สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 11
หลังจากจัดการกับกองกำลังทหารที่แตกทัพที่ชายแดนแล้ว หน่วยของดูเวยก็ได้เคลื่อนพลไปยังเมืองหลวงของไมยาร์ด ไอเดนเบิร์ก
ระหว่างที่เคลื่อนพลหน่วยก็ได้จัดการศัตรูที่ต่อต้านไปด้วย เนื่องจากกลยุทธ์แผ่นดินไหม้เกรียมไม่ได้ถูกนำมาใช้เหมือนเมื่อ5ปีก่อน ดังนั้นการขนส่งเสบียงจึงไม่มีปัญหาและก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ที่จะไปรวมพลที่ทัพหลักเร็วกว่ากำหนด
บางครั้งม้าของผู้ส่งสารก็ได้วิ่งมาอยู่ข้างๆวอล์ม แน่น่อนว่ามันยังมีอุปกรณ์เวทย์สำหรับการสื่อสาร
แต่ว่าส่วนใหญ่ใช้สำหรับการขุดค้นซากปรักหักพังหรือดันเจี้ยน ประเทศที่มีมันอย่างจำกัด ไม่สามารถมีสำรองไว้ใช้สำหรับทุกสถานการณ์ได้
หลังจากหยุดพักข้างแม่น้ำ วอล์มก็นั่งลงและคลายเชือกรวงเท้าแล้วถอดออกและเหยียดเท้าของเขา
ก่อนหน้านี้วอล์มจะสวมรองเท้าแตะทีเป็นรองเท้าฟางสำหรับงานในไร่ แต่ตอนนี้เขากำลังสวมร้องเท้าบูทพร้อมกับแผ่นเหล็ก TN.harf-boots with iron plates. เงี้ย
ช่วงแรกที่เดินทางไกลๆวอล์มมักจะมีแผลพุพองและมีเลือดออก แต่เท้าก็ด้านและแข็งขึ้นเมื่อผ่านไปนาน นอกจากนั้นเขายังเอาผ้าสวมรอบเท้าของเขาก่อนจะใส่รองเท้าบูทดังนั้นตอนนี้เท้าของวอล์มจึงไม่เจ็บอีกต่อไปไม่ว่าวิ่งไปไกลแค่ไหนก็ตาม
แน่นอนว่ามันมีถุงเท้า แต่เนื่องจากมันมีปัญหาทางแฟชั่นในมุมหนึ่งเนื่องจากมันเป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางและราชวงศ์ดังนั้นมีเพียงบุคลากรทหารระดับสูงและนักผจญภัยที่มีรายได้สูงเท่านั้นที่ใส่มันและใช้งานจริง
วอล์มกำลังซักเสื้อผ้าและผ้าที่ใช้ห่อเท้าที่แม่น้ำและทำความสะอาดร่างกายไปด้วยและทหารคนอื่นๆก็เหมือนเขากำลังทำความสะอาดเครื่องสวมใส่ของพวกเขา
หลังจากเสร็จวอล์มก็มาพักอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ แล้ววิลลาร์ดก็มาหาเขา
“หายากนะเนี้ย มีอะไรรึเปล่า?”
ในความทรงจำของวอล์มนั้นแม้ว่าวิลลาร์ทจะอยู่ด้วยเสมอเมื่อคนอื่นๆคุยกัน แต่เขาก็ไม่ค่อยพูดและการที่เขามาหาคนอื่นก่อนยิ่งหายากขึ้นไปอีก เขายังเงียบระเหว่างเคลื่อนพลด้วย
“เมื่อวันก่อนนายบอกว่าสนใจเวทมนตร์ ฉันจะสอนนาย”
วอล์มนึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนที่เขาขอบคุณวิลลาร์ทสำหรับการสนับสนุนด้วยเวทย์ไฟของเขา เขาบอกไว้แบบนั้น
วอล์มไม่สามารถเก็บความรู้สึกของเขาได้เพราะตอนแรกเขาคิดว่าวิลลาร์ทจะไม่ได้มาสอนเขาอย่างจริงจัง
“อ่า ใช่ฉันพูดอย่างนั้น ฉันยินดีที่จะได้เรียนจากนาย”
ไม่มีใครที่จะไม่ชอบเวทมนตร์ ดังนั้นวอล์มจึงตื่นเต้นและคาดหวังว่าเขาจะสามารถใช้ได้หนึ่งหรือสองธาตุ
“จับมือฉัน”
“ห๊ะ? มือ?”
วอล์ม ตอบต่อคำขอที่คาดไม่ถึง
“อย่างนั้น หลับตาลง”
มันรู้สึกเกินคาดและแปลกที่ทหารสองคนจะเผชิญหน้ากันและจับมือกัน แต่วอล์มก็เชื่อฟังและทำในขณะที่หลงไหลไปกับคำว่า “เวทมนตร์”
วี้ว!!
“ดูน่ารักดีนะเนี้ย”
โจเซ่ที่กำลังดูอยู่ใกล้ๆ ผิวปากแล้ะด้วยรอยยิ้มนั่นที่บอกวากำลังเยาะเย้ยวอล์มอยู่
“ฉันล้อเล่นน่า”
โจเซ่รู้สึกไม่สบายใจเมื่อวอล์มมองเขาด้วยใบหน้าที่พร้อมจะสู้และคลายไหล่ของเขา
“มีสมาธิ”
วิลลาร์ทตำหนิวอล์มอออกมาเพราะการตอบสนองของเขา วอล์มต้องการบ่นโจเซ่แต่เขาไม่อย่างจะทำให้วิลลาร์ทเคือง
หลังจากพักหายใจ วอล์มก็จดจ่อกับสมาธิของเขาบนมือที่เชื่อมกันอยู่ นอกจากมือแล้วยังมีการแพร่ของความรู้สึกเย็น
“มันเย็น”
“ใช่ นั่นคือสถานะที่มานาถูกใช้ด้วยเวทมนตร์ธาตุ”
ในฐานะที่วอล์มที่มีชีวิตก่อนของเขาในโลกที่ไม่มีเวทมนตร์ เขานั้นโหยหาเวทมนตร์มากกว่าคนอื่นๆในโลกนี้ แม้แต่คนโลกนี้ก็ยังดีใจหากพวกเขามีความถนัดด้านเวทมนตร์ธาตุ
“อย่าไปสนใจ มีสมาธิ”
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ตอนนี้วอล์มสามารถรู้สึกถึงสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกตอบสนองอย่างอ่อนไหว
“ฉันจะปล่อยมือ มุ่งความสนใจไปที่มือของนาย คิดว่ามันเป็นแม่น้ำหรือทะเล ลองนึกภาพการไหลของน้ำ”
สิ่งที่วอล์มกำลังจินตนาการถึงคือสายฝนเย็นๆที่สามารถนำความร้อนออกจากร่ายกายได้ และในขณะเดียวกันเขาก็นึกถึงฝนที่ทำให้พื้นดินชุ่มชื้นและไหลลงสู่แม่น้ำและทะเล
“อ่า…….”
“นี่คือเวทมนตร์ใช่มั้ย!?”
วอล์มระเบิดไปด้วยความรู้สึกดีใจและพูดกับวิลลาร์ทด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ชิ ไม่ใช่มัน”
ชายหัวโล้นบิดเบี้ยวใบหน้าของเขาราวกับจะบอกว่ามันน่าผิดหวัง
“หะ!!”
“แม้ว่านายจะใช้มันได้…แต่ความถนัดของนายแทบจะไม่มี มันสามารถที่จะใช้ผลิตน้ำในชีวิตประจำวันได้เท่านั้น”
วอล์ม พยายามเถียงกลับว่ามันจะดีถ้าหากใครบางคนสามารถผลิตน้ำได้ แต่เขาก็หยุดลง
ผู้ใช้เวทย์น้ำได้นั้นจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่ว่าพวกเขาจะใช้มันได้ดีแค่ไหน ท้ายที่สุดแล้วประมาณ60%ของร่างกายมนุษย์นั้นเป็นน้ำขึ้นกับอายุและแต่ละบุคคล
เท่าที่วอล์มรู้คือผู้ใช้เวทมนตร์ธาตุน้ำมีไม่น้อยเลยที่จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ในการต่อสู้ได้ แม้ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังได้สิทธิพิเศษในการแจกจ่ายอาหาร แต่พวกเขามักจะถูกใช้ให้ผลิตน้ำ เช่นเดียวกับที่มนุษย์ที่ตกเป็นเป้าหมายของซัคคิวบัสและอินคิวบัส มานาของพวกเขาก็จะถูกรีดออกมา
วิลลาร์ทเป็นหนึ่งในนักเวทย์ชั้นแนวหน้าที่สามารถใช้เวทมนตร์ในการต่อสู้ได้และยังรวมถึงการผลิตน้ำ นั่นคือเหตุผลที่แม้ว่าเขาจะผิดหวังในวอล์ม แต่เขาก็ยังมีความสุขที่ภาระของเขาจะเบาลง
วอล์มมองไปรอบๆเพื่อดูว่าคนอื่นเห็นสิ่งที่เขาทำลงไปหรือไม่ และเขาก็เห็นสมาชิกทุกคนกำลังดูอยู่
วอล์มมั่นใจเมื่อได้เห็นหัวหน้าหน่วยที่ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส
บ้าเอ้ย มันสายเกิดไป――
“ถ้าเทียบกับการใช้ไปกับทักษะของนายแล้ว การใช้มานาของนายไปกับมันจะเป็นการเปลืองเปล่า ถึงอย่างนั้นมันก็ดีพอที่จะทำให้นายกลายเป็นเครื่องกดน้ำหมุษย์ที่ยอดเยี่ยม”
วอล์ม คร่ำครวญออกมาถึงความผิดพลาดของเขา แล้วหันไปหาวิลลาร์ททีพูดออกมา
“ฉัน..ฉันใช้มานาไปแล้วรึเปล่า”
“แน่น่อน ฉันหมายถึงทหารชั้นนำจะใช้มานาเพื่อเปิดใช้ทักษะของพวกเขาและเสริมความสามารถทางกายภาพของพวกเขา นายไม่รูเหรอ?”
วิลลาร์ขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจกับวอล์ม
“ฉันก็แค่คนจากชนบทที่บังเอิญเข้ากองทัพ ฉันไม่เคยเรียนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
คิดว่าฉันจะรู้เรอะ”
วอล์มบ่นออกมา แต่วิลลาร์ทไม่ได้สนใจ
“ต่อไป ฉันนั้นสามารถใช้ธาตุไฟและน้ำได้ ลองดูสิ”
“ไฟ” เป็นสิ่งที่วอล์มคุ้นเคยในชีวิตที่แล้วและเป็นส่วนสำคัญในโลกนี้ด้วย
เคยมีครั้งหนึ่งที่ผมของวอล์มถูกลูกไฟของศัตรูเผาและมันก็กลายเป็นเถ้า ดังนั้นมันจึงง่ายสำหรับวอล์มที่จะจินตนาการ
วอล์ม หลับตาลงและมีสมาธิ เขารู้สึกว่าวิลลาร์ที่อยู่ตรงหน้าเขาจะกระโดนหนีไป ไม่เขาทำอย่างนั้น
เมื่อวอล์มลืนตาขึ้นไฟก็ลุกลามจากมือขวาของเขาไปยังต้นไม้และรอบๆก็เริ่มติดไฟ
“วิลลาร์ท!!ฉันควรทำยังไงต่อ!?”
วอล์มที่ตกใจตะโกนเรียกวิลลาร์ทเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไฟก็กระจายไปทั่ว
“อะไรน่ะ? ศัตรูโจมตีเรอะ!?”
“ไม่ วอล์มกำลังเผารอบๆด้วยเวทย์ไฟ”
“บ้าเอ้ย หยุดมันเร็ว!!”
“อ้าาาา ผมของฉัน”
ผมของบาริโต้ได้ถูกไฟไหม้และมันกำลังจะกลายเป็นไก่ย่าง TN จากที่ผมเหมือนหงอนไก่
แล้วนัวร์ก็เรียกหาวอล์มขณะดับไฟบนหัวของบาริโต้
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ทำยังไงดีล่ะเนี้ย!?”
วอล์ม ร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง แต่การตอบสนองของวิลลาร์ทนั้นง่ายๆ
『มอนสเตอร์จัดการด้วยมอนสเตอร์ ดังนั้นไฟจึงจัดการด้วยน้ำ!』
“ดะ เดี๋ยว――
ลูกบอลน้ำไดเข้ามาในสายตาของวอล์ม ทำให้เขาไม่มีเวลาที่จะขอความเมตตา แล้วมันก็ชนเข้ากับร่างของเขาทั้งหมดและดับไฟโดยรอบ
และไม่สามารถจัดการโมเมนตัได้วอล์มก็กลิ้งลงบนพื้นหลายครั้งจนหยุดในครั้งที่6
“อย่ามาล้อเล่นเว้ย วิลลาร์ท!!”
ความวุ่นวายหยุดลงและวอล์มก็ตะโกนออกมา
วอล์ม ชันมือของเขาและลุกขึ้น แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียง วิลลาร์ทพึมพำออกมา
“ต่อไป ลองนึกภาพอีกอย่าง เร็วเข้า”
“หะ…”
วอล์มตกใจกับคำพูดนั้น
วอล์ม ลืมไปเลยว่าชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาที่มักมีงานอดิเรกในการโกนผมเป็นคนแปลกๆที่ไม่รู้จะรับมือยังไงเมื่อพูดถึงเวทมนตร์
จากนั้นวอล์มก็ได้รับการยืนยันว่าเขาไม่มีคุณสมบัติในธาตุดินและก็คุณสมบัติในธาตุลมของเขานั้นมีความถนัดสูงเทียบเท่ากับคุณสมบัติธาตุไฟ
ปัญหาคือลมที่ไม่สามารถควบคุมได้ที่วอล์มสร้างขึ้น ได้มีผลกระทับกับคนๆอื่นและยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งเขาถูกทำให้สลบโดยหัวหน้าหน่วย
การชดเชยความเสียหายนั้นคือ วอล์มได้รับคำสั่งให้เฝ้ายามเป็นเวลาสามวันและนอกจากนั้นยังถูกใช้เป็นเครื่องผลิตน้ำมนุษย์ด้วย
****
จจบไปแล้วกับตอนที่11 แล้วMCของเราก็ได้รับพลังใหม่!!
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆCommentครับ
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
Comments
สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 11
หลังจากจัดการกับกองกำลังทหารที่แตกทัพที่ชายแดนแล้ว หน่วยของดูเวยก็ได้เคลื่อนพลไปยังเมืองหลวงของไมยาร์ด ไอเดนเบิร์ก
ระหว่างที่เคลื่อนพลหน่วยก็ได้จัดการศัตรูที่ต่อต้านไปด้วย เนื่องจากกลยุทธ์แผ่นดินไหม้เกรียมไม่ได้ถูกนำมาใช้เหมือนเมื่อ5ปีก่อน ดังนั้นการขนส่งเสบียงจึงไม่มีปัญหาและก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ที่จะไปรวมพลที่ทัพหลักเร็วกว่ากำหนด
บางครั้งม้าของผู้ส่งสารก็ได้วิ่งมาอยู่ข้างๆวอล์ม แน่น่อนว่ามันยังมีอุปกรณ์เวทย์สำหรับการสื่อสาร
แต่ว่าส่วนใหญ่ใช้สำหรับการขุดค้นซากปรักหักพังหรือดันเจี้ยน ประเทศที่มีมันอย่างจำกัด ไม่สามารถมีสำรองไว้ใช้สำหรับทุกสถานการณ์ได้
หลังจากหยุดพักข้างแม่น้ำ วอล์มก็นั่งลงและคลายเชือกรวงเท้าแล้วถอดออกและเหยียดเท้าของเขา
ก่อนหน้านี้วอล์มจะสวมรองเท้าแตะทีเป็นรองเท้าฟางสำหรับงานในไร่ แต่ตอนนี้เขากำลังสวมร้องเท้าบูทพร้อมกับแผ่นเหล็ก TN.harf-boots with iron plates. เงี้ย
ช่วงแรกที่เดินทางไกลๆวอล์มมักจะมีแผลพุพองและมีเลือดออก แต่เท้าก็ด้านและแข็งขึ้นเมื่อผ่านไปนาน นอกจากนั้นเขายังเอาผ้าสวมรอบเท้าของเขาก่อนจะใส่รองเท้าบูทดังนั้นตอนนี้เท้าของวอล์มจึงไม่เจ็บอีกต่อไปไม่ว่าวิ่งไปไกลแค่ไหนก็ตาม
แน่นอนว่ามันมีถุงเท้า แต่เนื่องจากมันมีปัญหาทางแฟชั่นในมุมหนึ่งเนื่องจากมันเป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางและราชวงศ์ดังนั้นมีเพียงบุคลากรทหารระดับสูงและนักผจญภัยที่มีรายได้สูงเท่านั้นที่ใส่มันและใช้งานจริง
วอล์มกำลังซักเสื้อผ้าและผ้าที่ใช้ห่อเท้าที่แม่น้ำและทำความสะอาดร่างกายไปด้วยและทหารคนอื่นๆก็เหมือนเขากำลังทำความสะอาดเครื่องสวมใส่ของพวกเขา
หลังจากเสร็จวอล์มก็มาพักอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ แล้ววิลลาร์ดก็มาหาเขา
“หายากนะเนี้ย มีอะไรรึเปล่า?”
ในความทรงจำของวอล์มนั้นแม้ว่าวิลลาร์ทจะอยู่ด้วยเสมอเมื่อคนอื่นๆคุยกัน แต่เขาก็ไม่ค่อยพูดและการที่เขามาหาคนอื่นก่อนยิ่งหายากขึ้นไปอีก เขายังเงียบระเหว่างเคลื่อนพลด้วย
“เมื่อวันก่อนนายบอกว่าสนใจเวทมนตร์ ฉันจะสอนนาย”
วอล์มนึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนที่เขาขอบคุณวิลลาร์ทสำหรับการสนับสนุนด้วยเวทย์ไฟของเขา เขาบอกไว้แบบนั้น
วอล์มไม่สามารถเก็บความรู้สึกของเขาได้เพราะตอนแรกเขาคิดว่าวิลลาร์ทจะไม่ได้มาสอนเขาอย่างจริงจัง
“อ่า ใช่ฉันพูดอย่างนั้น ฉันยินดีที่จะได้เรียนจากนาย”
ไม่มีใครที่จะไม่ชอบเวทมนตร์ ดังนั้นวอล์มจึงตื่นเต้นและคาดหวังว่าเขาจะสามารถใช้ได้หนึ่งหรือสองธาตุ
“จับมือฉัน”
“ห๊ะ? มือ?”
วอล์ม ตอบต่อคำขอที่คาดไม่ถึง
“อย่างนั้น หลับตาลง”
มันรู้สึกเกินคาดและแปลกที่ทหารสองคนจะเผชิญหน้ากันและจับมือกัน แต่วอล์มก็เชื่อฟังและทำในขณะที่หลงไหลไปกับคำว่า “เวทมนตร์”
วี้ว!!
“ดูน่ารักดีนะเนี้ย”
โจเซ่ที่กำลังดูอยู่ใกล้ๆ ผิวปากแล้ะด้วยรอยยิ้มนั่นที่บอกวากำลังเยาะเย้ยวอล์มอยู่
“ฉันล้อเล่นน่า”
โจเซ่รู้สึกไม่สบายใจเมื่อวอล์มมองเขาด้วยใบหน้าที่พร้อมจะสู้และคลายไหล่ของเขา
“มีสมาธิ”
วิลลาร์ทตำหนิวอล์มอออกมาเพราะการตอบสนองของเขา วอล์มต้องการบ่นโจเซ่แต่เขาไม่อย่างจะทำให้วิลลาร์ทเคือง
หลังจากพักหายใจ วอล์มก็จดจ่อกับสมาธิของเขาบนมือที่เชื่อมกันอยู่ นอกจากมือแล้วยังมีการแพร่ของความรู้สึกเย็น
“มันเย็น”
“ใช่ นั่นคือสถานะที่มานาถูกใช้ด้วยเวทมนตร์ธาตุ”
ในฐานะที่วอล์มที่มีชีวิตก่อนของเขาในโลกที่ไม่มีเวทมนตร์ เขานั้นโหยหาเวทมนตร์มากกว่าคนอื่นๆในโลกนี้ แม้แต่คนโลกนี้ก็ยังดีใจหากพวกเขามีความถนัดด้านเวทมนตร์ธาตุ
“อย่าไปสนใจ มีสมาธิ”
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ตอนนี้วอล์มสามารถรู้สึกถึงสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกตอบสนองอย่างอ่อนไหว
“ฉันจะปล่อยมือ มุ่งความสนใจไปที่มือของนาย คิดว่ามันเป็นแม่น้ำหรือทะเล ลองนึกภาพการไหลของน้ำ”
สิ่งที่วอล์มกำลังจินตนาการถึงคือสายฝนเย็นๆที่สามารถนำความร้อนออกจากร่ายกายได้ และในขณะเดียวกันเขาก็นึกถึงฝนที่ทำให้พื้นดินชุ่มชื้นและไหลลงสู่แม่น้ำและทะเล
“อ่า…….”
“นี่คือเวทมนตร์ใช่มั้ย!?”
วอล์มระเบิดไปด้วยความรู้สึกดีใจและพูดกับวิลลาร์ทด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ชิ ไม่ใช่มัน”
ชายหัวโล้นบิดเบี้ยวใบหน้าของเขาราวกับจะบอกว่ามันน่าผิดหวัง
“หะ!!”
“แม้ว่านายจะใช้มันได้…แต่ความถนัดของนายแทบจะไม่มี มันสามารถที่จะใช้ผลิตน้ำในชีวิตประจำวันได้เท่านั้น”
วอล์ม พยายามเถียงกลับว่ามันจะดีถ้าหากใครบางคนสามารถผลิตน้ำได้ แต่เขาก็หยุดลง
ผู้ใช้เวทย์น้ำได้นั้นจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่ว่าพวกเขาจะใช้มันได้ดีแค่ไหน ท้ายที่สุดแล้วประมาณ60%ของร่างกายมนุษย์นั้นเป็นน้ำขึ้นกับอายุและแต่ละบุคคล
เท่าที่วอล์มรู้คือผู้ใช้เวทมนตร์ธาตุน้ำมีไม่น้อยเลยที่จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ในการต่อสู้ได้ แม้ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังได้สิทธิพิเศษในการแจกจ่ายอาหาร แต่พวกเขามักจะถูกใช้ให้ผลิตน้ำ เช่นเดียวกับที่มนุษย์ที่ตกเป็นเป้าหมายของซัคคิวบัสและอินคิวบัส มานาของพวกเขาก็จะถูกรีดออกมา
วิลลาร์ทเป็นหนึ่งในนักเวทย์ชั้นแนวหน้าที่สามารถใช้เวทมนตร์ในการต่อสู้ได้และยังรวมถึงการผลิตน้ำ นั่นคือเหตุผลที่แม้ว่าเขาจะผิดหวังในวอล์ม แต่เขาก็ยังมีความสุขที่ภาระของเขาจะเบาลง
วอล์มมองไปรอบๆเพื่อดูว่าคนอื่นเห็นสิ่งที่เขาทำลงไปหรือไม่ และเขาก็เห็นสมาชิกทุกคนกำลังดูอยู่
วอล์มมั่นใจเมื่อได้เห็นหัวหน้าหน่วยที่ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส
บ้าเอ้ย มันสายเกิดไป――
“ถ้าเทียบกับการใช้ไปกับทักษะของนายแล้ว การใช้มานาของนายไปกับมันจะเป็นการเปลืองเปล่า ถึงอย่างนั้นมันก็ดีพอที่จะทำให้นายกลายเป็นเครื่องกดน้ำหมุษย์ที่ยอดเยี่ยม”
วอล์ม คร่ำครวญออกมาถึงความผิดพลาดของเขา แล้วหันไปหาวิลลาร์ททีพูดออกมา
“ฉัน..ฉันใช้มานาไปแล้วรึเปล่า”
“แน่น่อน ฉันหมายถึงทหารชั้นนำจะใช้มานาเพื่อเปิดใช้ทักษะของพวกเขาและเสริมความสามารถทางกายภาพของพวกเขา นายไม่รูเหรอ?”
วิลลาร์ขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจกับวอล์ม
“ฉันก็แค่คนจากชนบทที่บังเอิญเข้ากองทัพ ฉันไม่เคยเรียนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
คิดว่าฉันจะรู้เรอะ”
วอล์มบ่นออกมา แต่วิลลาร์ทไม่ได้สนใจ
“ต่อไป ฉันนั้นสามารถใช้ธาตุไฟและน้ำได้ ลองดูสิ”
“ไฟ” เป็นสิ่งที่วอล์มคุ้นเคยในชีวิตที่แล้วและเป็นส่วนสำคัญในโลกนี้ด้วย
เคยมีครั้งหนึ่งที่ผมของวอล์มถูกลูกไฟของศัตรูเผาและมันก็กลายเป็นเถ้า ดังนั้นมันจึงง่ายสำหรับวอล์มที่จะจินตนาการ
วอล์ม หลับตาลงและมีสมาธิ เขารู้สึกว่าวิลลาร์ที่อยู่ตรงหน้าเขาจะกระโดนหนีไป ไม่เขาทำอย่างนั้น
เมื่อวอล์มลืนตาขึ้นไฟก็ลุกลามจากมือขวาของเขาไปยังต้นไม้และรอบๆก็เริ่มติดไฟ
“วิลลาร์ท!!ฉันควรทำยังไงต่อ!?”
วอล์มที่ตกใจตะโกนเรียกวิลลาร์ทเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไฟก็กระจายไปทั่ว
“อะไรน่ะ? ศัตรูโจมตีเรอะ!?”
“ไม่ วอล์มกำลังเผารอบๆด้วยเวทย์ไฟ”
“บ้าเอ้ย หยุดมันเร็ว!!”
“อ้าาาา ผมของฉัน”
ผมของบาริโต้ได้ถูกไฟไหม้และมันกำลังจะกลายเป็นไก่ย่าง TN จากที่ผมเหมือนหงอนไก่
แล้วนัวร์ก็เรียกหาวอล์มขณะดับไฟบนหัวของบาริโต้
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ทำยังไงดีล่ะเนี้ย!?”
วอล์ม ร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง แต่การตอบสนองของวิลลาร์ทนั้นง่ายๆ
『มอนสเตอร์จัดการด้วยมอนสเตอร์ ดังนั้นไฟจึงจัดการด้วยน้ำ!』
“ดะ เดี๋ยว――
ลูกบอลน้ำไดเข้ามาในสายตาของวอล์ม ทำให้เขาไม่มีเวลาที่จะขอความเมตตา แล้วมันก็ชนเข้ากับร่างของเขาทั้งหมดและดับไฟโดยรอบ
และไม่สามารถจัดการโมเมนตัได้วอล์มก็กลิ้งลงบนพื้นหลายครั้งจนหยุดในครั้งที่6
“อย่ามาล้อเล่นเว้ย วิลลาร์ท!!”
ความวุ่นวายหยุดลงและวอล์มก็ตะโกนออกมา
วอล์ม ชันมือของเขาและลุกขึ้น แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียง วิลลาร์ทพึมพำออกมา
“ต่อไป ลองนึกภาพอีกอย่าง เร็วเข้า”
“หะ…”
วอล์มตกใจกับคำพูดนั้น
วอล์ม ลืมไปเลยว่าชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาที่มักมีงานอดิเรกในการโกนผมเป็นคนแปลกๆที่ไม่รู้จะรับมือยังไงเมื่อพูดถึงเวทมนตร์
จากนั้นวอล์มก็ได้รับการยืนยันว่าเขาไม่มีคุณสมบัติในธาตุดินและก็คุณสมบัติในธาตุลมของเขานั้นมีความถนัดสูงเทียบเท่ากับคุณสมบัติธาตุไฟ
ปัญหาคือลมที่ไม่สามารถควบคุมได้ที่วอล์มสร้างขึ้น ได้มีผลกระทับกับคนๆอื่นและยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งเขาถูกทำให้สลบโดยหัวหน้าหน่วย
การชดเชยความเสียหายนั้นคือ วอล์มได้รับคำสั่งให้เฝ้ายามเป็นเวลาสามวันและนอกจากนั้นยังถูกใช้เป็นเครื่องผลิตน้ำมนุษย์ด้วย
****
จจบไปแล้วกับตอนที่11 แล้วMCของเราก็ได้รับพลังใหม่!!
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆCommentครับ
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
Comments