สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 105 ภัตตาคารเจียงซื่อเกิดเรื่องแล้ว

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 105 ภัตตาคารเจียงซื่อเกิดเรื่องแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 105 ภัตตาคารเจียงซื่อเกิดเรื่องแล้ว

บทที่ 105 ภัตตาคารเจียงซื่อเกิดเรื่องแล้ว

“ก่อนอื่นจิบชากับทานของว่างสักหน่อย” หลี่หงซูต้อนรับมู่ซืออวี่

“ไม่จำเป็นหรอก บ้านข้าอยู่ไกลจากที่นี่ ยังต้องเผื่อเวลาเดินทางกลับอีกมาก ทำงานก่อนเถอะ”

มู่ซืออวี่เอ่ยพลางมองไปยังห้องนอนของหลี่หงซู

เป็นถึงคุณหนู ห้องก็ควรมีการประดับตกแต่ง แต่นี่กลับดูล้าสมัยเกินไป เป็นไปได้ว่านางไม่ใช่เจ้าของห้องคนแรก ห้องจึงเต็มไปด้วยความคร่ำครึทุกแห่งหนเช่นนี้

“คุณหนูหลี่ ท่านเชิญข้ามาประดับตกแต่งห้องใหม่แบบนี้ จำเป็นต้องหารือกับผู้อาวุโสที่บ้านหรือไม่?”

“ไม่ต้อง เรื่องนี้ข้าตัดสินใจเองได้”

สนทนากับคนฉลาดก็ง่ายเช่นนี้ เอ่ยเพียงคำเดียวก็เข้าใจความหมายได้ในทันที

“เช่นนั้นรบกวนช่วยหาไม้วัดมาให้ข้าสักอัน”

มู่ซืออวี่ขอยืมตัวสาวใช้สองคนมาช่วยวัดขนาดสถานที่

นางง่วนกับที่นี่เสียจนเท้าไม่ได้แตะพื้น ส่วนหลี่หงซูกำลังหลอกล่อลู่จื่ออวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยขนมชิ้นหนึ่ง

“แม่เจ้าไม่มีเวลากิน เจ้าก็ไม่ได้ยุ่งอะไร กินอะไรหน่อยเถอะ! วางใจได้เลย อาหารว่างของที่นี่อร่อยมาก ไม่มีพิษแน่นอน”

ลู่จื่ออวิ๋นขอบคุณอย่างสุภาพอ่อนน้อม “ขอบคุณเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่หิว ไม่กินดีกว่า แม่ข้ากำลังยุ่ง ข้าจะกินอยู่ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร?”

“แม่นางน้อยคนนี้ช่างรู้ความจริง ๆ” สาวใช้ข้าง ๆ นางเอ่ยขึ้น “บ่าวคิดถึงน้องสาวคนเล็กที่บ้านขึ้นมาเลย เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายเช่นนี้แหละเจ้าค่ะ มีของกินอะไรก็ให้บ่าวทานก่อนเสมอ”

เดิมทีหลี่หงซูเพียงแค่หาอะไรทำให้เวลาผ่านไป ผลคือยิ่งแกล้งลู่จื่ออวิ๋นเล่นเท่าไหร่ก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น แม่นางน้อยคนนี้ยังอายุน้อย แต่คำพูดคำจากลับฉะฉาน ทุกประโยคล้วนสมเหตุสมผล

“เอาล่ะ คุณหนูหลี่ วัดเสร็จแล้ว” มู่ซืออวี่นำข้อมูลที่วัดได้เก็บใส่ไว้ในแขนเสื้อของตน “ข้าจะร่างแบบขึ้นมาตามขนาดห้องของท่าน ถึงเวลานั้นจะให้ท่านดูว่าพึงพอใจแบบใดมากกว่ากัน”

“วัดเสร็จแล้วหรือ? เช่นนั้นทานของว่างเสียหน่อย”

“ไม่จำเป็นแล้ว ข้ายังต้องรีบกลับบ้าน ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของคุณหนูหลี่”

“ข้าเข้าใจแล้ว ลูกสาวเจ้านี่ช่างเหมือนเจ้าจริง ๆ เอาเถอะ! ข้าจะไม่รั้งเจ้าไว้แล้ว”

สาวใช้ส่งแม่และลูกสาวไปหามู่ต้าหนิวที่รออยู่ จากนั้นพวกเขาก็บังคับเกวียนวัวออกไป

พวกเขาเพิ่งจากไป เงาร่างหนึ่งก็เข้ามาในเรือนของหลี่หงซู

“คุณหนู สาวใช้ขั้นรองในเรือนของคุณชายใหญ่ที่ชื่อซือเจียวเพิ่งเข้ามาอยู่ในจวนได้ไม่นาน นางกล่าวว่าแม่นางมู่มือเท้าไม่สะอาด เช่นนั้นพวกเรา…”

หลี่หงซูกล่าวตัดคำพูดของสาวใช้อย่างไม่ยินดียินร้าย “สาวใช้ในเรือนพี่ใหญ่มีดีกี่คนกัน ล้วนเป็นสุนัขจิ้งจอกกันทั้งนั้น วัน ๆ ทำเพียงเกาะแข้งเกาะขาเขาแล้วทำสิ่งที่น่ารังเกียจ ยิ่งนางพูดเช่นนี้ ข้ายิ่งให้ความสำคัญกับแม่นางมู่มากขึ้นเท่านั้น”

หลังจากมู่ซือเจียวกลับมาจากที่พำนักของหลี่หงซู นางก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม เงินที่มู่ซืออวี่จะได้ล้วนขึ้นอยู่กับคุณหนูหลี่ว่าจะยอมรับหรือไม่ หลังจากที่นาง ‘ฟ้อง’ ไปเช่นนั้น คุณหนูหลี่จะต้องไม่ให้โอกาสแน่นอน

ไม่รู้จริง ๆ ว่าหญิงสารเลวคนนั้นไปเอาความสามารถมาจากที่ใด ถึงกับสามารถทำให้คุณหนูหลี่พาไปจวน คุณหนูคนนี้เป็นคนที่เอาใจได้ยากที่สุดในจวนหลี่ มู่ซือเจียวอยู่ในจวนนั้นมาตั้งนาน เพิ่งได้พบหน้าคุณหนูผู้นี้วันนี้เป็นวันแรก

“ซือเจียว คุณชายใหญ่จะเอาน้ำ! วันนี้ถึงตาเจ้าต้องไปเตรียมแล้ว”

“เรียกหาน้ำกลางวันแสก ๆ เช่นนี้…” สาวใช้ข้าง ๆ คนหนึ่งพึมพำ แล้วเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดออกมา

“คุณชายโปรดปรานพี่ชุนหลาน ได้ยินว่าพี่ชิวหลานที่เฝ้าอยู่ข้างนอกถึงกับใบหน้าแดงก่ำราวกับดอกเหมยแดง เรื่องนั้นน่ะคุณชายยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว…”

“เจ้าเด็กไร้ยางอาย ไปได้ยินเรื่องเลอะเทอะเหล่านี้มาจากไหน?”

สาวใช้หลายคนหัวเราะอย่างครื้นเครง

พอมู่ซือเจียวนึกถึงคุณชายรูปงาม ดวงหน้าของนางก็แดงปลั่ง

นางกับมู่ซืออวี่จะแข่งขันกันไปเพื่ออะไร ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือนางต้องได้รับความโปรดปรานจากคุณชาย ได้ยินว่าอีกไม่นานคุณชายก็จะแต่งฮูหยินแล้ว หากไม่ได้รับความโปรดปรานตั้งแต่เนิ่น ๆ ภายหน้าเกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสอีก

“ต้าหนิว เจ้ารู้จักภัตตาคารเจียงซื่อหรือไม่? พวกเราไปดูภัตตาคารเจียงซื่อเถอะ”

วันนี้เฟิงเจิงไม่ได้มารับของที่บ้าน ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรไปหรือไม่ หรือที่ภัตตาคารเจียงซื่อมีบางอย่างทำให้ล่าช้าออกไป

ที่ประตูภัตตาคารเจียงซื่อมีตราผนึกของทางการปิดไว้

“ท่านป้า เกิดอะไรขึ้นกับภัตตาคารเจียงซื่อหรือ?” มู่ซืออวี่ถามแผงขายของฝั่งตรงข้าม

“คืนก่อนที่นี่มีคนกินอาหารแล้วตาย เจ้าหน้าที่ทางการกับทหารจึงนำตัวผู้จัดการร้านกับคนในร้านไป”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”

“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?” เอ้อร์หนิวเอ่ยขึ้น “อยู่ดี ๆ เหตุใดจึงมีคนกินอาหารแล้วตาย? ภัตตาคารเจียงซื่อไม่ระมัดระวังเกินไปแล้ว”

“ข้าจะไปศาลาว่าการ” มู่ซืออวี่พูดขึ้น “จะได้ถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ภัตตาคารเจียงซื่อ”

“ไป ๆ พี่อี้อยู่ที่นั่นใช่หรือไม่?”

“ไม่รู้ว่าวันนี้อยู่หรือไม่ เขาออกไปตั้งแต่เช้า เอ่ยกับข้าว่าวันนี้ต้องไปที่หมู่บ้านอื่น ข้าก็ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่หรือเปล่า”

“พี่สะใภ้ลู่ เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” นักการเกากำลังจะออกไปตรวจตรา พลันเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งลงจากเกวียนวัวก็เดินใกล้เข้ามา

“เจ้าหน้าที่เกา…”

“โธ่ อย่าได้เรียกข้าว่าเจ้าหน้าที่เกาเลย ข้าเป็นเพียงข้ารับใช้เล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น หากเจ้าไม่ถือสา ก็เรียกข้าว่าพี่ใหญ่เกาเถอะ!”

“พี่ใหญ่เกา คนบ้านข้ากลับมาแล้วหรือยัง?”

“ยังไม่กลับมาเลย เมื่อวานนี้เกิดคดีหนึ่ง เจ้าหน้าที่คนอื่นล้วนไปแล้ว แต่เขาอยากกลับไปบ้าน บอกว่าเช้าวันนี้จะตรงกลับมา จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่กลับมา คงจะมีเรื่องลำบากเกิดขึ้นกระมัง”

“พี่ใหญ่เกา ท่านรู้เรื่องคดีภัตตาคารเจียงซื่อหรือไม่?”

“เจ้ามาเพราะคดีนี้หรอกหรือ? ใช่แล้ว หมูตุ๋นที่พวกเขาขายเป็นเจ้าทำใช่หรือไม่? อันที่จริงคดีนี้ประหลาดมาก ตอนนี้ยังคงตรวจสอบอยู่ แต่เจ้าวางใจ คนผู้นั้นไม่ได้ตายเพราะกินหมูตุ๋นของเจ้า”

มู่ต้าหนิวและเอ้อร์หนิวที่อยู่ข้าง ๆ จึงรู้สึกวางใจ

ถึงแม้มู่ซืออวี่จะกังวลเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินนักการเกาเอ่ยเช่นนั้นก็ถอนหายใจ

“ข้าขอพบผู้จัดการร้านกับคนในร้านได้หรือไม่?”

“เกรงว่าจะไม่ดี คดีนี้ยังอยู่ในขั้นตรวจสำนวน ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ให้เข้าพบพวกเขา” นักการเกาบอก “ข้าจะลอบเตรียมการให้เจ้า แต่จะอยู่นานไม่ได้ รีบหน่อยนะ”

“ขอบคุณท่านมาก”

ครั้นมู่ซืออวี่พูดจบ นางก็เอาหมูตุ๋นออกมาจากตะกร้าข้างหลัง

“สิ่งนี้เอาไปแบ่งปันพี่น้องท่านนะเจ้าคะ”

“พวกเราคิดถึงฝีมือของเจ้ามาก เช่นนั้นไม่เกรงใจแล้วนะ”

ผู้จัดการร้านภัตตาคารเจียงซื่อและเจิงเฟิงล้วนเป็นคนดี นางอยากถามที่มาที่ของเรื่องนี้อย่างละเอียดจากพวกเขา ไม่แน่ว่าอาจจะมีทางช่วยเหลือได้ แต่หากช่วยไม่ได้ ทว่าได้เห็นพวกเขาสักหน่อยก็ยังดี

“มีคนมาหาพวกเจ้า” หัวหน้าผู้คุมห้องขังพามู่ซืออวี่เข้าไปในห้องขัง

นางฝากลู่จื่ออวิ๋นให้มู่ต้าหนิวให้ดูแลชั่วคราว

“ท่านมาได้อย่างไร?” เฟิงเจิงเงยหน้าขึ้นจึงได้เห็นมู่ซืออวี่

ผู้จัดการร้านได้ยินคำพูดของเฟิงเจิงก็เงยหน้าขึ้นมาเช่นกัน

“นั่นสิ?”

“ผู้จัดการร้าน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” มู่ซืออวี่ถาม

“ล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าอยากได้ของถูก ก็เลยซื้อเนื้อแกะราคาถูกมา ผู้ใดจะรู้ว่าจะเกิดปัญหา กระทั่งเมื่อครู่นี้ข้าจึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่แกะ แต่เป็นหนู ทั้งยังเป็นหนูที่มีพิษ”

“ไม่ใช่ว่าท่านอยากได้ของถูก แต่หวังซานที่จ้างมาใหม่เปลี่ยนแหล่งขายหมูจากเจ้าเดิมที่เรารับอยู่ประจำเอาเอง บอกว่าคุณภาพของที่เขาหามาเองนั้นดีกว่า แต่พอกินเข้าไปกลับเกิดปัญหาขึ้น” เฟิงเจิงฮึดฮัด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 105 ภัตตาคารเจียงซื่อเกิดเรื่องแล้ว

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 105 ภัตตาคารเจียงซื่อเกิดเรื่องแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 105 ภัตตาคารเจียงซื่อเกิดเรื่องแล้ว

บทที่ 105 ภัตตาคารเจียงซื่อเกิดเรื่องแล้ว

“ก่อนอื่นจิบชากับทานของว่างสักหน่อย” หลี่หงซูต้อนรับมู่ซืออวี่

“ไม่จำเป็นหรอก บ้านข้าอยู่ไกลจากที่นี่ ยังต้องเผื่อเวลาเดินทางกลับอีกมาก ทำงานก่อนเถอะ”

มู่ซืออวี่เอ่ยพลางมองไปยังห้องนอนของหลี่หงซู

เป็นถึงคุณหนู ห้องก็ควรมีการประดับตกแต่ง แต่นี่กลับดูล้าสมัยเกินไป เป็นไปได้ว่านางไม่ใช่เจ้าของห้องคนแรก ห้องจึงเต็มไปด้วยความคร่ำครึทุกแห่งหนเช่นนี้

“คุณหนูหลี่ ท่านเชิญข้ามาประดับตกแต่งห้องใหม่แบบนี้ จำเป็นต้องหารือกับผู้อาวุโสที่บ้านหรือไม่?”

“ไม่ต้อง เรื่องนี้ข้าตัดสินใจเองได้”

สนทนากับคนฉลาดก็ง่ายเช่นนี้ เอ่ยเพียงคำเดียวก็เข้าใจความหมายได้ในทันที

“เช่นนั้นรบกวนช่วยหาไม้วัดมาให้ข้าสักอัน”

มู่ซืออวี่ขอยืมตัวสาวใช้สองคนมาช่วยวัดขนาดสถานที่

นางง่วนกับที่นี่เสียจนเท้าไม่ได้แตะพื้น ส่วนหลี่หงซูกำลังหลอกล่อลู่จื่ออวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยขนมชิ้นหนึ่ง

“แม่เจ้าไม่มีเวลากิน เจ้าก็ไม่ได้ยุ่งอะไร กินอะไรหน่อยเถอะ! วางใจได้เลย อาหารว่างของที่นี่อร่อยมาก ไม่มีพิษแน่นอน”

ลู่จื่ออวิ๋นขอบคุณอย่างสุภาพอ่อนน้อม “ขอบคุณเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่หิว ไม่กินดีกว่า แม่ข้ากำลังยุ่ง ข้าจะกินอยู่ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร?”

“แม่นางน้อยคนนี้ช่างรู้ความจริง ๆ” สาวใช้ข้าง ๆ นางเอ่ยขึ้น “บ่าวคิดถึงน้องสาวคนเล็กที่บ้านขึ้นมาเลย เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายเช่นนี้แหละเจ้าค่ะ มีของกินอะไรก็ให้บ่าวทานก่อนเสมอ”

เดิมทีหลี่หงซูเพียงแค่หาอะไรทำให้เวลาผ่านไป ผลคือยิ่งแกล้งลู่จื่ออวิ๋นเล่นเท่าไหร่ก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น แม่นางน้อยคนนี้ยังอายุน้อย แต่คำพูดคำจากลับฉะฉาน ทุกประโยคล้วนสมเหตุสมผล

“เอาล่ะ คุณหนูหลี่ วัดเสร็จแล้ว” มู่ซืออวี่นำข้อมูลที่วัดได้เก็บใส่ไว้ในแขนเสื้อของตน “ข้าจะร่างแบบขึ้นมาตามขนาดห้องของท่าน ถึงเวลานั้นจะให้ท่านดูว่าพึงพอใจแบบใดมากกว่ากัน”

“วัดเสร็จแล้วหรือ? เช่นนั้นทานของว่างเสียหน่อย”

“ไม่จำเป็นแล้ว ข้ายังต้องรีบกลับบ้าน ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของคุณหนูหลี่”

“ข้าเข้าใจแล้ว ลูกสาวเจ้านี่ช่างเหมือนเจ้าจริง ๆ เอาเถอะ! ข้าจะไม่รั้งเจ้าไว้แล้ว”

สาวใช้ส่งแม่และลูกสาวไปหามู่ต้าหนิวที่รออยู่ จากนั้นพวกเขาก็บังคับเกวียนวัวออกไป

พวกเขาเพิ่งจากไป เงาร่างหนึ่งก็เข้ามาในเรือนของหลี่หงซู

“คุณหนู สาวใช้ขั้นรองในเรือนของคุณชายใหญ่ที่ชื่อซือเจียวเพิ่งเข้ามาอยู่ในจวนได้ไม่นาน นางกล่าวว่าแม่นางมู่มือเท้าไม่สะอาด เช่นนั้นพวกเรา…”

หลี่หงซูกล่าวตัดคำพูดของสาวใช้อย่างไม่ยินดียินร้าย “สาวใช้ในเรือนพี่ใหญ่มีดีกี่คนกัน ล้วนเป็นสุนัขจิ้งจอกกันทั้งนั้น วัน ๆ ทำเพียงเกาะแข้งเกาะขาเขาแล้วทำสิ่งที่น่ารังเกียจ ยิ่งนางพูดเช่นนี้ ข้ายิ่งให้ความสำคัญกับแม่นางมู่มากขึ้นเท่านั้น”

หลังจากมู่ซือเจียวกลับมาจากที่พำนักของหลี่หงซู นางก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม เงินที่มู่ซืออวี่จะได้ล้วนขึ้นอยู่กับคุณหนูหลี่ว่าจะยอมรับหรือไม่ หลังจากที่นาง ‘ฟ้อง’ ไปเช่นนั้น คุณหนูหลี่จะต้องไม่ให้โอกาสแน่นอน

ไม่รู้จริง ๆ ว่าหญิงสารเลวคนนั้นไปเอาความสามารถมาจากที่ใด ถึงกับสามารถทำให้คุณหนูหลี่พาไปจวน คุณหนูคนนี้เป็นคนที่เอาใจได้ยากที่สุดในจวนหลี่ มู่ซือเจียวอยู่ในจวนนั้นมาตั้งนาน เพิ่งได้พบหน้าคุณหนูผู้นี้วันนี้เป็นวันแรก

“ซือเจียว คุณชายใหญ่จะเอาน้ำ! วันนี้ถึงตาเจ้าต้องไปเตรียมแล้ว”

“เรียกหาน้ำกลางวันแสก ๆ เช่นนี้…” สาวใช้ข้าง ๆ คนหนึ่งพึมพำ แล้วเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดออกมา

“คุณชายโปรดปรานพี่ชุนหลาน ได้ยินว่าพี่ชิวหลานที่เฝ้าอยู่ข้างนอกถึงกับใบหน้าแดงก่ำราวกับดอกเหมยแดง เรื่องนั้นน่ะคุณชายยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว…”

“เจ้าเด็กไร้ยางอาย ไปได้ยินเรื่องเลอะเทอะเหล่านี้มาจากไหน?”

สาวใช้หลายคนหัวเราะอย่างครื้นเครง

พอมู่ซือเจียวนึกถึงคุณชายรูปงาม ดวงหน้าของนางก็แดงปลั่ง

นางกับมู่ซืออวี่จะแข่งขันกันไปเพื่ออะไร ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือนางต้องได้รับความโปรดปรานจากคุณชาย ได้ยินว่าอีกไม่นานคุณชายก็จะแต่งฮูหยินแล้ว หากไม่ได้รับความโปรดปรานตั้งแต่เนิ่น ๆ ภายหน้าเกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสอีก

“ต้าหนิว เจ้ารู้จักภัตตาคารเจียงซื่อหรือไม่? พวกเราไปดูภัตตาคารเจียงซื่อเถอะ”

วันนี้เฟิงเจิงไม่ได้มารับของที่บ้าน ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรไปหรือไม่ หรือที่ภัตตาคารเจียงซื่อมีบางอย่างทำให้ล่าช้าออกไป

ที่ประตูภัตตาคารเจียงซื่อมีตราผนึกของทางการปิดไว้

“ท่านป้า เกิดอะไรขึ้นกับภัตตาคารเจียงซื่อหรือ?” มู่ซืออวี่ถามแผงขายของฝั่งตรงข้าม

“คืนก่อนที่นี่มีคนกินอาหารแล้วตาย เจ้าหน้าที่ทางการกับทหารจึงนำตัวผู้จัดการร้านกับคนในร้านไป”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”

“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?” เอ้อร์หนิวเอ่ยขึ้น “อยู่ดี ๆ เหตุใดจึงมีคนกินอาหารแล้วตาย? ภัตตาคารเจียงซื่อไม่ระมัดระวังเกินไปแล้ว”

“ข้าจะไปศาลาว่าการ” มู่ซืออวี่พูดขึ้น “จะได้ถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ภัตตาคารเจียงซื่อ”

“ไป ๆ พี่อี้อยู่ที่นั่นใช่หรือไม่?”

“ไม่รู้ว่าวันนี้อยู่หรือไม่ เขาออกไปตั้งแต่เช้า เอ่ยกับข้าว่าวันนี้ต้องไปที่หมู่บ้านอื่น ข้าก็ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่หรือเปล่า”

“พี่สะใภ้ลู่ เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” นักการเกากำลังจะออกไปตรวจตรา พลันเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งลงจากเกวียนวัวก็เดินใกล้เข้ามา

“เจ้าหน้าที่เกา…”

“โธ่ อย่าได้เรียกข้าว่าเจ้าหน้าที่เกาเลย ข้าเป็นเพียงข้ารับใช้เล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น หากเจ้าไม่ถือสา ก็เรียกข้าว่าพี่ใหญ่เกาเถอะ!”

“พี่ใหญ่เกา คนบ้านข้ากลับมาแล้วหรือยัง?”

“ยังไม่กลับมาเลย เมื่อวานนี้เกิดคดีหนึ่ง เจ้าหน้าที่คนอื่นล้วนไปแล้ว แต่เขาอยากกลับไปบ้าน บอกว่าเช้าวันนี้จะตรงกลับมา จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่กลับมา คงจะมีเรื่องลำบากเกิดขึ้นกระมัง”

“พี่ใหญ่เกา ท่านรู้เรื่องคดีภัตตาคารเจียงซื่อหรือไม่?”

“เจ้ามาเพราะคดีนี้หรอกหรือ? ใช่แล้ว หมูตุ๋นที่พวกเขาขายเป็นเจ้าทำใช่หรือไม่? อันที่จริงคดีนี้ประหลาดมาก ตอนนี้ยังคงตรวจสอบอยู่ แต่เจ้าวางใจ คนผู้นั้นไม่ได้ตายเพราะกินหมูตุ๋นของเจ้า”

มู่ต้าหนิวและเอ้อร์หนิวที่อยู่ข้าง ๆ จึงรู้สึกวางใจ

ถึงแม้มู่ซืออวี่จะกังวลเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินนักการเกาเอ่ยเช่นนั้นก็ถอนหายใจ

“ข้าขอพบผู้จัดการร้านกับคนในร้านได้หรือไม่?”

“เกรงว่าจะไม่ดี คดีนี้ยังอยู่ในขั้นตรวจสำนวน ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ให้เข้าพบพวกเขา” นักการเกาบอก “ข้าจะลอบเตรียมการให้เจ้า แต่จะอยู่นานไม่ได้ รีบหน่อยนะ”

“ขอบคุณท่านมาก”

ครั้นมู่ซืออวี่พูดจบ นางก็เอาหมูตุ๋นออกมาจากตะกร้าข้างหลัง

“สิ่งนี้เอาไปแบ่งปันพี่น้องท่านนะเจ้าคะ”

“พวกเราคิดถึงฝีมือของเจ้ามาก เช่นนั้นไม่เกรงใจแล้วนะ”

ผู้จัดการร้านภัตตาคารเจียงซื่อและเจิงเฟิงล้วนเป็นคนดี นางอยากถามที่มาที่ของเรื่องนี้อย่างละเอียดจากพวกเขา ไม่แน่ว่าอาจจะมีทางช่วยเหลือได้ แต่หากช่วยไม่ได้ ทว่าได้เห็นพวกเขาสักหน่อยก็ยังดี

“มีคนมาหาพวกเจ้า” หัวหน้าผู้คุมห้องขังพามู่ซืออวี่เข้าไปในห้องขัง

นางฝากลู่จื่ออวิ๋นให้มู่ต้าหนิวให้ดูแลชั่วคราว

“ท่านมาได้อย่างไร?” เฟิงเจิงเงยหน้าขึ้นจึงได้เห็นมู่ซืออวี่

ผู้จัดการร้านได้ยินคำพูดของเฟิงเจิงก็เงยหน้าขึ้นมาเช่นกัน

“นั่นสิ?”

“ผู้จัดการร้าน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” มู่ซืออวี่ถาม

“ล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าอยากได้ของถูก ก็เลยซื้อเนื้อแกะราคาถูกมา ผู้ใดจะรู้ว่าจะเกิดปัญหา กระทั่งเมื่อครู่นี้ข้าจึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่แกะ แต่เป็นหนู ทั้งยังเป็นหนูที่มีพิษ”

“ไม่ใช่ว่าท่านอยากได้ของถูก แต่หวังซานที่จ้างมาใหม่เปลี่ยนแหล่งขายหมูจากเจ้าเดิมที่เรารับอยู่ประจำเอาเอง บอกว่าคุณภาพของที่เขาหามาเองนั้นดีกว่า แต่พอกินเข้าไปกลับเกิดปัญหาขึ้น” เฟิงเจิงฮึดฮัด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+