ไว้บนหลังของเขา เขาได้เสียตาขวาไปและมีแผลจำนวนมากทั่วร่างของเขา แต่ก็นับว่าน้อยกว่าในหมู่พวกเขา แม้ปกติเฟล็คจะวิ่งไปรอบๆป่าด้วยโล่ขนาดใหญ่ แต่นักผจญภัยทั้งสองก็มีน้ำหนักที่มาก ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถปล่อยไปได้ เฟล็กเอาชนะการมองเห็นที่มืดมนของเขาด้วยแรงใจเท่านั้น

“แต่ แต่ เลฟตี้เขา”

“ฉันรู้!! เลฟตี้จะไม่เป็นอะไร ลองคิดดูว่าเขารอดจากวิกฤตมาได้กี่ครั้งแล้ว”

เฟล็ครู้แม้ว่าเขาจะไม่ชอบ แต่การตามล่าของทหารไฮเซิร์คอาจตามมา ทางรอดเพียงอย่างเดียวของทหารและคนที่บาดเจ็บสองคนคือเฟล็คและอัลต้องไม่ถูกไล่ล่า ดังนั้นเลฟตี้จึงไปเป็นตัวล่อเพื่อให้ปาร์ตี้และทหารไมยาร์ดที่เหลือหลบหนีได้

เลฟตี้ที่มักจะปากเสียและใช้เงินหมดอย่างรวดเร็วจะถูกเข้าใจผิดได้ง่ายว่าเป็นคนที่เย็นชาไม่สนใจ
แต่เฟล็ครู้ดีว่าเขาจะรอดจากวิกฤตที่เอาชีวิตของเขาเป็นเดิมพันได้

“เขาจะไม่เป็นอะไร”

เฟล็คยังคงวิ่งต่อไปโดยบอกตัวเองแบบนั้น เลือดกำลังไหลออกมาจากสองคนบนหลังเขาและชีวิตพวกเขาก็อยู่ในอันตราย

******
จบไปแล้วกับตอนที่10 วันนี้ไม่ยาวสักเท่าไรแต่หวังว่าจะสนุกกันนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกcomment 
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 10

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 10 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วอล์มกำลังพยายามอย่างมากที่จะสู้กับนักผจญภัยที่สามารถเร่งความเร็วการเคลื่อนไหวและโจมตีได้ชั่วขณะอยู่
แต่เมื่อเพื่อนของเขาเริ่มได้รับบาดเจ็บทีละคน ชายตรงหน้าก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัดและในที่สุดการตัดสินก็จะมาถึงในไม่ช้า จากนั้นฮาลเบิร์ดของวอล์มก็ได้แทงไปที่ไหล่ของนักผจญภัยที่ชื่ออัล แล้ววอล์มก็ผลักเขาไปที่ต้นไม้ใหญ่

“แกที่ไม่คุ้นเคยกับการฆ่าคน….ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ”

“อ่าาาา อ้าาาา!!”

เขาอาจเป็นคนดีที่มีเพื่อนที่ดีในฐานะมนุษย์เขานั้นน่าชื่นชม และนั่นคือเหตุผลที่วอล์ม รู้สึกเห็นใจเขา เขาไม่เหมาะกับสนามรบ    
แล้วเขาก็ได้พยายามดึงฮาลเบิร์ดออกและส่งเสียงร้องไร้ประโยชน์ออกมา

หลังจากเวลาสั้นๆนั้น วอล์มก็ได้ดึงดาบออกมาและกำลังจะตัดคอของเขาในแนวนอนในครั้งเดียว

ถ้าเขาตายที่เหลือจะง่ายแล้ว

ในขณะนั้นผิวหนังที่ติดกับเกราะของวอล์มสัมผัสได้ถึงลม มันไม่ใช่ลมที่เป็นธรรมชาติ สัญชาตญาณที่ช่วยให้เขารอดมาได้ในสนามรบจนถึงตอนนี้กำลังบอกถึงวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน  แล้วก็ได้มีลูกพายุมาตกมาข้างๆ วอล์มก็รับกระโดดหลบทันที พลังและความหนาแน่นของมันเทียบไม่ได้กับใบมีดลมที่สร้างจากมานา วอล์มได้ถอยกลับ แต่ความเจ็บปวดก็ได้แล่นไปที่แขนขวาของเขา รอยขีดขวนเล็กๆสามารภมองเห็นได้บนเกราะและรอยขีดข่วนจำนวนมากก็ถูกแกะสลักลงบนนิ้วมือและแขนที่ได้สัมผัสและเลือดก็ไหลออกมา

“เวทมนตร์นี่มันอะไรกัน!”

มีคนเก็บไพ่ตายไว้อย่างงั้นเหรอ แม่งเอ้ย

ในขณะที่สบถออกมาในใจ วอล์มก็มองหาผู้ใช้เวทมนตร์และก็ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่วอล์มกำลังจะฆ่า ใบหน้าที่แสดงความกลัวของเธอที่เขาเห็นเมื่อไม่นานมานี้ไม่ได้ปรากฏออกมา ราวกับว่ามันเป็นเรื่องโกหกแล้วเธอก็จ้องมาที่วอล์มด้วยสายตาเฉียบคม

“แกเองเหรอ”

วอล์มพยายามจะปิดระยะเข้าหา แต่นัดต่อไปก็เข้ามาโดยไม่มีหยุด

“อย่ามายุ่งกับฉัน”

วอล์มได้กระโดดไปหลบหลังต้นไม้ แล้วเมื่อต้นไม้โดนการโจมตีมันก็ถูกตัดออก เหล่าทหารที่โดนการโจมตีเลือดของพวกเขาก็ได้กระจายไปทั่วป่า มันเป็นการโจมตีที่มีพลังมหาศารจริงๆ บางทีการยิงจากระยไกลด้วยความเร็วอาจได้ผล ไม่ได้มีแค่ที่วอล์มเท่านั้นแต่ลมยังกระจายไปทั่วป่าแบบสุ่ม

“มันเป็นการโจมตีวงกว้าง กระจายตัว!! อย่ารวมกลุ่ม!!”

ตามคำสั่งของหัวหน้าดูเวย ทหารก็ย้ายไปยังที่ที่เขาสามารถหลบได้ วอล์มก็เหมือนกัน เมื่อลมหยุดลงนักผจญภัยและทหารสองสามคนก็ได้หนีไป นักผจญภัยที่วอล์มแทงติดไว้กับต้นไม้ก็หายไปเช่นกัน

แล้ววอล์มก็หยิบฮาลเบิร์ดที่โชกไปด้วยเลือดขึ้นมาและก็ตระหนักว่าเขาพลาดไปในการฆ่าเขาคนนั้นดูจากปริมาณที่เลือดออกแล้ว

“ด้วยการโจมตีขนาดใหญ่นั่น พวกเขาก็ไม่ถูกฆ่าไปด้วย?”

วิลลาร์ทพูดออกมาเช่นนั้นใขขณะที่ปัดดินและกิ่งไม้ออกจากตัวเขา

“ก็อย่างที่เห็น อีกแค่นิดเดียวฉันก็เกือบฆ่ามันได้แล้วเชียว”

หัวหน้าหน่วยที่กำลังแบกค้อนสงครามไว้บนไหล่ของเขาดูเศร้าใจ

“หัวหน้า แล้วการไล่ล่าล่ะ”

โจเซ่พร้อมกับนัวร์และบาริโต้ก็ได้ปรากฏตัวออกมาจากช่องว่างของต้นไม้

“อ่าใช่ แต่ไม่จำเป็น กองกำลังหลักของศัตรูถูกทำลาย ที่เหลือก็มีแค่นักผจญภัยที่บาดเจ็บและทหารไมยาร์ดที่ไม่มีผู้บัญชาการ ที่เหลือก็เป็นงานของหน่วยอื่น เราไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนั้น”

“รับทราบ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปรวบรวมศัตรูและผู้รอดชีวิตที่ได้รับบาดเจ็บ โอ้ว และก็พวกแกไม่ค่อยได้ช่วยในการต่อสู้ เพราะฉะนั้นไปกันเถอะ”

“น นั่นไม่จริงสักหน่อย!”

บาริโต้ตอบกลับเสียงดัง แต่โจเซ่ก็โผล่มาแล้วปิดปากของเขาไว้ นัวร์ที่ฉลาดและไม่ได้ต่อต้านโดยไม่จำเป็น

วอล์มมองไปที่ป่าในขณะที่ผูกสายห้ามเลือดให้ตัวเอง ส่วนที่เหลือจะเป็นงานของหน่วยอื่นๆ ถ้านักผจญภัยพวกนั้นโชคดีพวกเขาก็จะสามารถหนีไปได้ แล้ววอล์มก็ได้ตรวจดูสภาพนิ้วมือและแขนของเขา ดาบที่ศัตรูใช้นั้นคมและการฟันแต่ละครั้งก็หนักหน่วง 

เหตุผลที่รอดก็คือนักผจญภัยไม่คุ้นเคยกับการฆ่าคนหรือเห็นเพื่อนของพวกเขาถูกฆ่าเช่นกัน
หากนักผจญนั้นคุ้นเคยกับความตายของมนุษย์ล่ะก็ อาจเป็นวอล์มเองที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอัตราย
คำพูดของนักผจญภัยหญิงที่หนีไปได้ก็เข้ามาในความคิดของวอล์มซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ฉันไม่ได้ฆ่าคนอื่นเพราะฉันชอบสักนิด”

โดยไม่ได้พูดให้ใครฟัง วอล์มพึมพำออกมาเช่นนั้น มันอาจฟังดูตลกและน่าขัน ไม่มีใครเชื่อคำพูดนั้นในป่าเต็มไปด้วยศพ ในความเป็นจริงตราบใดที่คุณต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เป็นศัตรูของมนุษยชาติ คุณก็จะไม่ต้องมาลิ้มรสความขัดแย้งของมนุษย์แบบนี้ แต่สำหรับวอล์มที่เป็นทหารของจักรวรรดิ มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

อีก 4 ปี เฮ่อ

――วอล์มจะสามารถเลือกได้ว่าจะปลดประจำการหรือไม่ในอีกสี่ปีข้างหน้า บางคนจะสามารถเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินเดือนและที่ได้จากการปล้นสะดมของพวกเขาจากสงคราม และบางอาจกลับไปที่บ้านเกิดของเขาแล้วซื้อที่ดินและปักหลักที่นั่น หรือบางคนจะยังคงสู้ต่อไปในฐานะทหาร หรือจะไปเป็นนักผจญภัย วอล์มที่หมดหวังกับปัจจุบันไม่เคยคิดถึงอนาคตของเขา

มันจะโอเคเหรอที่คนที่เพิ่งจะฆ่าคนอื่นไปคิดเกี่ยวกับตัวเอง?

――นักผจญภัยที่เศร้าโศกกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตของคนรอบข้างและรู้สึกโกรธพวกเขานั้นดูเป็นมนุษย์มากกว่าในสายตาของวอล์มอย่างไม่ต้องคิด วอล์มรู้ดีว่ายิ่งเขาเก่งขึ้นในฐานะทหารเท่าไรเขาก็ยิ่งมีความเป็นมนุษย์น้อยลงเท่านั้น

เมื่อเวลาปลดประจำการมาถึงเขากังวลว่าเขาจะยังเป็นวอล์มคนเดิมอยู่ไหม

เฮ่ออ!!

หลังจากที่วอล์มถอนหายใจ เขาก็เริ่มเช็ดเลือดออกจากดาบและฮาลเบิร์ดของเขา

ป่าจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

“วิ่ง!ลิเธีย หรือเธออยากจตาย!?”

เฟล็คกำลังอุ้มอัลและเอมี่ไว้บนหลังของเขา เขาได้เสียตาขวาไปและมีแผลจำนวนมากทั่วร่างของเขา แต่ก็นับว่าน้อยกว่าในหมู่พวกเขา แม้ปกติเฟล็คจะวิ่งไปรอบๆป่าด้วยโล่ขนาดใหญ่ แต่นักผจญภัยทั้งสองก็มีน้ำหนักที่มาก ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถปล่อยไปได้ เฟล็กเอาชนะการมองเห็นที่มืดมนของเขาด้วยแรงใจเท่านั้น

“แต่ แต่ เลฟตี้เขา”

“ฉันรู้!! เลฟตี้จะไม่เป็นอะไร ลองคิดดูว่าเขารอดจากวิกฤตมาได้กี่ครั้งแล้ว”

เฟล็ครู้แม้ว่าเขาจะไม่ชอบ แต่การตามล่าของทหารไฮเซิร์คอาจตามมา ทางรอดเพียงอย่างเดียวของทหารและคนที่บาดเจ็บสองคนคือเฟล็คและอัลต้องไม่ถูกไล่ล่า ดังนั้นเลฟตี้จึงไปเป็นตัวล่อเพื่อให้ปาร์ตี้และทหารไมยาร์ดที่เหลือหลบหนีได้

เลฟตี้ที่มักจะปากเสียและใช้เงินหมดอย่างรวดเร็วจะถูกเข้าใจผิดได้ง่ายว่าเป็นคนที่เย็นชาไม่สนใจ
แต่เฟล็ครู้ดีว่าเขาจะรอดจากวิกฤตที่เอาชีวิตของเขาเป็นเดิมพันได้

“เขาจะไม่เป็นอะไร”

เฟล็คยังคงวิ่งต่อไปโดยบอกตัวเองแบบนั้น เลือดกำลังไหลออกมาจากสองคนบนหลังเขาและชีวิตพวกเขาก็อยู่ในอันตราย

******
จบไปแล้วกับตอนที่10 วันนี้ไม่ยาวสักเท่าไรแต่หวังว่าจะสนุกกันนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกcomment 
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+