สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 8

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 8 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทหารไมยาร์ดที่ล้มเหลวในการป้องกันชายแดนได้มารวมกันที่เมืองหลวงไอเดนเบิร์ก กลยุทธ์โลกไหม้เกรียมที่คิดไว้ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ และในทางกลับกันจักรวรรดิก็ยังมีเสบียงเหมือนเดิม

ปัญหาคือกองพันซาร์เรียที่ประกอบไปด้วยอดีตพลเมืองของคาโนอา แม้ว่าพวกเขาจะมีส่วนร่วมอย่างมา่กในการยึดปราการบนเขา แต่การปล้นวะดมและคุกคามก็กระจายไปทั่วหลังจากการต่อสู้โดยไม่สนว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นพลเมืองหรือทหาร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชาติผู้ทรยศในอีกมุมมอง แต่สิ่งที่พวกเขาก็มากเกินไปจนถึงกับต้องส่งคนคอยจับตาดูกองพัน

กองพันซาร์เรียพวกเขาได้รับหมอบหมายให้ถือแส้และมีประโยชน์ในการยึดของหมู่บ้านหรือเมืองต่างๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาของการปกคลองหลังการผนวกดินแดนกับจักรวรรดิ จักรวรรดิไม่ต้องการเป็นคนร้ายในขณะที่รุกราน ดังนั้นกองพันซาร์เรียจึงถูกใช้เพื่อเป็นเป้าของความแค้น

หลังจากการปิดล้อม วอล์ม กำลังค้นหาอยู๋ในป่าระหว่างทาง นี่เป็นเพราะรายงานเกี่ยวกับกองโจรที่ประกอบไปด้วยทหารที่หลบหนี้การปิดล้อมมาได้ แม้ว่าพวกเขาดูเหมือนจะไม่มีการวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสม แต่การโจมตีซึ่งดูเหมือนจะมุ้งเป้าไปที่เสบียงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจตได้ว่าพวกเขาจะต้องรวบรวมข้อมูลและอาหารจากหมู่บ้านโดยรอบแบบลับๆ ประมาณหมวดทหารถูกฆ่าและคนที่สู้ไม่ได้ในคาราวานที่รับผิดชอบการขนส่งก็ถูกฆ่าตายเช่นกัน

“มันจะต้องมีนักเวทย์”

“ใช่ มันเป็นคุณสมบัติของธาตุลม และคุณสมบัติของธาตุไฟ”

หัวหน้าหน่วยและโจเซ่กำลังตรวจสอบศพที่เรียงรายอยู่โดยระบุคุณสมบัติเวทมนตร์จากร่องรอยบนศพ

“… มีนักเวทย์สองคนขึ้นไป”

วิลลาร์ท นักเวทย์ที่มองจากที่ห่างออกไปหน่อยได้พูดเสริม

บาดแผลที่สลักบนร่างกายเกินจากการลอบโจมตีด้วยเวทมนตร์ลมและรอยระเบิดเกิดจากเวทมนตร์ไฟ วอล์ม ยังคิดถึงความเป็นไปได้ของการมีคนที่สามารถเวทมนตร์ได้สองคุณสมบัติ แต่เมื่อดูจากปริมาณเวทมนตร์ที่ถูกใช้ในเวลาสั้นๆ มันเป็นเรื่องธรรมดที่จะมีหลายคน

 

“เอ่อ นี่ก็จากเวทมนตร์ด้วยยเหรอคะ”

“นี่มันอะไรกัน? ใบหน้าถูกบดขยี้”

ทหารใหม่ นัวร์ และ บาริโต้ กำลังเบือนหน้าของพวกเขามองไปที่ศพอื่นๆ ในบรรดาศพที่มีบาดแผลถูกแทงหรือถูกฟันที่ส่วนสำคัญมีบางศพที่มีใบหน้าถูกบดขยี้และบางศพหัวก็หายไป มันเหมือนพวกเขาถูกกระแทกด้วยอะไรบางอย่าง

“มันไม่ได้มาจากฮาลเบิร์ด และมันก็กว้างเกินไปสำหรับค้อนสงคราม”

“มันเกินจากโล่น่ะ”

คำตอบมาจากหัวหน้าหน่วยดูเวยที่คุ้นเคยกับศพในสนามรบมาหลายปี

“โล่? จริงๆเหรอ…”

เมื่อพบว่ามันยากที่ขจะเชื่อนัวก็พึมพำออกมา

วอล์มเห็นด้วย เขาคิดว่ามันสงพลังเกินไปที่จะมาจากโล่ เขาไม่รู้ว่าถ้าชาบร่างใหญ่เหวี่ยงโล่ไปรอบๆจะเกิดอะไรขึ้น

“บางทีเขาอาจมีทักษะ?”

โจเซ่ที่กำลังคิดอยู่ก็ได้ถามห้วหน้าดูเวย

ใช่ บางที  ฉันเคยเห็นศพที่คลายกันมาก่อน ในเวลานั้นฉันเห็นหัวของคนๆหนึ่งได้หายไปจากการทุบด้วยโล่ เหมือกับทักษะ《จู่โจม》 มันมีผู้ใช้มากมายเช่นฉันแน่ใจว่ามันเป็น《กำแพงเหล็ก》แม้แต่โล่ไม้ก็จะเป็นเหมือนกับเหล็ก”

ตอนนี้วอล์มสามารถใช้ทักษะ《จู่โจม》ได้แล้วก็เขาใจว่าทักษะนั้นทรงพลังแค่ไหน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใส่เกราะเหล็ก แต่ก็สามารถฟันขาดได้ในครั้งเดียวเมื่อใช้ทักษะ ข้อดีของมันอาจพูดได้ว่านับไม่ถ้วย

“อ่าาา แม้พวกมันจะเป็นแค่ทหารแตกทัพแต่มันก็เป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจะจัดการ”

โจเซ่พึมพำอย่างรังเกียจ

“คู่ต่อสู้ในครั้งนี้ได้รวมเข้ากับนักผจญภัยจำนวนหนึ่ง พวกเชลยบอกอย่างนั้น ถึงแม้จะพวกแตกทัพ
 แต่ก็เป็นพวกที่แตกต่าง จงระวังไว้ พวกนักผจญภัยที่มีประสบการณ์นั้นเก่งกว่าทหารทั่วไปในสนามรบ พวกเขาจะมีเกราะและมีความสามาร”

“นายจะได้รับของบางอย่างดีๆถ้านายจัดการพวกมันได้”

บาริโต้หัวเราะ แต่สีหน้าของเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น มันชัดมากสำหรับวอล์ม เขาพยายามทำให้ตัวเองดูเข้มแข็ง

“โอ้ย โอ้ย บาริโต้ ศัตรูของเป็นคนที่มีทักษะและผู้ใช้เวทมนตร์นะรู้ไหม? ลองนึกภาพต่อสู้กับหัวหน้าดูเวยหรือวอล์มและวิลลาร์ทในเวลาเดียวกันสิ นายคิดว่าจะจัดการได้ไหม”

“ไม่มีทางทำได้เลยแม้จะมีฉันสัก 20 คนก็ตาม”

“ดีแล้วที่เข้าใจ”

เมื่อเห็นบาริโต้ยอมรับความผิดพลาดโจเซ่ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ เป็นเรื่องที่ดีที่โจเซ่ให้ความรู้อย่างถูกต้อง แต่สำหรับวอล์ม ก็ยังตกใจที่แม้แต่เขาก็ถูกนับเป็นพวกมีใช่มนุษย์

“แล้วนั่น “ตรงนั้น” คืออะไร คะ..”

นัวชี้ไปที่ร่างของชายคนหนึ่งที่แขวนอยู่บนต้นไม้อย่างน่ากลัวว ร่างกายทั้งหมดถูกแทงและนอกจากส่วนหัวแล้วก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นศพคน

“อืม? หื่ม ตรงนั้นคือชาวบ้านที่ขายข้อมูลของเราและจัดหาอาหารให้กับทหารที่แตกทัพน่ะ”

โจเซ่พูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่่องปกติ

วอล์ม จำตัวเองได้เมื่อเขายังเป็นทหารใหม่และถามคำถามเดียวกัน

“เอ๊ะ…เป็นอย่างนั้นเองเหรอคะ? เขาใจแล้วค่ะ…”

ในใจนัวร์คงอย่างจะพูดว่า “ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ?” มันเป็นสิ่งที่ทำให้หดหู่มาก แต่เธอก็เข้าใจว่าในสงครามบางครั้งมันก็จำเป็น

ทหาร30นายและประชาชน6คน(แรงงานและพ่อค้า)จะไม่ตายหากชาวบ้านไม่ได้ให้ข้อมูลและอาหาร การต่อต้านของผู้คนที่ฐานทัพนั้นส่่งความเสียต่อกองกำลังทุกยุกทุกสมัย และทหารก็ต้องเลือกว่าจะถูกทำลายล้างหรือจะจัดการแค่จำนวนหนึ่งต่อหน้าเพื่อเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้านครอื่นๆ
มันจะแตกต่างกันไปเป็นครั้งคราว คราวนี้ทหารไฮเซิร์ค เลือกที่จะเชือดไก่ให้ลิงดู

“เตรียมตัวให้พร้อม ใกล้ได้เวลาแล้ว”

ด้วยการเรียกจากหัวหน้าดูเวย สมาชิกหน่วยก็ได้ก้าวเข้าสู้ส่วนลึกของป่า เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะค้นหาโดยคนจำนวนน้อย กองร้อย จึงถูกส่งไปพร้อมกันและหน่วยกำลังค้นหาทุกๆที่ๆตามแนว20เมตร แม้ว่าศัตรูจะมีความชำนาญ แต่ก็อาจจบลงในไม่ช้า วอล์ม มองในแง่ดีและก้าวเข้าไปในป่าเหมือนทหารคนอื่นๆ

ในวันที่สองของการค้นหาหน่วยหนึ่งได้ถูกซุ่มโจมตีและมีผู้เสียชีวิต12 นาย และทหาร 7 นายได้รับบาดเจ็บจากกับดักและธนูระหว่างการค้นหา และมี4นายสูญหาย โชคดีที่หน่วยดูเวยไม่ได้รับความเสียหายใดๆ แต่ทั้งกองร้อยกำลังโกรธบวกกับป่าที่เดินยาก ความเกลียดชังต่อศัตรูที่มองไม่เห็นกำลังเพิ่มขึ้นภายในพวกเขา การค้าหายืดเยื้อแล้วหน่วยก็มารวมตัวกันใต้ต้นใหญ่เพื่อหยุดพักสั้นๆ

“แย่ชะมัน”

คนที่พูดคือโจเซ่

“เป็นเรื่องจริงที่เราทั้งกองร้อยออกค้นหา แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย”

ทหาร 250 นายออกค้นหามาเป็นเวลาสามวันแล้วและยังไม่พบอะไรเลย เวลาที่จะเคลื้อนพลไปยังเมืองหลวงซึ่งจะเป็นการต่อสู้ตัดสินก็ใกล้เข้ามา แต่ภัยคุกคามต่อเส้นทางการขนส่งก็ไม่สามารถถูกทิ้งไว้โดยไม่จัดการได้เช่นกัน

“แม้พวกมันจะเป็นคนท้องที่ แต่พวกมันก็เก่งเกินไปในการปกปิดร่องรอยของพวกมัน เหมือนพวกมันจะคุ้ยเคยกับป่าจริงๆ”

หัวหน้าดูเวย กำลังมองไปบนพื้นอย่างระมัดระวัง แล้วก็หันมองไปทางอื่น

“มันมีคนสอดแนมที่เก่งขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” TN:scout ใครคิดคำใหม่ได้บอกด้วย

นัวร์ที่ยืนอยู่ข้างวอล์มถามออกมา

“แม้ว่าจะเป็นนักสอดแนมที่มีฝีมือ แต่ก็ไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยคนเดียวได้ น่าจะมีคนที่มีฝือมากกว่าสองคนที่คอยจับตาดูขณะเข้าใกล้กองกำลังหลัก”

วอล์ม ไม่คิดว่าพวกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นทหารแตกทัพถ้าเป็นพวกนั้นพวกนั้นจะไม่กล้ารบแบบกองโจร

“แทนที่จะเป็นทหารสอดแนม มันน่าจะเป็นนักผจญภัยของไมยาร์ดมากกว่า”

หัวหน้าหน่วยดูเวย ได้ข้อสรุปในการตอบคำถามของทุกคน

“…นักผจญภัย”

บาริโต้พูดออกมา

“เมื่อพูดถึงนักผจญภัยแล้วพวกเขาทำงานอยู่ในดินแดนปีศาจที่ครอบคลุมครึ่งหนึ่งของทวีป ปราบปรามและจัดการมอนสเตอร์ สำรวจดินเจี้ยนและซากปรักหักพังหรือคุ้มกันการขนส่ง โดยทั้วไปมันเป็นคำทั่วไปสำหรับพวกคนที่ทำหลายๆอย่าง กิลด์ที่จัดระเบียบนักผจญภัยได้ระบุว่าได้มีการจัดตั้งในทุกประเทศในทวีปและองค์กรจะไม่เข้าไปแทรกเซงสงคราม”

ในความเป็นจริงนั้น ในนามของเจตนาส่วนบุคคล นักผจญภัยในท้องถิ่นมักถูกว่าจ้างให้เป็นทหารรับจ้าง เกราะที่ทำจากสมบัติหรือวัสดุจากมอนสเตอร์หายากที่สามารถที่สวมใส่ได้รับพลังมหาศาล
 แค่มีสิ่งนั้นคนเดียวก็สามารถเปลี่ยนสถานการณ์การรบได้ นักผจญภัยที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้สามารถพบได้
ด้านนอกนั่น TN:ตรงสมบัติมันคือrelics นึกคำไม่ออกอีกเช่นเคย

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่ากองกำลังนักผจญภัยได้เข้าร่วนในความขัดแย้งด้วย นั้นถือว่าเป็นอัตรายต่อการคงอยู่ของกิลด์

จักรวรรดิไฮเซิร์ค ที่เป็นบ้านเกิดของ วอล์ม ที่เน้นไปที่การเสริมแกร่งอาวุธยุทโธปกรณ์และได้ทหารเกณฑ์มาแทนที่นักผจญภัย จึ่งมีโอกาศน้อยที่นักผจญภัยจะมมามีบทบาทอย่างแข็งขัน แต่พวกเขาก็ปรากฏตัวในประเทศอื่นๆ

“เป็นเรื่องจริงที่นักผจญภัยนั้นคุ้นเคยกับการระมัดระวังและการค้าหามากกว่าทหาร”

โจเซ่ที่เกิดมาเป็นลูกชายคนที่สามของพ่อค้าเล็กๆ เขาที่เคยจ้างนักผจญภัยพยักหน้าอย่างมั่นใจ

ในขณะที่กำลังหยุดพักอยู่ วอล์ม กำลังพูดถึงตัวตนของศัตรู แต่สมาชิคหน่วยก็กำลังยุ่งอยู่กับการกินและการสูบบุหรี่ วอล์มก็เลยสูบบุหรี่ที่ซื้อจากโจเซ่ แล้วก็ค่อยๆหายใจพ่นควันออกมาควันก็ลอยไปบนฟ้าแล้วก็กระจายไป ขณะที่สูบบุหรี่เขาก็ถามคำถามหนึ่งที่เพิ่งคิดได้ออกมา

“พวกมันจะสักเกตกลิ่นบุหรีไหม”

“นายโง่รึไง กลิ่นตัวเราเหม็กยิ่งกว่าบุหรี่อีก ถ้ามีหมาป่าอยู่ฉันแน่ใจว่ามันจะได้กลิ่นและเข้ามาหา”

โจเซ่ปฏิเสธคำถามแล้วหัวเราะแล้วเขาก็สูบบุหรี่ต่อ

“จะใช้ผมใส่น้ำหอมด้วยไหมละ”

บาริโต้พูดอะไรบางอย่างที่ยากจะบอกได้ว่าจริงจังหรือไม่

“เป็นความคิดที่ดี ฉันควรจะใส่กระโปรงด้วยดีไหม”

หัวหน้าดูเวยหัวเราะกับเรื่องตลกนั่น วอล์มยังคลายปากของเขาและยิ้มเล็กน้อบ เหลิอเวลาอีกไม่มาที่จะเพลิดเพลินไปกับเรื่องตลกโง่ๆ ในอีก5นาทีวอล์มจะต้องออกค้นหาศัตรูที่ซ่อนอยู่ต่อ และดูเหมือนจะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด

ฉันควรจะเตรียมพร้อมสำหรับบางสิ่งตอนนี้รึเปล่านะ?

เมื่อวอล์มคิดคร่าวๆที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการค้าหา และกำลังจะออกค้นหาต่อเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องและยังดำเนินต่อไปก็มีการระเบิดหลายครั้งเกิดขึ้น เมื่อทหารที่พักอยู่บนพื้นได้ยินก็กระโดดขึ้นและเตรียมอาวุธออกมาพร้อมกัน

“3 ไม่ 400 เมตรห่างออกไป พวกเขากำลังปะทะระหว่างค้นหา”

ทุกคนเห็นด้วยกับคำพูดของโจเซ่

“เราจะเข้าหาผ่านด้านขวา แล้วจะปิดล้อมพวกมัน อย่าให้ศัตรูพลาดไป เคลื่่อนพล!”

หัวหน้าหน่วยดูเวย กระโดดออกแล้วตะโกนคนโง่ทั้งสามก็เริ่มเคลื่อนไหวตามหลังเขา ตามด้วย
ทหารใหม่นัวร์และบาริโต้

วอล์ม วิ่งผ่านกิ่งไม้ที่บังเขาแล้วก้าวต่อไป ป่าที่ไม่มีการจัดระเบียบนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคทางธรรมชาติ เพราะมันข่วนไปทั่วและติดอยู่กับตัว และกิ่นหญ้าก็แย่มาก

การต่อสู้ยังไม่จบ และศัตรูที่ได้ลิ้มรสความสำเร็จในการโจมตีครั้งล่าสุดดูเหมือนจะประเมินทหารของไฮเซิร์คไว้ต่ำเกินไป บางทีพวกมันหัวกระหายที่จะทำลายล้างศัตรู  
นอกจากหน่วยของดูเวยแล้วก็มีอีก2หน่วยเข้ามาช่วยและกันศัตรูไม่ให้หนี

“เวรเอ้ย กำลังเสริม”

ทหารศัตรูคนหนึ่งตะโกนออกมา

วอล์ม เหวี่ยงฮาลเบิร์ดที่ได้จากอัศวินที่เขาจัดการได้เมื่อวันก่อน ทัรเป็นอาวุธที่แข็งแรงและเหมาะสมในการใช้ทักษะ《จู่โจม》ที่เขาได้รับมาเมื่อวันก่อน  
ทหารศัตรูได้แทงหอกเข้าหาวอล์มอย่างแรงเท่าที่มันจะทำได้  เมื่อมันถูกผลักกลับมันก็ถูกบดขยี้เล็กน้อย

จากนั้นทหารศัตรูก็พยายามจะดึงดาบสั้นออกมาหลังจากทิ้งหอกที่หักไป  แต่เข้าไปก้าวหนึ่ง
ก่อนที่จะได้ดึงดาบออกมาหัวของเขาก็ลอยไปในอากาศ

เมื่อวอล์มข้างห้นาและดึงมือกลับแล้วบิดตัวเพื่อฟันศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ

ในขณะที่ศัตรูอยู่ด้านหลังหนึ่งก้าวและไม่สามารถหลับการโจมตี การฟันจากด้านข้างทะลุผ่านอกและตัวลำตัวออกเป็นสองส่วน นอกจากนี้การฟันในแนวนอนของวอล์ม ยังโจมตีษศัตรูที่เหลือและได้รับบาดเจ็บหรือตายในหมู่ศัตรู 10คน  และก็มีกลุ่มคนที่แต่งตัวต่างจากทหารปกติผสมอยู่ในพวกทหาร

“พวกมันอยู่นั่น พวกนักผจญภัยที่เป็นผู้นำของพวกมัน”

โจเซ่ที่เห็นพวกคนเหล่าได้ตะโกนบอกตัวตนของพวกเขา จำนวนคือ5คนเรียกได้ว่า “ปาร์ตี”

วอล์มมุ่งหน้าไปยังกลุ่มนั้นในขณะที่จัดการกับศัตรูที่สับสนไปด้วย  แต่ก็ได้มีใบมีดลมเข้ามาหาเขา
ถ้าเป็นปกติเขาจะเลือกที่จะหลับหรือป้องกันด้วยโล่ แต่ตอนนี้วอล์นก็ฟันฮาลเบิร์ดไป

ได้เปิดใช้ทักษะ《จู่โจม》ในขณะที่ฟันใส่เวทมนตร์ จากนั้นลมก็กระจายไป เมื่อวอล์มหันไปมองก็เห็นนักผจญภัยที่ใช้เวทมนตร์  ผู้หญิงคนหนึ่งที่พูดได้ไม่เต็มปากว่าเธอเป็นผู้หญิง
TN:ไมว่างั้น

สูงประมาณอกของวอล์ม ผมสีน้ำตาลยาวถึงไหล่ ติดอาวุธด้วยดิบสั้นและโล่เหมือนทหารทั่วไป แล้วทหารไมยาร์ดสามคนก็ได้มายืนอยู่ต่ออหน้า วอล์มขณะที่เขากำลังจะไปจัดการกับ
ผู้ใช้เวทมนตร์ที่น่ารำคาญ  ทหารเศ้าคนได้ก้าวเข้ามาใใกล้และแทงหอกพร้อมกัน

วอล์มหลับไปทางขวาเล็กน้อยแล้วปิดด้านหนึ่งของศัตรู เขาก้าวเข้าไปใกล้ศัตรในที่กันหอกที่แทงมาที่หน้าเขาด้วยฮาลเบิร์ด แล้วในขณะนั้นศัตรูพยายามกันคอด้วยมือที่สวมเกราะ แต่วอล์มก็ใช้
《จู่โจม》แล้วฟันผ่านไป กระดูกถูกตัดแล้วเลือดก็ไหลออกมาผ่านเกราะ

“ไอ้เลวเอ้ยยย!!”

 

ศัตรูคนหนึ่งล้มลงแล้วศัตรูก็ได้ลดลงหนึ่่งนาย แต่ทหารอีกคนได้โยนหอกทิ้งแล้วดึงดาบออกมาและโจมตีวอล์ม มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ดี แต่การฟันแนวอนอนนั้นวอล์มหลบได้

จากนั้นวอล์มก็เหวี่ยงฮาลเบิร์ดจากทางซ้างในแนวทแยง แต่มันถูกบล็อคก่อนที่จะออกแรง จากนั้นเขาก็ดึงดาบยาวด้วยแรงทั้งหมดในขณะกระโดดกลับ จากนั้นก็ผลักฮาลเบิร์ดให้แรงที่สุดที่สามารถ ทหารศัตรูเสียการทรงตัว แต่อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นที่จะหลบการโจมตีของวอล์มได้
แล้วฮาลเบิร์ดก็ได้ฟันเข้าที่เข่าของทหารและก็ตัดมันออก

“อ๊าคคคคค”  TN:เสียงร้องอะ

ทหารโต้กลับอย่างหนักด้วยขาเพียงข้างเดียว แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถยืนได้อย่างถูกต้อง วอล์มก็ตัดขอเขาด้วยดาบ

พวกที่เหลือลังเลที่จะโจมตีมา แต่วอล์มไม่ลังเลแล้วจับฮาลเบิร์ดด้วยมือทั้งสองแล้วฟัน

“ไม่  อย่า รอก่อน- ช่วยฉันด้วย”

ไม่จำเป็นต้องฟันอีกครั้ง เพราะการฟันครั้งแรงก็ทำให้หน้าท้องขาดเป็นเส้นตรงและอวัยวะภายในก็ไหลออกมา  เลือดไหลออกมาอย่างมากจนพื้นรอบๆและเขาถูกย้อมด้วยสีแดง

“ยอมแพ้ซะเถอะ มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก”

ถ้าเพียงแต่เขาหนีต่อไปหรือยอมจำนนก่อนที่จะเป็นแบบนี้ละก็

 

ความคิดได้แวบขึ้นมาที่วอล์ม

ทหารคนนี้ … เขาผูกพันกับประเทศ เพื่อน ครอบครัว ทุกอย่างในแผนดินนี้ 
เขาอาจอย่างหนีแต่ก็ทำไม่ได้

ขณะปลดทุกทหารคนนั้น วอล์มก็กำลังคิดแบบนั้น ถ้าคนอื่นรู้คงจะต้องหัวเราะแน่

เมื่อเขาพยายามจะฟันเป้าหมยต่อไป เขาก็โดนว่าด้วยคำบางคำ จากศัตรู คราวนี้มันไม่ใช่คำเยาะเย้ยหรือคำด่าที่คุ้นเคย แต่มันเป็นคำถามสำหรับ วอล์ม

“ทำไม!ทำไม!ทำไม ถึงฆ่าคนได้ง่ายๆขนาดนั้น!?”

วอล์ม ถูกถามว่าทำไมเขาถึงฆ่าคนอื่นในสนามรบ คำถามนั้นถ้าจะพูดก็ยาว และคำตอบก็ต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทำไมถึงถามวอล์มแบบนั้น? อย่างไรก็ตามสำหรับวอล์ม ศัตรูจะขอความเมตตา แต่เขาจะทำเมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้แต่วอล์มก็ทำอะไรกับมันไม่ได้

“มันคือสนามรบ มาแปลกใจอะไร? แกก็ฆ่าคนอื่นเหมือนกันนิ..ช่างเถอะเป็นการสนทนาที่ไร้สาระจริงๆ”

ศพของทหารไฮเซิร์คนอนอยู่ที่เท้าของผู้หญิงคนนั้น แม้ว่าพวกนั้นจะแค่ผ่านกันบางครั้งระหว่างเดินขบวน แต่นั่นก็เป็นเพื่อนร่วมชาติของวอล์ม หญิงสาวอาจเห็นแล้วว่าการสนทนานั้นไร้ประโยชน์จากนั้นเธอก็เริ่มร่ายเวทมตร์ใส่ วอล์มอีกครั้ง มันเป็นเวทมนตร์ที่วอล์มเห็นเมื่อครั้งก่อน นอกจากนี้วิถีก็เหมือนกัน วอล์มตั้งท่าก้มต่ำแล้วเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงแล้วพุ่งเข้าไป เขายังคงพุ่งไปหาหญิงสาวที่ลืมตาขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“ลิเธีย!!!”

นักผจญภัยเก่าที่มีโล่ตะโกนขึ้น  แต่ฮาลเบิร์ดก็ถูงเหวี่ยงไปด้านข้างตรงไปที่คอของเธอ  เธอตอบสนองในทันราวกับช่องว่างที่แสดงให้เห็นก่อนหน้านี้เป็นเรื่องโกหก เธอยกโล่ขึ้นมาในแนวแทยงมุมในขณะที่งอศอกซ้ายแล้วใช้มือขวาช่วยพยุงโล่ในขณะที่มือยังถือดาบอยู่
 

บอกตามตรงวอล์ม ประเมินเธอไว้ต่ำเกินไป บอกได้ว่าตอนนี้เป็นการตอบสนองในอุดมคติเลย 
เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็รู้ได้ว่าเธอมีความรู้และประสบการณ์ อย่างไรก็ตามบทสนทนาก่อนหน้านี้ที่เธอพูดมานั้นฟังดูงี่เง่าสำหรับวอล์ม ดังนั้นเขาจึงรู้สึกแปลกใจ แต่เขาก็เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังนั้น

มันเป็นสิ่งที่โง่เง่าที่จะมีในสนามรบ แต่ในทางหนึ่งก็น่าอิจฉาสำหรับวอล์ม จากสังเขปเธอไม่คุ้นชินกับการฆ่าคน หากเป็นอย่างนั้นมันก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการพูดคุย ในความเป็นจริงวอล์มต้องการเลือกทางนั้น แต่ตอนนี้เขาอยู่ในสงครามระหว่างประเทศ การต่อสู้ยังดำเนินต่อไปและศัตรูก็ไม่ได้ยอมจำนน

โดยไม่คลายมือที่ถือฮาลเบิร์ด วอล์มเปิดใช้งาน《จู่โจม》 ใบมีดที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงจางๆ ได้ลึกลงไปในโล่และทะลุผ่านไป

“อ๊าาาาาาาา” sfx เสียงกรีดร้อง

โล่ที่ถูกตัดตกลงไปที่พื้น แต่ดูเหมือนเธอจะมีเกราะป้องกันมืออยู่ใต้โล่และแขนทำให้มันไม่ถูกตัดออก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถหนีจากผลกระทบได้อย่างสมบูรณ์และตอนนี้ทุกครั้งที่เธอขยับแขนซ้ายของเธอก็จะแสดงอาการเจ็บปวดออกมา แต่เธอก็ยังคงถือดาบสั้นด้วยมืออีกข้าง
 

“มันพังแล้ว”

เมื่อวอล์ม พูดแบบนั้น เธอก็ขมวดคิ้วและดูเหมือนจะสับสนอย่างมาก

ดูเหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอได้รับการโจมตีด้วยทักษะ  แล้วเธอก็ถอยออกห่างจากวอล์ม ราวกับกำลังกลัว แต่มันเป็นการเคลื่อนไหวท่ไม่ดีในป่าที่มีพื้นไม่ดี  เธอก้าวถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่าง 
แต่ก็ไปเหยีบ “ทหาร” ที่อยู่บนพื้นแล้วเธอก็เสียการทรงตัวแล้วล้มลง

“อย่างน้อยก็จงจดจำเหล่าคนที่เธอฆ่า”

เมื่อวอล์มได้ยิ้มออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอก็ลืมตาขึ้นและร้องออกมาราวกับเห็นปีศาจ

“อ้าาาาาา..”  sfxเสียงร้อง

วอล์ม กระโดดเข้ามาแล้วใช้ฮาลเบิร์ดของเขาเพื่อสะบัดดาบบนมือของเธอออกไป  เมื่อวอล์มกระแทกไหล่ของเธอด้วยร่างกาย เธอก็ใจออกแล้วล้มลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ฟันฮาลเบิร์ดไปที่ลำคอของเธอที่ล้มลง เขาคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้หญิงมันคงจะดีกว่าที่จะบดขยี้หัวหรือใบหน้าของเธอ

แต่มีบางอย่างแวบเข้ามาในขอบการมองเห็นของเขา ในขณะนั้นหัวใจของวอล์มก็เต้นแรง เขาระวังรอบๆแล้วแต่นี่มันเร็วเกินไป

“เอ่อ――!?”

วอล์ม กระโดนกลับไปในขณะที่เอียงหัว แต่ผมและแก้มของเขากูถูกบาดเล็กน้อย

เงายังคงใกล้เข้ามา วอล์มเหวี่ยงฮาลเบิร์ดของเขาและคู่ต่อสู้ของเขาก็ได้รับการโจมตี ชายคนนี้เป็นหนึ่งในปาร์ตี้นกผจญภัย

อาวุธได้ชนกันอยู่พักหนึ่ง

เมื่อทั้งคู้ก้าวถอยหลัง วอล์มก็เล็งฮาลเบิร์ดของเขาไปที่ข้อมือ แต่มันก็ถูกบล็อคโดยที่กันมือของดาบ TN:brimน่ะใครรู้บอกได้เรียกอะไรดี

“นายโอเคเหรอ กับฉันน่ะ” TN Are you okay with me? น่ะ

ชายหนุ่มโกรธจัดเมื่อวอล์มจงใจถาม

“หุบปากของแกซะไอ้ผู้รุกราน”

เป็นชาหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าตาดีมีผมสีฟ้ายาวถึงไหล่และดวงตาสีเดียวกับผมของเขาแล้มมันก็หล่อพอที่จะเป็นไอดอลในโลกก่อนของวอล เขามีดาบสองมือที่เปื้อนเลือดและสวมอุปกรณ์ที่ดีพอ 
ดูเหมือนทหารไฮเซิร์ครอบๆจะถูกเขาฟัน

ไม่ต้องสงสัยเลยเขาเป็นหัวหน้าของนักผจญภัย วอล์มคิดว่าเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมะกับหัวหน้าดูเวย
แต่หัวหน้าดูเวยตอนนี้กำลังจัดการกับนักผจญภัยที่ถือโล่ขนาดใหญ่อยู่

 

บางทีนักผจญภัยคนนั้นที่ใช้โล่อาจเป็นที่มีทักษะ และดูเหมือนว่าทักษะ《จู่โจม》กับ
《กำแพงเหล็ก》ได้ปะทะกัน ทหารที่อยู่รอบๆได้แต่ดูเท่านั้น

ฉันควรขอความช้วยเหลือจากพวกเขาดีไหม?

วอล์มกำลังคิดว่าจะขอความช่วยเหลือจากทหารรอบข้าง แต่เขาก็ตัดสินใจว่าไม่

ฮะ น่ารำคาญชะมัด

วอล์ม คิดอย่างนั้นเพราะเขาต้องรับมือกับนักผจญภัยคนนี้ไม่ว่าจะยังไง

****
 จบไปแล้วกับตอนที8 ปกติเวลาผมแปลผมจะมีปัญหาในการเกลาคำหรือสื่อความหมายหรืออาจแปลผิดไปเลยและก็ชอบพิมพ์แบบคิดว่าตัวเองพิมพ์ไปแล้วเลยพิมพ์ตกหรือสะกดผิด ก็ชอให้คนอ่านช่วยๆกันดูด้วนะครับเพราะแปลนานแปลเสร็จแล้วผมไม่ได้เช็ค แต่ก็จะพยายามปรับปรุงครับ แล้วก็จะมาบอกเรื่องการลงตอน โดยจะลงวันจันทร์-วันศุกร์ ส่วนเสาร์อาทิตย์อาจพัก 

แต่ก็ไม่รู้ตอนนี้มาไง แฮร่
 มีภาพลิเทียมาฝากด้วย
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 8

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 8 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทหารไมยาร์ดที่ล้มเหลวในการป้องกันชายแดนได้มารวมกันที่เมืองหลวงไอเดนเบิร์ก กลยุทธ์โลกไหม้เกรียมที่คิดไว้ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ และในทางกลับกันจักรวรรดิก็ยังมีเสบียงเหมือนเดิม

ปัญหาคือกองพันซาร์เรียที่ประกอบไปด้วยอดีตพลเมืองของคาโนอา แม้ว่าพวกเขาจะมีส่วนร่วมอย่างมา่กในการยึดปราการบนเขา แต่การปล้นวะดมและคุกคามก็กระจายไปทั่วหลังจากการต่อสู้โดยไม่สนว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นพลเมืองหรือทหาร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชาติผู้ทรยศในอีกมุมมอง แต่สิ่งที่พวกเขาก็มากเกินไปจนถึงกับต้องส่งคนคอยจับตาดูกองพัน

กองพันซาร์เรียพวกเขาได้รับหมอบหมายให้ถือแส้และมีประโยชน์ในการยึดของหมู่บ้านหรือเมืองต่างๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาของการปกคลองหลังการผนวกดินแดนกับจักรวรรดิ จักรวรรดิไม่ต้องการเป็นคนร้ายในขณะที่รุกราน ดังนั้นกองพันซาร์เรียจึงถูกใช้เพื่อเป็นเป้าของความแค้น

หลังจากการปิดล้อม วอล์ม กำลังค้นหาอยู๋ในป่าระหว่างทาง นี่เป็นเพราะรายงานเกี่ยวกับกองโจรที่ประกอบไปด้วยทหารที่หลบหนี้การปิดล้อมมาได้ แม้ว่าพวกเขาดูเหมือนจะไม่มีการวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสม แต่การโจมตีซึ่งดูเหมือนจะมุ้งเป้าไปที่เสบียงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจตได้ว่าพวกเขาจะต้องรวบรวมข้อมูลและอาหารจากหมู่บ้านโดยรอบแบบลับๆ ประมาณหมวดทหารถูกฆ่าและคนที่สู้ไม่ได้ในคาราวานที่รับผิดชอบการขนส่งก็ถูกฆ่าตายเช่นกัน

“มันจะต้องมีนักเวทย์”

“ใช่ มันเป็นคุณสมบัติของธาตุลม และคุณสมบัติของธาตุไฟ”

หัวหน้าหน่วยและโจเซ่กำลังตรวจสอบศพที่เรียงรายอยู่โดยระบุคุณสมบัติเวทมนตร์จากร่องรอยบนศพ

“… มีนักเวทย์สองคนขึ้นไป”

วิลลาร์ท นักเวทย์ที่มองจากที่ห่างออกไปหน่อยได้พูดเสริม

บาดแผลที่สลักบนร่างกายเกินจากการลอบโจมตีด้วยเวทมนตร์ลมและรอยระเบิดเกิดจากเวทมนตร์ไฟ วอล์ม ยังคิดถึงความเป็นไปได้ของการมีคนที่สามารถเวทมนตร์ได้สองคุณสมบัติ แต่เมื่อดูจากปริมาณเวทมนตร์ที่ถูกใช้ในเวลาสั้นๆ มันเป็นเรื่องธรรมดที่จะมีหลายคน

 

“เอ่อ นี่ก็จากเวทมนตร์ด้วยยเหรอคะ”

“นี่มันอะไรกัน? ใบหน้าถูกบดขยี้”

ทหารใหม่ นัวร์ และ บาริโต้ กำลังเบือนหน้าของพวกเขามองไปที่ศพอื่นๆ ในบรรดาศพที่มีบาดแผลถูกแทงหรือถูกฟันที่ส่วนสำคัญมีบางศพที่มีใบหน้าถูกบดขยี้และบางศพหัวก็หายไป มันเหมือนพวกเขาถูกกระแทกด้วยอะไรบางอย่าง

“มันไม่ได้มาจากฮาลเบิร์ด และมันก็กว้างเกินไปสำหรับค้อนสงคราม”

“มันเกินจากโล่น่ะ”

คำตอบมาจากหัวหน้าหน่วยดูเวยที่คุ้นเคยกับศพในสนามรบมาหลายปี

“โล่? จริงๆเหรอ…”

เมื่อพบว่ามันยากที่ขจะเชื่อนัวก็พึมพำออกมา

วอล์มเห็นด้วย เขาคิดว่ามันสงพลังเกินไปที่จะมาจากโล่ เขาไม่รู้ว่าถ้าชาบร่างใหญ่เหวี่ยงโล่ไปรอบๆจะเกิดอะไรขึ้น

“บางทีเขาอาจมีทักษะ?”

โจเซ่ที่กำลังคิดอยู่ก็ได้ถามห้วหน้าดูเวย

ใช่ บางที  ฉันเคยเห็นศพที่คลายกันมาก่อน ในเวลานั้นฉันเห็นหัวของคนๆหนึ่งได้หายไปจากการทุบด้วยโล่ เหมือกับทักษะ《จู่โจม》 มันมีผู้ใช้มากมายเช่นฉันแน่ใจว่ามันเป็น《กำแพงเหล็ก》แม้แต่โล่ไม้ก็จะเป็นเหมือนกับเหล็ก”

ตอนนี้วอล์มสามารถใช้ทักษะ《จู่โจม》ได้แล้วก็เขาใจว่าทักษะนั้นทรงพลังแค่ไหน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใส่เกราะเหล็ก แต่ก็สามารถฟันขาดได้ในครั้งเดียวเมื่อใช้ทักษะ ข้อดีของมันอาจพูดได้ว่านับไม่ถ้วย

“อ่าาา แม้พวกมันจะเป็นแค่ทหารแตกทัพแต่มันก็เป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจะจัดการ”

โจเซ่พึมพำอย่างรังเกียจ

“คู่ต่อสู้ในครั้งนี้ได้รวมเข้ากับนักผจญภัยจำนวนหนึ่ง พวกเชลยบอกอย่างนั้น ถึงแม้จะพวกแตกทัพ
 แต่ก็เป็นพวกที่แตกต่าง จงระวังไว้ พวกนักผจญภัยที่มีประสบการณ์นั้นเก่งกว่าทหารทั่วไปในสนามรบ พวกเขาจะมีเกราะและมีความสามาร”

“นายจะได้รับของบางอย่างดีๆถ้านายจัดการพวกมันได้”

บาริโต้หัวเราะ แต่สีหน้าของเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น มันชัดมากสำหรับวอล์ม เขาพยายามทำให้ตัวเองดูเข้มแข็ง

“โอ้ย โอ้ย บาริโต้ ศัตรูของเป็นคนที่มีทักษะและผู้ใช้เวทมนตร์นะรู้ไหม? ลองนึกภาพต่อสู้กับหัวหน้าดูเวยหรือวอล์มและวิลลาร์ทในเวลาเดียวกันสิ นายคิดว่าจะจัดการได้ไหม”

“ไม่มีทางทำได้เลยแม้จะมีฉันสัก 20 คนก็ตาม”

“ดีแล้วที่เข้าใจ”

เมื่อเห็นบาริโต้ยอมรับความผิดพลาดโจเซ่ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ เป็นเรื่องที่ดีที่โจเซ่ให้ความรู้อย่างถูกต้อง แต่สำหรับวอล์ม ก็ยังตกใจที่แม้แต่เขาก็ถูกนับเป็นพวกมีใช่มนุษย์

“แล้วนั่น “ตรงนั้น” คืออะไร คะ..”

นัวชี้ไปที่ร่างของชายคนหนึ่งที่แขวนอยู่บนต้นไม้อย่างน่ากลัวว ร่างกายทั้งหมดถูกแทงและนอกจากส่วนหัวแล้วก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นศพคน

“อืม? หื่ม ตรงนั้นคือชาวบ้านที่ขายข้อมูลของเราและจัดหาอาหารให้กับทหารที่แตกทัพน่ะ”

โจเซ่พูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่่องปกติ

วอล์ม จำตัวเองได้เมื่อเขายังเป็นทหารใหม่และถามคำถามเดียวกัน

“เอ๊ะ…เป็นอย่างนั้นเองเหรอคะ? เขาใจแล้วค่ะ…”

ในใจนัวร์คงอย่างจะพูดว่า “ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ?” มันเป็นสิ่งที่ทำให้หดหู่มาก แต่เธอก็เข้าใจว่าในสงครามบางครั้งมันก็จำเป็น

ทหาร30นายและประชาชน6คน(แรงงานและพ่อค้า)จะไม่ตายหากชาวบ้านไม่ได้ให้ข้อมูลและอาหาร การต่อต้านของผู้คนที่ฐานทัพนั้นส่่งความเสียต่อกองกำลังทุกยุกทุกสมัย และทหารก็ต้องเลือกว่าจะถูกทำลายล้างหรือจะจัดการแค่จำนวนหนึ่งต่อหน้าเพื่อเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้านครอื่นๆ
มันจะแตกต่างกันไปเป็นครั้งคราว คราวนี้ทหารไฮเซิร์ค เลือกที่จะเชือดไก่ให้ลิงดู

“เตรียมตัวให้พร้อม ใกล้ได้เวลาแล้ว”

ด้วยการเรียกจากหัวหน้าดูเวย สมาชิกหน่วยก็ได้ก้าวเข้าสู้ส่วนลึกของป่า เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะค้นหาโดยคนจำนวนน้อย กองร้อย จึงถูกส่งไปพร้อมกันและหน่วยกำลังค้นหาทุกๆที่ๆตามแนว20เมตร แม้ว่าศัตรูจะมีความชำนาญ แต่ก็อาจจบลงในไม่ช้า วอล์ม มองในแง่ดีและก้าวเข้าไปในป่าเหมือนทหารคนอื่นๆ

ในวันที่สองของการค้นหาหน่วยหนึ่งได้ถูกซุ่มโจมตีและมีผู้เสียชีวิต12 นาย และทหาร 7 นายได้รับบาดเจ็บจากกับดักและธนูระหว่างการค้นหา และมี4นายสูญหาย โชคดีที่หน่วยดูเวยไม่ได้รับความเสียหายใดๆ แต่ทั้งกองร้อยกำลังโกรธบวกกับป่าที่เดินยาก ความเกลียดชังต่อศัตรูที่มองไม่เห็นกำลังเพิ่มขึ้นภายในพวกเขา การค้าหายืดเยื้อแล้วหน่วยก็มารวมตัวกันใต้ต้นใหญ่เพื่อหยุดพักสั้นๆ

“แย่ชะมัน”

คนที่พูดคือโจเซ่

“เป็นเรื่องจริงที่เราทั้งกองร้อยออกค้นหา แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย”

ทหาร 250 นายออกค้นหามาเป็นเวลาสามวันแล้วและยังไม่พบอะไรเลย เวลาที่จะเคลื้อนพลไปยังเมืองหลวงซึ่งจะเป็นการต่อสู้ตัดสินก็ใกล้เข้ามา แต่ภัยคุกคามต่อเส้นทางการขนส่งก็ไม่สามารถถูกทิ้งไว้โดยไม่จัดการได้เช่นกัน

“แม้พวกมันจะเป็นคนท้องที่ แต่พวกมันก็เก่งเกินไปในการปกปิดร่องรอยของพวกมัน เหมือนพวกมันจะคุ้ยเคยกับป่าจริงๆ”

หัวหน้าดูเวย กำลังมองไปบนพื้นอย่างระมัดระวัง แล้วก็หันมองไปทางอื่น

“มันมีคนสอดแนมที่เก่งขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” TN:scout ใครคิดคำใหม่ได้บอกด้วย

นัวร์ที่ยืนอยู่ข้างวอล์มถามออกมา

“แม้ว่าจะเป็นนักสอดแนมที่มีฝีมือ แต่ก็ไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยคนเดียวได้ น่าจะมีคนที่มีฝือมากกว่าสองคนที่คอยจับตาดูขณะเข้าใกล้กองกำลังหลัก”

วอล์ม ไม่คิดว่าพวกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นทหารแตกทัพถ้าเป็นพวกนั้นพวกนั้นจะไม่กล้ารบแบบกองโจร

“แทนที่จะเป็นทหารสอดแนม มันน่าจะเป็นนักผจญภัยของไมยาร์ดมากกว่า”

หัวหน้าหน่วยดูเวย ได้ข้อสรุปในการตอบคำถามของทุกคน

“…นักผจญภัย”

บาริโต้พูดออกมา

“เมื่อพูดถึงนักผจญภัยแล้วพวกเขาทำงานอยู่ในดินแดนปีศาจที่ครอบคลุมครึ่งหนึ่งของทวีป ปราบปรามและจัดการมอนสเตอร์ สำรวจดินเจี้ยนและซากปรักหักพังหรือคุ้มกันการขนส่ง โดยทั้วไปมันเป็นคำทั่วไปสำหรับพวกคนที่ทำหลายๆอย่าง กิลด์ที่จัดระเบียบนักผจญภัยได้ระบุว่าได้มีการจัดตั้งในทุกประเทศในทวีปและองค์กรจะไม่เข้าไปแทรกเซงสงคราม”

ในความเป็นจริงนั้น ในนามของเจตนาส่วนบุคคล นักผจญภัยในท้องถิ่นมักถูกว่าจ้างให้เป็นทหารรับจ้าง เกราะที่ทำจากสมบัติหรือวัสดุจากมอนสเตอร์หายากที่สามารถที่สวมใส่ได้รับพลังมหาศาล
 แค่มีสิ่งนั้นคนเดียวก็สามารถเปลี่ยนสถานการณ์การรบได้ นักผจญภัยที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้สามารถพบได้
ด้านนอกนั่น TN:ตรงสมบัติมันคือrelics นึกคำไม่ออกอีกเช่นเคย

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่ากองกำลังนักผจญภัยได้เข้าร่วนในความขัดแย้งด้วย นั้นถือว่าเป็นอัตรายต่อการคงอยู่ของกิลด์

จักรวรรดิไฮเซิร์ค ที่เป็นบ้านเกิดของ วอล์ม ที่เน้นไปที่การเสริมแกร่งอาวุธยุทโธปกรณ์และได้ทหารเกณฑ์มาแทนที่นักผจญภัย จึ่งมีโอกาศน้อยที่นักผจญภัยจะมมามีบทบาทอย่างแข็งขัน แต่พวกเขาก็ปรากฏตัวในประเทศอื่นๆ

“เป็นเรื่องจริงที่นักผจญภัยนั้นคุ้นเคยกับการระมัดระวังและการค้าหามากกว่าทหาร”

โจเซ่ที่เกิดมาเป็นลูกชายคนที่สามของพ่อค้าเล็กๆ เขาที่เคยจ้างนักผจญภัยพยักหน้าอย่างมั่นใจ

ในขณะที่กำลังหยุดพักอยู่ วอล์ม กำลังพูดถึงตัวตนของศัตรู แต่สมาชิคหน่วยก็กำลังยุ่งอยู่กับการกินและการสูบบุหรี่ วอล์มก็เลยสูบบุหรี่ที่ซื้อจากโจเซ่ แล้วก็ค่อยๆหายใจพ่นควันออกมาควันก็ลอยไปบนฟ้าแล้วก็กระจายไป ขณะที่สูบบุหรี่เขาก็ถามคำถามหนึ่งที่เพิ่งคิดได้ออกมา

“พวกมันจะสักเกตกลิ่นบุหรีไหม”

“นายโง่รึไง กลิ่นตัวเราเหม็กยิ่งกว่าบุหรี่อีก ถ้ามีหมาป่าอยู่ฉันแน่ใจว่ามันจะได้กลิ่นและเข้ามาหา”

โจเซ่ปฏิเสธคำถามแล้วหัวเราะแล้วเขาก็สูบบุหรี่ต่อ

“จะใช้ผมใส่น้ำหอมด้วยไหมละ”

บาริโต้พูดอะไรบางอย่างที่ยากจะบอกได้ว่าจริงจังหรือไม่

“เป็นความคิดที่ดี ฉันควรจะใส่กระโปรงด้วยดีไหม”

หัวหน้าดูเวยหัวเราะกับเรื่องตลกนั่น วอล์มยังคลายปากของเขาและยิ้มเล็กน้อบ เหลิอเวลาอีกไม่มาที่จะเพลิดเพลินไปกับเรื่องตลกโง่ๆ ในอีก5นาทีวอล์มจะต้องออกค้นหาศัตรูที่ซ่อนอยู่ต่อ และดูเหมือนจะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด

ฉันควรจะเตรียมพร้อมสำหรับบางสิ่งตอนนี้รึเปล่านะ?

เมื่อวอล์มคิดคร่าวๆที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการค้าหา และกำลังจะออกค้นหาต่อเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องและยังดำเนินต่อไปก็มีการระเบิดหลายครั้งเกิดขึ้น เมื่อทหารที่พักอยู่บนพื้นได้ยินก็กระโดดขึ้นและเตรียมอาวุธออกมาพร้อมกัน

“3 ไม่ 400 เมตรห่างออกไป พวกเขากำลังปะทะระหว่างค้นหา”

ทุกคนเห็นด้วยกับคำพูดของโจเซ่

“เราจะเข้าหาผ่านด้านขวา แล้วจะปิดล้อมพวกมัน อย่าให้ศัตรูพลาดไป เคลื่่อนพล!”

หัวหน้าหน่วยดูเวย กระโดดออกแล้วตะโกนคนโง่ทั้งสามก็เริ่มเคลื่อนไหวตามหลังเขา ตามด้วย
ทหารใหม่นัวร์และบาริโต้

วอล์ม วิ่งผ่านกิ่งไม้ที่บังเขาแล้วก้าวต่อไป ป่าที่ไม่มีการจัดระเบียบนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคทางธรรมชาติ เพราะมันข่วนไปทั่วและติดอยู่กับตัว และกิ่นหญ้าก็แย่มาก

การต่อสู้ยังไม่จบ และศัตรูที่ได้ลิ้มรสความสำเร็จในการโจมตีครั้งล่าสุดดูเหมือนจะประเมินทหารของไฮเซิร์คไว้ต่ำเกินไป บางทีพวกมันหัวกระหายที่จะทำลายล้างศัตรู  
นอกจากหน่วยของดูเวยแล้วก็มีอีก2หน่วยเข้ามาช่วยและกันศัตรูไม่ให้หนี

“เวรเอ้ย กำลังเสริม”

ทหารศัตรูคนหนึ่งตะโกนออกมา

วอล์ม เหวี่ยงฮาลเบิร์ดที่ได้จากอัศวินที่เขาจัดการได้เมื่อวันก่อน ทัรเป็นอาวุธที่แข็งแรงและเหมาะสมในการใช้ทักษะ《จู่โจม》ที่เขาได้รับมาเมื่อวันก่อน  
ทหารศัตรูได้แทงหอกเข้าหาวอล์มอย่างแรงเท่าที่มันจะทำได้  เมื่อมันถูกผลักกลับมันก็ถูกบดขยี้เล็กน้อย

จากนั้นทหารศัตรูก็พยายามจะดึงดาบสั้นออกมาหลังจากทิ้งหอกที่หักไป  แต่เข้าไปก้าวหนึ่ง
ก่อนที่จะได้ดึงดาบออกมาหัวของเขาก็ลอยไปในอากาศ

เมื่อวอล์มข้างห้นาและดึงมือกลับแล้วบิดตัวเพื่อฟันศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ

ในขณะที่ศัตรูอยู่ด้านหลังหนึ่งก้าวและไม่สามารถหลับการโจมตี การฟันจากด้านข้างทะลุผ่านอกและตัวลำตัวออกเป็นสองส่วน นอกจากนี้การฟันในแนวนอนของวอล์ม ยังโจมตีษศัตรูที่เหลือและได้รับบาดเจ็บหรือตายในหมู่ศัตรู 10คน  และก็มีกลุ่มคนที่แต่งตัวต่างจากทหารปกติผสมอยู่ในพวกทหาร

“พวกมันอยู่นั่น พวกนักผจญภัยที่เป็นผู้นำของพวกมัน”

โจเซ่ที่เห็นพวกคนเหล่าได้ตะโกนบอกตัวตนของพวกเขา จำนวนคือ5คนเรียกได้ว่า “ปาร์ตี”

วอล์มมุ่งหน้าไปยังกลุ่มนั้นในขณะที่จัดการกับศัตรูที่สับสนไปด้วย  แต่ก็ได้มีใบมีดลมเข้ามาหาเขา
ถ้าเป็นปกติเขาจะเลือกที่จะหลับหรือป้องกันด้วยโล่ แต่ตอนนี้วอล์นก็ฟันฮาลเบิร์ดไป

ได้เปิดใช้ทักษะ《จู่โจม》ในขณะที่ฟันใส่เวทมนตร์ จากนั้นลมก็กระจายไป เมื่อวอล์มหันไปมองก็เห็นนักผจญภัยที่ใช้เวทมนตร์  ผู้หญิงคนหนึ่งที่พูดได้ไม่เต็มปากว่าเธอเป็นผู้หญิง
TN:ไมว่างั้น

สูงประมาณอกของวอล์ม ผมสีน้ำตาลยาวถึงไหล่ ติดอาวุธด้วยดิบสั้นและโล่เหมือนทหารทั่วไป แล้วทหารไมยาร์ดสามคนก็ได้มายืนอยู่ต่ออหน้า วอล์มขณะที่เขากำลังจะไปจัดการกับ
ผู้ใช้เวทมนตร์ที่น่ารำคาญ  ทหารเศ้าคนได้ก้าวเข้ามาใใกล้และแทงหอกพร้อมกัน

วอล์มหลับไปทางขวาเล็กน้อยแล้วปิดด้านหนึ่งของศัตรู เขาก้าวเข้าไปใกล้ศัตรในที่กันหอกที่แทงมาที่หน้าเขาด้วยฮาลเบิร์ด แล้วในขณะนั้นศัตรูพยายามกันคอด้วยมือที่สวมเกราะ แต่วอล์มก็ใช้
《จู่โจม》แล้วฟันผ่านไป กระดูกถูกตัดแล้วเลือดก็ไหลออกมาผ่านเกราะ

“ไอ้เลวเอ้ยยย!!”

 

ศัตรูคนหนึ่งล้มลงแล้วศัตรูก็ได้ลดลงหนึ่่งนาย แต่ทหารอีกคนได้โยนหอกทิ้งแล้วดึงดาบออกมาและโจมตีวอล์ม มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ดี แต่การฟันแนวอนอนนั้นวอล์มหลบได้

จากนั้นวอล์มก็เหวี่ยงฮาลเบิร์ดจากทางซ้างในแนวทแยง แต่มันถูกบล็อคก่อนที่จะออกแรง จากนั้นเขาก็ดึงดาบยาวด้วยแรงทั้งหมดในขณะกระโดดกลับ จากนั้นก็ผลักฮาลเบิร์ดให้แรงที่สุดที่สามารถ ทหารศัตรูเสียการทรงตัว แต่อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นที่จะหลบการโจมตีของวอล์มได้
แล้วฮาลเบิร์ดก็ได้ฟันเข้าที่เข่าของทหารและก็ตัดมันออก

“อ๊าคคคคค”  TN:เสียงร้องอะ

ทหารโต้กลับอย่างหนักด้วยขาเพียงข้างเดียว แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถยืนได้อย่างถูกต้อง วอล์มก็ตัดขอเขาด้วยดาบ

พวกที่เหลือลังเลที่จะโจมตีมา แต่วอล์มไม่ลังเลแล้วจับฮาลเบิร์ดด้วยมือทั้งสองแล้วฟัน

“ไม่  อย่า รอก่อน- ช่วยฉันด้วย”

ไม่จำเป็นต้องฟันอีกครั้ง เพราะการฟันครั้งแรงก็ทำให้หน้าท้องขาดเป็นเส้นตรงและอวัยวะภายในก็ไหลออกมา  เลือดไหลออกมาอย่างมากจนพื้นรอบๆและเขาถูกย้อมด้วยสีแดง

“ยอมแพ้ซะเถอะ มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก”

ถ้าเพียงแต่เขาหนีต่อไปหรือยอมจำนนก่อนที่จะเป็นแบบนี้ละก็

 

ความคิดได้แวบขึ้นมาที่วอล์ม

ทหารคนนี้ … เขาผูกพันกับประเทศ เพื่อน ครอบครัว ทุกอย่างในแผนดินนี้ 
เขาอาจอย่างหนีแต่ก็ทำไม่ได้

ขณะปลดทุกทหารคนนั้น วอล์มก็กำลังคิดแบบนั้น ถ้าคนอื่นรู้คงจะต้องหัวเราะแน่

เมื่อเขาพยายามจะฟันเป้าหมยต่อไป เขาก็โดนว่าด้วยคำบางคำ จากศัตรู คราวนี้มันไม่ใช่คำเยาะเย้ยหรือคำด่าที่คุ้นเคย แต่มันเป็นคำถามสำหรับ วอล์ม

“ทำไม!ทำไม!ทำไม ถึงฆ่าคนได้ง่ายๆขนาดนั้น!?”

วอล์ม ถูกถามว่าทำไมเขาถึงฆ่าคนอื่นในสนามรบ คำถามนั้นถ้าจะพูดก็ยาว และคำตอบก็ต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทำไมถึงถามวอล์มแบบนั้น? อย่างไรก็ตามสำหรับวอล์ม ศัตรูจะขอความเมตตา แต่เขาจะทำเมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้แต่วอล์มก็ทำอะไรกับมันไม่ได้

“มันคือสนามรบ มาแปลกใจอะไร? แกก็ฆ่าคนอื่นเหมือนกันนิ..ช่างเถอะเป็นการสนทนาที่ไร้สาระจริงๆ”

ศพของทหารไฮเซิร์คนอนอยู่ที่เท้าของผู้หญิงคนนั้น แม้ว่าพวกนั้นจะแค่ผ่านกันบางครั้งระหว่างเดินขบวน แต่นั่นก็เป็นเพื่อนร่วมชาติของวอล์ม หญิงสาวอาจเห็นแล้วว่าการสนทนานั้นไร้ประโยชน์จากนั้นเธอก็เริ่มร่ายเวทมตร์ใส่ วอล์มอีกครั้ง มันเป็นเวทมนตร์ที่วอล์มเห็นเมื่อครั้งก่อน นอกจากนี้วิถีก็เหมือนกัน วอล์มตั้งท่าก้มต่ำแล้วเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงแล้วพุ่งเข้าไป เขายังคงพุ่งไปหาหญิงสาวที่ลืมตาขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“ลิเธีย!!!”

นักผจญภัยเก่าที่มีโล่ตะโกนขึ้น  แต่ฮาลเบิร์ดก็ถูงเหวี่ยงไปด้านข้างตรงไปที่คอของเธอ  เธอตอบสนองในทันราวกับช่องว่างที่แสดงให้เห็นก่อนหน้านี้เป็นเรื่องโกหก เธอยกโล่ขึ้นมาในแนวแทยงมุมในขณะที่งอศอกซ้ายแล้วใช้มือขวาช่วยพยุงโล่ในขณะที่มือยังถือดาบอยู่
 

บอกตามตรงวอล์ม ประเมินเธอไว้ต่ำเกินไป บอกได้ว่าตอนนี้เป็นการตอบสนองในอุดมคติเลย 
เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็รู้ได้ว่าเธอมีความรู้และประสบการณ์ อย่างไรก็ตามบทสนทนาก่อนหน้านี้ที่เธอพูดมานั้นฟังดูงี่เง่าสำหรับวอล์ม ดังนั้นเขาจึงรู้สึกแปลกใจ แต่เขาก็เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังนั้น

มันเป็นสิ่งที่โง่เง่าที่จะมีในสนามรบ แต่ในทางหนึ่งก็น่าอิจฉาสำหรับวอล์ม จากสังเขปเธอไม่คุ้นชินกับการฆ่าคน หากเป็นอย่างนั้นมันก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการพูดคุย ในความเป็นจริงวอล์มต้องการเลือกทางนั้น แต่ตอนนี้เขาอยู่ในสงครามระหว่างประเทศ การต่อสู้ยังดำเนินต่อไปและศัตรูก็ไม่ได้ยอมจำนน

โดยไม่คลายมือที่ถือฮาลเบิร์ด วอล์มเปิดใช้งาน《จู่โจม》 ใบมีดที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงจางๆ ได้ลึกลงไปในโล่และทะลุผ่านไป

“อ๊าาาาาาาา” sfx เสียงกรีดร้อง

โล่ที่ถูกตัดตกลงไปที่พื้น แต่ดูเหมือนเธอจะมีเกราะป้องกันมืออยู่ใต้โล่และแขนทำให้มันไม่ถูกตัดออก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถหนีจากผลกระทบได้อย่างสมบูรณ์และตอนนี้ทุกครั้งที่เธอขยับแขนซ้ายของเธอก็จะแสดงอาการเจ็บปวดออกมา แต่เธอก็ยังคงถือดาบสั้นด้วยมืออีกข้าง
 

“มันพังแล้ว”

เมื่อวอล์ม พูดแบบนั้น เธอก็ขมวดคิ้วและดูเหมือนจะสับสนอย่างมาก

ดูเหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอได้รับการโจมตีด้วยทักษะ  แล้วเธอก็ถอยออกห่างจากวอล์ม ราวกับกำลังกลัว แต่มันเป็นการเคลื่อนไหวท่ไม่ดีในป่าที่มีพื้นไม่ดี  เธอก้าวถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่าง 
แต่ก็ไปเหยีบ “ทหาร” ที่อยู่บนพื้นแล้วเธอก็เสียการทรงตัวแล้วล้มลง

“อย่างน้อยก็จงจดจำเหล่าคนที่เธอฆ่า”

เมื่อวอล์มได้ยิ้มออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอก็ลืมตาขึ้นและร้องออกมาราวกับเห็นปีศาจ

“อ้าาาาาา..”  sfxเสียงร้อง

วอล์ม กระโดดเข้ามาแล้วใช้ฮาลเบิร์ดของเขาเพื่อสะบัดดาบบนมือของเธอออกไป  เมื่อวอล์มกระแทกไหล่ของเธอด้วยร่างกาย เธอก็ใจออกแล้วล้มลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ฟันฮาลเบิร์ดไปที่ลำคอของเธอที่ล้มลง เขาคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้หญิงมันคงจะดีกว่าที่จะบดขยี้หัวหรือใบหน้าของเธอ

แต่มีบางอย่างแวบเข้ามาในขอบการมองเห็นของเขา ในขณะนั้นหัวใจของวอล์มก็เต้นแรง เขาระวังรอบๆแล้วแต่นี่มันเร็วเกินไป

“เอ่อ――!?”

วอล์ม กระโดนกลับไปในขณะที่เอียงหัว แต่ผมและแก้มของเขากูถูกบาดเล็กน้อย

เงายังคงใกล้เข้ามา วอล์มเหวี่ยงฮาลเบิร์ดของเขาและคู่ต่อสู้ของเขาก็ได้รับการโจมตี ชายคนนี้เป็นหนึ่งในปาร์ตี้นกผจญภัย

อาวุธได้ชนกันอยู่พักหนึ่ง

เมื่อทั้งคู้ก้าวถอยหลัง วอล์มก็เล็งฮาลเบิร์ดของเขาไปที่ข้อมือ แต่มันก็ถูกบล็อคโดยที่กันมือของดาบ TN:brimน่ะใครรู้บอกได้เรียกอะไรดี

“นายโอเคเหรอ กับฉันน่ะ” TN Are you okay with me? น่ะ

ชายหนุ่มโกรธจัดเมื่อวอล์มจงใจถาม

“หุบปากของแกซะไอ้ผู้รุกราน”

เป็นชาหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าตาดีมีผมสีฟ้ายาวถึงไหล่และดวงตาสีเดียวกับผมของเขาแล้มมันก็หล่อพอที่จะเป็นไอดอลในโลกก่อนของวอล เขามีดาบสองมือที่เปื้อนเลือดและสวมอุปกรณ์ที่ดีพอ 
ดูเหมือนทหารไฮเซิร์ครอบๆจะถูกเขาฟัน

ไม่ต้องสงสัยเลยเขาเป็นหัวหน้าของนักผจญภัย วอล์มคิดว่าเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมะกับหัวหน้าดูเวย
แต่หัวหน้าดูเวยตอนนี้กำลังจัดการกับนักผจญภัยที่ถือโล่ขนาดใหญ่อยู่

 

บางทีนักผจญภัยคนนั้นที่ใช้โล่อาจเป็นที่มีทักษะ และดูเหมือนว่าทักษะ《จู่โจม》กับ
《กำแพงเหล็ก》ได้ปะทะกัน ทหารที่อยู่รอบๆได้แต่ดูเท่านั้น

ฉันควรขอความช้วยเหลือจากพวกเขาดีไหม?

วอล์มกำลังคิดว่าจะขอความช่วยเหลือจากทหารรอบข้าง แต่เขาก็ตัดสินใจว่าไม่

ฮะ น่ารำคาญชะมัด

วอล์ม คิดอย่างนั้นเพราะเขาต้องรับมือกับนักผจญภัยคนนี้ไม่ว่าจะยังไง

****
 จบไปแล้วกับตอนที8 ปกติเวลาผมแปลผมจะมีปัญหาในการเกลาคำหรือสื่อความหมายหรืออาจแปลผิดไปเลยและก็ชอบพิมพ์แบบคิดว่าตัวเองพิมพ์ไปแล้วเลยพิมพ์ตกหรือสะกดผิด ก็ชอให้คนอ่านช่วยๆกันดูด้วนะครับเพราะแปลนานแปลเสร็จแล้วผมไม่ได้เช็ค แต่ก็จะพยายามปรับปรุงครับ แล้วก็จะมาบอกเรื่องการลงตอน โดยจะลงวันจันทร์-วันศุกร์ ส่วนเสาร์อาทิตย์อาจพัก 

แต่ก็ไม่รู้ตอนนี้มาไง แฮร่
 มีภาพลิเทียมาฝากด้วย
ทั้งนี้ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+