สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 6

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 6 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กองทัพจักรวรรดิซึ่งเคลื่อนพลออกจากเมืองซาร์เรีย ได้แบ่งกองทัพออกเป็นสามกอง มันเป็นเพราะ
ซาร์เรียซึ่งเป็นจุดสำคัญเส้นทางชายแดน แต่มันไม่สำหรับกองทัพใหญ่ มีเส่นทางทั้งสามที่
นำไปสู่ดินแดนไมยาร์ดนั้นซึ่งเป็นเป้าหมาย หน่วยที่ วอล์ม อยู่จะได้รับหน้าที่ในการยึดป้องปราการหนึ่งที่ปิดกั้นเส้นทางหลัก

ดูเหมือนว่าไมยาร์ดกำลังรอกำลังเสริมจากอาณาจักรเฟอร์เรียส ในทางกับกันหน่วยได้รับมอบหมายให้ลดจำนวนทหารของไมยาร์ดที่ปราการย่อยรอบๆดินแดน ก่อนที่การเสริมกำลังจากอาณาจักรฟาร์เรียสจะมาถึง

ป้อมปราการสูงตระหง่านที่ชายแดนเป็นปราการที่อยู่ในภูเขา ทางผ่านบนภูเขาถูกปิดกั้นโดยปราการ
และกำแพงและป้อมปราการถูกสร้างกั้น ตามข้อมูลก่อนหน้ามีทหาร 3000 นาย ประจำการอยู่ 
จากระยะของธนูและเวทมนตร์คุณจะสามารถเห็นความสูงของกำแพงตระหง่าน บางทีมันอาจสูงประมาณ3 เมตรและกว้าง6หรือ7เมตร
Tl:3 meters high and 6 or 7 meters wide

การต่อสู้ปิดล้อมแบ่งออกเป็นสองแบบคร่าวๆ มันจะเป็นการค่อสู้ระยะสั้นหรือการต่สู้ระยะยาวไม่มีใครรู้
แต่ วอล์ม คิดว่าคราวนี้จะต้องเป็นการต่อสู้ระสั้นด้วยการบังคับเดินทัพ ประตูจะถูกโจมตีโดยกองพันซาร์เรีย และกองพันลิกูเรีย ซึ่งหน่วยของดูเวยอยู่ จะรับผิดชอบกับกำแพงด้านซ้าย

“วอล์ม โจเซ่ พวกนายเอาโล่ไป ฉันจะให้พวกทหารใหม่ไปด้วย นัวร์ และบาริโต้ สั่งพวกเขาให้ดี 
วิลลาร์ทให้ยิงเวทย์ไฟไปที่กำแง ส่วนคนอื่นทำตามปกติ”

หัวหน้าหน่วยดูเวย บุกโจมตีอย่างแรงด้วยโล่ที่สามารถซ่อนคนสองคนได้มิด วอล์ม ยังเคยได้รับการช่วยให้รอดจากโล่เมื่อพวกเขาโจมตีป้อมปราการมาก่อน ในโลกที่พลังการยิงของแต่ละบุคคลต่างกันอย่างมากเนื่องจากเวทมนตร์และทักษะ อาจพูดได้ว่าโล่เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการลดความเสียหาย มนุษย์ซึ่งมีมานาจำนวน จำกัด เมื่อพวกเขาที่ใช้เวทมนตร์เหมือนกระสุน 
ดังนั้น มันเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและทำให้พวกเขายิงเวทมนตร์อย่างสิ้นเปลืองจากระยะไกล

อุปกรณ์ที่ทำด้วยสิ่งของทั่วไปที่ถูกขนด้วยเกวียน ที่นั่นมีการเตรียมไผ่ที่ผูกไว้ดวยกันเป็นโล่ วอล์ม
ยักมันขึ้นเพื่อทดสอบมันทำให้รู้สึกหนักในมือทั้งสองข้าง หนักกว่าที่เขาคิดไว้  ถ้าสามารถดูมันจากด้านบนได้ก็จะรู้ว่าทำไม ใส้ในถูกขว้านออกและเติมไปด้วยดิน โล่ไผ่มักถูกใช้ในโลกก่อนหน้าของ วอล์ม เช่นกัน และพลังการป้องกันของพวกมันก็เพียงพอที่จะกันกระสุนปืนคาบศิลาที่สามารถเจาะเกราะได้

“เอาหละ เข้ามานี่”

ทหารใหม่ถูกเรียกโดยโจเซ่รีบวิ่งเข้ามาใกล้ๆ วอล์ม  คุ้ยเคยกับการจับคู่กับ โจเซ่่ แต่นี่เป็นครั้งแรกจะจับคู่สี่่คนกับทหารใหม่ด้วย

แม้จะไม่หวั่นไหว แต่ใบหน้าของทั้งสองซึ่งเป็นทหารใหม่ชายและหญิง ที่มีสีหน้าซีดโดยเฉพาะผู้ชายที่มีสีหน้าเครียดราวกับกำลังจะอวกออกมา ใบหน้าของหญิงสาวก็ตึงเครียดเช่นกัน แต่เธอ
สามารถระงับการแสดงออกของเธอได้ โจเซ่หัวเราะแล้วก็คว้าเป้าของชายหนุ่ม

“อ้าา …จะทำอะไรนะ”

บาริโต้ส่งเสียงประท้วงออกมา แต่โจเซ่ไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดสักนิด วอล์ม ยิ่มขมขื่นราวกับเขากำลังประหลาดใจ

“โอ้ โอ้ มันหดหมดแล้วนะเนี้ย”

เห็นได้ชัดว่าโจเซ่กำลังตรวจสภาพน้องชายของบาริโต้และยืนยันว่าเขารู้สึกประหม่าอย่างมาก จากนั้นโจ่เซ่ก็หันมามอง นัวร์

“ฉันโอเค ตั้งแต่แรกฉันไม่เคยมีมัน”

โจเซ่ซึ่งถูกปฏิเสธดูเหงาเล็กน้อย อย่างแรกนั้นการสัมผัสส่วนนั้นเป็นการล่วงละเมิดทางเพศโดยสมบูรณ์ ตามที่เดาไ้ว้แม้แต่ วอล์ม ก็ป้องกันการกระทำดังกล่าวได้

“นี่เป็นครั้งแรกสำหรับฉันที่มีการต่อสู้เต็มรูปแบบ แต่คราวนี้เรากำลังเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ฉันรู้ว่าเราอยู่ที่แนวหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็จงฉลาดไว้ หัวหน้าหน่วยสั่งให้เราถมคูน้ำที่ว่างอยู่ เขาบอกว่าควร
ลดความต่างของกำแพงปราการลง และมั่นใจได้ว่ามันจะไม่ใช่ศึกระยะประชิดกระทันหัน”

เมื่อได้ยินคำพูดของโจเซ่ ทั้งสองก็มองหน้ากัน ผิวดูเหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อย แผนคือถมคูน้ำที่ว่างเพื่อลดความต่างของกำแพงปราการด้วยดินแล้วใช้บันไดเพื่อเข้ายึดปราการในครั้งเดียว มันจะเป็นงานที่ใช้เวลาหากทำโดยกำลังของมนุษย์ แต่มันต่างจากโลกก่อนของ วอล์ม ที่นี่มีสิ่งที่สะดวกที่เรียกว่า
“เวทมนตร์” ในโลกนี้และสามารถโจมตีปราการได้อย่างรวดเร็ว

“ถ้าศัตรูมา วอล์ม จะจัดการพวกเขาเอง เขาอาจดูเหมือนคนทั่วๆไปที่พบได้ในหมู่บ้าน แต่เขาก็เป็น
ผู้เชียวชาญการต่อสู้ประชิดตัวที่ฆ่าคนหลายสิบคน อุปกรณ์ที่เขาใช้อยู่ส่วนใหญ่เป็นของที่ได้จากทหารที่เขาจัดการ”

โจเซ่ตบไหล่ของวอล์ม ทั้งสองมองไปที่วอล์มอีกครั้งแล้วสัหน้าของพวกเขาก็ตึงแล้วพวกเขาก็เว้นระยะห่างทันที ท้ายที่สุดคนที่พวกเขาเชื่อว่าไม่มีอันตรายจริงๆ เป็นฆาตกรต่อเนื่อ

“อย่ามาพูดเหมือนฉันเป็นคนบ้าการต่อสู้ดิ มันช่วยไม่ได้นิ ไม่มีอุปกรณ์ที่ดีสำหรับเราที่เข้าเป็นทหาร
แล้งก็ไม่ได้มีใครว่าด้วย”

อย่างแดกดัน วอล์ม แต่งตัวดีขึ้นและมีเงินมากขึ้นหลังจากเข้าร่วมสงคราม ในที่สุดเขาก็เข้าใจทำไม
ลูกชายคนที่สามหรือสี่ของบางคนในพื้นที่ชนบทที่ยากจนซึ่งอยากรวยแล้วก็อยากไปสนามรบ
อย่างไรก็ตามความเป็นจริงไม่ได้หอมหวาน ตอนแรกมันดูหรูหรา แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นหลายคนจะถูกเปิดเผยอวัยวะภายในของพวกเขาในขณะที่เรียกชื่อแม่ของเขาและหลายคนถูกฆ่าตายโดยไม่สามารถจัดการกับศัตรูอย่างเหมาะสม

เป็นเรื่องที่น่าขันสำหรับ วอล์ม ที่เคยใช้ชีวิตในวัฒนธรรมในชีวิตก่อนหน้าที่ได้เรียนรู้สิทธิมนุษยชน
แต่ไม่ว่าจะดีหรือแย่เขาก็ได้ผ่านมันมาและในที่สุดก็ปรับตัวให้เข้ากับโลกใหม่

“เสร็จสิ้นการแนะนำอันสง่างานของนายยัง ถึงเวลาแล้ว ไปกันเถอะ”

ได้ยินเสียงแตรเบาๆ ก่อนที่หัวหน้าหน่วยดูเวย จะพูดจบ

“ถึงเวลาเริ่มแล้ว ขอให้โชคดี”

หลังจากเสียงแตรดังขึ้นจากด้านหลัง มันเป็นสัญญาณให้ก้าวไปข้างหน้า

วอล์มยกโล่ด้วยมือทั้งสองข้างและก้าวไปข้างหน้า ข้างหลังเป็นทหารที่กำลังถือถุงฟางไม่ใช่ถึงฟางที่ใช้สำหรับธัญพืชหรือเกลือ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นดิน

โล่ที่ได้รับการเสริมแก่งนั้นหนักมากและปฏิเสธโดยร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถออกห่างได้ วอล์ม 
มีประสบการณ์ว่าสิ่งที่จะตอบแทนกลับมาจะแสดงให้เห็นหลังจากผ่านไปอีก 200 เมตร

นัดแรกคือลูกศร ลูกศรลงจากภูเขาทีละลูกเพื่อขยายเช็คระยะยิง ผลกระทับนั้นเบาบางเนื่องจากความแตกต่างของความแข็งแกร่งและทักษะของแต่ละคน แต่ความแม่นยำจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเข้าใกล้มากขึ้น

“อัค ――”

ลูกศรที่มีแสงจางๆ ที่ต่างจากอันอื่นๆอย่างชัดเจนพุ่งเป็นเส้นตรง แล้วทหารที่อยู่ในหน่วยถัดไปก็ร้องออกมาสั้นๆ และทรุดตัวลง

“อย่าเผยส่วนสำคัญให้เห็น ระวังพวกมันมีบางคนใช้ทักษะ《ยังหนัก》”
TL:《Hard Shoot》

หัวหน้าหน่วยที่มีประสบการณ์ตะโกนว่า มันเป็น《ทักษะ》ที่คือพรสวรรค์โดยธรรมขาติหรือผลของ
การฝึกฝนอย่างหนัก

ดูเหมือนจะมีคนแบบหัวหน้าหน่วย

วอล์ม ปรับตัวอย่างไม่เต็มใจในขณะที่รู้ว่ามีบางคนมีพลังเหนือมนุษย์นอกจากเวทมนตร์

หัวลูกปักเข้าที่ไหล่และต้นแขนขของทหารแล้วพวกเขาก็สบถออกมา

วอล์มกัดฟันของเขา จากประสบการณ์ของเขานี่แค่เริ่มแค่งานเลี้ยงต้อนรับเท่านั้นในอีกไม่ช้ากองกำลังประเภทอื่นๆ จะเริ่มโจมตีเข้ามา ในความเป็นจริงภายในอีกไม่กี่นาทีจะมีเวทมนตร์พุ่งเข้ามา 
ลูกไฟ หอกน้ำแข็ง ลูกปื่นใหญ่ดิน และอีกมากมาย

“มาแล้ว”

ไม่กี่วินาทีหลังจากที่โจเซ่ส่งเสียงเตือนลูกบอลน้ำก็กระแทกที่โล่โดยตรง แรงกระแทกกระทบกับมือที่รองรับอยู่ วอล์มตำหนิทหารใหม่นัวร์ที่ทิ้งโลโดยไม่ได้ตั้งใจ

“อย่าทิ้งโล่ลง!! แม้ว่าแขนจะฉีกขาด!  มันก็ดีกว่าตาย”

น้ำเย็นได้กระจายไปรอบๆ และล้างเกราะและเหงื่อออก ความจริงมันทำให้รู้สึกสดชื่น

“พวกมันใจดีมากแหะ ดูเหมือนพวกมันต้องการใช้น้ำในการต้องรับ”

คำพูดของ วอล์มดูเหมือนจะได้รับการตอบรับในระดับกลางๆและเสียงหัวเราะก็รั่วออกมาจากคนโง่ทั้งสามและทหารรอบตัวเขาผ่านช่องว่างของฟันที่กัดแน่นของพวกเขา ทหารใหม่นัวร์และบาริโต้ก็หัวเราะเล็กน้อยเช่นกัน 
โล่มีเสี่ยงดังไม่ขาดตอน ไม่เพียงแต่ลูกศรและหินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเวทมนตร์และแต่ขึ้ก็ถูกโยนมา

เป็นพวกที่โสโครกจริงๆ

วอล์มไม่พอใจ

ระยะทางเข้าใกล้จุดที่สามารถเห็นอีกฝ่ายได้แล้ว มันจะไม่ใช่ทหารของไฮเซิร์คถ้าพวกเขาไม่โจมตีกลับ

ลูกศรและเวทมนตร์ถูกยิงผ่านช่องของโล่ วอล์ม ดีใจที่เห็นศัตรูถูกลูกไฟกลืนกินและตกลงมาจากกำแพง

“เยี่ยม!! วิลลาร์ทเยี่ยมมาก!!”

เมื่อวอล์มชมผู้ที่ใช้เวทมนตร์ วิลลาร์ท ที่ยิงลูกไฟไปก็ยิ้มกลับโดยไม่ได้พูดอะไร

อาจต้องการจัดการคนที่มีพลังโจมตีสูง ดังนั้นการโจมตีจึงไปกระจุกอยู่ใกล้ๆกับวิลลาร์ท

“โอ้ว พวกแกกำลังต้องการมันสิ่งนี้สินะ!?”

หินขนาดเท่ากำปั้นถูกโยนออกไปโดยหัวหน้าที่โกรธแล้วก้อนความโกรธนั้นก็จมลงบันหน้าของคนยิงทำให้เขาล้มลง

“รอก่อนเถอะ ไอ้พวกโง่ ฉันจะขยำร่างของแกทั้งหมดรวมกับขยะซะ”

เมื่อหัวหน้าดูเวย ตะโกนผลที่ได้ก็โดนชัดเจน จากนั้นการโจมตีก็จดจ่ออยู่กับเขาราวกับว่าเขาเป็นศัตรูฟ้าลิขิต

“ตอนนี้แหละ เติมมันให้เต็มเร็วเข้า”

แม้จะมีการโจมตีมากมาย แต่หัวหน้าหน่วยก็ออกคำสั่ง โดยที่ปกติแล้วเขาจะเป็นที่หยาบกร้านและสมองกล้าม แต่เมื่อพูดถึงการต่อสู้แล้วสมองของเขาก็ทำงานอย่างบ้าคลั่ง

คูน้ำที่ว่างเปล่าเต็ฒไปด้วยดินจากเวทมนตร์ดินให้ได้ประมาณครึ่งหนึ่งของกำแพงนั่นคือแผน

ทหารเดินเท้าก็วางโล่ลงกับพื้นและในลักษณะส่งต่อพวกเขาว่งต่อถุงฟางและเทดินลงในคูน้ำที่ว่างเปล่า อีกหน่วยที่ดูมีคนที่สามารถใช้เวทมนตร์ดินได้จึงตกดินและเทมันใส่คูน้ำ

ศัตรูหมดหวังที่จะทำลายสายการป้องกัน จากนั้นลูกไฟก็กระโจนผ่านช่องว่างของโล่ก็กลืนกินทหารสองคน เลือดและเนื้อกระจัดกระจายไปทั่วโดยการระเบิดและสัมผัสทหารโดยรอบและร่างของพวกเขาก็ถูกห้อด้วยเปลวไฟและในที่สุดทหารก็ดิ้นลงกับพื้น

ทหารที่เป็นพันธมิตรได้คลุมไฟด้วยดินและดับไฟ แต่ลูกศรและหินก็มารวมตัวกันที่รูที่การป้องกันเปิดอยู่ “ริเริ่มสร้างผู้ความโกรธให้ผู้คน” คุณสามารถพูดได้ว่ามันเป็นหนึ่งในความจริงในสนามรบ วอล์ม
จำได้ว่าครูสอนประวัติศาสตร์โลกก่อนของเขามักจะบอกเขาถึงคำนั้น
Tl:”Take the initiative to anger the people” เงี้ย

จากนั้น วอล์ม เห็นศัตรูคนหนึ่งเตรียมจะโยนอะไรบางอย่างผ่านช่องว่างของโล่ เป้าหมายคือ นัวร์
อย่างแน่นอนซึ่งกำลังทำหน้าที่ในจณะที่เปื้อนไปด้วยดินและเหงื่อ ไม่นานหินก็ถูกโยนไปที่ นัวร์

“เอ๊ะ เอ!?”

ตอนนั้นวอล์มคว้าคอของ นัวร์ และดึงกลับเขามา หินผ่านหัวไปเมื่อสักครู้

“ข- ขอบตุณมากค่ะ”

นัวร์ซึ่่งลืมตาขึ้นได้ขอบคุณ และวอล์มก็ให้คำแนะนำแก่เธอ

“ไม่เป็นไร แต่ยิ่งไปกว่านั้นอย่ามัวแต่สนใจทางนั้น จำไว้ว่ามีศัตรูอยู่ด้านบน”

นัวร์พยักหน้ากลับหลายครั้ง

วอล์ม กำลังดูแล นัวร์อยู่ และ โจเซ่ ซึ่งปกติจะไปกับเขาเสมอกำลังดูแลบาริโต้ บาริโต้ที่ซึ่งถูกทิ้งให้โจเซ่ ผู้ซึ่งสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างราบรื่นดังนั้นเขาน่าจะไม่เป็นอะไร แต่สำหรับวอล์ม
เขาระวังไม่ให้รุ่นน้องคนแรกของเขาถูกฆ่า

งานยังคงดำเนินต่อไปและสองชั่วโมงหลังจากเริ่มสงครามคูน้ำที่ว่างเปล่าก็เต็มจนถึง1ใน3ของกำแพง หน่วยที่เหนื่อยล้า มีเพียงหัวหน้าดูเวย เท่านั้นที่ ยังโอเค เมื่อเห็นแบบนั้น วอล์ม จึงสังสัยว่าเขามีทักษะอื่นรึเปล่า

“พวกเขามาแล้ว หน่วยจู่โจม”

ขณะที่หัวหน้าหน่วยดูเวย พึมพำ วอล์ม ก็หันไปที่ขอบสายตา เขาเห็นกองพันใหม่กำลังเข้าใกล้จากด้านหลัง ซึ่งต่างจากกองพันอื่นๆ มันเป็นหน่วยที่เก็บไว้

“มันคือทหารราบของเมืองซาร์เรีย”

โจเซ่ที่แหล่มองบอกว่าเป็นกองพันไหน

“การส่งอดีตเพื่อนร่วมชาติมาโจมตี ดูเหมือนว่าผู้บัญชาการเบอร์เกอร์จะมีงานอดิเรกที่ไม่ดีเท่าไรแหะ”

ทหารรอบๆ เห็นด้วย

“มนยังไม่ถึงกำแพง เราจะตั้งบันไดไหม”

นัวร์ตั้งคำถาม คำตอบนั้นได้ถูกแสดงให้เห็นทันทีก่อนที่วอล์ม จะตอบ กลุ่มคนที่ห่อหุ้มไปด้วยชุดเกราะกระโดดเข้าไปในที่ฐานจองกำแพง

“พวกมันมาแล้ว!!”

ทหารที่เชิงเทินตะโกนอย่างหนักเพื่่อเตือนคนอื่นถึงอันตราย แต่มันก็สายเกินไปแล้วเพราะดินถูกกองไว้จนถึงกำแพงด้วยเวทมนตร์ดินแล้วกองทหารซาร์เรียก็เริ่มใช้เป็นฐาน นอกจากนี้กำแพงปราการที่อยู่ติดกันก็พังลงมาหลายสิบเมรเนื่องจากพื้นใต้ดินถูกขุดโดยเวทย์มนดิน มันเป็นการทำการขุดด้วยความสามารถนักเวทย์ของโลกนี้

วอล์ม ตะโกนในใจของเขา ความสำเร็จนี้เป็นสิ่งที่ควรชมอย่างแน่นอน

“ให้ไอ้พวกทรยศได้ลิ้มลองคมมีดของพวกนาย!….ทีมหอกชุดแรกที่บุกจะได้รับรางวัลจากผู้บัญชาการเบอร์เกอร์”

ราวกับว่ากำลังตอบสนองต่อเสียงของผู้บัญชาการของกองพันทซาร์เรีย ทหารของกองพันซาร์เรียก็เริ่งโจมตีศัตรูดั่งปีศาจ ทีมหอกแรงได้เสียบศัตรูจำนวนมากบนเชินเทินแล้วโยนพวกมันลงมาจากกำแพง แน่นอนว่าใช่ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับความเสียหายแลย มากกว่าครึ่งของหน่วยแรกถูกจัดการ
แต่การโถมเข้าตามก็มาไม่หยุด ทหารผู้ส่งสารวิ่งไปหา วอล์มและคนอื่นๆ ที่ยังอยู่ด้านล่าง

“คำสั่งจากผู้บัญชาการลิกูเรีย อย่าตามหลังกองพันซาร์เลีย ทำการโจมตีทั้งหมดและทำรายกำแพง”

วอล์ม ตกลงว่าตอนนี้เป็นจังว่าที่ดีเนื่องจากศัตรูหลายคนที่เชิงเทินถูกจัดการไปแล้ว

“ทุกหน่วย โจมตี!!”

เมื่อเสียงของผู้บํญชาการกองพัน ลิกูเรีย ตะโกนมาสํญญาณการโจมตีก็ได้เหล่าทหารก็ได้รับ คว้าบนไดที่เก็บไว้ของทหารแล้วก็รีบไปที่กำแพงทั้งหมดในครั้งเดียว การโต้กลับศัตรูเริ่มต้นโดยไม่ลังเล 
แต่แนวยิงก็ยังน่ากลัว

“มาอยู่ข้างหลังฉันไว้”

วอล์ม วิ่งเข้ามาโดยมีโล่อยู่บนหลังของเขา เสียงเคาะดังขึ้นบนโล่พร้อมเสียงแหลมสูง นอกจากลูกศรแล้วยังมีหินและยังมีบางอย่างที่กระทบกับเกราะแข้งเขาอย่างแรง แต่เขาไม่สามารถสนใจมันได้ ทหารได้เอาบันไดพาดกำแพงแล้วปีนขึ้นไป แต่เมื่อหอกถูกแทงออกมาทหารที่กำลังปืนอยู่ก็ล่วงลงมา

ในขณะเลือกบันไดที่ดูปล้อดภัย วอล์ม ก็เริ่มปีนขึ้นไป ทหารที่ปีนขึ้นไปก่อนหน้าวอล์มถูกแทงด้วยลูกศรที่ยิงมาจากด้านข้างแล้วจึงล่วงกระแทกกับพื้น นักธนูของศัตรูพยายามจะยิ่งธนูใส่เป้าหมายต่อไปของเขาคือ วอล์ม แต่แล้วก็มีหอกน้ำแข็งพุ่งมาแทงหน้าของเขาและก็ล้มลงในเชิงเทิน

“วิลลาร์ท!!”

วอล์ม ที่รู้ตัวตนของผู้ช่วยเหลือ

ในขณะที่ขอบคุณสหายของเขาที่เงียบโล้นของเขา วิลลาร์ท วอล์มก็ยังคงปืนขึ้นต่อไป บางทีพวกมันอาจแตกตื่นจากเวทมนตร์ เขาสามารถปืนขึ้นบันไดจยถึงเชิงเทินโดยไม่ถูกศัตรูรอบๆสังเกตุเห็น

เมื่อขึ้นไปบนเชิงเทิน วอล์ม ก็แทงดาบไปที่ต้นคอของศัตรูตรงหน้่าเขาในชั่วขณะ ทหารหยุดนิ่งในทันทีเนื่องจากรูที่คอของเขาเป็นอันตรายถึงชีวิต

ทหารที่อยู่รอบๆยังไม่สังเกตุเห็น จากนั้นวอล์ใก็ฟันดาบไปที่ด้านข้างแล้วตัวหัวพร้อมกับเกราะของศัตรู เมื่อเขาฟันได้โดยไม่เกิดความเสียหายใดๆกับดาบของเขา เขาก็เปรี่ยมไปด้วยแรงใจ

วอล์ม ฆ่าทหารได้โดยใบมีดไม่ทื่อเขาเผชิญหน้ากับทหารที่สังเกตุเห็นการบุกของเขา

“พวกมันขึ้นมาแล้ว!!”

ศัตรูเข้าหา วอล์ม เพื่อเตื่อนเพื่อนของพวกเขา วอล์มรู้ได้ทันทีว่าทหารนี้มีฝีมือ ศัตรูฟ้นดาบครั้งแรก
แล้วจากนั้นก็แทงดาบต่อไป แล้วด้วยกันฟันครั้งที่สี่ วอล์ม ก็ปิดช่องเมื่อศัตรูก้าวเข้ามา

วอล์ม ผลักเขาด้วยโล่จากนั้นก็พยายามโจมตีข้อมือด้วยการทุลโล่ ศัตรูนั้นเก่งมากที่ไม่ปล่อยดาบจากมือ แต่แข้นขวาของวอล์มที่อยู่หลังโล่ก็ใช้ดาบยาวแทงจากระยะใกล้จากด้านล่างทุลกะโหลกไปถึงสมอง

จากนั้น วอล์ม ก็มองหาศัตรูคนต่อไป

พันธมิตรหลายคนในได้ปีนขึ้นมาบนกำแพง หนึ่งในนั้นคือนัวร์ เธอกำลังต่อสู้กับทหารที่เข้ามาหาเธอทันทีที่เธอปีนขึ้นมา แต่่เนื่องจากความต่างของเกราะแบะเธอก็ขาดประสบการณ์ ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บที่แข้น

“รุ่นพี่คะ!!―”

เสียงร้องของนัวร์ดังไปถึงหูของวอล์ม ศัตรูคนนั้นเป็นคู่ที่่แย่มาก ศัตรูสวมเกราะทั้งตัว..เขาเป็นอัศวิน
มีทหารไฮเซิร์ค สองคนถูกฆ่าไปแล้วบนเชิงเทินและนัวร์อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นในอีกไม่กี่วินาที

“เห้ยชอบรังแกคนอ่อนแอกว่ารึไง? ไอ้แมงหวี่เอ้ย”

วอล์มหันกลับอย่างรวดเร็วแล้วปาโล่ใส่อัศวิน อัศวินได้รับมันด้วยHalberdของเขา
 

“ป่าเถื่อนเช่นเคยไอ้พวกเวรไฮเซิร์ค!! ฉันจะไม่ยอมให้แกได้เหยียบไมยาร์ด”

อัศวินก้าเข้ามาพร้อมกับดันโล่ เนื่องจากพวกเขาอยู่บ้นเชิงเทินที่่พื้นที่จำกัน มันยากสำหรับวอล์มที่ทิ้งโล่ไปแล้วถึงแม้จะเพื่อช่วยนัวร์ ก็ตาม ในขณะกันฟันวอล์มก็ตั้งท่าของเขา เขาไม่กลัวที่จะรับแรงกระแทกของโล่ด้วยไล่และหลังและใช้เท้ายันในจุดนั้น

ใบหน้าของวอล์ม บิดเบี้ยวเนื่องจากแรงกระแทกมากกว่าที่เขาคิดไว้ แขนซ้านของเขาปวดสั่น แค่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการเคลื่อนไหว ฮาลเบิร์ดเข้ามาจากด้านข้าง ในขณะที่ป้องกันด้วยดาบ เสียงกระทบสูงของโลหะสะท้องออกมา เขาเพิ่งถูกกระแทกมา แต่ก็ไม่สามารถหยุดพักได้ แล้วการโจมตีต่อไปก็ตามมาในไม่ช้า โล่เข้าหา วอล์มอีกครั้ง

เขาหมุนเท้าและเอียงตัวไปทางซ้ายในขฯะหลับโล่ของอัศวิน  อัศวินตามมาแล้วเหวี่ยงฮาลเบิร์ดมา
วอล์มที่ไใาใรโล่เขาจึงจับดาบด้วยมือสองข้างแล้วกันการโจมตี แต่ก็ไม่สามารถรับมันได้ทั้งหมด 
ความต่างของน้ำหนัก

ขณะผลักกลับไป ศัตรูก็ดึงฮาลเบิร์ดกลับ แต่มันได้ทิ้งบาดแผลไว้ที่ไหล่ของวอล์ม พวกศัตรูที่มารวมตัวกันกำลังโจมตีทหารไฮเซิร์คอยู่รวมถึงนัวร์ด้วย ในตอนนี้วอล์มกำลังมองหาหัวหน้าหน่วยของเขาโดยไม่รู้ตัว แต่อย่างที่รู้หัวหน้าหน่วยนั้นเด่นมากในต้องเริ่มต้นและบางทีเขาอาจถูกขัดขวางอยู่เมื่อเขาปีนบันได เดิมศัตรูที่แข็งแกร่งแบบนี้หัวหน้าจะเป็นคนจัดการ จากนั้นวอล์มก็บ่นถึงความโชคร้ายของเขาแต่เขาก็ไม่สามารถทิ้งรุ่นน้องของเขาได้

เกราะของศัตรูมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกับวอล์มก็มีรอยเหมือนกัน เขาเสียเปลียบเพราะการป้องกันจุดสำคัญของเขานั้นด้อยกว่าอัศวิน  วอล์มพยายามโจมตีที่ลำตัว แต่ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เนื่องจากมีเกราะ แล้วฮาลเบิร์ดก็ได้บาดแก้มของเขา

เปลือกตาและหน้าผากของวอล์มก็มีบาดแผลการมองเห็นของเขาถูกรบกวน

ริวฝีปากของ วอล์ม นั้นแห้งมาก

จนลืมที่จะกะพริบตาและพยายามคาดเดาการเคลื่อนไหวของศัตรู เกราะมีถูกขูดอีกครั้งแต่คราวนี้ ฮาลเบิร์ดได้บาดไหล่ของและส่วนนึกของไหล่ถูกตัดออก

“ไม่มีประโยช ไอ้แมลงตัวจ้อย!!”

อัศวินตะโกนออกมา

วอล์ม โจมตีลำตัวอีกครั้ง แต่คราวนี้มันลึกลงไป

มีบางอย่างต่างจากปกติ สถานการณ์ไม่ได้เข้าข้างวอล์มเขาถูกบีบให้ทำ แขนที่เปื้อนเลือดของเขาเหวี่ยงดาบเบาๆ เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น รู้สึกเหมือนสึ่งที่ไร้ประโยชน์ของการเคลื่อนไหวถูกขัดออกแล้วก็ลื่นไหลอย่างมีประสิทธิภาพ ฟันเกราะหน้าแข้งของอัศวิน ดาบยาวฟันไปที่ด้านข้างในขณะที่ชักกลับมา ส่วนหนึ่งของเกราะถูกฟัน อัศวินที่รู้สึกเช่นนั้นเขาก็ตะโกนใส่วอล์มด้วยความโกรธ

“ไปตายซะ!!”

ดาบและฮาลเบิร์ดกระแทกกน และกระโดดถอยกลับในขณะที่ย่อตัวรับแรง วอล์ม มีดาบยาวบนไหล่ของเขา แต่เขารู้สึกมันยังไม่พอเขาอยู่ในจุดที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนในการต่อสู้หรือการซ้อมจริง 
ท่าตั้งการ์ดของเขานั้นมีแขนอยู่เกือบเหนือหัว ท่าแบบนี้อาจบอกได้ว่าไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด

“อย่ามาหยามฉัน แกคิดว่าฉันจะพลาดอีกครั้งรึไง”

อัศวินก้าวเข้ามาในขณะผลักโล่อีกครั้ง แม้ว่ารูปแบบการต่อสู้ได้สถอนในระยะมอง แล้ววอล์มก็เห็นสิ่งที่เขาควรเห็นแล้วก็ขยับเข้าไป หลังจากถูกส่งไปยังสนามรบถึงแม้ทุกวันเขาจะเหวี่ยงดาบของเขามันก็รู้สึกไม่คุ้นเคยและคราวนี้เขาก็เตรียมเหวี่ยงมันในวิถีที่คุ้นเคยเช่นเดียวกับที่เหวี่ยงจอบในฐานะชาวนา

ดาบเปร่งแสงจางๆ และมานาก็ถูกส่งเข้าไปที่ดาบจากมือ
 

ถ้าการโจมตีนี้พลาดเป้าศัตรูจะสวนกลับแล้ววอล์มจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ความเสี่ยงดังกล่าวไม่ได้เขามาในหัวของวอล์ม ด้วยซ้ำ เขาแค่อยากจะทิ้งตัวเองไว้กับความรู้สึกนี้ บางที่นี่อาจเป็นครั้งแรกเขายิ้นจากก้นบึ้งของหัวใจในสนามรบ

การฟันที่เหวี่ยงมาได้เฉือนโล่และตัดจากไหล่จนถึงหน้าอก เวลาได้หยุดลงแล้วมันก็เหมือนกำลังไหลช้าๆ อัศวินได้ทิ้งฮาลเบิร์ดลงและพึมพำด้วยเสียงสั่นเครือ

“ท-ทักษะ 《จู่โจม》? ได้ยังไง ทำไมแมลงเล็ก  ๆ  อย่างแก สามา ร――”

อัศวินล้มลงไปกับพื้นแล้วเลือดก็ไหลออกมาไม่รู้จบ

“ไม่มีทางท่านแม่ทัพ!?”

“ท่านเฮอเมล ถูกจัดการแล้ว”

บางทีอัศวินที่วอล์มฆ๋าอาจเป็นอัศวินที่ควบคุมกำแพงโดยรอ ความกลหลของทหารโดยรอบนั้นผิดปกติ ราวกับขะทำให้แย่ขึ้นหลังจากที่หัวหน้าดูเวย ก็ได้ขึ้นมาบนเชิงเทินแล้วเขาก็สังหารศัตรู
ทุกครั้งที่หัวหน้าดูเวย เหวี่ยงดาบแขนขาของศัตรูก็จะถูกตัดออกจากกัน

“ฉันขึ้นมาได้แล้ว! อย่าได้ย้อมแพ้! ทำลายพวกมันให้หมด” 

แม้แต่หัวหน้าหน่วยๆอื่นก็ตอบกลับเขาจากที่อื่นของเชิงเทิน ผู้บัญชาหมวด โคโซรู ก็ยินดีอย่างยิ่งเมื่อโจมตีเมื่อเห็นดังนั้น  วอล์มก็ได้แต่สงสัยทำไมหัวหน้าดูเวยไม่สามารถเป็นหัวหน้าหมวดได้ 
แต่ตอนนี้การจัดการกับเชิงเทินนั้นสำคัญกว่า

“ระวังเลือดไหลด้วย เรายังอยู่ในช่วงสำคัญ”

“ช-ไช่แล้ว คุณวอล์ม”
 

สถานการณ์กำลังเอียงไปทางจักรวรรดิ แต่ก็ยังมีศัตรูจำนวนมากที่พยายามยึดกำแพงกลับคืนมา  
แล้ววอล์มก็เหวี่ยงดาบไปที่ศัตรูที่เขาพบก่อนที่ความรู้สึกจะหายไป ก่อนหน้าเขาสามารถแม้แต่จะตัดลำตัวที่ใส่เกราะของศัตรูในขณะที่ใช้ดาบ วอล์ม กำลังจะก้าวเข้าสู้ขอบเขตุความเหนือมนุษย์

วอล์ม ไม่ชอบการฆ่า แต่มันข่วยไม่ได้เขาต้องพยายามหาว่าเข้าได้รับพลังมาแค่ไหน ทั้งโล่หรือเกราะของศัตรูไม่สามารถต้านทางทักษะ 《จู่โจม》ได้ ดาบยาวธรรมดาได้กลายเป็นเหมือนกับขวานสงครามยักษ์ เขาได้สร้างทักษะ《จู่โจม》ของเขาอย่างสมบูรณ์

ศัตรูพยายามป้องกันบันไดและไม่ได้เปิดช่องแล้วก็มองเขาอย่างหวาดกลัวและพยายามเบนความสนใจของเขา ตามสายตาของวอล์มมีศัตรูมากกว่า10 คน เมื่อเขาตั้งท่าและพยายามก้าวไปเขาก็ได้ยืนเสียงที่เชื่อถือได้ดังมาจากด้านหลัง

“วอล์ม!! ดูเหมือนนายจะได้รับทักษะ《จู่โจม》แล้ว เยี่ยม ไปพักก่อน ฉันจะจัดการที่เหลือเอง”

มันคือหัวหน้าหน่วยดูเวย ซึ่งร่างถูกอาบไปด้วยเลือด วอล์ม ผ่อนคลายลงแม้แต่มือใหม่ก็เข้าใจความหมายของมันได้ หัวหน้าหน่วยของเขาเป็นคนแบบที่เขาไม่ต้องการเจอในสนามรบ 

เมื่อหัวหน้าดูเวย ตะโกนเสียงขุ่มขู่แล้วก็มีเสียงกรีดร้องของศัตรูที่ถูกจัดการโดยเขา ทหารสองคนหายตัวไปจากเชิงเทินในจังหวะนั้น มันเป็นพลังที่ไม่สามารถประเมินได้จากคนที่มีทักษะเดียวกันกับวอล์ม ทหารศัตรูที่หลับอยู่หลังโล่และพยายามจะหยุดการโจมตีก็ถูกเตะออกไปเมื่อเขาตกลงจากเชิงเทินลงสู้พื้นเลือดก็ไหลออกมาจากร่างของเขาเหมือนดอกไม้บาน

“อา!? อ อราคอออ――”

“อึ!! ทำไมคนแบบนี้ถึงมาที่นี่!!”

“อย่าได้กลัว อย่าไปกลัว”

บันไดเต็มไปด้วยศพ  เมื่อทหารที่มีใบหน้าซีดเซียวถูกโจมตีตัวของเขาก็แยกออกจากกันโดยหัวหน้าหน่วยดูเวย หัวของศัตรูก็แตกออกอย่างสยอง ทหารศัตรูที่เหลือที่เห็นมันก็หันหลังของพวกเขาและวิ่งหนี

“มันยังไม่จบ”

“เวรเอ้ย โอเกอร์ยังดีกว่านี้”

ทหารพันธมิตรกำลังโถมเข้ามาทันทีจากตรงกลางและกำแพงด้านซ้าย ไม่สามารถเห็นได้ว่าโมเมนตัมจะหยุดลงเมื่อไร เมื่อเห็นอย่างนั้น วอล์มก็คิดว่าการต่อสู้ได้ถูกตัดสินแล้ว

เสียงตะโกนที่เหมือนโจร อาคารที่สร้าขึ้นในเชิงเทินถูกควบคมุมโดยหัวหน้าหน่วยดูเวย การต่อจต้านมีเพียงเล็กน้อย ทหารที่เหลือกำลังขังตัวเองในป้องซ้ายขวาหรือาจจะกำลังวิ่งหนี

ประตูปราการถูกเปิดจากด้านใแล้วการตัดสินก็มาถึงเมื่อมีจำนวนทหารมากกว่าสองเท่า ทหารศัตรูบางคนไม่สามารถหลบหนีจากป้อมได้และถูกต้องจนมุมและแสดงท่าทางต่อต้าน แต่พวกเขาทั้งหมดก็ถูกฆ่าตายในเวลาน้อยนิด ป้องที่ถูกปิดล้อมก็ได้ยอมจำนนในไม่นาน

การต่อสู้ที่เริ่มขึ้นในตอนเช้าก็ได้สิ้นสุดลงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ถึงอย่างนั้นมันเป็นเพียงด้านหน้าชายแดน งานของวอล์มยังคงไม่จบ ทหารม้าที่เซฟกำลังไว้ได้วิ่งออกจากป้อมเพื่อไล่ล่าทหารที่พยายามหนี ทหารศัตรูหลายคนถูกสังสารจากการไล่ล่า

*****
จบไปแล้วกับตอนที่6ยาวมากกกกกกก เป็นตอนที่ตัวเอกเราได้รับพลังใหม่แล้วก็เปิดตัวรุ่นน้องทั้งสองคนโดยเฉพาะคนหญิงในปกนี่อย่างแน่น แฮร่ๆ แล้วก็มีภาพมาฝากด้วย
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 6

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 6 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กองทัพจักรวรรดิซึ่งเคลื่อนพลออกจากเมืองซาร์เรีย ได้แบ่งกองทัพออกเป็นสามกอง มันเป็นเพราะ
ซาร์เรียซึ่งเป็นจุดสำคัญเส้นทางชายแดน แต่มันไม่สำหรับกองทัพใหญ่ มีเส่นทางทั้งสามที่
นำไปสู่ดินแดนไมยาร์ดนั้นซึ่งเป็นเป้าหมาย หน่วยที่ วอล์ม อยู่จะได้รับหน้าที่ในการยึดป้องปราการหนึ่งที่ปิดกั้นเส้นทางหลัก

ดูเหมือนว่าไมยาร์ดกำลังรอกำลังเสริมจากอาณาจักรเฟอร์เรียส ในทางกับกันหน่วยได้รับมอบหมายให้ลดจำนวนทหารของไมยาร์ดที่ปราการย่อยรอบๆดินแดน ก่อนที่การเสริมกำลังจากอาณาจักรฟาร์เรียสจะมาถึง

ป้อมปราการสูงตระหง่านที่ชายแดนเป็นปราการที่อยู่ในภูเขา ทางผ่านบนภูเขาถูกปิดกั้นโดยปราการ
และกำแพงและป้อมปราการถูกสร้างกั้น ตามข้อมูลก่อนหน้ามีทหาร 3000 นาย ประจำการอยู่ 
จากระยะของธนูและเวทมนตร์คุณจะสามารถเห็นความสูงของกำแพงตระหง่าน บางทีมันอาจสูงประมาณ3 เมตรและกว้าง6หรือ7เมตร
Tl:3 meters high and 6 or 7 meters wide

การต่อสู้ปิดล้อมแบ่งออกเป็นสองแบบคร่าวๆ มันจะเป็นการค่อสู้ระยะสั้นหรือการต่สู้ระยะยาวไม่มีใครรู้
แต่ วอล์ม คิดว่าคราวนี้จะต้องเป็นการต่อสู้ระสั้นด้วยการบังคับเดินทัพ ประตูจะถูกโจมตีโดยกองพันซาร์เรีย และกองพันลิกูเรีย ซึ่งหน่วยของดูเวยอยู่ จะรับผิดชอบกับกำแพงด้านซ้าย

“วอล์ม โจเซ่ พวกนายเอาโล่ไป ฉันจะให้พวกทหารใหม่ไปด้วย นัวร์ และบาริโต้ สั่งพวกเขาให้ดี 
วิลลาร์ทให้ยิงเวทย์ไฟไปที่กำแง ส่วนคนอื่นทำตามปกติ”

หัวหน้าหน่วยดูเวย บุกโจมตีอย่างแรงด้วยโล่ที่สามารถซ่อนคนสองคนได้มิด วอล์ม ยังเคยได้รับการช่วยให้รอดจากโล่เมื่อพวกเขาโจมตีป้อมปราการมาก่อน ในโลกที่พลังการยิงของแต่ละบุคคลต่างกันอย่างมากเนื่องจากเวทมนตร์และทักษะ อาจพูดได้ว่าโล่เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการลดความเสียหาย มนุษย์ซึ่งมีมานาจำนวน จำกัด เมื่อพวกเขาที่ใช้เวทมนตร์เหมือนกระสุน 
ดังนั้น มันเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและทำให้พวกเขายิงเวทมนตร์อย่างสิ้นเปลืองจากระยะไกล

อุปกรณ์ที่ทำด้วยสิ่งของทั่วไปที่ถูกขนด้วยเกวียน ที่นั่นมีการเตรียมไผ่ที่ผูกไว้ดวยกันเป็นโล่ วอล์ม
ยักมันขึ้นเพื่อทดสอบมันทำให้รู้สึกหนักในมือทั้งสองข้าง หนักกว่าที่เขาคิดไว้  ถ้าสามารถดูมันจากด้านบนได้ก็จะรู้ว่าทำไม ใส้ในถูกขว้านออกและเติมไปด้วยดิน โล่ไผ่มักถูกใช้ในโลกก่อนหน้าของ วอล์ม เช่นกัน และพลังการป้องกันของพวกมันก็เพียงพอที่จะกันกระสุนปืนคาบศิลาที่สามารถเจาะเกราะได้

“เอาหละ เข้ามานี่”

ทหารใหม่ถูกเรียกโดยโจเซ่รีบวิ่งเข้ามาใกล้ๆ วอล์ม  คุ้ยเคยกับการจับคู่กับ โจเซ่่ แต่นี่เป็นครั้งแรกจะจับคู่สี่่คนกับทหารใหม่ด้วย

แม้จะไม่หวั่นไหว แต่ใบหน้าของทั้งสองซึ่งเป็นทหารใหม่ชายและหญิง ที่มีสีหน้าซีดโดยเฉพาะผู้ชายที่มีสีหน้าเครียดราวกับกำลังจะอวกออกมา ใบหน้าของหญิงสาวก็ตึงเครียดเช่นกัน แต่เธอ
สามารถระงับการแสดงออกของเธอได้ โจเซ่หัวเราะแล้วก็คว้าเป้าของชายหนุ่ม

“อ้าา …จะทำอะไรนะ”

บาริโต้ส่งเสียงประท้วงออกมา แต่โจเซ่ไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดสักนิด วอล์ม ยิ่มขมขื่นราวกับเขากำลังประหลาดใจ

“โอ้ โอ้ มันหดหมดแล้วนะเนี้ย”

เห็นได้ชัดว่าโจเซ่กำลังตรวจสภาพน้องชายของบาริโต้และยืนยันว่าเขารู้สึกประหม่าอย่างมาก จากนั้นโจ่เซ่ก็หันมามอง นัวร์

“ฉันโอเค ตั้งแต่แรกฉันไม่เคยมีมัน”

โจเซ่ซึ่งถูกปฏิเสธดูเหงาเล็กน้อย อย่างแรกนั้นการสัมผัสส่วนนั้นเป็นการล่วงละเมิดทางเพศโดยสมบูรณ์ ตามที่เดาไ้ว้แม้แต่ วอล์ม ก็ป้องกันการกระทำดังกล่าวได้

“นี่เป็นครั้งแรกสำหรับฉันที่มีการต่อสู้เต็มรูปแบบ แต่คราวนี้เรากำลังเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ฉันรู้ว่าเราอยู่ที่แนวหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็จงฉลาดไว้ หัวหน้าหน่วยสั่งให้เราถมคูน้ำที่ว่างอยู่ เขาบอกว่าควร
ลดความต่างของกำแพงปราการลง และมั่นใจได้ว่ามันจะไม่ใช่ศึกระยะประชิดกระทันหัน”

เมื่อได้ยินคำพูดของโจเซ่ ทั้งสองก็มองหน้ากัน ผิวดูเหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อย แผนคือถมคูน้ำที่ว่างเพื่อลดความต่างของกำแพงปราการด้วยดินแล้วใช้บันไดเพื่อเข้ายึดปราการในครั้งเดียว มันจะเป็นงานที่ใช้เวลาหากทำโดยกำลังของมนุษย์ แต่มันต่างจากโลกก่อนของ วอล์ม ที่นี่มีสิ่งที่สะดวกที่เรียกว่า
“เวทมนตร์” ในโลกนี้และสามารถโจมตีปราการได้อย่างรวดเร็ว

“ถ้าศัตรูมา วอล์ม จะจัดการพวกเขาเอง เขาอาจดูเหมือนคนทั่วๆไปที่พบได้ในหมู่บ้าน แต่เขาก็เป็น
ผู้เชียวชาญการต่อสู้ประชิดตัวที่ฆ่าคนหลายสิบคน อุปกรณ์ที่เขาใช้อยู่ส่วนใหญ่เป็นของที่ได้จากทหารที่เขาจัดการ”

โจเซ่ตบไหล่ของวอล์ม ทั้งสองมองไปที่วอล์มอีกครั้งแล้วสัหน้าของพวกเขาก็ตึงแล้วพวกเขาก็เว้นระยะห่างทันที ท้ายที่สุดคนที่พวกเขาเชื่อว่าไม่มีอันตรายจริงๆ เป็นฆาตกรต่อเนื่อ

“อย่ามาพูดเหมือนฉันเป็นคนบ้าการต่อสู้ดิ มันช่วยไม่ได้นิ ไม่มีอุปกรณ์ที่ดีสำหรับเราที่เข้าเป็นทหาร
แล้งก็ไม่ได้มีใครว่าด้วย”

อย่างแดกดัน วอล์ม แต่งตัวดีขึ้นและมีเงินมากขึ้นหลังจากเข้าร่วมสงคราม ในที่สุดเขาก็เข้าใจทำไม
ลูกชายคนที่สามหรือสี่ของบางคนในพื้นที่ชนบทที่ยากจนซึ่งอยากรวยแล้วก็อยากไปสนามรบ
อย่างไรก็ตามความเป็นจริงไม่ได้หอมหวาน ตอนแรกมันดูหรูหรา แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นหลายคนจะถูกเปิดเผยอวัยวะภายในของพวกเขาในขณะที่เรียกชื่อแม่ของเขาและหลายคนถูกฆ่าตายโดยไม่สามารถจัดการกับศัตรูอย่างเหมาะสม

เป็นเรื่องที่น่าขันสำหรับ วอล์ม ที่เคยใช้ชีวิตในวัฒนธรรมในชีวิตก่อนหน้าที่ได้เรียนรู้สิทธิมนุษยชน
แต่ไม่ว่าจะดีหรือแย่เขาก็ได้ผ่านมันมาและในที่สุดก็ปรับตัวให้เข้ากับโลกใหม่

“เสร็จสิ้นการแนะนำอันสง่างานของนายยัง ถึงเวลาแล้ว ไปกันเถอะ”

ได้ยินเสียงแตรเบาๆ ก่อนที่หัวหน้าหน่วยดูเวย จะพูดจบ

“ถึงเวลาเริ่มแล้ว ขอให้โชคดี”

หลังจากเสียงแตรดังขึ้นจากด้านหลัง มันเป็นสัญญาณให้ก้าวไปข้างหน้า

วอล์มยกโล่ด้วยมือทั้งสองข้างและก้าวไปข้างหน้า ข้างหลังเป็นทหารที่กำลังถือถุงฟางไม่ใช่ถึงฟางที่ใช้สำหรับธัญพืชหรือเกลือ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นดิน

โล่ที่ได้รับการเสริมแก่งนั้นหนักมากและปฏิเสธโดยร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถออกห่างได้ วอล์ม 
มีประสบการณ์ว่าสิ่งที่จะตอบแทนกลับมาจะแสดงให้เห็นหลังจากผ่านไปอีก 200 เมตร

นัดแรกคือลูกศร ลูกศรลงจากภูเขาทีละลูกเพื่อขยายเช็คระยะยิง ผลกระทับนั้นเบาบางเนื่องจากความแตกต่างของความแข็งแกร่งและทักษะของแต่ละคน แต่ความแม่นยำจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเข้าใกล้มากขึ้น

“อัค ――”

ลูกศรที่มีแสงจางๆ ที่ต่างจากอันอื่นๆอย่างชัดเจนพุ่งเป็นเส้นตรง แล้วทหารที่อยู่ในหน่วยถัดไปก็ร้องออกมาสั้นๆ และทรุดตัวลง

“อย่าเผยส่วนสำคัญให้เห็น ระวังพวกมันมีบางคนใช้ทักษะ《ยังหนัก》”
TL:《Hard Shoot》

หัวหน้าหน่วยที่มีประสบการณ์ตะโกนว่า มันเป็น《ทักษะ》ที่คือพรสวรรค์โดยธรรมขาติหรือผลของ
การฝึกฝนอย่างหนัก

ดูเหมือนจะมีคนแบบหัวหน้าหน่วย

วอล์ม ปรับตัวอย่างไม่เต็มใจในขณะที่รู้ว่ามีบางคนมีพลังเหนือมนุษย์นอกจากเวทมนตร์

หัวลูกปักเข้าที่ไหล่และต้นแขนขของทหารแล้วพวกเขาก็สบถออกมา

วอล์มกัดฟันของเขา จากประสบการณ์ของเขานี่แค่เริ่มแค่งานเลี้ยงต้อนรับเท่านั้นในอีกไม่ช้ากองกำลังประเภทอื่นๆ จะเริ่มโจมตีเข้ามา ในความเป็นจริงภายในอีกไม่กี่นาทีจะมีเวทมนตร์พุ่งเข้ามา 
ลูกไฟ หอกน้ำแข็ง ลูกปื่นใหญ่ดิน และอีกมากมาย

“มาแล้ว”

ไม่กี่วินาทีหลังจากที่โจเซ่ส่งเสียงเตือนลูกบอลน้ำก็กระแทกที่โล่โดยตรง แรงกระแทกกระทบกับมือที่รองรับอยู่ วอล์มตำหนิทหารใหม่นัวร์ที่ทิ้งโลโดยไม่ได้ตั้งใจ

“อย่าทิ้งโล่ลง!! แม้ว่าแขนจะฉีกขาด!  มันก็ดีกว่าตาย”

น้ำเย็นได้กระจายไปรอบๆ และล้างเกราะและเหงื่อออก ความจริงมันทำให้รู้สึกสดชื่น

“พวกมันใจดีมากแหะ ดูเหมือนพวกมันต้องการใช้น้ำในการต้องรับ”

คำพูดของ วอล์มดูเหมือนจะได้รับการตอบรับในระดับกลางๆและเสียงหัวเราะก็รั่วออกมาจากคนโง่ทั้งสามและทหารรอบตัวเขาผ่านช่องว่างของฟันที่กัดแน่นของพวกเขา ทหารใหม่นัวร์และบาริโต้ก็หัวเราะเล็กน้อยเช่นกัน 
โล่มีเสี่ยงดังไม่ขาดตอน ไม่เพียงแต่ลูกศรและหินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเวทมนตร์และแต่ขึ้ก็ถูกโยนมา

เป็นพวกที่โสโครกจริงๆ

วอล์มไม่พอใจ

ระยะทางเข้าใกล้จุดที่สามารถเห็นอีกฝ่ายได้แล้ว มันจะไม่ใช่ทหารของไฮเซิร์คถ้าพวกเขาไม่โจมตีกลับ

ลูกศรและเวทมนตร์ถูกยิงผ่านช่องของโล่ วอล์ม ดีใจที่เห็นศัตรูถูกลูกไฟกลืนกินและตกลงมาจากกำแพง

“เยี่ยม!! วิลลาร์ทเยี่ยมมาก!!”

เมื่อวอล์มชมผู้ที่ใช้เวทมนตร์ วิลลาร์ท ที่ยิงลูกไฟไปก็ยิ้มกลับโดยไม่ได้พูดอะไร

อาจต้องการจัดการคนที่มีพลังโจมตีสูง ดังนั้นการโจมตีจึงไปกระจุกอยู่ใกล้ๆกับวิลลาร์ท

“โอ้ว พวกแกกำลังต้องการมันสิ่งนี้สินะ!?”

หินขนาดเท่ากำปั้นถูกโยนออกไปโดยหัวหน้าที่โกรธแล้วก้อนความโกรธนั้นก็จมลงบันหน้าของคนยิงทำให้เขาล้มลง

“รอก่อนเถอะ ไอ้พวกโง่ ฉันจะขยำร่างของแกทั้งหมดรวมกับขยะซะ”

เมื่อหัวหน้าดูเวย ตะโกนผลที่ได้ก็โดนชัดเจน จากนั้นการโจมตีก็จดจ่ออยู่กับเขาราวกับว่าเขาเป็นศัตรูฟ้าลิขิต

“ตอนนี้แหละ เติมมันให้เต็มเร็วเข้า”

แม้จะมีการโจมตีมากมาย แต่หัวหน้าหน่วยก็ออกคำสั่ง โดยที่ปกติแล้วเขาจะเป็นที่หยาบกร้านและสมองกล้าม แต่เมื่อพูดถึงการต่อสู้แล้วสมองของเขาก็ทำงานอย่างบ้าคลั่ง

คูน้ำที่ว่างเปล่าเต็ฒไปด้วยดินจากเวทมนตร์ดินให้ได้ประมาณครึ่งหนึ่งของกำแพงนั่นคือแผน

ทหารเดินเท้าก็วางโล่ลงกับพื้นและในลักษณะส่งต่อพวกเขาว่งต่อถุงฟางและเทดินลงในคูน้ำที่ว่างเปล่า อีกหน่วยที่ดูมีคนที่สามารถใช้เวทมนตร์ดินได้จึงตกดินและเทมันใส่คูน้ำ

ศัตรูหมดหวังที่จะทำลายสายการป้องกัน จากนั้นลูกไฟก็กระโจนผ่านช่องว่างของโล่ก็กลืนกินทหารสองคน เลือดและเนื้อกระจัดกระจายไปทั่วโดยการระเบิดและสัมผัสทหารโดยรอบและร่างของพวกเขาก็ถูกห้อด้วยเปลวไฟและในที่สุดทหารก็ดิ้นลงกับพื้น

ทหารที่เป็นพันธมิตรได้คลุมไฟด้วยดินและดับไฟ แต่ลูกศรและหินก็มารวมตัวกันที่รูที่การป้องกันเปิดอยู่ “ริเริ่มสร้างผู้ความโกรธให้ผู้คน” คุณสามารถพูดได้ว่ามันเป็นหนึ่งในความจริงในสนามรบ วอล์ม
จำได้ว่าครูสอนประวัติศาสตร์โลกก่อนของเขามักจะบอกเขาถึงคำนั้น
Tl:”Take the initiative to anger the people” เงี้ย

จากนั้น วอล์ม เห็นศัตรูคนหนึ่งเตรียมจะโยนอะไรบางอย่างผ่านช่องว่างของโล่ เป้าหมายคือ นัวร์
อย่างแน่นอนซึ่งกำลังทำหน้าที่ในจณะที่เปื้อนไปด้วยดินและเหงื่อ ไม่นานหินก็ถูกโยนไปที่ นัวร์

“เอ๊ะ เอ!?”

ตอนนั้นวอล์มคว้าคอของ นัวร์ และดึงกลับเขามา หินผ่านหัวไปเมื่อสักครู้

“ข- ขอบตุณมากค่ะ”

นัวร์ซึ่่งลืมตาขึ้นได้ขอบคุณ และวอล์มก็ให้คำแนะนำแก่เธอ

“ไม่เป็นไร แต่ยิ่งไปกว่านั้นอย่ามัวแต่สนใจทางนั้น จำไว้ว่ามีศัตรูอยู่ด้านบน”

นัวร์พยักหน้ากลับหลายครั้ง

วอล์ม กำลังดูแล นัวร์อยู่ และ โจเซ่ ซึ่งปกติจะไปกับเขาเสมอกำลังดูแลบาริโต้ บาริโต้ที่ซึ่งถูกทิ้งให้โจเซ่ ผู้ซึ่งสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างราบรื่นดังนั้นเขาน่าจะไม่เป็นอะไร แต่สำหรับวอล์ม
เขาระวังไม่ให้รุ่นน้องคนแรกของเขาถูกฆ่า

งานยังคงดำเนินต่อไปและสองชั่วโมงหลังจากเริ่มสงครามคูน้ำที่ว่างเปล่าก็เต็มจนถึง1ใน3ของกำแพง หน่วยที่เหนื่อยล้า มีเพียงหัวหน้าดูเวย เท่านั้นที่ ยังโอเค เมื่อเห็นแบบนั้น วอล์ม จึงสังสัยว่าเขามีทักษะอื่นรึเปล่า

“พวกเขามาแล้ว หน่วยจู่โจม”

ขณะที่หัวหน้าหน่วยดูเวย พึมพำ วอล์ม ก็หันไปที่ขอบสายตา เขาเห็นกองพันใหม่กำลังเข้าใกล้จากด้านหลัง ซึ่งต่างจากกองพันอื่นๆ มันเป็นหน่วยที่เก็บไว้

“มันคือทหารราบของเมืองซาร์เรีย”

โจเซ่ที่แหล่มองบอกว่าเป็นกองพันไหน

“การส่งอดีตเพื่อนร่วมชาติมาโจมตี ดูเหมือนว่าผู้บัญชาการเบอร์เกอร์จะมีงานอดิเรกที่ไม่ดีเท่าไรแหะ”

ทหารรอบๆ เห็นด้วย

“มนยังไม่ถึงกำแพง เราจะตั้งบันไดไหม”

นัวร์ตั้งคำถาม คำตอบนั้นได้ถูกแสดงให้เห็นทันทีก่อนที่วอล์ม จะตอบ กลุ่มคนที่ห่อหุ้มไปด้วยชุดเกราะกระโดดเข้าไปในที่ฐานจองกำแพง

“พวกมันมาแล้ว!!”

ทหารที่เชิงเทินตะโกนอย่างหนักเพื่่อเตือนคนอื่นถึงอันตราย แต่มันก็สายเกินไปแล้วเพราะดินถูกกองไว้จนถึงกำแพงด้วยเวทมนตร์ดินแล้วกองทหารซาร์เรียก็เริ่มใช้เป็นฐาน นอกจากนี้กำแพงปราการที่อยู่ติดกันก็พังลงมาหลายสิบเมรเนื่องจากพื้นใต้ดินถูกขุดโดยเวทย์มนดิน มันเป็นการทำการขุดด้วยความสามารถนักเวทย์ของโลกนี้

วอล์ม ตะโกนในใจของเขา ความสำเร็จนี้เป็นสิ่งที่ควรชมอย่างแน่นอน

“ให้ไอ้พวกทรยศได้ลิ้มลองคมมีดของพวกนาย!….ทีมหอกชุดแรกที่บุกจะได้รับรางวัลจากผู้บัญชาการเบอร์เกอร์”

ราวกับว่ากำลังตอบสนองต่อเสียงของผู้บัญชาการของกองพันทซาร์เรีย ทหารของกองพันซาร์เรียก็เริ่งโจมตีศัตรูดั่งปีศาจ ทีมหอกแรงได้เสียบศัตรูจำนวนมากบนเชินเทินแล้วโยนพวกมันลงมาจากกำแพง แน่นอนว่าใช่ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับความเสียหายแลย มากกว่าครึ่งของหน่วยแรกถูกจัดการ
แต่การโถมเข้าตามก็มาไม่หยุด ทหารผู้ส่งสารวิ่งไปหา วอล์มและคนอื่นๆ ที่ยังอยู่ด้านล่าง

“คำสั่งจากผู้บัญชาการลิกูเรีย อย่าตามหลังกองพันซาร์เลีย ทำการโจมตีทั้งหมดและทำรายกำแพง”

วอล์ม ตกลงว่าตอนนี้เป็นจังว่าที่ดีเนื่องจากศัตรูหลายคนที่เชิงเทินถูกจัดการไปแล้ว

“ทุกหน่วย โจมตี!!”

เมื่อเสียงของผู้บํญชาการกองพัน ลิกูเรีย ตะโกนมาสํญญาณการโจมตีก็ได้เหล่าทหารก็ได้รับ คว้าบนไดที่เก็บไว้ของทหารแล้วก็รีบไปที่กำแพงทั้งหมดในครั้งเดียว การโต้กลับศัตรูเริ่มต้นโดยไม่ลังเล 
แต่แนวยิงก็ยังน่ากลัว

“มาอยู่ข้างหลังฉันไว้”

วอล์ม วิ่งเข้ามาโดยมีโล่อยู่บนหลังของเขา เสียงเคาะดังขึ้นบนโล่พร้อมเสียงแหลมสูง นอกจากลูกศรแล้วยังมีหินและยังมีบางอย่างที่กระทบกับเกราะแข้งเขาอย่างแรง แต่เขาไม่สามารถสนใจมันได้ ทหารได้เอาบันไดพาดกำแพงแล้วปีนขึ้นไป แต่เมื่อหอกถูกแทงออกมาทหารที่กำลังปืนอยู่ก็ล่วงลงมา

ในขณะเลือกบันไดที่ดูปล้อดภัย วอล์ม ก็เริ่มปีนขึ้นไป ทหารที่ปีนขึ้นไปก่อนหน้าวอล์มถูกแทงด้วยลูกศรที่ยิงมาจากด้านข้างแล้วจึงล่วงกระแทกกับพื้น นักธนูของศัตรูพยายามจะยิ่งธนูใส่เป้าหมายต่อไปของเขาคือ วอล์ม แต่แล้วก็มีหอกน้ำแข็งพุ่งมาแทงหน้าของเขาและก็ล้มลงในเชิงเทิน

“วิลลาร์ท!!”

วอล์ม ที่รู้ตัวตนของผู้ช่วยเหลือ

ในขณะที่ขอบคุณสหายของเขาที่เงียบโล้นของเขา วิลลาร์ท วอล์มก็ยังคงปืนขึ้นต่อไป บางทีพวกมันอาจแตกตื่นจากเวทมนตร์ เขาสามารถปืนขึ้นบันไดจยถึงเชิงเทินโดยไม่ถูกศัตรูรอบๆสังเกตุเห็น

เมื่อขึ้นไปบนเชิงเทิน วอล์ม ก็แทงดาบไปที่ต้นคอของศัตรูตรงหน้่าเขาในชั่วขณะ ทหารหยุดนิ่งในทันทีเนื่องจากรูที่คอของเขาเป็นอันตรายถึงชีวิต

ทหารที่อยู่รอบๆยังไม่สังเกตุเห็น จากนั้นวอล์ใก็ฟันดาบไปที่ด้านข้างแล้วตัวหัวพร้อมกับเกราะของศัตรู เมื่อเขาฟันได้โดยไม่เกิดความเสียหายใดๆกับดาบของเขา เขาก็เปรี่ยมไปด้วยแรงใจ

วอล์ม ฆ่าทหารได้โดยใบมีดไม่ทื่อเขาเผชิญหน้ากับทหารที่สังเกตุเห็นการบุกของเขา

“พวกมันขึ้นมาแล้ว!!”

ศัตรูเข้าหา วอล์ม เพื่อเตื่อนเพื่อนของพวกเขา วอล์มรู้ได้ทันทีว่าทหารนี้มีฝีมือ ศัตรูฟ้นดาบครั้งแรก
แล้วจากนั้นก็แทงดาบต่อไป แล้วด้วยกันฟันครั้งที่สี่ วอล์ม ก็ปิดช่องเมื่อศัตรูก้าวเข้ามา

วอล์ม ผลักเขาด้วยโล่จากนั้นก็พยายามโจมตีข้อมือด้วยการทุลโล่ ศัตรูนั้นเก่งมากที่ไม่ปล่อยดาบจากมือ แต่แข้นขวาของวอล์มที่อยู่หลังโล่ก็ใช้ดาบยาวแทงจากระยะใกล้จากด้านล่างทุลกะโหลกไปถึงสมอง

จากนั้น วอล์ม ก็มองหาศัตรูคนต่อไป

พันธมิตรหลายคนในได้ปีนขึ้นมาบนกำแพง หนึ่งในนั้นคือนัวร์ เธอกำลังต่อสู้กับทหารที่เข้ามาหาเธอทันทีที่เธอปีนขึ้นมา แต่่เนื่องจากความต่างของเกราะแบะเธอก็ขาดประสบการณ์ ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บที่แข้น

“รุ่นพี่คะ!!―”

เสียงร้องของนัวร์ดังไปถึงหูของวอล์ม ศัตรูคนนั้นเป็นคู่ที่่แย่มาก ศัตรูสวมเกราะทั้งตัว..เขาเป็นอัศวิน
มีทหารไฮเซิร์ค สองคนถูกฆ่าไปแล้วบนเชิงเทินและนัวร์อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นในอีกไม่กี่วินาที

“เห้ยชอบรังแกคนอ่อนแอกว่ารึไง? ไอ้แมงหวี่เอ้ย”

วอล์มหันกลับอย่างรวดเร็วแล้วปาโล่ใส่อัศวิน อัศวินได้รับมันด้วยHalberdของเขา
 

“ป่าเถื่อนเช่นเคยไอ้พวกเวรไฮเซิร์ค!! ฉันจะไม่ยอมให้แกได้เหยียบไมยาร์ด”

อัศวินก้าเข้ามาพร้อมกับดันโล่ เนื่องจากพวกเขาอยู่บ้นเชิงเทินที่่พื้นที่จำกัน มันยากสำหรับวอล์มที่ทิ้งโล่ไปแล้วถึงแม้จะเพื่อช่วยนัวร์ ก็ตาม ในขณะกันฟันวอล์มก็ตั้งท่าของเขา เขาไม่กลัวที่จะรับแรงกระแทกของโล่ด้วยไล่และหลังและใช้เท้ายันในจุดนั้น

ใบหน้าของวอล์ม บิดเบี้ยวเนื่องจากแรงกระแทกมากกว่าที่เขาคิดไว้ แขนซ้านของเขาปวดสั่น แค่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการเคลื่อนไหว ฮาลเบิร์ดเข้ามาจากด้านข้าง ในขณะที่ป้องกันด้วยดาบ เสียงกระทบสูงของโลหะสะท้องออกมา เขาเพิ่งถูกกระแทกมา แต่ก็ไม่สามารถหยุดพักได้ แล้วการโจมตีต่อไปก็ตามมาในไม่ช้า โล่เข้าหา วอล์มอีกครั้ง

เขาหมุนเท้าและเอียงตัวไปทางซ้ายในขฯะหลับโล่ของอัศวิน  อัศวินตามมาแล้วเหวี่ยงฮาลเบิร์ดมา
วอล์มที่ไใาใรโล่เขาจึงจับดาบด้วยมือสองข้างแล้วกันการโจมตี แต่ก็ไม่สามารถรับมันได้ทั้งหมด 
ความต่างของน้ำหนัก

ขณะผลักกลับไป ศัตรูก็ดึงฮาลเบิร์ดกลับ แต่มันได้ทิ้งบาดแผลไว้ที่ไหล่ของวอล์ม พวกศัตรูที่มารวมตัวกันกำลังโจมตีทหารไฮเซิร์คอยู่รวมถึงนัวร์ด้วย ในตอนนี้วอล์มกำลังมองหาหัวหน้าหน่วยของเขาโดยไม่รู้ตัว แต่อย่างที่รู้หัวหน้าหน่วยนั้นเด่นมากในต้องเริ่มต้นและบางทีเขาอาจถูกขัดขวางอยู่เมื่อเขาปีนบันได เดิมศัตรูที่แข็งแกร่งแบบนี้หัวหน้าจะเป็นคนจัดการ จากนั้นวอล์มก็บ่นถึงความโชคร้ายของเขาแต่เขาก็ไม่สามารถทิ้งรุ่นน้องของเขาได้

เกราะของศัตรูมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกับวอล์มก็มีรอยเหมือนกัน เขาเสียเปลียบเพราะการป้องกันจุดสำคัญของเขานั้นด้อยกว่าอัศวิน  วอล์มพยายามโจมตีที่ลำตัว แต่ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เนื่องจากมีเกราะ แล้วฮาลเบิร์ดก็ได้บาดแก้มของเขา

เปลือกตาและหน้าผากของวอล์มก็มีบาดแผลการมองเห็นของเขาถูกรบกวน

ริวฝีปากของ วอล์ม นั้นแห้งมาก

จนลืมที่จะกะพริบตาและพยายามคาดเดาการเคลื่อนไหวของศัตรู เกราะมีถูกขูดอีกครั้งแต่คราวนี้ ฮาลเบิร์ดได้บาดไหล่ของและส่วนนึกของไหล่ถูกตัดออก

“ไม่มีประโยช ไอ้แมลงตัวจ้อย!!”

อัศวินตะโกนออกมา

วอล์ม โจมตีลำตัวอีกครั้ง แต่คราวนี้มันลึกลงไป

มีบางอย่างต่างจากปกติ สถานการณ์ไม่ได้เข้าข้างวอล์มเขาถูกบีบให้ทำ แขนที่เปื้อนเลือดของเขาเหวี่ยงดาบเบาๆ เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น รู้สึกเหมือนสึ่งที่ไร้ประโยชน์ของการเคลื่อนไหวถูกขัดออกแล้วก็ลื่นไหลอย่างมีประสิทธิภาพ ฟันเกราะหน้าแข้งของอัศวิน ดาบยาวฟันไปที่ด้านข้างในขณะที่ชักกลับมา ส่วนหนึ่งของเกราะถูกฟัน อัศวินที่รู้สึกเช่นนั้นเขาก็ตะโกนใส่วอล์มด้วยความโกรธ

“ไปตายซะ!!”

ดาบและฮาลเบิร์ดกระแทกกน และกระโดดถอยกลับในขณะที่ย่อตัวรับแรง วอล์ม มีดาบยาวบนไหล่ของเขา แต่เขารู้สึกมันยังไม่พอเขาอยู่ในจุดที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนในการต่อสู้หรือการซ้อมจริง 
ท่าตั้งการ์ดของเขานั้นมีแขนอยู่เกือบเหนือหัว ท่าแบบนี้อาจบอกได้ว่าไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด

“อย่ามาหยามฉัน แกคิดว่าฉันจะพลาดอีกครั้งรึไง”

อัศวินก้าวเข้ามาในขณะผลักโล่อีกครั้ง แม้ว่ารูปแบบการต่อสู้ได้สถอนในระยะมอง แล้ววอล์มก็เห็นสิ่งที่เขาควรเห็นแล้วก็ขยับเข้าไป หลังจากถูกส่งไปยังสนามรบถึงแม้ทุกวันเขาจะเหวี่ยงดาบของเขามันก็รู้สึกไม่คุ้นเคยและคราวนี้เขาก็เตรียมเหวี่ยงมันในวิถีที่คุ้นเคยเช่นเดียวกับที่เหวี่ยงจอบในฐานะชาวนา

ดาบเปร่งแสงจางๆ และมานาก็ถูกส่งเข้าไปที่ดาบจากมือ
 

ถ้าการโจมตีนี้พลาดเป้าศัตรูจะสวนกลับแล้ววอล์มจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ความเสี่ยงดังกล่าวไม่ได้เขามาในหัวของวอล์ม ด้วยซ้ำ เขาแค่อยากจะทิ้งตัวเองไว้กับความรู้สึกนี้ บางที่นี่อาจเป็นครั้งแรกเขายิ้นจากก้นบึ้งของหัวใจในสนามรบ

การฟันที่เหวี่ยงมาได้เฉือนโล่และตัดจากไหล่จนถึงหน้าอก เวลาได้หยุดลงแล้วมันก็เหมือนกำลังไหลช้าๆ อัศวินได้ทิ้งฮาลเบิร์ดลงและพึมพำด้วยเสียงสั่นเครือ

“ท-ทักษะ 《จู่โจม》? ได้ยังไง ทำไมแมลงเล็ก  ๆ  อย่างแก สามา ร――”

อัศวินล้มลงไปกับพื้นแล้วเลือดก็ไหลออกมาไม่รู้จบ

“ไม่มีทางท่านแม่ทัพ!?”

“ท่านเฮอเมล ถูกจัดการแล้ว”

บางทีอัศวินที่วอล์มฆ๋าอาจเป็นอัศวินที่ควบคุมกำแพงโดยรอ ความกลหลของทหารโดยรอบนั้นผิดปกติ ราวกับขะทำให้แย่ขึ้นหลังจากที่หัวหน้าดูเวย ก็ได้ขึ้นมาบนเชิงเทินแล้วเขาก็สังหารศัตรู
ทุกครั้งที่หัวหน้าดูเวย เหวี่ยงดาบแขนขาของศัตรูก็จะถูกตัดออกจากกัน

“ฉันขึ้นมาได้แล้ว! อย่าได้ย้อมแพ้! ทำลายพวกมันให้หมด” 

แม้แต่หัวหน้าหน่วยๆอื่นก็ตอบกลับเขาจากที่อื่นของเชิงเทิน ผู้บัญชาหมวด โคโซรู ก็ยินดีอย่างยิ่งเมื่อโจมตีเมื่อเห็นดังนั้น  วอล์มก็ได้แต่สงสัยทำไมหัวหน้าดูเวยไม่สามารถเป็นหัวหน้าหมวดได้ 
แต่ตอนนี้การจัดการกับเชิงเทินนั้นสำคัญกว่า

“ระวังเลือดไหลด้วย เรายังอยู่ในช่วงสำคัญ”

“ช-ไช่แล้ว คุณวอล์ม”
 

สถานการณ์กำลังเอียงไปทางจักรวรรดิ แต่ก็ยังมีศัตรูจำนวนมากที่พยายามยึดกำแพงกลับคืนมา  
แล้ววอล์มก็เหวี่ยงดาบไปที่ศัตรูที่เขาพบก่อนที่ความรู้สึกจะหายไป ก่อนหน้าเขาสามารถแม้แต่จะตัดลำตัวที่ใส่เกราะของศัตรูในขณะที่ใช้ดาบ วอล์ม กำลังจะก้าวเข้าสู้ขอบเขตุความเหนือมนุษย์

วอล์ม ไม่ชอบการฆ่า แต่มันข่วยไม่ได้เขาต้องพยายามหาว่าเข้าได้รับพลังมาแค่ไหน ทั้งโล่หรือเกราะของศัตรูไม่สามารถต้านทางทักษะ 《จู่โจม》ได้ ดาบยาวธรรมดาได้กลายเป็นเหมือนกับขวานสงครามยักษ์ เขาได้สร้างทักษะ《จู่โจม》ของเขาอย่างสมบูรณ์

ศัตรูพยายามป้องกันบันไดและไม่ได้เปิดช่องแล้วก็มองเขาอย่างหวาดกลัวและพยายามเบนความสนใจของเขา ตามสายตาของวอล์มมีศัตรูมากกว่า10 คน เมื่อเขาตั้งท่าและพยายามก้าวไปเขาก็ได้ยืนเสียงที่เชื่อถือได้ดังมาจากด้านหลัง

“วอล์ม!! ดูเหมือนนายจะได้รับทักษะ《จู่โจม》แล้ว เยี่ยม ไปพักก่อน ฉันจะจัดการที่เหลือเอง”

มันคือหัวหน้าหน่วยดูเวย ซึ่งร่างถูกอาบไปด้วยเลือด วอล์ม ผ่อนคลายลงแม้แต่มือใหม่ก็เข้าใจความหมายของมันได้ หัวหน้าหน่วยของเขาเป็นคนแบบที่เขาไม่ต้องการเจอในสนามรบ 

เมื่อหัวหน้าดูเวย ตะโกนเสียงขุ่มขู่แล้วก็มีเสียงกรีดร้องของศัตรูที่ถูกจัดการโดยเขา ทหารสองคนหายตัวไปจากเชิงเทินในจังหวะนั้น มันเป็นพลังที่ไม่สามารถประเมินได้จากคนที่มีทักษะเดียวกันกับวอล์ม ทหารศัตรูที่หลับอยู่หลังโล่และพยายามจะหยุดการโจมตีก็ถูกเตะออกไปเมื่อเขาตกลงจากเชิงเทินลงสู้พื้นเลือดก็ไหลออกมาจากร่างของเขาเหมือนดอกไม้บาน

“อา!? อ อราคอออ――”

“อึ!! ทำไมคนแบบนี้ถึงมาที่นี่!!”

“อย่าได้กลัว อย่าไปกลัว”

บันไดเต็มไปด้วยศพ  เมื่อทหารที่มีใบหน้าซีดเซียวถูกโจมตีตัวของเขาก็แยกออกจากกันโดยหัวหน้าหน่วยดูเวย หัวของศัตรูก็แตกออกอย่างสยอง ทหารศัตรูที่เหลือที่เห็นมันก็หันหลังของพวกเขาและวิ่งหนี

“มันยังไม่จบ”

“เวรเอ้ย โอเกอร์ยังดีกว่านี้”

ทหารพันธมิตรกำลังโถมเข้ามาทันทีจากตรงกลางและกำแพงด้านซ้าย ไม่สามารถเห็นได้ว่าโมเมนตัมจะหยุดลงเมื่อไร เมื่อเห็นอย่างนั้น วอล์มก็คิดว่าการต่อสู้ได้ถูกตัดสินแล้ว

เสียงตะโกนที่เหมือนโจร อาคารที่สร้าขึ้นในเชิงเทินถูกควบคมุมโดยหัวหน้าหน่วยดูเวย การต่อจต้านมีเพียงเล็กน้อย ทหารที่เหลือกำลังขังตัวเองในป้องซ้ายขวาหรือาจจะกำลังวิ่งหนี

ประตูปราการถูกเปิดจากด้านใแล้วการตัดสินก็มาถึงเมื่อมีจำนวนทหารมากกว่าสองเท่า ทหารศัตรูบางคนไม่สามารถหลบหนีจากป้อมได้และถูกต้องจนมุมและแสดงท่าทางต่อต้าน แต่พวกเขาทั้งหมดก็ถูกฆ่าตายในเวลาน้อยนิด ป้องที่ถูกปิดล้อมก็ได้ยอมจำนนในไม่นาน

การต่อสู้ที่เริ่มขึ้นในตอนเช้าก็ได้สิ้นสุดลงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ถึงอย่างนั้นมันเป็นเพียงด้านหน้าชายแดน งานของวอล์มยังคงไม่จบ ทหารม้าที่เซฟกำลังไว้ได้วิ่งออกจากป้อมเพื่อไล่ล่าทหารที่พยายามหนี ทหารศัตรูหลายคนถูกสังสารจากการไล่ล่า

*****
จบไปแล้วกับตอนที่6ยาวมากกกกกกก เป็นตอนที่ตัวเอกเราได้รับพลังใหม่แล้วก็เปิดตัวรุ่นน้องทั้งสองคนโดยเฉพาะคนหญิงในปกนี่อย่างแน่น แฮร่ๆ แล้วก็มีภาพมาฝากด้วย
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+