สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 15

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 15 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ร่างกายของวอล์มนั้นเหนื่อยล้ามากเพราะเขาได้ใช้มานาจนถึงขีดจำกัด และขาของเขาก็หนักราวกับหินจากการวิ่งระยะไกล ไฟได้ลุกขึ้นมาเล็กน้อยแล้วเขาก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้ไม่มีพันธมิตรของเขาอยู่ใกล้ๆนี้

“เหลือแค่แกเท่านั้น…ไอ้ผู้บัญชาการ”

วอล์มคิดว่ามันจะลดเวลาได้เยอะเลยถ้าเขาตอบกลับ แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบจริงๆ  วอล์มจึงแปลกใจ

“ช่างมั่นหน้าจริงๆ ถูกต้อง ฉันคือผู้บัญชาการของอาณาจักรเฟอร์เรียสและกองกำลังร่วมไมยาร์ด วินส์ตัน เฟอร์เรียส”   

วอล์มไม่ได้รู้จักหน้าเขามาก่อน มีความกลัวได้แสดงออกมาทางร่ายกายของเขา อย่างไรก็ตามจากอารมณ์และน้ำเสียงสั่นๆ ของเขา วอล์มสามารถรู้สึกได้ถึงศักดิ์ศรีและบุคลิกของเขาได้โดยธรรมชาติ

“ยอมจำนนซะ”
 

วอล์มคิด ว่าเขาไม่สามารถฆ่าชายคนนั้นได้ ท้ายที่สุดชายคนนั้นคือบัญชาการของศัตรูและมากกว่านั้นเขาเป็นราชวงศ์ เขาสามารถถูกใช้เป็นเชลยได้และจะได้เปรียบในการเจรจาระหว่างประเทศ

“ฉันยังมีแขนขา ดาบและศักดิ์ศรีของฉันอยู่ และทหารของฉันยังคงสู้อยู่ ไม่มีเหตุผลเลยให้ฉันต้องยอมจำนน”

วินส์ตันชักดาบของเขาออกมาจากฝักแล้วก็ก้าวไปหาวอล์ม โดยยกดาบไว้ด้านบน

ชายคนนั้นเคลื่อนไหวไดดีกว่าที่คาดไว้ วอล์มคิดว่าผู้บัญชาการสูงสุดจะมีแค่ของตกแต่งเท่านั้นสะอีก

วอล์มแทงฮาลเบิร์ดออกไปเพื่อปัดป้องมัน แต่ในขณะปัดป้องดาบ เขาก็หมุนเข้ามาที่ฝั่งซ้ายของวอล์ม

ตอนนี้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์หรือทักษะได้ แม้แต่มานาที่วอล์มจะใช้เสริมแกร่งก็ไม่มี วอล์มหวังว่าจะพันธมิตรของเขาที่อยู่รอบๆจะมาช่วยเขา แต่นอกจากเรื่องไฟแล้วพวกเขายังยุ่งอยู่กับการจัดการศัตรูที่ยังรอดและพยายามจะช่วยวินส์ตัน 

วอล์มได้แต่มุ่งความสนใจไปที่การจะฆ่าศัตรูที่แข็งแกร่งตรงหน้าเท่านั้น ดาบและฮาลเบิร์ดตัดกันหลายครั้งโดยเล็งไปที่บาดแผลของกันและกัน

ดาบของวินส์ตันได้บาดแขนของวอล์ม และฮาลเบิร์ดของวอล์ม ก็ได้บาดคอของวินส์ตัน

เลือดไหลออกมาจากคอเล็กน้อย มันห่างไกลจากบาดแผลร้ายแรง แล้วช่องว่างและระยะห่างได้ถูกสร้างขึ้นแล้วการต่อสู้ก็ดำเนินต่อไป

วอล์มคว้าด้ามจับของฮาลเบิร์ด แล้วก็แทงจากระยะไกลกว่าเดิม วินส์ตันได้ทรุดตัวลงเนื่องจากการโจมตีในจังหวะที่ไม่คาดคิด

แล้วก็ได้ขว้างฮาลเบิลไปที่หัวของวินส์ตันหลังจากชักกลับ วินส์ตันปัดมันออกอย่างใจเย็นด้วยดาบของเขา แต่วอล์มก็ปิดระยะเข้ามาแล้วกระแทกไหล่ไปที่ดาบของวินส์ตันแล้วจากนั้นก็ชักดาบออกมา

เมื่อวินส์ตันได้หยุดการเคลื่อนไหว เข่าของเขาก็ทรุดลง คอของเขาถูกฟันเข้าไปครึ่งหนึ่งแล้วเลือดก็ไหลออกมาอย่างไม่หยุด

“อัคคค แม้ฉั จ แพ  ้…..เฟ ร์ เรี ส  ยัง ไม ่ ….แพ้”

วินส์ตันที่กำลังเข้นคำพูดออกมา ได้ตายลงภายใต้สายตาของวอล์ม

วอล์มสูดหายใจเข้าลึกๆ และเปล่งเสียงออกมา

“ผู้บัญชาการข้าศึกถูกโค้นแล้ววววว!!”

เสียงตะโกนของวอล์มได้กระจายไปทั่วสนามรบทันที

ในขณะที่ทหารไฮเซิร์คมีแรงใจมากขึ้น ทหารเฟอร์เรียสที่ต้านก็ได้เริ่มหนีลงจากเนินเขา

แต่ทหารไฮเซิร์คก็ไม่ได้ง่ายพอจะให้พวกเขาหนีไปได้ เสียงคำรามของม้าได้ดังมาจากด้านหลังของวอล์มที่อยู่ในขึดจำกัดและกำลังหายใจอย่างหนัก แล้วกลุ่มทหารม้าก็ได้ปรากฏตัวขึ้น

ชายคนหนึ่งได้ก้าวออกมาจากกลุ่มทหารที่ใส่เกราะหนัก

“นายคือคนที่จัดการวินส์ตันหรือเปล่า?”

ชายคนนั้นคือผู้บัญชาการกองพันทหารม้า จาฟฟ์ ที่รู้จักกันดีในหมู่ทหารไฮเซิร์คทุกคน

“ครับท่าน”

แล้วก็ยืนยันผลการต่อสู้ จาฟฟ์มองไปที่ศพแล้วก็ค่อยๆพยักหน้าให้วอล์ม

“นั่นคือวินส์ตัน เฟอร์เรียส ทำได้ดีมาก มันเป็นความสำเร็จที่หมาศาล สังกัดนายชื่ออะไร”

วอล์มคิดว่ามันเป็นแค่การยืนยันตัวอีกครั้งดังนั้นปฏิกิริยาของเขาจังช้านิดหน่อย

“… หมวดโคซูรุ หน่วยดูเวย และผมชื่อ วอล์ม ครับท่าน”

“วอล์มใช่ไหม? ฉันนึกว่าฉันจะได้หัวของวินส์ตันสะอีก แต่นายทำได้ดี กองพันทหารราบเบากำลังรวมตัวกันใหม่ที่เนินเขาและสิ้นสุดการต่อสู้ นายควรพักจนกว่าจะถึงตอนนั้น”

ความเหนื่อยล้าได้ถึงขีดจำกัดแล้ว หากคนที่คุยกับเขาไม่ใช่ระดับนายพล วอล์มก็คงจะทิ้งตัวลงบนพื้นแล้ว

“และเพื่อเป็นเกียริแก่ความสำเร็จ ฉันแน่ใจผู้บัญชาการเบเกอร์จะให้รางวัลนายแน่ อย่าตายจนกว่าจะถึงตอนนั้นล่ะ”

หลังจากพูดอย่างนั้นผู้บัญชากองพัน จาฟฟ์ ก็ขี่ม้าของเขาและนำกองพันลงไปตามเนินเขา

ทหารศัตรูที่ไม่สามารถหนีได้ก็ถูกกลืนโดยกองพัน และถูกจัดการอยู่บนพื้น

จากด้านบนของเนินเขาจะสามารถเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมด พวกเขาวิ่งไปรอบๆสนามรบเหมือนสิ่งมีชีวิตอันโดดเดี่ยวและโจมตีจากด้านหลังและด้านข้างของกองกำลังศัตรูที่กำลังต่อสู้กับกองพันทหารราบในที่ราบ

วอล์มสูดหายใจเข้าในขณะที่คิดว่ากองพันทหารม้า จาฟฟ์ นั้นเป็นดั่งหมาป่าที่จู่โจมฝูงแกะ พลังที่โดนเด่นของพวกเขานั้นน่ากลัว พวกเขาจัดการได้ดีต่อศัตรูที่เขาพุ่งผ่านไปและทำให้ขบวนพังทลายลงในทันทีดังนั้นกองกำลังที่ถูกประกบข้างจึงถูกทำลาย

มันถูกคุมขังไว้ทุกที่ในสนามรบ

ความพ่ายแพ้ของพันธมิตรเฟอร์เรียสและไมยาร์ด นั้นแน่นอนแล้วในสายตาของวอล์ม

“นายโอเคไหม วอล์ม”

โจเซ่ที่เปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกและเลือดพูด วอล์มกังวลเกี่ยวกับสภาพของเขา

“อย่างงั้นแหละ ฉันเหนื่อยมาก”

“เหนื่อยฮะ มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่านายยังมีชีวิตอยู่”

“คนอื่นปลอดภัยไหม”

“ทุกคนปลอดภัย บาริโต้และนัวร์ดูเหมือนจะล้มลงได้ทุกเมื่อส่วนหัวหน้า ก็คงรู้ดี”

ไม่มีใครคิดว่าหัวหน้าดูเวยจะถูกฆ่าในระหว่างนั้น วอล์มเชื่อว่าแม้ร่างของเขาจะถูกแทงแต่เขาก็คงจะอาละวาดต่อไปรอบๆ

วอล์มกำลังจะนั่งลงแต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียง เจ้าของเสียงแหลมต่ำลึกล้ำท่คุ้นเคย หัวหน้าดูเวย

“อย่าทิ้งตัวลง นายจะยืนไม่ได้ทันที ดื่นน้ำทีละน้อยแล้วอีก5นาที เราจะเริ่มไล่ล่า หลังจากนั้นเราจะได้พักแล้ว”

ใช่ การต่อสู้ยังไม่จบ แล้ววอล์มก็เอาขวดน้ำที่เอวของเขาเข้าปาก ความกระหายของเขาลดลงทันที

วอล์มได้หันไปมองด้านข้าง ศพของวินส์ตน เฟอร์เรียส ได้ถูกพาไปที่เต็นท์ของศัตรูที่ยังตั้งอยู่

วอล์ม สามารถรอดจากงานที่ยากที่สุดได้ แต่จุดสิ้นสุดยังคงไม่มาถึง ห่างออกไปไม่กี่กม. การต่อสู้ที่ดุเดือนยังคงดำเนินอยู่ที่เนินเขาค่ายของไมยาร์ด

“กองทัพเฟอร์เรียสได้พังทลายลงโดยสิ้นเชิง!! มีสามกองพันถูกทำลายไปแล้ว กองพันที่เหลือก็กำลังจะตามไป”

“นอกจากนั้นยังมีรายงานด้วยว่า วินส์ตัน เฟอร์เรียส ถูกสังหารลงในหน้าที่…”

“กองทหารของ อาริแอนด์และแกรี่ กำลังอยู่ในความโกลาหล และเนินเขาถูกล้อมโดยสมบูรณ์”

การตายของวินส์ตันผู้บัญชาของเฟอร์เรียสก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทหารของไมยาร์ดอยู่ในความสิ้นหวัง

ยูท ไมยาร์ด ได้พยายามอย่างหนักที่จะตั้งขบวนขึ้นมาใหม่ แต่กองพันทหารม้าจาฟฟ์ที่ภาคภูมิใจของไฮเซิร์กก็ได้ทำลายมัน

บางหน่วยที่ต้านกองพันทหารราบของไฮเซิร์คอยู่ ก็ถูกโจมตีจากด้านหลังและข้างอย่างไม่มีสิ้นสุดมีแล้วทหารหลายคนเสียชีวิตเมื่อขบวนพังทลายลง

ยูท พยายามล่าถอยอย่างเป็นระบบด้วยผู้ส่งสารและอุปกรณ์เวทย์ และเขาตระหนักได้วากองทัพเฟอร์เรียสมีทหารที่ได้รับความเสียหายน้อยกว่า

กองทัพเฟอร์เรียสมากกว่า 6000 นายถูกจัดการไปแล้วในระหว่างนั้น และทหารไมยาร์ดมากกว่า5000 ก็เสียชีวิตเช่นกัน

ที่เหลืออยู่คือกองทหารราบที่ปีกซ้ายที่อยู่ในความโกลาหล ในช่วงเริ่มต้นการบและทั้ง3000ก็แทบจะไม่หนีไปที่เนินเขา ยูทคิดว่านั้นคือกับดักที่ทำให้เขาติดอยู่ในเนินเขา

เมื่อนึกถึงเหตุผลที่เขาก็ต้องก้มหัวเพื่อต่อต้านประเทศเพื่อนบ้านและอดทนมาเป็นเวลา5ปี 
ยูทดูเหมือนกำลังหมดแรง แต่เขาก็อดทนและคิดถึงดินแดนของเขาและลูกสาวคนเดียวของเขาที่ทิ้งไว้ข้างหลัง

ยูทใช้กลยุทธ์แผนดินไหม้เกรียมกับอาณาจักรคาโนอาเพื่อเลี่ยงการล้มสลายของประเทศอย่างสมบูรณ์จากไฮเซิร์ค สิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญและข้าวทั้งหมดถูกเผาและอาหารที่พกพาได้ทั้งหมดถูกนำไปที่ไมยาร์ด 

ยูทพยายามรับพลเมืองที่หนีจากอาณาจักรคาโนอาให้ได้มากที่สุด แต่ก็ถูกเกลียดชังดั่งปีศาจโดยอดีตพลเมืองของอาณาจักรคาโนอาที่ยังเหลืออยู่ในดินแดนที่ถูกผนวกโดยไฮเซิร์ค

แม้จะถูกเกลียดและไม่พอใจ แต่ทั้งหมดก็เพื่อบ้านเกิดของเขา ยูทที่สิ้นหวังได้รับข้อเสนอของเฟอร์เรียส แต่ตอนนี้เขาไม่รูว่าที่เขาเลือกมันถูกแล้วหรือไม่

“กองทหาร อโดร ที่พยามฝ่าวงล้อมออกไปถูกจัดการแล้ว”

ความหวังสุดท้ายที่จะออกจากการล้อมก็ล้มเหลวเช่นกัน สิ่งที่ยูทจะทำได้นั้นถึงขีดจำกัดแล้ว

เขาได้บอกประชาชนของเขาจากเครื่องมือเวทย์ที่ติดตั้งไว้ในเมืองถึงความพ่ายแพ้ที่เลี่ยงไม่ได้ ประชาชนควรจะหลบหนีไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน

“ไม่มีทางที่จะรอดไปได้ ในอัตรานี้…”

เจ้าหน้าที่ทหารที่โกรธพึมพำออกมา โดยปกติแล้วยูทจะตำหนิเขาว่าอย่ายอมแพ้ แต่สถานการณ์ก็สิ้นหวังโดยสมบูรณ์

“…มันจบแล้วจริงๆเหรอ?”

วงล้อมแคบลงและการต่อสู้ยังดำเนินต่อไปรอบทิศทาง ยูทตัดสินใจว่าเขาไม่สามารถปล่อยทหารถูกฆ่าได้อย่างเปล่าประโยชน์อีกต่อ

“มายอมแพ้กันเถอะ――”

“แกคือทหารของซาร์เรียหรือใช่ไหม?!!”

คำว่ายูทถูกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น ผู้ที่บุกมายังค่ายหลักคือทหารไฮเซิร์คที่มีธงระบุกองทหารของเมืองซาร์เรีย

เมื่ออดีตเพื่อนร่วมชาติได้พบยูทพวกเขาตะโกนออกมาด้วยตาที่เปื้อนเลือด

“มันอยู่นี่…ไอ้คนขายชาติ!!ไอ้ไมยาร์ดคนทรยศ!!”

“ฆ่ามันซะ!!มันเผานาและครอบครัวของเรา!!”

“ลงทัณฑ์ไอ้คนทรยศ!!!”

ยูทรู้ว่าพวกเขาไม่พอใจ หลังจากกลยุทธ์แผ่นดินไหม้เกรียม หลายคนสูยเสียทรัพย์สินจำนวนมากและบางคนถูกปล้นและถูกโจมตีโดยทหารที่อาละวาด ที่ต่อมายูทได้รู้และทหารแบบนั้นเกิดขึ้นเพราะเชา

ธรรมชาติใช่โดยธรรมชาติ แต่ยูทไม่ได้จินตนาการว่าความเกลียดชังของชาวเมืองซาร์เรียได้ถูกเพิ่มขึ้นแทนที่จะหายไปใน5ปีนั้น

ทหารไมยาร์ดที่อยู่ใกล้ๆพยายามอย่างหนักเพื่อหยุดทหารไฮเซิร์ค แต่ก็มีพลังไม่มากพอที่หยุดความบ้าคลั่งของทหารซาร์เรีย ยูทปล่อยให้บุกเข้ามาใกล้โดยไม่ชักดาบออกมา

“ท่านไมยาร์ด!!”

ยูทไม่รู้ว่าอะไรคือทางเลือกที่ถูกต้อง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะตามวินส์ตันไปในอีกไม่ช้า

“ฉันขอโทษ”

ไม่มีเวลาให้คิดว่าจะขอโทษใครหรืออะไร ใบมีดนับไม่ถ้วนก็ได้เจาะทะลุยูท

สิ่งสุดท้ายที่อยู่ในใจของยูทคือลูกสาวของเขาที่ยังอยู่ในเมือง ผู้ทำผิดที่ละทิ้งผู้คนมากมายด้วยการเสียสละ สุดท้ายที่เขานึกถึงก็คือครอบครัว ในขณะที่เขาคิดว่ามันเห็นแก่ตัวสติก็จางหายไป

ศพของ ยูท ไมยาร์ด ที่ถูกแทงด้วยหอกและดาบกว่า 13 เล่ม ได้ถูกยกขึ้นบนยอดเนินเขา

ในขณะเดียวกันกับที่สายบังคับบัญชาของเฟอร์เรียสและไมยาร์ดได้หายไปอย่างสมบูรณ์ บทสรุปก็ได้มาถึง เมื่อพระอาทิตย์ตก ณ ไมยาร์ด

****
ทันมังงะแล้ว วันนี้ไม่มีของฝากออกไปหาอะไรกินก่อน เจอกันตอนหน้า
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆComment ครับ
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 15

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 15 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ร่างกายของวอล์มนั้นเหนื่อยล้ามากเพราะเขาได้ใช้มานาจนถึงขีดจำกัด และขาของเขาก็หนักราวกับหินจากการวิ่งระยะไกล ไฟได้ลุกขึ้นมาเล็กน้อยแล้วเขาก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้ไม่มีพันธมิตรของเขาอยู่ใกล้ๆนี้

“เหลือแค่แกเท่านั้น…ไอ้ผู้บัญชาการ”

วอล์มคิดว่ามันจะลดเวลาได้เยอะเลยถ้าเขาตอบกลับ แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบจริงๆ  วอล์มจึงแปลกใจ

“ช่างมั่นหน้าจริงๆ ถูกต้อง ฉันคือผู้บัญชาการของอาณาจักรเฟอร์เรียสและกองกำลังร่วมไมยาร์ด วินส์ตัน เฟอร์เรียส”   

วอล์มไม่ได้รู้จักหน้าเขามาก่อน มีความกลัวได้แสดงออกมาทางร่ายกายของเขา อย่างไรก็ตามจากอารมณ์และน้ำเสียงสั่นๆ ของเขา วอล์มสามารถรู้สึกได้ถึงศักดิ์ศรีและบุคลิกของเขาได้โดยธรรมชาติ

“ยอมจำนนซะ”
 

วอล์มคิด ว่าเขาไม่สามารถฆ่าชายคนนั้นได้ ท้ายที่สุดชายคนนั้นคือบัญชาการของศัตรูและมากกว่านั้นเขาเป็นราชวงศ์ เขาสามารถถูกใช้เป็นเชลยได้และจะได้เปรียบในการเจรจาระหว่างประเทศ

“ฉันยังมีแขนขา ดาบและศักดิ์ศรีของฉันอยู่ และทหารของฉันยังคงสู้อยู่ ไม่มีเหตุผลเลยให้ฉันต้องยอมจำนน”

วินส์ตันชักดาบของเขาออกมาจากฝักแล้วก็ก้าวไปหาวอล์ม โดยยกดาบไว้ด้านบน

ชายคนนั้นเคลื่อนไหวไดดีกว่าที่คาดไว้ วอล์มคิดว่าผู้บัญชาการสูงสุดจะมีแค่ของตกแต่งเท่านั้นสะอีก

วอล์มแทงฮาลเบิร์ดออกไปเพื่อปัดป้องมัน แต่ในขณะปัดป้องดาบ เขาก็หมุนเข้ามาที่ฝั่งซ้ายของวอล์ม

ตอนนี้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์หรือทักษะได้ แม้แต่มานาที่วอล์มจะใช้เสริมแกร่งก็ไม่มี วอล์มหวังว่าจะพันธมิตรของเขาที่อยู่รอบๆจะมาช่วยเขา แต่นอกจากเรื่องไฟแล้วพวกเขายังยุ่งอยู่กับการจัดการศัตรูที่ยังรอดและพยายามจะช่วยวินส์ตัน 

วอล์มได้แต่มุ่งความสนใจไปที่การจะฆ่าศัตรูที่แข็งแกร่งตรงหน้าเท่านั้น ดาบและฮาลเบิร์ดตัดกันหลายครั้งโดยเล็งไปที่บาดแผลของกันและกัน

ดาบของวินส์ตันได้บาดแขนของวอล์ม และฮาลเบิร์ดของวอล์ม ก็ได้บาดคอของวินส์ตัน

เลือดไหลออกมาจากคอเล็กน้อย มันห่างไกลจากบาดแผลร้ายแรง แล้วช่องว่างและระยะห่างได้ถูกสร้างขึ้นแล้วการต่อสู้ก็ดำเนินต่อไป

วอล์มคว้าด้ามจับของฮาลเบิร์ด แล้วก็แทงจากระยะไกลกว่าเดิม วินส์ตันได้ทรุดตัวลงเนื่องจากการโจมตีในจังหวะที่ไม่คาดคิด

แล้วก็ได้ขว้างฮาลเบิลไปที่หัวของวินส์ตันหลังจากชักกลับ วินส์ตันปัดมันออกอย่างใจเย็นด้วยดาบของเขา แต่วอล์มก็ปิดระยะเข้ามาแล้วกระแทกไหล่ไปที่ดาบของวินส์ตันแล้วจากนั้นก็ชักดาบออกมา

เมื่อวินส์ตันได้หยุดการเคลื่อนไหว เข่าของเขาก็ทรุดลง คอของเขาถูกฟันเข้าไปครึ่งหนึ่งแล้วเลือดก็ไหลออกมาอย่างไม่หยุด

“อัคคค แม้ฉั จ แพ  ้…..เฟ ร์ เรี ส  ยัง ไม ่ ….แพ้”

วินส์ตันที่กำลังเข้นคำพูดออกมา ได้ตายลงภายใต้สายตาของวอล์ม

วอล์มสูดหายใจเข้าลึกๆ และเปล่งเสียงออกมา

“ผู้บัญชาการข้าศึกถูกโค้นแล้ววววว!!”

เสียงตะโกนของวอล์มได้กระจายไปทั่วสนามรบทันที

ในขณะที่ทหารไฮเซิร์คมีแรงใจมากขึ้น ทหารเฟอร์เรียสที่ต้านก็ได้เริ่มหนีลงจากเนินเขา

แต่ทหารไฮเซิร์คก็ไม่ได้ง่ายพอจะให้พวกเขาหนีไปได้ เสียงคำรามของม้าได้ดังมาจากด้านหลังของวอล์มที่อยู่ในขึดจำกัดและกำลังหายใจอย่างหนัก แล้วกลุ่มทหารม้าก็ได้ปรากฏตัวขึ้น

ชายคนหนึ่งได้ก้าวออกมาจากกลุ่มทหารที่ใส่เกราะหนัก

“นายคือคนที่จัดการวินส์ตันหรือเปล่า?”

ชายคนนั้นคือผู้บัญชาการกองพันทหารม้า จาฟฟ์ ที่รู้จักกันดีในหมู่ทหารไฮเซิร์คทุกคน

“ครับท่าน”

แล้วก็ยืนยันผลการต่อสู้ จาฟฟ์มองไปที่ศพแล้วก็ค่อยๆพยักหน้าให้วอล์ม

“นั่นคือวินส์ตัน เฟอร์เรียส ทำได้ดีมาก มันเป็นความสำเร็จที่หมาศาล สังกัดนายชื่ออะไร”

วอล์มคิดว่ามันเป็นแค่การยืนยันตัวอีกครั้งดังนั้นปฏิกิริยาของเขาจังช้านิดหน่อย

“… หมวดโคซูรุ หน่วยดูเวย และผมชื่อ วอล์ม ครับท่าน”

“วอล์มใช่ไหม? ฉันนึกว่าฉันจะได้หัวของวินส์ตันสะอีก แต่นายทำได้ดี กองพันทหารราบเบากำลังรวมตัวกันใหม่ที่เนินเขาและสิ้นสุดการต่อสู้ นายควรพักจนกว่าจะถึงตอนนั้น”

ความเหนื่อยล้าได้ถึงขีดจำกัดแล้ว หากคนที่คุยกับเขาไม่ใช่ระดับนายพล วอล์มก็คงจะทิ้งตัวลงบนพื้นแล้ว

“และเพื่อเป็นเกียริแก่ความสำเร็จ ฉันแน่ใจผู้บัญชาการเบเกอร์จะให้รางวัลนายแน่ อย่าตายจนกว่าจะถึงตอนนั้นล่ะ”

หลังจากพูดอย่างนั้นผู้บัญชากองพัน จาฟฟ์ ก็ขี่ม้าของเขาและนำกองพันลงไปตามเนินเขา

ทหารศัตรูที่ไม่สามารถหนีได้ก็ถูกกลืนโดยกองพัน และถูกจัดการอยู่บนพื้น

จากด้านบนของเนินเขาจะสามารถเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมด พวกเขาวิ่งไปรอบๆสนามรบเหมือนสิ่งมีชีวิตอันโดดเดี่ยวและโจมตีจากด้านหลังและด้านข้างของกองกำลังศัตรูที่กำลังต่อสู้กับกองพันทหารราบในที่ราบ

วอล์มสูดหายใจเข้าในขณะที่คิดว่ากองพันทหารม้า จาฟฟ์ นั้นเป็นดั่งหมาป่าที่จู่โจมฝูงแกะ พลังที่โดนเด่นของพวกเขานั้นน่ากลัว พวกเขาจัดการได้ดีต่อศัตรูที่เขาพุ่งผ่านไปและทำให้ขบวนพังทลายลงในทันทีดังนั้นกองกำลังที่ถูกประกบข้างจึงถูกทำลาย

มันถูกคุมขังไว้ทุกที่ในสนามรบ

ความพ่ายแพ้ของพันธมิตรเฟอร์เรียสและไมยาร์ด นั้นแน่นอนแล้วในสายตาของวอล์ม

“นายโอเคไหม วอล์ม”

โจเซ่ที่เปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกและเลือดพูด วอล์มกังวลเกี่ยวกับสภาพของเขา

“อย่างงั้นแหละ ฉันเหนื่อยมาก”

“เหนื่อยฮะ มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่านายยังมีชีวิตอยู่”

“คนอื่นปลอดภัยไหม”

“ทุกคนปลอดภัย บาริโต้และนัวร์ดูเหมือนจะล้มลงได้ทุกเมื่อส่วนหัวหน้า ก็คงรู้ดี”

ไม่มีใครคิดว่าหัวหน้าดูเวยจะถูกฆ่าในระหว่างนั้น วอล์มเชื่อว่าแม้ร่างของเขาจะถูกแทงแต่เขาก็คงจะอาละวาดต่อไปรอบๆ

วอล์มกำลังจะนั่งลงแต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียง เจ้าของเสียงแหลมต่ำลึกล้ำท่คุ้นเคย หัวหน้าดูเวย

“อย่าทิ้งตัวลง นายจะยืนไม่ได้ทันที ดื่นน้ำทีละน้อยแล้วอีก5นาที เราจะเริ่มไล่ล่า หลังจากนั้นเราจะได้พักแล้ว”

ใช่ การต่อสู้ยังไม่จบ แล้ววอล์มก็เอาขวดน้ำที่เอวของเขาเข้าปาก ความกระหายของเขาลดลงทันที

วอล์มได้หันไปมองด้านข้าง ศพของวินส์ตน เฟอร์เรียส ได้ถูกพาไปที่เต็นท์ของศัตรูที่ยังตั้งอยู่

วอล์ม สามารถรอดจากงานที่ยากที่สุดได้ แต่จุดสิ้นสุดยังคงไม่มาถึง ห่างออกไปไม่กี่กม. การต่อสู้ที่ดุเดือนยังคงดำเนินอยู่ที่เนินเขาค่ายของไมยาร์ด

“กองทัพเฟอร์เรียสได้พังทลายลงโดยสิ้นเชิง!! มีสามกองพันถูกทำลายไปแล้ว กองพันที่เหลือก็กำลังจะตามไป”

“นอกจากนั้นยังมีรายงานด้วยว่า วินส์ตัน เฟอร์เรียส ถูกสังหารลงในหน้าที่…”

“กองทหารของ อาริแอนด์และแกรี่ กำลังอยู่ในความโกลาหล และเนินเขาถูกล้อมโดยสมบูรณ์”

การตายของวินส์ตันผู้บัญชาของเฟอร์เรียสก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทหารของไมยาร์ดอยู่ในความสิ้นหวัง

ยูท ไมยาร์ด ได้พยายามอย่างหนักที่จะตั้งขบวนขึ้นมาใหม่ แต่กองพันทหารม้าจาฟฟ์ที่ภาคภูมิใจของไฮเซิร์กก็ได้ทำลายมัน

บางหน่วยที่ต้านกองพันทหารราบของไฮเซิร์คอยู่ ก็ถูกโจมตีจากด้านหลังและข้างอย่างไม่มีสิ้นสุดมีแล้วทหารหลายคนเสียชีวิตเมื่อขบวนพังทลายลง

ยูท พยายามล่าถอยอย่างเป็นระบบด้วยผู้ส่งสารและอุปกรณ์เวทย์ และเขาตระหนักได้วากองทัพเฟอร์เรียสมีทหารที่ได้รับความเสียหายน้อยกว่า

กองทัพเฟอร์เรียสมากกว่า 6000 นายถูกจัดการไปแล้วในระหว่างนั้น และทหารไมยาร์ดมากกว่า5000 ก็เสียชีวิตเช่นกัน

ที่เหลืออยู่คือกองทหารราบที่ปีกซ้ายที่อยู่ในความโกลาหล ในช่วงเริ่มต้นการบและทั้ง3000ก็แทบจะไม่หนีไปที่เนินเขา ยูทคิดว่านั้นคือกับดักที่ทำให้เขาติดอยู่ในเนินเขา

เมื่อนึกถึงเหตุผลที่เขาก็ต้องก้มหัวเพื่อต่อต้านประเทศเพื่อนบ้านและอดทนมาเป็นเวลา5ปี 
ยูทดูเหมือนกำลังหมดแรง แต่เขาก็อดทนและคิดถึงดินแดนของเขาและลูกสาวคนเดียวของเขาที่ทิ้งไว้ข้างหลัง

ยูทใช้กลยุทธ์แผนดินไหม้เกรียมกับอาณาจักรคาโนอาเพื่อเลี่ยงการล้มสลายของประเทศอย่างสมบูรณ์จากไฮเซิร์ค สิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญและข้าวทั้งหมดถูกเผาและอาหารที่พกพาได้ทั้งหมดถูกนำไปที่ไมยาร์ด 

ยูทพยายามรับพลเมืองที่หนีจากอาณาจักรคาโนอาให้ได้มากที่สุด แต่ก็ถูกเกลียดชังดั่งปีศาจโดยอดีตพลเมืองของอาณาจักรคาโนอาที่ยังเหลืออยู่ในดินแดนที่ถูกผนวกโดยไฮเซิร์ค

แม้จะถูกเกลียดและไม่พอใจ แต่ทั้งหมดก็เพื่อบ้านเกิดของเขา ยูทที่สิ้นหวังได้รับข้อเสนอของเฟอร์เรียส แต่ตอนนี้เขาไม่รูว่าที่เขาเลือกมันถูกแล้วหรือไม่

“กองทหาร อโดร ที่พยามฝ่าวงล้อมออกไปถูกจัดการแล้ว”

ความหวังสุดท้ายที่จะออกจากการล้อมก็ล้มเหลวเช่นกัน สิ่งที่ยูทจะทำได้นั้นถึงขีดจำกัดแล้ว

เขาได้บอกประชาชนของเขาจากเครื่องมือเวทย์ที่ติดตั้งไว้ในเมืองถึงความพ่ายแพ้ที่เลี่ยงไม่ได้ ประชาชนควรจะหลบหนีไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน

“ไม่มีทางที่จะรอดไปได้ ในอัตรานี้…”

เจ้าหน้าที่ทหารที่โกรธพึมพำออกมา โดยปกติแล้วยูทจะตำหนิเขาว่าอย่ายอมแพ้ แต่สถานการณ์ก็สิ้นหวังโดยสมบูรณ์

“…มันจบแล้วจริงๆเหรอ?”

วงล้อมแคบลงและการต่อสู้ยังดำเนินต่อไปรอบทิศทาง ยูทตัดสินใจว่าเขาไม่สามารถปล่อยทหารถูกฆ่าได้อย่างเปล่าประโยชน์อีกต่อ

“มายอมแพ้กันเถอะ――”

“แกคือทหารของซาร์เรียหรือใช่ไหม?!!”

คำว่ายูทถูกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น ผู้ที่บุกมายังค่ายหลักคือทหารไฮเซิร์คที่มีธงระบุกองทหารของเมืองซาร์เรีย

เมื่ออดีตเพื่อนร่วมชาติได้พบยูทพวกเขาตะโกนออกมาด้วยตาที่เปื้อนเลือด

“มันอยู่นี่…ไอ้คนขายชาติ!!ไอ้ไมยาร์ดคนทรยศ!!”

“ฆ่ามันซะ!!มันเผานาและครอบครัวของเรา!!”

“ลงทัณฑ์ไอ้คนทรยศ!!!”

ยูทรู้ว่าพวกเขาไม่พอใจ หลังจากกลยุทธ์แผ่นดินไหม้เกรียม หลายคนสูยเสียทรัพย์สินจำนวนมากและบางคนถูกปล้นและถูกโจมตีโดยทหารที่อาละวาด ที่ต่อมายูทได้รู้และทหารแบบนั้นเกิดขึ้นเพราะเชา

ธรรมชาติใช่โดยธรรมชาติ แต่ยูทไม่ได้จินตนาการว่าความเกลียดชังของชาวเมืองซาร์เรียได้ถูกเพิ่มขึ้นแทนที่จะหายไปใน5ปีนั้น

ทหารไมยาร์ดที่อยู่ใกล้ๆพยายามอย่างหนักเพื่อหยุดทหารไฮเซิร์ค แต่ก็มีพลังไม่มากพอที่หยุดความบ้าคลั่งของทหารซาร์เรีย ยูทปล่อยให้บุกเข้ามาใกล้โดยไม่ชักดาบออกมา

“ท่านไมยาร์ด!!”

ยูทไม่รู้ว่าอะไรคือทางเลือกที่ถูกต้อง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะตามวินส์ตันไปในอีกไม่ช้า

“ฉันขอโทษ”

ไม่มีเวลาให้คิดว่าจะขอโทษใครหรืออะไร ใบมีดนับไม่ถ้วนก็ได้เจาะทะลุยูท

สิ่งสุดท้ายที่อยู่ในใจของยูทคือลูกสาวของเขาที่ยังอยู่ในเมือง ผู้ทำผิดที่ละทิ้งผู้คนมากมายด้วยการเสียสละ สุดท้ายที่เขานึกถึงก็คือครอบครัว ในขณะที่เขาคิดว่ามันเห็นแก่ตัวสติก็จางหายไป

ศพของ ยูท ไมยาร์ด ที่ถูกแทงด้วยหอกและดาบกว่า 13 เล่ม ได้ถูกยกขึ้นบนยอดเนินเขา

ในขณะเดียวกันกับที่สายบังคับบัญชาของเฟอร์เรียสและไมยาร์ดได้หายไปอย่างสมบูรณ์ บทสรุปก็ได้มาถึง เมื่อพระอาทิตย์ตก ณ ไมยาร์ด

****
ทันมังงะแล้ว วันนี้ไม่มีของฝากออกไปหาอะไรกินก่อน เจอกันตอนหน้า
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆComment ครับ
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+